Group Blog
 
<<
เมษายน 2555
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
29 เมษายน 2555
 
All Blogs
 

ความรู้ประดับสมอง ตอน เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินระหว่างเดินทางต้องทำอย่างไร

เมื่อต้องเดินทางไกล

การเตรียมรถยนต์ก่อนออกเดินทาง
1. ยาง สิ่งจำเป็นที่ต้องหมั่นตรวจสอบ ต้องเป็นยางที่อยู่ในสภาพดี และสิ่งที่ไม่ควรลืมก็คือยางอะไหล่ ที่ต้องเตรียมให้พร้อมอยู่เสมอ
2. เบรก ตรวจตราให้มีความสมบูรณ์ และใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ ควรตรวจเช็คน้ำมันเบรค จานเบรก ปั๊มลม และควรมีน้ำมันเบรกสำรองไว้ด้วย
3. น้ำในหม้อน้ำ ให้อยู่ในระดับมาตรฐานเสมอ
4. น้ำกลั่นในหม้อน้ำแบตเตอรี่ ให้อยู่ในระดับที่กำหนดไว้ ควรมีน้ำสำรองเก็บไว้ด้วย
5. กระจกมองข้างทั้ง 2 ด้าน และกระจกมองหลังให้อยู่ในสภาพที่มองเห็นได้ชัดเจน
6. น้ำมันเครื่อง ควรตรวจสอบว่าขาดหรือพร่องไปหรือไม่ ควรเติมให้ถึงขีดมาตรฐาน และควรมีสำรองติดรถไว้ด้วย
7. น้ำมันเชื้อเพลิง ควรเติมให้เต็ม และควรคาดคะเน ตามเข็มวัดน้ำมัน และจำเป็นต้องเติมในจุดที่เหมาะสม
8. เครื่องมือประจำรถและอะไหล่ต่างๆ ต้องมีติดรถไว้ให้พร้อมเสมอ
9. เครื่องมือพยาบาล ติดรถไว้กรณีฉุกเฉิน หรือในกรณีเกิดอุบัติเหตุเล็กน้อย

ข้อคิดยามเดินทางไกล
 - ควรแจ้งกำหนดการ ให้ผู้ที่อยู่ทางบ้าน และปลายทางทราบเสมอ เมื่อต้องการเดินทางไกล เพื่อตรวจสอบ เมื่อมีเหตุ หรือเห็นว่าผิดปกติ เช่นล่าช้ากว่ากำหนด และเมื่อถึงปลายทางแล้ว ควรแจ้งให้ทางบ้านทราบด้วย
- ข้อเตือนใจสำหรับนักเดินทาง ถ้าเส้นทางใดท่านไม่คุ้นเคย หรือต้องเดินทางตามลำพังในที่เปลี่ยว ไม่ควรไปในเส้นทางนั้น
- อย่าหยุดรถ หรือแวะรับคนข้างทางในที่เปลี่ยวโดยไม่จำเป็น
- นักเดินทางหลายรายเคยพบสิ่งไม่คาดคิด เมื่อคนร้ายอาจจะแกล้งขับรถชนท้ายรถท่านเพื่อให้ลงมาเจรจา แล้วใช้อาวุธปืนจี้ ปล้น เมื่อเกิดเหตุการณ์ทำนองนี้ ไม่ควรหยุดรถ แต่ควรเดินทางต่อไปจนถึงป้อมตำรวจ
- ศึกษาเส้นทาง หรือสอบถามเส้นทางจากผู้รู้ให้ละเอียด เพื่อที่จะไม่ต้องเสียเวลาเดินทางย้อนกลับทางเดิม
- การแซงรถ ควรปฏิบัติตามกฎจราจรเสมอ ไม่ควรแซงตรงทางแยก บนเนินเขา บนทางโค้ง และบนสะพาน

