เล่าเรื่องผีตามโรงแรม...ที่เจอมา


เป็นคนกลัวผี แต่โชคชะตาจำต้องให้เดินทางคนเดียวตลอด

เจอแล้วเจออีกที่โรงแรมต่างๆ มากันหลากหลายรูปแบบ แต่ทำไงได้ ก็ต้องทนเอา เศร้า!
































^

เมื่อวานได้อัพบล็อคตามรูปข้างบน แล้วมีแฟนคลับรุ่นใหม่เขาอยากให้เล่าเรื่องเจอผีโรงแรมในแต่ละที่อีกครั้ง

วันนี้ก็เลยถ่ายภาพห้องเดิม แต่ให้ออกมาดูอีกอารมณ์หนึ่ง
ซึ่งความจริงแล้ว ฉันชอบสไตร์หวานๆอ่อนนุ่มตามข้างบน เพราะมันดูน่าพักมากกว่า

อืมม ลองมาดูภาพต่อไปนี้นะ แบบที่หนึ่งเป็นที่นิยมกับการถ่ายภาพในงานInterior & Architect Design
ส่วนแบบที่สองก็ทำให้ห้องดูกว้างยิ่งขึ้น

































เป็นไงบ้างเอ่ยย เมื่อเปลี่ยนเลนส์ก็ทำให้อารมณ์ความรู้สึกเปลี่ยนตามไปด้วยใช่มั๊ย
และเมื่อนำภาพถ่ายจากเลนส์ต่างๆมาดู ฉันคิดว่า ตัวเองนั้นถ่ายภาพเก่งขึ้นนิดหนึ่งนะ ฮ่าๆๆ



ทีนี้มาเข้าเรื่องผีๆกันดีกว่า

เมื่อก่อน...ฉันจะไม่ค่อยได้เลือกโรงแรมและห้องพัก คือเหนื่อยไหนก็นอนนั้น ขอใกล้และสะดวกกับธุระที่ต้องทำต่อเป็นพอ

แต่ครั้นตกค่ำ เอาเฮ้ยยย ทำไมห้องพักของฉันมันดูน่ากลัวจังหว่า!!!

















เอาละ ขอเริ่มต้นเล่าเรื่องผีๆที่ประเทศไทยก่อนเลยนะ ..

บางเรื่อง ประสบมาตอนยังดื่มยังเมาอยู่

บางเรื่องก็ตอนเพิ่งเรียนจบใหม่ๆ



หลายปีที่ผ่านมา ฉันขับรถเที่ยวคนเดียวไปทั่วประเทศ นอนมาเกือบทุกจังหวัดก็ว่าได้

ชอบมากกับช่วงเวลาที่พระอาทิตย์กำลังตกดินบนถนนสายเล็กๆที่คนไม่ค่อยใช้กัน

มองไปตรงไหนก็มีแต่ความว่างเปล่า ยิ่งใกล้ค่ำ ก็ต้องยิ่งเหยียบคันเร่ง

เพื่อจะได้ไม่ต้องขับในเวลาค่ำมืด

แต่บางครั้งก็ไม่ได้เป็นไปตามนั้นเสมอ



ฉันรู้สึกจดจำกับหลายเส้นทางทั้งภาคเหนือและภาคอิสาน

เช่นเมื่อที่ต้องใช้เส้นทางเล็กๆผ่านภูเขาตลอดในเวลาดึกและฝนตกหนัก

มีทั้งเมฆและหมอกปกคลุมไปทั่ว ทำให้มองไม่เห็นถนน และตลอดเส้นทางนั้นก็เป็นถนนเล็กๆสูงชัน

เวลาที่ขับลงเขา เมื่อใกล้ที่ต่ำสุดก็ต้องอัดคันเร่งเพื่อที่จะได้มีแรงส่งให้ขึ้นเนินเขาสูงชันข้างหน้า


มันทำให้เราคิดอะไรได้เยอะ นั้นคือแต่ละวินาที ต้องมีสติตลอดเวลา

เพราะถ้าพลาดนิดเดียวก็คงไม่มีใครมาช่วย

บรรยากาศรอบข้างทำให้คิดว่าเราตายแล้วยังไงไม่รู้ซิ!

