ข้อคิด..ก่อนซื้อบ้าน

ฉันซื้อบ้านหลังแรก (และหลังเดียว) เมื่อเกือบ 8 ปีที่ผ่านมาก่อนจะมาตกลงปลงใจที่บ้านหลังนี้ ฉันต้องขับรถตระเวนดูอยู่หลายที่ เป็นเวลาหลายเดือนแต่พอถึงวันนี้ ฉันคิดว่ามันคุ้มค่ามากกับการเสียเวลาในครั้งนั้นเพราะฉันอยู่บ้านนี้อย่างมีความสุข การเดินทางสะดวกสบาย เข้าออกได้หลายทางและที่สำคัญน้ำไม่ท่วม

การซื้อบ้านรีบไม่ได้  ฉันเองก็เคยเกือบจะจองบ้านหลังหนึ่งซึ่งตอนนั้นหน้ามืดตามัวมาก ทำให้ไม่เห็นว่าหน้าบ้านมีเสาไฟฟ้าแรงสูงตั้งอยู่ห่างจากหน้าบ้านไม่เกิน30 เมตร เซลล์ก็เร่งเร้าให้ทำสัญญาจองเลย แต่ฉันก็ใจแข็งไม่ยอมทำเพราะอยากพาเพื่อนไปดูเพื่อหา Second Opinion ปรากฏเพื่อนบอกว่าจะซื้อได้ยังไง เสาไฟฟ้าแรงสูงอยู่หน้าบ้าน ไม่น่าจะถูกหลักฮวงจุ้ย  เฮ้อ..เกือบไปแล้วเรา!

ส่วนน้องที่สนิทกันคนหนึ่ง เพิ่งซื้อบ้านใหม่กับโครงการซึ่งเป็นของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่มีชื่ออยู่อันดับต้นๆ ของเมืองไทย ราคาบ้านพร้อมที่ดินขนาด 60 ตารางวา อยู่ที่เกือบ 5 ล้านบาท บ้านตั้งอยู่ห่างจากถนนใหญ่เข้าไปประมาณ 10 กิโลเมตร

บ้านก็สวยตามมาตรฐานของบริษัท แต่ในความรู้สึกของฉันคิดว่าแพงไปนิดเพราะขนาดของบ้านไม่ได้ใหญ่โตอะไรมากมาย พื้นที่ใช้สอยก็ไม่ถึง 200 ตารางเมตร ถ้าอยู่คนเดียวก็ถือว่าใหญ่แต่ถ้าอยู่กันสัก 3 คน ฉันคิดว่าน่าจะเล็กเกินไป ซึ่งราคาขนาดนี้ สามารถซื้อบ้านขนาดใหญ่กว่านี้ได้หากเปลี่ยนโครงการ

ปัญหาเริ่มเกิดตอนเข้าสู่หน้าฝน ปรากฎว่าถนนเข้าหมู่บ้านประมาณอีกเกือบ 10 กิโลเมตรนั้นมีน้ำท่วมขังประมาณครึ่งหนึ่งของเส้นทาง ระดับน้ำค่อนข้างสูง ซึ่งเรื่องนี้น้องของฉันไม่เคยทราบมาก่อน เพราะตั้งแต่เริ่มมาดูบ้านจนถึงย้ายเข้ามาอยู่ฝนไม่เคยตกสักแปะ เนื่องจากอยู่ในช่วงฤดูร้อน ตอนนี้ก็ต้องรับสภาพกันไป จะขายคงยากสักหน่อยเพราะแถว ๆ นั้นมีโครงการหมู่บ้านขึ้นใหม่ ๆ มากมาย คงไม่มีใครสนใจซื้อบ้านมือสองแน่ๆ

ส่วนอีกกรณีเป็นของพี่ที่นับถือกัน ก็ตัดสินใจซื้อบ้านตัวอย่างในหมู่บ้านไฮโซ ทั้งโครงการมีไม่เกิน 20 หลัง ราคาสูงเอาการ ปรากฏว่าหลังจากย้ายเข้าไปจึงได้รู้ว่า บริเวณใกล้ ๆ นั้น มีฟาร์มเลี้ยงหมูขนาดใหญ่ซึ่งตั้งมานานก่อนความเจริญจะเข้ามาถึงย่านนั้น ก็เลยต้องทนดมกลิ่นขี้หมูซึ่งรุนแรงมากทุกวันล่าสุดได้ข่าวว่ากำลังบอกขายแล้ว เพราะอยู่ไม่ได้จริง ๆ

ฉะนั้น จึงอยากฝากข้อคิดก่อนการซื้อบ้าน ที่ได้มาจากประสบการณ์ของตัวเองและของคนใกล้ตัว ไว้เป็นสิ่งเตือนใจก่อนตัดสินใจ

 

  1. ห้ามจองบ้าน หากคุณยังไม่เคยไปดูสถานที่จริง
  2. ดูหลาย ๆ แห่ง เพื่อเปรียบเทียบข้อดีข้อเสีย
  3. หากคุณได้บ้านที่ถูกใจ ต้องลองไปสำรวจบริเวณนั้นในหลาย ๆ เวลา เช่น ตอนเช้า-เย็น รถติดมากหรือไม่ ตอนกลางคืนเปลี่ยวขนาดไหนมีชุมชน หรือมีโรงงานอยู่ใกล้ ๆ หมู่บ้านหรือไม่ เหล่านี้เป็นต้น
  4. หาข้อมูลเกี่ยวกับโครงการให้มากที่สุด จากหลาย ๆช่องทาง
  5. ควรไปดูบ้านตอนหน้าฝน เพื่อจะได้รู้ว่าหากฝนตกมากๆ น้ำจะท่วมบริเวณนั้นหรือไม่
  6. หา Second Opinion จากบุคคลอื่นที่มีต่อบ้านหลังที่เราตั้งใจจะซื้อ
  7. ไม่ควรซื้อบ้านตัวอย่าง เพราะราคาจะสูงกว่าปกติแต่คุณภาพของบ้านจะไม่ค่อยดี เพราะการสร้างจะรีบสร้างแบบลวก ๆ แต่เน้นที่การตบแต่งภายในให้สวยเพื่อดึงดูดใจลูกค้านอกจากนี้ยังผ่านการใช้งานอย่างหนักจากลูกค้าที่มาดูบ้าน
  8. อย่าเคลิบเคลิ้มกับคำสรรเสริญเยินยอของเซลล์ให้คิดว่าเขาต้องการปิดการขายให้ได้เร็วที่สุด คำพูดเหล่านั้นเป็นเพียงวิธีการขายเท่านั้น

 

หวังว่าคงมีประโยชน์แก่ท่านที่แวะเวียนเข้ามาอ่านนะคะ  Smiley




Create Date : 23 ตุลาคม 2556
Last Update : 23 ตุลาคม 2556 9:08:46 น.
Counter : 1799 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

LadyBoom
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



ตุลาคม 2556

 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
  •  Bloggang.com