ข้อปฏิบัติเมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน

- กรณีกระจกแตก

เมื่อถูกก้อนหิน ก้อนกรวดกระเด็นมาถูกกระจกแตก ข้อควรปฏิบัติคือ ชะลอความเร็วของรถ แล้วเข้าข้างทางทันที ถ้าเป็นกระจก 2 ชั้นยังพอจะขับต่อไปได้ หรืออาจจะทุบกระจกรถเก่าออกให้หมด แล้วโกยเศษแก้วออกมาให้มากที่สุด เมื่อต้องการจะขับรถต่อไปอีก ให้ไขกระจกข้างขึ้นจนมิด เพื่อป้องกันอาการส่ายของรถบนถนน

- กรณีสุนัขวิ่งตัดหน้า
ถ้าชะลอไม่ทันอาจจำเป็นต้องตัดสินใจชน มิฉะนั้นรถอาจเสียหลักได้ ถ้ากรณีที่เป็นสัตว์ใหญ่ไม่ควรบีบแตร เพราะจะทำให้สัตว์เหล่านั้นตกใจ และย้อนมาทำอันตรายได้

- กรณีหม้อน้ำรั่ว

ถ้าหาอู่ไม่ได้ ให้ใช้วิธีการ โดยนำเอาสบู่ มาอุดรูรั่วไว้ก่อน เติมน้ำจนเต็ม แล้วขับไปให้อู่ซ่อมแซม

- กรณียางระเบิด

เมื่อยางระเบิดกะทันหัน ต้องพยายามถือพวงมาลัยไว้ให้มั่นคง และพยายามบังคับรถเข้าข้างทางอย่างปลอดภัย และไม่ควรใช้เบรกอย่างกะทันหัน เพราะจะทำให้รถเสียหลักพลิกคว่ำ ควรใช้เกียร์เป็นตัวชะลอความเร็ว โดยเปลี่ยนเป็นเกียร์ต่ำทันที กรณียางระเบิดที่ล้อหลังท้ายรถจะส่าย ควรถือพวงมาลัยให้มั่นคง และรักษาทิศทางให้ตรง ก็สามารถแก้ไขปัญหาได้ พยายามย้ำเบรกหลายๆ ครั้งติดกัน เพื่อให้น้ำหนักตกอยู่ข้างล้อที่ใช้งานได้ กรณียางระเบิดที่ล้อหน้า พยายามจับพวงมาลัยให้มั่นคง ใช้เบรกให้เบาที่สุด ถ้าแฉลบไปทางใดต้องคืนพวงมาลัยกลับมาให้ตรงทิศทาง จนกว่าจะนำเข้าข้างทางเรียบร้อย

- กรณีคันเร่งน้ำมันค้าง
ให้ใช้เบรกช่วยโดยไม่ต้องไปยุ่งเกี่ยวกับคลัตช์ เพราะเมื่อเหยียบคลัตช์ จะทำให้รอบเครื่องยนต์สูงขึ้นทันที อาจจะทำให้เกิดความเสียหายได้ จะใช้คลัตช์ในกรณีที่เปลี่ยนเกียร์เท่านั้น และเมื่อลดความเร็วลงมาอยู่ในอัตราที่ปลอดภัยแล้ว ใช้ปลายเท้าสอดเข้าไปใต้คันเร่งแล้วงัดขึ้นมา ถ้าคันเร่งไม่ขึ้น ก็พยายามนำรถเข้าข้างทาง แล้วปิดสวิตช์การทำงานทันที