ทั้งถนนมีเราเพียงคนเดียว มองไปตรงไหนก็ไม่มีแสงไฟ ไม่มีรถสวนมา







ณ จุดหมายที่จังหวัดหนึ่ง

ฉันขับรถไปถึงในเวลา3ทุ่มกว่า เมื่อหาอะไรทานแล้วจึงกลับมาเช็คอินที่โรงแรม

พนักงานมองเราพร้อมชำเรืองรอบตัว และถามว่า "พักกันกี่คนค่ะ"

อ้าว! ทำอย่างกับเห็นใครยืนข้างๆเราอีกอย่างนั้นละ หรือเขาคิดว่าคนไทยชอบลักไก่อันนี้ก็ไม่รู้นะ



พอเปิดประตูเข้าห้องแล้วก็รู้สึกเพลียมากๆ และเมื่ออาบน้ำเสร็จก็ล้มตัวลงนอนทันที

อีกอย่างคือต้องตื่นเช้ามืดก่อนตี5 เพื่อจะขับรถไปทำบุญที่วัดป่าที่อยู่อีกไกล



เวลาประมาณตี2 รู้สึกเย็นไปหมดทั้งตัว มันเย็นแบบมีลมมาสัมพัสใกล้ๆ

รู้สึกสัมผัสได้ว่าลมเย็นแบบนี้มันไม่ใช่ลมธรรมดาแน่ๆ เพราะเคยเจอมาแล้ว

รู้ทันทีเลย ว่ามันมาอีกแล้ว ... รีบห่มผ้าแบบคลุมโปงทันที

แต่ตาของเราก็ดันเหลือบไปเห็นภาพลางๆผ่านผ้าห่ม โดยเห็น ...

ว่ามี 3 ศพอยู่ในห้อง ในสภาพ XXXXXXXXX น่ากลัวมาก โอยๆๆ

และเมื่อตั้งสติได้ จึงลุกขึ้นมานั่งสมาธิ พร้อมแผ่ส่วนบุญ จนถึงตี5

สรุปว่า ไม่ได้นอนทั้งคืน



ครั้นเมื่อขับรถกลับมาถึงกรุงเทพ มีคนใกล้ตัวบอกว่าเห็นเหมือนมีคน 3 คนนั่งอยู่หลังรถ

โอยๆๆ ยังตามมาอีก สุดท้ายได้ขายรถคันนี้ทิ้งในราคาถูกพิเศษ








จังหวัดต่อมา ณ โรงแรมแห่งหนึ่งในจังหวัดที่ใหญ่สุดของภาคเหนือ

หลังกลับจากไปเที่ยวดื่มฟังเพลงมาถึงที่พักตอนราวๆตี2 ก็ไม่พบเห็นใครหรือเจ้าหน้าที่คนไหนของโรงแรมทั้งสิ้น

แต่ขณะเดินเข้าห้องพัก ได้ยินเสียงสวดมนต์เป็นภาษาต่างชาติ

พร้อมกับเห็นพวกฝรั่งชายหญิงจำนวน5คนยืนสวดมนต์อยู่

ตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไร

แต่พอเปิดประตูห้องเข้าไป ก็สัมผัสได้อีกแล้วว่ามีลมเย็นๆตามเป่าร่างกายตัวเราอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเดิน นั่ง นอน

ใครไม่เคยสัมผัสลมเย็นของจิตวิญญาณพวกนี้ก็คงไม่มีวันเข้าใจหลอกว่ามันแตกต่างจากลมอื่นๆอย่างไร

