Day 12 : Bratislava (Pressburg), Slovakia
Day 12 - 2 March 2012 (Friday)

Budapest to Bratislava
Bratislava, Slovakia
Bratislava to Vienna

ค่าใช้จ่าย
Breakfast Buffet โรงแรม 2000 HUF
Metro 260 HUF
รถไฟจาก Budapest ไป Bratislava 20.50 EUR
ค่าโง่ 0.50 EUR
Locker ฝากของที่สถานีรถไฟ 3.00 EUR
อาหารกลางวัน+Nestea 3.80 EUR
ห้องน้ำที่สถานีรถไฟ 0.40 EUR
U-Bahn 1.90 EUR
อาหารเย็น 15.00 EUR
Hotel Kavalier 4 คืน 146.50 EUR

รวม 2260 HUF + 191.60 EUR
(324+7625 = 7979 บาท)

------------------------------------------




วันนี้ตื่นมาง่วงมาก นาฬิกาปลุกตื่นแล้วนอนหลับต่อ ต้องรีบเก็บกระเป๋าเพื่อเตรียมเดินทางไป Vienna แวะเที่ยวที่ Bratislava ล้างหน้าเสร็จลงไปกิน Breakfast Buffet แล้วขึ้นไปเอากระเป๋า ลงมาเช็คเอาท์

ขึ้น Metro ไปสถานี Keleti

Plan สถานีรถไฟเหมือนหัวลำโพงเลย เหมือนกันทั่วโลก







ดูตารางรถไฟ







มีคนเป็น Porter มายกกระเป๋าให้ แล้วเรียกเก็บเงิน 1 ยูโร ทุกคน ให้ไปแบบไม่เต็มใจ ปรึกษากับเพื่อนว่าจะให้ดีหรือไม่ให้ มีเรื่องเลยดีมั๊ย ปรากฎว่าเพื่อนๆบอกว่ายอมจ่ายๆไปเถอะอย่ามีเรื่องเลยที่นี่ ต่อรองกับมัน ขอแค่คนละ 0.50 ยูโรได้มั๊ย มันก็โอเค (ถ้าไม่ยอม คราวนี้ล่ะมีเรื่องจริงๆแน่) รู้สึกเสียอารมณ์ แต่ก็ไม่อยากจะว่าอะไร เพราะคนดีๆที่นี่มีอีกเยอะ

พอรถไฟออกซักพักก็มีคนมาตรวจตั๋ว





นอนงียบหลับ ตื่นมาอีกทีตอนเที่ยง ถึงสถานี Bratislava hlavná stanica







หาที่ฝากของ และก็ซื้อตั๋วรถไฟไป Vienna ล่วงหน้าไว้เลย ได้รอบ 17.46





มีเวลาอีกประมาณ 7 ชั่วโมงกว่าๆในการเที่ยว Bratislava

ที่สถานีรถไฟ กินแฮมเบอร์เกอร์ไก่ทอดและเนสทีที่สถานีรถไฟ

กินเสร็จก็เดินไปตัวเมือง ชมเมืองไปเรื่อยๆ







เดินไปจนถึง Bratislava Castle ถ่ายรูป Novo Bridge และสะพานอื่นๆอีก











เดินไปที่โบสถ์ St.Martin Cathedral





Academia Istropolitana เป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของประเทศ ซึ่งสมัยที่สร้างมหาวิทยาลัยนี้ ดินแดนแห่งนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนแห่ง Kingdom of Hungary อยู่เลยน่ะ (จนตอนหลังรวมกับ Austria เป็น Austria-Hungary และพอจบสงครามโลกครั้งที่ 1 อาณาจักรออสเตรีย-ฮังการีก็ล่มสลาย สโลวาเกียก็รวมกับเช็คกลายเป็น Czechoslovakia และพึ่งได้แยกจากเช็คโกสโลวาเกียเป็นประเทศ Slovakia เมื่อปี 1992 นี้เอง)





เดินไปเรื่อยๆเข้าไปในตัวเมือง





ก็ได้เจอกับบ้านเลขที่ 10 Mozart House เคยเป็นพระราชวัง Pálffy Palace มาก่อน เป็นสถานที่ Mozart ตอนมาแสดงคอนเสิร์ตที่นี่ตอนอายุ 6 ขวบ







และเดินต่อไปบ้านเลขที่ 13 เคยเป็นพระราชวัง Leopold de Pauli's Palace เป็นสถานที่ที่ Liszt Franc เคยมาแสดงคอนเสิร์ตที่นี่ตอนอายุ 9 ขวบ







เดินต่อไปเป็น Palace of the Royal Chamber ซึ่งเคยเป็น Parliament ของ Kingdom of Hungary





แถวนั้นมีร้านขายของที่ระลึก เลยแวะซื้อ postcard 2 ใบ แล้วเดินต่อไป

Michael's Gate (Michalská brána)

เป็นประตูเมืองในยุคกลางหนึ่งเดียวที่ยังเหลืออยู่ของที่นี่





และเดินต่อไปจตุรัสใจกลางเมือง Old Town วันนี้วันศุกร์ตอนเย็น มีเด็กๆมาวิ่งเล่นมากมาย

มาที่บริเวณ Roland Fountain บริเวณจตุรัสกลางเมือง







แถวนี้มี Apponyi Palace เป็นที่อยู่ของขุนนางที่เป็นที่ปรึกษาของกษัตริย์ Hungary สมัยก่อน ปัจจุบันเป็น Viticulture Museum ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงเกี่ยวกับการเพาะปลูกองุ่น