- เบรกไม่อยู่
อาจเกิดผ้าเบรกหมด ผู้ขับขี่อาจควบคุมรถได้ด้วยความไม่มั่นใจเท่าที่ควร เพราะรถไม่สามารถหยุดได้ดั่งใจ ในกรณีผ้าเบรกหมด ขณะที่กำลังเหยียบเบรกจะได้ยินเสียงโลหะเสียดสีกัน และดังมาจากบริเวณดุมล้อที่ติดตั้งระบบเบรก คงต้องนำรถเข้าตรวจเช็คระบบเบรกต่อไป แต่ในกรณีที่กำลังขับขี่ โดยใช้ความเร็วอยู่หากเกิดเบรกไม่อยู่ (เบรกแตก) ผู้ขับขี่ต้องอย่าตกใจ และควบคุมสติให้อยู่ พยายามลดความเร็วลง โดถอนคันเร่งออกจากปลายเท้า แล้วลดเกียร์ลงมาใช้เกียร์ต่ำ เช่น เกียร์ 5,4,3,2,1, ตามลำดับ อย่าพยายามเข้าเกียร์ เช่น จากเกียร์ 4 มาเป็นเกียร์ 1 เพราะจะเกิดอันตรายได้ เมื่อสามารถชะลอความเร็วลงมา จนถึงระดับเกียร์ 1 ได้ จนถึงจุดที่รถวิ่งด้วยความเร็วต่ำแล้ว ให้ใช้ เบรกมือช่วยเบรกในระหว่างชะลอความเร็วลงมา ควรควบคุมสติให้มั่นคง และให้สัญญาณเสียง เปิดไฟฉุกเฉิน หรือให้สัญญาณด้วยวิธีใดๆ เพื่อให้รถคันอื่นรู้ว่ารถเรากำลังเกิดเหตุฉุกเฉิน เมื่อจอดรถเข้าข้างทางโดยปลอดภัยแล้ว ควรติดต่อช่างมาตรวจสอบระบบเบรกต่อไป

- เมื่อรถตกน้ำ

ในกรณีที่รถเกิดอุบัติเหตุแล้วตกลงไปในแม่น้ำ ลำคลองใดๆ ก็ตาม รถจะไม่ตกลงไปใน น้ำแล้วจมทันที เหมือนหิน ตกน้ำ แต่จะค่อยๆ จมลงทีละน้อยๆ จนกว่าจะถึง พื้นล่างและในนาทีวิกฤตนี้
ควรตั้งสติให้ดี และ ปฏิบัติดังต่อไปนี้
1. ปลด SAFETY BELT ออกทุกๆคน รวมทั้งผู้โดยสารด้วย
2. อย่าออกแรงใดๆ เพื่อสงวนการใช้อากาศหายใจซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนจำกัด
3. ให้ยกส่วนศีรษะให้สูงเหนือระดับน้ำที่ค่อยๆ เพิ่มขึ้นในรถ
4. ปลดล็อกประตูรถทุกบาน
5. หมุนกระจกให้น้ำไหลเข้าในรถเพื่อปรับความดัน! ในรถและนอกรถให้เท่ากันมิฉะนั้นท่านจะเปิด ประตูรถไม่ออก เพราะน้ำจากภายนอกตัวรถจะดันประตูไว้
6. เมื่อความดันใกล้เคียงกันแล้วให้ผลักบานประตูออกให้กว้างสุด แล้วท่านก็ออกจากห้องโดยสารของ รถได้
7. จากนั้นท่านอาจจะปล่อยตัวให้ลอยขึ้นเหนือน้ำตามธรรมชาติ หรือจะว่ายน้ำขึ้นมาก็ได้ ในกรณีนี้หาก น้ำลึกมากๆอาจจะมองไม่เห็นว่า ทิศใดเหนือน้ำ ทิศใดใต้น้ำเพราะว่า มืดไปหมดไม่ควรใช้วิธีว่ายน้ำ เพราะอาจจะว่าย ไปในทิศทางที่ไม่ขึ้นเหนือน้ำ กรณีเช่นนี้ ควรปล่อยตัวให้ลอยขึ้นตามธรรมชาติ หรือ ลองเป่าปากดูว่า ฟองอากาศลอยไปในทิศทางใด ให้ว่ายน้ำไปในทิศทางที่ฟองอากาศลอยไป ก็จะไม่มี อาการ หลงน้ำ นอกจากนั้น ก่อนออกจากรถ หากท่านมีผู้โดยสารที่เป็นเด็กๆ อาจจะหนีบ เด็กๆ นั้น ออกมากับท่านได้อีกหนึ่งคน ดังนั้นหากท่านปฏิบัติ ตามวิธีการเหล่านี้ ก็จะช่วยให้ชีวิตของท่าน ปลอดภัยได้ ในยามคับขัน