ในขณะกำลังจะนอน เสียงสวดมนต์ของพวกเขากลับโหยหวนขึ้นๆ

ทำให้เรานอนไม่หลับ และยิ่งกลัวมากขึ้นไปอีก

คิดในใจ สงสัยว่าฝรั่งพวกเขาคงเจออะไรเป็นแน่
หรือว่าคืนนี้เป็นคืนปล่อยผี เอ๊ะหรือว่า มันเป็นบทสวดเรียกผีกันแน่หว่า

สักพัก เกิดเอ๊ะใจ แล้วก็ลองนึกภาพที่เพิ่งเดินผ่านพวกฝรั่งที่ยืนสวดมนต์นี้ว่ามีอะไรผิดแปลก ทำไมไม่เหมือนคนยืนธรรมดา

โอยๆๆๆ เท้าของพวกเขาลอยจากพื้นดินนั้นเอง










ทีนี้มาประเทศจีน

กลับจากไปเที่ยวเมืองที่ไม่ใหญ่และไม่ค่อยเจริญ

ในช่วงเวลาตี1 ยังนอนไม่หลับ

ก็เลยมาเปิดหน้าต่าง โดยยื่นหน้าออกไปหวังที่จะชมวิวภายนอก


สักพัก..ได้ยินเสียงร้องของผู้หญิง ร้องแบบโหยหวน

เสียงของเธอนั้นเหมือนคนโดนมีดกรีดทีละส่วนของร่างกาย

ในใจคิด .. เขาเสียใจหรือเจ็บปวดอะไร ทำไมถึงร้องแบบนี้

พอฟังต่อ ก็อยากรู้ว่าจะหยุดเมื่อไหร่ เสียงร้องนั้นก็ยังร้องตลอดเวลาและก็ดังมากขึ้นๆ

เธอร้องยาวเป็นครึ่งชั่วโมง คิดในใจ เอ๊ะ ใครจะมีแรงร้องเสียงดังและโหยหวนได้นานขนาดนี้

ด้วยความอยากรู้อยากเห็นว่าเสียงร้องนี้มาจากไหน อืมม ต้องมาจากตึกฝั่งตรงข้ามแน่ๆ

เอ...แต่ว่า ไฟฟ้าปิดหมด มืดสนิท

ทีนี้ลองค่อยๆมอง ที่ไหนได้ มันเป็นตึกร้าง มันเป็นโรงแรมร้างที่ถูกปล่อยทิ้งไว้

โอยยย รีบปิดหน้าต่าง ไม่เอาแล้ว ไม่อยากมองวิวอะไรแบบนี้อีกต่อไป












ผีเมืองจีนนี้ไม่เห็นตัว เพียงได้ยินแต่เสียง ไม่น่ากลัวเท่าไหร่ ถึงเสียงจะโหยหวนก็ตาม

มาเมืองในอันดับต่อไป ที่ออสเตรเลีย ผีซิดนีย์ ทีนี้มาตัวเป็นๆแบบสัมผัสกับเราใกล้ชิด

และนี้ก็เป็นผีที่ฉันกลัวที่สุดในชีวิตเท่าที่เคยเจอมาเลยนะ ฮือๆๆ



เมื่อมีประสบการณ์กับผีมาหลายครั้ง ทำให้ก่อนนอนฉันต้องออกไปดริ๊ง

เพราะเมื่อเวลาเมานิดหน่อยแล้วจะไม่ค่อยกลัวอะไร

แต่ที่ซิดนีย์ ไม่ได้เป็นอย่างนั้นซิ เมาหยำเป เดินโซซัดโซเซกลับมาถึงห้องตอนตี2เช่นเคย


เช้ามืดเวลาตีห้าเสียงจากโอเปอร์เรเตอร์ปลุก

ตื่นมา ยังรู้สึกว่าแฮ้งค์อยู่ เมื่อเข้าห้องน้ำ ในขณะกำลังจะล้างหน้า แปรงฟัน

เหลือบมองกระจกบานใหญ่ที่หน้าเรา เห็นคนร่างสูงใหญ่ ตัวดำสนิทยืนทมึนอยู่ข้างหลัง พร้อมกางแขนกำลังจะบีบคอเรา

