๏ ถึงทุกถาม ที่ถกในอก,ถั่ง- ๏
๒๒๒๐
๏ เมื่อคำถาม..มาถก..ในยกแรก
ใจเริ่มแปลกจิตป่วนสำนวนผ่าว
ร้อยลำดับเรียงดื่นในคืนดาว-
ที่เผยพราวลมผ่านซับลานทรวง
๏ จึงหลากคำถามไถ่ที่ใจถัก
ด้วยแห่งรักซ่อนสืบติดหลืบบ่วง
คลำเงื่อนปมเปิดทางให้ว่าง,ทวง-
คืน,ที่ห่วง หาคำ ตอบนำทาง
๏ ที่แห่งไหน หลายหับได้รับ-ตอบ
คือส่งมอบเสียงมั่นไม่หวั่นหมาง
เสียงอารมณ์อุ่นรัดเริ่มจัดวาง
เติมความว่าง,วาดต่อให้พอเพียง
๏ ถึงทุกถาม ที่ถกในอก,ถั่ง-
โถมความหวังเพียงสุขด้วยทุกเสียง-
ที่บอกผ่านกลอนพร่ำกรุ่นสำเนียง
มาร้อยเรียงคำเกริ่นที่เพลินกานท์
๏ โอ..คำตอบ ที่เติม มาเสริมต่อ
หามากพอกับถ้อย ที่ร้อยผ่าน
เพราะเพลงยุทธ์ลึกล้ำดุจลำธาร
ไหลเชี่ยว,ชาญ..เชิงรัก..ที่ถักแรง
๏ คือคำถาม ที่ถก..จากอกนั้น
ยังหวาดหวั่นใจปร่าที่ล้าแปร่ง
ตอบทุกถ้อยคำนี้ดั่งชี้แจง
ในห้วงแห่ง..ใจถาม...จากความนัย
๒๓๐๐
๒๘๐๘๕๓
สืบเนื่องจากกระทู้
๏ บ้านโคลงผวน [ ๓๑ ] ... ครวญ ... ๏
๏ไผครวญ ผวนไข่นุ้ย...........คุยไหน
รุมสุข รุกสุม,ไกล................ใส่กลุ้ม
คลายเหงา เข่าหงายไป.........ไงเปล่า
ครวญถั่ง ขังทวนอุ้ม.............ทุ่มอ้วนครางอิ๋ง
๏ จึงครวญ จวนครึ่งดั้น.........ครันดึง
วัยจัด วัดใจ,คลึง.................จึ่งไข้
เพลงคึก ฝึกเครงตรึง............ขึงเตร่ง เตร่งแล
เพียรเปล่ง เพลงเปลี่ยน,ให้....ไป่เหี้ยนกระหือรือ
๏ ทำมือ ถือหม่ำ,คล้อง.........มองคำ
ครางต่อ คลอต่างระบำ..........ต่ำบ้าง
เนินสูง นุ่ง,เชิญนำ................ชำเนิ่น นานแน
ไผต่อ พอไต่ข้าง.................ต่างไขว้เริงขัน
๏ ฝันครวญ ผวนครั่นเพี้ยน.....เขียนฝัน
คราวพลบ, ครบพราวหัน........พรั่นห้าว
หาญนึก ฮึกนานวัน...............นั่นหว่าน
ครวญพร่ำ คำผวนร้าว............ผ่าวล้วนคำเผย
๏ แลเผย เลยแผ่ปั้น..............ผันแปร
ทำคลุก ทุกขำแล.................แค่ล้ำ
คิดนึก คึกนิดแผล.................แน,ผิด
พึงกล่าว พราวกึ่งช้ำ..............ก่ำซึ้งซอนเสมอ
๏ เพียงเกลอ เผลอเกี่ยงเศร้า..เกลาเสียง
ถูศัพท์ ทับสู,เรียง.................เสี่ยงรู้
รำศัพท์ รับสำเนียง................เสียงกระหน่ำ
ผวนมา พาม่วนกู้...................หมู่ก๊วนผวนโคลง ๚ะ๛
๒๓๓๖
๐๕๐๙๕๓
๒๓๕๕
๏ เพลงผวนพากล่าวลิ้น......กินหลาว แหลมฤา
กล่าวแหล่ม เรียงคำหาว.....ห่อนหง้าย
หายงอน งอดงมคราว........ครางโกรธ
โฆษณ์กร่าง คำเกริ่นป้าย....เปิบลิ้มแลสลวย
๏ รวยแชร์ ดั่งชม้อย..........ทิพย์โส
โถฉิบ ชวดคลังโห.............หืดคล้าย
หายครืด คั่งคอ,โถ............โถอ่วม
ท่วมโอ่ อึงหมด,ร้าย..........หลอกอ้วนครวญอิ๋ง
๏ ขิง*อ้วน เอมอาจอุ้ม.......ชนหรือ
สือหล่น ไขตาปรือ............ปัดไว้
ไปวัด ว่อนคำถือ...............ศีลโบสถ์
โสตบิ่น บางบอดให้...........บ่อู้แนมเห็น
๏ เน้นแฮ่ม* เฮาอยู่ยั้ง.......ยืน,หัน*
ยันหื่น แหบรังสรรค์...........สว่างนั้น
สวรรค์นาง นวยนาดปัน......แปลงร่าง
ปางแหล่ง รวมสิ่งปั้น..........เปิบแปล้แปลงใจ
๏ ไปแจง จมจ่อมสิ้น..........งามเพลิน
เงินพล่าม หดทางเหิน.........แห่งรู้