ข้อควรระวัง

การปิดสวิตช์กุญแจ ควรปิดไว้ที่ตำแหน่ง OFF อย่าปิดที่ LOCK เพราะจะทำให้พวงมาลัยทำงานไม่ได้

กรณีฝากระโปรงรถเปิดเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ฝากระโปรงเปิดจนปิดกระจกบังลมหน้า การแก้ไขควรชะลอ และมองดูรถคันหลังด้วยว่ากระชั้นชิดหรือไม่ อย่าหยุดรถกะทันหัน เพราะอาจเกิดอุบัติเหตุได้ นำรถเข้าข้างทาง แล้วปิดให้เรียบร้อย

เมื่อความร้อนขึ้นสูงผิดปกติ ให้รีบลดความเร็ว แล้วนำรถเข้าข้างทาง ตรวจดูรอยรั่วของหม้อน้ำ และข้อต่อต่างๆ สายพาน ถ้ามีน้ำพอ ให้ใช้น้ำราดลงหม้อน้ำได้เลย แต่ถ้ามีน้ำไม่พอ คอยให้เครื่องเย็น แล้วจึงเติมน้ำลงในหม้อน้ำ

ถ้าที่ปัดน้ำฝนไม่ทำงาน พยายามนำรถเข้าหาอู่ หรือถ้าฝนตกหนักควรจอดพักดีกว่า

กรณีรถสตาร์ทไม่ติด เกิดจากแบตเตอรี่ไม่มีไฟ ให้พยายามลาก หรือเข็น แล้วสตาร์ทกระตุก โดยให้ใช้เกียร์ 2 เหยียบคลัตช์ เมื่อความเร็วได้ที่ปล่อยคลัตช์ แล้วเหยียบคันเร่ง หรือให้ใช้สายแบตเตอรี่พ่วงกับรถคันอื่น แล้วสตาร์ท



ของจำเป็น 16 อย่างที่ควรติดไว้ในรถ


ใคร จะรู้เมื่อเราก้าวเท้าออกจากบ้านไปผจญเผชิญภัยอยู่บนท้องถนนจะเกิดอะไรขึ้น บ้าง เพราะแทบทุกบ้านมีรถและไม่น้อยคือคุณผู้หญิงที่ขับรถคนเดียว วันนี้จึงขอนำเสนอสิ่งจำเป็นที่ควรจะมีติดรถ พาหนะคู่กายเราไว้ เพื่อที่ว่าเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินเราจะสามารถหยิบใช้ได้ทันท่วงที

1. ชาร์จโทรศัพท์มือถือให้เต็มก่อนออกจากบ้าน และติดที่ชาร์จไปด้วย เพื่อให้แบตเตอรี่เต็มอยู่เสมอ เมื่อออกจากบ้าน โทรศัพท์มือถือ ถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นในกรณีรถเสีย โดยเฉพาะสุภาพสตรี หากมีที่ชาร์จโทรศัพท์ติดประจำรถไว้ด้วยจะดีมาก มีชื่อและเบอร์โทรศัพท์ของช่างซ่อมรถยนต์อยู่ในมือถือ รวมทั้งเบอร์ขอความช่วยเหลือบรรจุอยู่ด้วย

2. สายต่อพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์ ในวันที่ต้องทำงานทั้งวัน แสนจะเหน็ดเหนื่อย แต่เมื่อมาถึงรถแล้วสตาร์ทรถกลับพบว่าไม่สามารถติดเครื่องได้ ซึ่งสาเหตุมักจะเป็นเพราะแบตเตอรี่หมด หรือลืมเปิดไฟไว้ในรถก็แล้วแต่ เราสามารถหยิบสายต่อพ่วง และขอพ่วงแบตเตอรี่กับรถที่ผ่านมาได้ไม่ยาก หรือเราอาจเป็นผู้ช่วยเหลือรถคันอื่นที่ต้องการความช่วยเหลือก็เป็นได้