เท่านั้นละ ขนลุกไปหมดทั่วร่างกาย มีขนตรงไหนมันลุกตั้งไปทุกส่วน

หลับตาทันทีไม่กล้ามองต่อ พร้อมส่งเสียงร้องลั่นโรงแรมเหมือนเด็ก3ขวบ

โอยๆๆๆ ขอให้สิ่งศักดิ์ในสากลโลกช่วยลูกด้วยเถิด หมดเรี่ยวแรง อ่อนระทวย และค่อยๆทรุดตัวลงนั่ง

โอยยย ๆๆๆๆๆ ในใจคิด ครั้งนี้ทำไมมาตัวเป็นๆเลยหว่า??




เอาเว้ยย ไหนๆก็ไหนๆ ขอวิ่งออกจากห้องลงไปข้างล่างโดยมีผ้าเช็ดตัวผืนเดียวนี้ละ





ในขณะกำลังจะพุ่งชนผีดำร่างใหญ่









ปัดโธ่ !!!


ที่แท้มันเป็นเสื้อแขนยาวสีดำและกางเกงสีดำของเราเอง

สงสัยมาแขวนไว้ตรงประตูห้องน้ำตอนเมากลับมา 5555+












หลังจากที่เจอผีซิดนีย์แล้ว ฉันก็เปลี่ยนไป เลิกดื่มเลิกเมาไปตลอดชีวิต พร้อมกับตั้งสติแล้วหันมานั่งสมาธิแบบจริงจังแทน

ต่อมาฉันก็ได้เลือกห้องพักที่มีวิวสวยๆทุกครั้งที่เดินทางแบบข้างล่างนี้ละ

สุดท้าย... อยากบอกใครๆว่า ฉันนั้นไม่กลัวผีอีกต่อไปแล้วนะ ฮ่าๆๆๆ








































All Photos by MM












ผีนั้นมีจริงหรือเปล่าฉันเองก็ไม่รู้ รู้แต่ว่า ถ้าเรามีจิตอันใสบริสุทธิ์ ไม่ว่าจะผีจริง ผีหลอก ผีคน ผีผ้าห่มหรือผีใดๆก็ทำอะไรเราไม่ได้จริงมั๊ยครับ



Flag Counter


Create Date : 27 มีนาคม 2556
Last Update : 27 มีนาคม 2556 22:18:06 น. 4 comments
Counter : 2742 Pageviews.

 
มาอ่านเรื่องน่ากลัว
กลัวแต่ก็อ่าน ^


โดย: Kozumochi วันที่: 27 มีนาคม 2556 เวลา:22:11:39 น.  

 
Thank you for the ghost stories which I am waiting to read.


โดย: Icy-sea IP: 88.83.3.131 วันที่: 28 มีนาคม 2556 เวลา:7:29:44 น.  

 
ภาพถ่ายสวยนุ่มจริงๆ เเหละ
เก่งขึ้นทุกวันเลย
ถ้าถ่ายรูปเด็กๆ มาแปะด้วย
คงสดใส มีชีวิตชีวาน่าดูชมเลยนะคะ


โดย: Saori_Chubby Chic วันที่: 30 มีนาคม 2556 เวลา:14:48:55 น.  

 
กลัวค่ะ. แต่ชอบ5555


โดย: fay IP: 27.55.147.93 วันที่: 29 มีนาคม 2557 เวลา:20:30:05 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

MM Story
Location :
Singapore / Bangkok / Sapporo - Japan

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 33 คน [?]




free counters
New Comments
Group Blog
 
 
มีนาคม 2556
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
27 มีนาคม 2556
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add MM Story's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.