หูแรง หลากทวนเกิน..........คนกล่าว
คราวก่น ลามรากผู้............ผ่องเลี้ยงคันไถ
๏ ใครทัน เทียมคิดท้วง.......ถามติง
ทิ้งต่าง ความเห็นอิง...........อับข้าง
อ้างครับ เถื่อนไทยผิง........ผลหลัก
พักหล่น รายแรมร้าง..........จึ่งร้องครวญเหวย
๐๐๒๘
๐๖๐๙๕๓
แฮ่ม = อีก
หัน = เห็น
(ภาษาคำเมือง...หากผิดพลาดขออภัย..ขอรับ)
ยกมาจากกระทู้....ตามหาลำพู
ของคุณ...หิ่งห้อยน้อยใจ
ใน...ถนนนักเขียนขอรับ
๐๑๐๔
๏ ลำพู..เผยกิ่งแผ่ด้วยแหย่ผ่าน-
ณลำธารห้วยถั่งน้ำหลั่งไหล
ที่เอื่อยท้นฝั่งหลากยังฟากไกล
ทั้งกิ่งน้อยกิ่งใหญ่เพื่อได้พิง
๏ ลำพู..ตั้งตระหง่านริมธารเงิบ
เพื่อการเติบโตพร้อยของห้อย,หิ่ง-
ห้อย,รายล้อมรอรับให้ซับอิง
ฝันของหิ่งห้อยแสงผู้แรงเรือน
๏ ลำพู..คงยืนหยัดรอรัดรอบ
จากรายกรอบหิ่งห้อยรายร้อยเหมือน-
แสงเทียนส่องฉาบด้าวดุจดาวเดือน
ที่รับเพื่อนจากฝันสู่วันเพลิน
๏ ลำพู..ยัง คงนิ่ง..รอหิ่งห้อย
เป็นสายร้อยโลมพลิ้วไม่ผิวเผิน
วาดแต่หวังแรงหว่านชั่วกาลเกิน-
นับความเหินห่างหลบไม่พบ,ลา
๏ ลำพู..คอยแสงวิ่งจากหิ่งห้อย
กระพริบลอยเต็มปริ่มรอบริมป่า
แสงพราวสวยแจ่มพราย,ทอดสายตา
ยังคอยท่ารับเติมเพื่อเสริมเต็ม
๏ ลำพู..หวังวาดฝันสักวันผ่าน
คงไม่นานการคอยที่กร่อย,เข้ม
หิ่งห้อยโผบินโฉบมาโอบเล็ม
เพื่อเติมเต็มความฉ่ำ...ให้ลำพู
๐๑๓๓
๐๖๐๙๕๓
รีรีข้าวสาร กล
๐๙๒๐
๏ จึงผวน จวนผึ่งจ้อง........พองยุบ
ฟุบย่อง ชมยังหนุบ...........หนึบฝั้น
หนันพรึบ ผ่องเลยครุบ.......คึกหล่อน
ขอนลึก จมสุดกลั้น...........กรุ่นโอ้อวลฝัน
๏ อันผวน พอถกอึ้ง...........ออนไลน์
อายหล่อน คำเพียงผาย......ผับน้อง
พองนับ หนึ่งสองกลาย.......ทอกลับ
ทับก่อ เกินสุขก้อง.............กล่อมร้องเพลินไหน
๏ ไผเนิน เนาแนบโน้น.......เนียนขาว
หนาวเฆี่ยน ขับใจหาว........หัก,เน้น
เห็นนัก สืบเื่รื่องราว...........รอจิต
ฤทธิ์จ่อ ใจสุขเต้น.............ตื่นต้ามครวญเอ๋ย
๏ เคยอวล อึงอกอ้อม........อึงฝัน
อันผึ่ง เพลงโคลงอั๋น.........ผับถ้วน
ผวนทับ ถ่องแรงขัน..........ขำศัพท์
ครับฉ่ำ พอใจล้วน.............หลากฟุ้งแรงเผย
๏ เลยแผลง พอสุขย้ำ........ยังฝน
ยลฝั่ง โคลงยังขน.............สุขครั้ง
ยังคลุก ม่วนเพลินมนต์.......คำใหม่
ไขหม่ำ ชิมโคลงตั้ง...........รสต้องแดงถึง
๏ ดึงแถลง ยามถกย้ำ........ผวนมา
พาม่วนพอเป็นยา..............ตอกย้ำ
ตำยอก เคล็ดแขนขา.........เพลงข่วน
ผวนเคร่ง พอขบซ้ำ...........จิตชื้นใจสนาน ๚ะ๛
๑๐๒๑
๐๙๐๙๕๓
ก็เหมือนรานรอยฝันที่สั่นไหว
แท้เสียงลมพร่ำพรอดกับยอดไพร
ปลุกอาลัยเต้นตื่นจนขื่นมาน
๐ รอยคำนึงตรึงล่ามที่ข้ามล่วง-
เหมือนโซ่บ่วงรัดล้อมด้วยหอมหวาน
จึงลืมซึ้งในฤทธิ์พิษน้ำตาล
ยามแผ่ซ่านทั่วกายก็สายเกิน
๐ แต่วารวันผันลับไม่กลับย้อน
เหมือนขวัญรอนแรมอกระหกระเหิน
ภาพความหลังหลอนหลอกคอยหยอกเอิน
ให้หลงเพลินสู่ถวิลกับจินต์ลวง
๐ สายฝนพรำค่ำดึกในลึกเถื่อน
สิ้นแสงเืดือนแสงดาวพร่างพราวสรวง
หยาดน้ำใสไหลท้นเอ่อล้นทรวง
เมื่อทุกช่วงคือช้ำและน้ำตา
สวัสดีค่ะ ขอบคุณที่แวะไปที่บล็อค นะคะ