เกาหลี-มาเก๊า
ทริปนี้เป็นทริปที่ตอนแรกตั้งใจจะ bagpacker ค่ะ แต่เนื่องจากว่าลองเทียบราคาดูแล้ว ค่าทัวร์สามคืนสี่วันดั๊นถูกกว่าค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับ กทม-โซลซะอีก แถมเราได้ไปมาเก๊าเพ่ิมอีกต่างหากค่า เลยสรุปที่ว่าไปทัวร์ค่ะทริปนี้ เป้าหมายสำคัญของเราคือช๊อปปิ้งเครื่องสำอางค์ โดยตรงค่ะ เพราะเรื่องเที่ยวไม่ได้ห่วงมากเพราะไปเป็นรอบที่สองแล้ว แถมรายการฝากซื้อยาวเหยียด จะบอกว่าเข็ดแล้วจิงๆค่ะ เรื่องฝากซื้อเนี่ย เพราะเวลาช๊อปน้อยอยู่แล้ว ยังต้องเจียดเวลาหาของที่ฝากซื้ออีก บางอันก็มีบางอันก็ไม่มี ปวดหัวไปหมดค่ะ หลายคน หลายรายการ โอย! จะเป็นลม เคร่ืองสำอางค์ที่นั่นถูกจิงๆค่ะ ถ้าเทียบกับบ้านเรา ไทยเเลนด์ อย่างที่ใช้อยู่เป็นประจำ คือ laneige ถูกต่างกันเกือบ 50 เปอร์เซ็นต์ แต่อัันนี้ซื้อที่ duty fee นะค่ะ แบบโชว์พาสปอร์ต ส่วนยี่ห้ออื่นๆเช่น Etude, skinfood, faceshop etc อันนี้ถูกกว่าประมาณ 40-50 เปอร์เซ็นต์ อย่างเช่นยกตัวอย่างง่ายๆ eye cream ของ laneige ค่ะที่บูทไทยขาย 1200 ที่นั่นซื้อมา 490 บาทค่ะ สุดยอด!!! ซื้อมาตรึมจนกลัวว่าจะผ่านเข้าตม.เมืองไทยได้รึป่าว กลัวเค้าหาว่าเอามาขาย หมดไปสองหมื่นกว่าค่ะรวมของที่เพื่อนฝากซื้อ แฟชั่นที่นั่นก็คล้ายบ้านเรา ณ ตอนนี้เลยค่ะ เพราะตอนนี้บ้านเราก๊อปเค้ามา อิอิ แต่ที่สังเกตุได้ชัดเลย คือ เรื่องศัลยกรรม เด็กวัยรุ่นธรรมดาคนนึงเดินผ่าน อายุประมาณ สิบปลายๆ จมูกโด่งเปี๊ยะ เด้ง ลอยมาแต่ไกลเลยอ่า โห...คิดในใจเอากันอย่างงี้เลยใช่ม่ะเนี่ย ยังเด็กอยู่เลยอ่ะ ที่นู่นเค้าบอกว่าความใฝ่ฝันของเด็กเกาหลีและของขวัญที่พ่อแม่จะให้ลูกๆได้คือ คอร์สศัลยกรรมค่ะ ฟังดูแล้วก็น่ากลัวจังเลย เค้าว่ากันว่าถ้าได้เริ่มทำแล้วก็จะกลายเป็นเหมือนเสพติดด้วย ทำนี่เสร็จก้ออย่างทำนู่นต่อ...ไปเรื่อยๆ งง เงินไม่ต้องเหลือเก็บกันเเล้วใช่มั๊ยนี่ หมดตังก์ไปกับการศัลยกรรมหมด ขอให้สวย ให้หล่อไว้ก่อน เรื่องรวยไว้ทีหลังมั๊ง อิอิ Free TextEditor&site