3.ไฟฉาย ไฟฉายนับว่าเป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นอย่างหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลากลางคืน ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนยางอะไหล่ พ่วงแบตเตอรี่รถยนต์ การค้นหาเบอร์โทรศัพท์หรือเบอร์ประกันในเวลากลางคืน สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่ต้องการไฟฉายทั้งสิ้น ยิ่งหากมีไฟฉายแบบชาร์จแบตเตอรี่ในตัวได้ หรือมีไฟสปอร์ตไลท์แบบสายคาดศีรษะได้ยิ่งดี เพื่อสะดวกต่อการใช้งาน

4. กรวยข้างถนนหรือสัญญาณสะท้อนแสง ในขณะที่จอดรถเสียไว้ข้างถนน เราไม่สามารถทำอะไรได้มากทั้งยังเป็นอันตราย อาจมีรถอีกคันหนึ่งที่ไม่ดูตาม้าตาเรือวิ่งเข้ามาชนได้ง่าย ๆ ยิ่งถ้าเป็นเวลากลางคืนด้วยแล้วไม่มีใครคาดคิดว่าจะมีรถจอดทิ้งไว้ในที่ ๆ ไม่สมควรจอด เหมือนที่เราเห็นในคลิปวีดีโอต่าง ๆ ดังนั้นหากเรามีกรวยสะท้อนแสง หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ที่พอจะทำให้มองเห็น และสามารถสะท้อนแสงได้ในยามค่ำคืน จะช่วยลดอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้

5.อาหารแห้งติดรถ อาหารเพิ่มพลังงาน เช่น ของขบเคี้ยวต่าง ๆ เพราะหากเราขับรถไปในสถานที่ไกล ๆ และไม่คุ้นเคย หรือในขณะที่เรารอรถลากมาช่วย หรือรอคนมาซ่อมให้ อาหารแห้งจะช่วยประทังความหิวไปได้ ยิ่งถ้าคนเป็นโรคกระเพาะด้วยแล้ว อาหารแห้งและขนมขบเคี้ยวถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นทีเดียว

6.ผ้าห่ม ผ้าห่มใช้ได้ดีในเวลากลางคืนที่มีอากาศหนาวเย็น หรือใช้รองพื้นในขณะซ่อมรถ หรือในกรณีฉุกเฉินผ้าห่มสามารถใช้แทนหมอน หรือเอาไว้นั่งทานอาหารในวันที่อยากปิกนิกนอกบ้านก็ได้

7. ผ้าเช็ดมือหรือกระดาษทำความสะอาด ไม่ว่าจะเป็นชนิดน้ำ หรือแห้ง เช่นกระดาษทิชชู ผ้าขี้ริ้ว นับว่าเป็นสิ่งสำคัญหากเราเรื่องต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง เปลี่ยนยางรถยนต์ หรือในกรณีฉุกเฉินที่ต้องเข้าห้องน้ำกะทันหัน เป็นต้น

8. ชุดปฐมพยาบาล ในกรณีบาดเจ็บต้องห้ามเลือด และทำแผล หรือยาทาแก้ฟกซ้ำสำหรับลูกเล็ก ๆ เป็นสิ่งที่สำคัญที่ควรมีติดไว้ประจำรถ รวมทั้งยาสำคัญประจำตัวของเราด้วย

9. ขวดน้ำ ยิ่งถ้าเป็นประเทศไทยซึ่งมีอากาศร้อน น้ำนับว่ามีความจำเป็นสำหรับการมีชีวิตรอด หรือในวันที่รถแสนติด วันที่ขับรถออกจากการดูคอนเสิร์ต ดูภาพยนตร์ หรืองานเต้นรำ น้ำจะช่วยลดความกระหายได้มากทีเดียว รวมทั้งวันที่น้ำเติมในรถเกิดแห้ง เราก็สามารถนำน้ำนี้มาใช้ได้อีกด้วย