บริเวณจตุรัสใจกลางเมือง เจอทัวร์ญี่ปุ่นกลุ่มนึง ทัวร์ญี่ปุ่นกลุ่มนี้ มีคุณป้าคนนึงคุยกับฝรั่งแอบเม้ามอยว่า I think they(พวกเรา) are chinese boys

หลังจากนี้ตังเข้าไปคุยกับสาวญี่ปุ่นในกรุ๊ปทัวร์นั้นด้วยล่ะ ทั้งๆที่ไม่ได้เล่นนโปเลียนแพ้นะ แต่ขออาสาเข้าไป ลูกผู้ชายตัวจริง





ต่อไปเป็น Primate's Palace เป็นสถานที่ที่ลงนามสัญญา Treaty of Pressburg

ซึ่งเป็นสนธิสัญญาสงบศึกหลังสงคราม War of the Third Coalition ในปี 1805

สงครามครั้งนี้เป็นสงครามของฝรั่งเศสซึ่งนำโดยนโปเลียน ร่วมกับพันธมิตรคืออาณาจักรสเปนและแคว้นเล็กแคว้นน้อยอื่นๆที่เป็นเมืองขึ้นของฝรั่งเศส

vs.

อังกฤษ ออสเตรีย รัสเซีย โปรตุเกส สวีเดน และแคว้นเล็กแคว้นน้อยอื่นๆที่เป็นศัตรูกับฝรั่งเศส

ซึ่งสงครามครั้งนี้ฝ่ายนโปเลียน(ฝรั่งเศส) เป็นฝ่ายชนะ และได้ทำสนธิสัญญาสงบศึกกัน(ชั่วคราว) โดยสนธิสัญญานี้คือสนธิสัญญา Treaty of Pressburg นี่เอง

เดินต่อไปที่ Mirbach Palace ปัจจุบันเป็น Gallery นึง





และ Franciscan Church ซึ่งเป็นโบสถ์ที่เก่าแก่ที่สุดในสโลวาเกีย สร้างในปี 1297 โดยกษัตริย์ King Andrew III of Hungary

หลังจากนี้ก็เดินกลับสถานี Bratislava hl.s. ระหว่างทางเจอ post office ก็ซื้อสแตมป์มา





กลับถึงสถานีรถไฟ Bratislava hl.s.







ระหว่างรอรถไฟไป Vienna ก็นั่งเขียน postcard หาตัวเองและก็เธอ เดินออกนอกสถานีไปหย่อน postcard ลงตู้ และก็กลับมานั่งเล่น Wifi ฟรี เช็ค facebook เธอบอกว่า present case กับ อ.วันล่า ผ่านฉลุย และเย็นวันนั้นไปดูหนังกับเพื่อนๆ ได้นั่งข้างๆ อ.พี่กิ๊กโดยบังเอิญล่ะ(ผู้เขียนหนังสือเดินทางอย่างหลง) กับแฟนด้วย เธอบอกว่าดีใจมากเหมือนเจอดาราเลย

พอถึงเวลารถไฟใกล้มาก็เดินไปขึ้นชานชาลาที่ 5 ที่ดูไว้ตอนแรก แต่รถไฟไม่มาซักที เลยกลับไปดูบนจออีกที รถไฟเปลี่ยนชานชาลาเป็นชานชาลาที่ 2





เลยรีบยกกระเป๋าขึ้นลงบันไดกันอย่างรวดเร็ว พอซักพักรถไฟก็มา





ขึ้นรถไฟแล้วก็มีคนมาตรวจตั๋ว นั่งอ่าน Lonely Planet Austria ไปพลางๆ หาข้อมูลการเดินทางก่อน

ถึงสถานี Wien Südbahnhof





ก็ลากกระเป๋าไปสถานี U-Bahn Südtiroler Platz นึกว่าอยู่ใกล้ๆกัน จริงๆก็ไกลพอสมควรอยู่ และมารู้ตอนหลังว่านั่ง Tram ต่อมาได้ ไม่เป็นไร พอถึง U-bahn ก็ซื้อตั๋ว ก่อนหน้านี้งงๆ ก็เลยถามสาวฝรั่งแถวนี้ ปรากฎเค้าบอกว่าไม่ใช่คนที่นี่ ไม่รู้เหมือนกัน ก็งมๆกันเอาเองจนซื้อตั๋วสำเร็จ ก็ขึ้น U-bahn ต่อไปโรงแรม Kavalier







check-in แล้วออกไปหาอาหารกินกัน

เป็นร้านอาหารใกล้ๆโรงแรม เจ้าของร้านเป็นคุณลุง พาพวกเราไปนั่งอีกห้องนึงที่เป็น No smoking zone

คุณลุงที่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย แต่พยายามสื่อสารจนได้ โชคดีที่มีเมนูภาษาอังกฤษ

มื้อนี้กิน Turkey(ไก่งวงนะไม่ใช่ประเทศตุรกี) Schnitzel + French fried





และเบียร์ Gösser





อิ่มมาก กลับโรงแรม อาบน้ำนอน


Next : Day 13 : เวียนนาพาเพลิน (Vienna)

Prev : Day 11 : ฟ้าใสๆกับหัวใจหนึ่งดวง ณ Budapest





Create Date : 31 ตุลาคม 2555
Last Update : 12 กุมภาพันธ์ 2562 9:36:26 น.
Counter : 6723 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Mickeytae
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 12 คน [?]



ตุลาคม 2555

 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
27
28
29
30
 
 
31 ตุลาคม 2555