Group Blog
 
<<
มกราคม 2555
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
2 มกราคม 2555
 
All Blogs
 

'สมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย' เลือกหุ้น!! เป้าหมายพอร์ตลงทุนหลัก 'ร้อยล้านบาท'

สมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย มือขวา กัลกุล ดำรงปิยวุฒิ์ เจ้าของ บมจ.กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง ยังคงมุ่งหน้าแสวงหาโอกาส 'รวย' จากตลาดหุ้นต่อไป เป้าหมายพอร์ตลงทุนหลัก 'ร้อยล้านบาท'



เขามองตลาดหุ้นไม่เริงร่าเหมือนเก่า สมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย ผู้บริหารระดับสูง บมจ.กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง เจ้าของพอร์ตลงทุนหลับ "สิบล้านบาท" ขอย้ายเงินซบทองคำชั่วคราว สมบูรณ์ ในวัย 41 ปีเขาเป็นผู้บริหารคนสนิทของ กัลกุล ดำรงปิยวุฒิ์ ผู้ก่อตั้งกันกุลเอ็นจิเนียริ่ง คลุกคลีอยู่ในตลาดหุ้นมาไม่ต่ำกว่า 8-9 ปี จากเงินลงทุนก้อนแรกเพียง 200,000 บาท เปลี่ยนกลยุทธ์การลงทุนมาทุกรูปแบบ สุดท้ายตัดสินใจเดินตามแนวทาง ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ร่วมเป็นหนึ่งในสาวก "วีไอ"

ถ้าย้อนกลับไปเมื่อก่อนชอบเล่นสั้นๆ แต่พอเก็งกำไรในลักษณะนี้ไปสักระยะก็พบว่า "แทงลมตลอด" หักลบกำไรขาดทุนสุดท้ายก็เหลือ "กำไรนิดเดียว" พอมาเล่นตามแนวทางดร.นิเวศน์ ผลตอบแทนก็ดีขึ้น ผู้บริหารหนุ่มไม่ละทิ้งความฝันเชื่อว่าสักวันหนึ่งจะก้าวสู่อิสระภาพทางการเงินและมีพอร์ตลงทุนหลัก "ร้อยล้านบาท" แม้ฝันนั้นยังมาไม่ถึง

ก่อนหน้านี้ เขาเคยให้สัมภาษณ์กลยุทธ์การเล่นหุ้นแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม ที่สามารถ "ทำกำไร" ได้ในช่วงที่ SET Index อยู่บนที่สูงและผันผวน กลุ่มแรกคือ "หุ้นไอพีโอ" กลุ่มที่สอง "หุ้นปันผล" กลุ่มที่สาม "Defensive Stock" ที่ไม่ว่าเศรษฐกิจจะดีหรือร้ายรายได้และกำไรก็ยังเติบโตอย่างมั่นคง และกลุ่มสุดท้ายหุ้นที่ "เงินสดเยอะ-หนี้น้อย" มีเงินสดหมุนเวียนสูงจะไม่มีปัญหาในเรื่องการจ่ายเงินปันผล

สมบูรณ์ ย้ำว่าก่อนการลงทุนอะไรต้องศึกษาให้ถึง "เนื้อแท้" ของธุรกิจ ที่สำคัญผู้บริหารบริษัทนั้นต้อง "เก่ง" และสามารถ “ตีโจทย์” ทางธุรกิจอย่างทะลุปรุโปร่ง จากปี 2553 พอร์ตลงทุนของเขายังอยู่เพียงหลัก "ล้านบาท" หลังจากนั้นก็เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วเป็น 20 ล้านบาท ก่อนที่จะลดน้ำหนักการลงทุนในช่วงปลายปี 2554 เพราะมองว่าตลาดหุ้นมีปัจจัยเสี่ยงค่อนข้างมาก

ในช่วงต้นเดือนธันวาคม 2554 กัลกุล ดำรงปิยวุฒิ์ พาผู้สื่อข่าวไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ประเทศพม่า สมบูรณ์ ถือโอกาสอัพเดทกลยุทธ์การลงทุนให้กรุงเทพธุรกิจ BizWeek ฟังว่า ในช่วง 4-5 เดือนที่ผ่านมาพอร์ตการลงทุนส่วนตัวได้ปรับสัดส่วนใหม่ โดยโยกเงินไปลงทุนใน "สินทรัพย์ที่มั่นคง" มากขึ้น โดยเฉพาะ "ทองคำ" ส่วนตัวมองว่าปัญหาหนี้ยุโรปที่แก้ไม่จบจะกดดันตลาดหุ้นทำให้มีความเสี่ยงมากขึ้น

