หนึ่งในอุปกรณ์ระบบเสียงห้องประชุมที่จะขาดไม่ได้เลยคือ Mixer หรือตัวประบจูนแต่งเสียงต่างๆถือเป็นหัวใจในการควบคุมเสียงและอุปกรณ์ต่างๆทั้งระบบเครื่องเสียงให้ง่ายและมีประสิทธิภาพ Mixer นั้น มี 2 แบบคือ แบบ Analog และ Digital ความแตกต่างของ Analog และ Digital Mixer
Analog Mixer จะเป็นระบบอารมณ์แมนนอลเป็นหลักไม่ว่าจะประบจะแก้อะไรก็ต้องใช้ความชำนาญมากๆเพราะระบบ Analog ส่วนใหญ่สมัยก่อนนั้นยังไม่ได้มีเทคโนโลยีมากเหมือนสมัยนี้ ดังนั้น Mixer แบบ Analog จึงมีราคาที่ค่อนข้างสูงเนื่องจากมีการใช้วัสดุที่มากในระบบดังกล่าว และ มีขนาดตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ Mixer ประเภทนี้เหมาะสำหรับคนที่มีความรู้หรือความเข้าใจในการมิกซ์มาแล้วในระดับนึงสำหรับมือใหม่นั้นอาจจะเป็นเรื่องที่ยุ่งยากเพราะมีขั้นตอนที่เยอะกว่า Mixer ทั่ว ๆ ไป
ข้อดี คือให้น้ำเสียงที่ดีกว่า Digital Mixer ในมิกเซอร์รุ่นใหญ่ ๆ แม้แต่รุ่นเล็กที่มีราคาเท่ากัน ก็ยังให้เสียงที่ดีกว่า
ข้อเสีย คือ ตัวเครื่องจะมีขนาดที่ใหญ่ขนย้ายลำบาก และจำนวนช่องสัญญาณก็น้อยกว่า Digital Mixer ในราคาที่เท่ากัน
ทำให้ปัจจุบัน Analog Mixer เหมาะกับคนที่ชื่นชอบในเสียงมากกว่าฟังก์ชั่นการใช้งาน ทำความรู้จักกับ Analog Mixer
Digital Mixer Digital Mixer นั้นเป็น Mixer ที่ถูกพัฒนาเพื่อให้ง่ายต่อการทำงานและสะดวกสบายมากกว่าประเภทอื่น ๆ แถมยังมาพร้อมกับความทันสมัย แน่นอนว่ามาพร้อมกับความทันสมัยทำให้ Mixer แบบ Digital
มี Preset สำเร็จรูปให้โหลดมาเลือกใช้ ไม่ต้องปรับแต่งเองให้ยุ่งยาก ดังนั้นจึงเหมาะสำหรับมือใหม่หรือคนที่ยังไม่ชำนาญในการมิกซ์เสียงเท่าไหร่นัก แต่ข้อจำกัดของแบบ Digital ก็คือ ต้องเข้าใจเรื่องของโปรแกรมของมิกเซอร์แต่ละยี่ห้อเพราะใช้ไม่เหมือนกัน
แน่นอนหากอ่านมาถึงตรงนี้แล้วหลายคนก็คงจะต้องเบนความส่วนใจที่จะเลือกใช้ Digital Mixer อย่างแน่นอนเพราะทำให้ชีวิตการทำงานของเรานั้นสามารถควบคุมเครื่องเสียงในการประชุมได้อย่างรวดเร็วมีประสิทธิภาพและที่สำคัญมีฟรังชั่นเยอะแยะมากมายและราคาถูก