10. เชือกหรือโซ่หรือห่วงคล้องสำหรับลากรถ หลายครั้งในวันที่ฉุกเฉิน เราพยายามพ่วงแบตเตอรี่ก็แล้ว เติมน้ำมันเครื่องก็แล้วพยายามติดเครื่องแล้วหลายครั้งก็ไม่มีสัญาณว่าจะติด เชือกหรือโซ่ห่วงคล้อง ที่สามารถพ่วงกับรถคันอื่นได้นับว่าเป็นสิ่งจำเป็น

11.พลั่วขุดดินขนาดเล็ก แบบพับได้หรือแบบพกพา จะช่วยได้ในวันที่รถติดหล่ม ตกหลุม หรือใช้เป็นอาวุธป้องกันตัวได้ในกรณีจำเป็น

12. ค้อน ในกรณีที่รถตกน้ำหรือต้องทุบกระจก เพื่อหาทางออก ค้อนนับว่าเป็นอุปกรณ์จำเป็นที่จะช่วยชีวิตเราได้

13. มีดเล็กแบบพกพาและเทปกาวชนิดเหนียว หากเราต้องตัดสายไฟ เชื่อมต่อสายต่าง ๆ มีดพกที่มีทั้งกรรไกร ที่ไขนอต และอื่น ๆ นับว่าจะมีประโยชน์มากที่เดียวในวันฉุกเฉิน

14. ที่สูบยางรถจักรยานขนาดเล็ก ในกรณีที่ยางรถแบนและต้องขับรถไปเปลี่ยนยางในระยะทางไกล ที่สูบลมยางจะช่วยพอประทังไปได้บ้าง ดีกว่าปล่อยให้ยางแตก หรือยางแบน เพราะนั่นหมายถึงเราไม่สามารถขยับรถไปไหนได้เลย

15.ยางอะไหล่พร้อมแม่แรง สิ่งนี้เป็นสิ่งที่จำเป็นและต้องติดไว้ประจำในรถเสมอ

16. น้ำมันเครื่อง น้ำกลั่น ในกรณีที่น้ำกลั่นแห้งหรือน้ำมันเครื่องรั่ว เราสามารถเติมเพื่อพอประทังก่อนจะไปถึงอู่ซ่อมรถได้


สรุป....สุดท้าย ในการขับรถต้องไม่ประมาทและมีสติอยู่เสมอ และขอให้การเดินทางของพี่น้อง TAC ปลอดภัยไร้กังวลนะครับ

ที่มา
//www.rtaf.mi.th/rtaf-travel/drivesafe.htm
BKK INSIDE
พลังจิต.com
eduzones.com
Teijung




 

Create Date : 29 เมษายน 2555
1 comments
Last Update : 29 เมษายน 2555 0:08:10 น.
Counter : 1647 Pageviews.

 

ขอบคุณสำหรับบทความดีๆที่เอามาแบ่งปันกันค่ะ ....

 

โดย: AsWeChange 29 เมษายน 2555 0:30:11 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


ลูกน้ำกว๊าน
Location :
พะเยา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ยินดีต้อนรับทุกท่าน นะคะ




อยากมีและอยากรู้จัก เพื่อนที่มีที่มาต่างกัน และอยากร่วมแชร์ ประสบการณ์ให้คนอื่น ได้รับรู้บ้าง เพื่อนๆชาว บลอคแกงค์เป็นอะไรที่ ใช่เลย ที่คอยอยู่ด้วยกัน ตลอดเวลา พอเรา เปิดดูครั้งใดก็จะมีคน นั่งเขียนบลอก นั่งอยู่ที่ หน้าจอ คอยเป็นเพื่อน กันเสมอ รัก ทุกคนใน บลอกแกงค์ ค่ะ
: Users Online
Friends' blogs
[Add ลูกน้ำกว๊าน's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.