สัดส่วนการลงทุนล่าสุดสมบูรณ์ เน้นลงทุนในสินทรัพย์มั่นคง 75% ตลาดหุ้น 25% จากเดิมที่เน้นลงหุ้นสัดส่วนมากถึง 70% สาเหตุที่มอง "ทองคำ" ที่เคยขึ้นไปถึง 1,900 เหรียญต่อออนซ์ ก่อนจะปรับตัวลดลงมาอย่างแรง เชื่อว่าอีกไม่นานราคาทองคำก็จะกลับขึ้นไปอีกครั้ง

สำหรับหุ้นในพอร์ตลงทุนล่าสุดจะเน้น "หุ้นปันผล" ที่ให้อัตราผลตอบแทนประมาณ 7% โดยอยู่ในกลุ่มพลังงาน และกลุ่มอาหาร ส่วนหุ้นกลุ่มสถาบันการเงินตอนนี้ถอดออกชั่วคราว เขาบอกว่าโดยส่วนตัวจะตั้งเป้าผลตอบแทน 20% ต่อปี เกินกว่านั้นได้ยิ่งดี อย่างปี 2554 ก็คงได้ตามเป้าหมาย โดยปกติจะซื้อขายหุ้นไม่เกิน 3 รอบต่อปี ซึ่งตั้งเป้าชัดเจน "ผมเป็นนักลงทุนระยะกลาง" หุ้นในดวงใจยังคงเป็น “บ้านปู” เหมือนเดิม ส่วนตัวมองว่าทิศทางของราคาถ่านหินยังเป็น "ขาขึ้น"

สมบูรณ์ กำลังรอดูผลประกอบการไตรมาส 4 ปี 2554 ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ว่าจะได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมมากน้อยเพียงใด รวมทั้งสถานการณ์ในต่างประเทศ ถ้าหากดัชนียังไม่มีทิศทางที่ดีขึ้นก็คงยังไม่ทำอะไร..ขออยู่นิ่งๆดีที่สุด

สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในปี 2555 เขายังย้ำ 4 กลุ่มที่น่าสนใจลงทุนเช่นเดิม ได้แก่ "หุ้นไอพีโอ" "หุ้นปันผลสูง" "Defensive Stock" และสุดท้ายหุ้นที่ "เงินสดเยอะ-หนี้น้อย" หุ้นทั้ง 4 ประเภทนี้ยังเป็นกลุ่มที่เชื่อว่าจะสร้างผลตอบแทนที่ดีในปีนี้


'กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง' ทะยานไม่หยุด!!!


กัลกุล ดำรงปิยวุฒิ์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง นับเป็นผู้บริหารที่ซ่อนคมทางธุรกิจเอาไว้ค่อนข้างมาก เขาจบแค่มัธยมศึกษาปีที่ 6 ศูนย์การศึกษานอกโรงเรียน สร้างธุรกิจมูลค่า "หลายพันล้าน" มาจาก "คอนเน็คชั่น" และหลักการบริหารนอกตำรา จุดหักเหสำคัญหลังจากนี้คือ การเข้าไปลงทุนใน "พม่า" เขี้ยวเล็บทางธุรกิจที่เถ้าแก่กัลกุล เก็บเอาไว้เป็น "ไม้เด็ด" ในกระดาน

สมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย กรรมการบริหาร และผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ เปิดเผยว่า ในอนาคตอีกไม่กี่ปีข้างหน้าบริษัทกำลังจะเปลี่ยนมาทำธุรกิจพลังงานทดแทน 90% และลดสัดส่วนธุรกิจเดิมผลิต จัดหา และจำหน่ายอุปกรณ์สำหรับระบบไฟฟ้าเหลือ 10% โดยสเต็ปแรกในช่วง 3 ปี ตั้งเป้าจะทำธุรกิจพลังงานทดแทน 70% และลดธุรกิจเดิมเหลือ 30% (จากตอนนี้ 80%) และไม่เกิน 5 ปี จะผลักดันธุรกิจใหม่ขึ้นเป็น 90% ทันที

เหตุผลที่ กัลกุล ดำรงปิยวุฒิ์ เจ้าของบริษัทจะเปลี่ยนโครงสร้างธุรกิจใหม่ ผู้บริหารคนสนิท กล่าวว่า ข้อแรก กำไรจากธุรกิจพลังงานทดแทนดีกว่าธุรกิจเดิมมาก คิดดูหากไม่ตัดภาษีจะมีกำไรจากธุรกิจพลังงานทดแทนสูงถึง 70% แต่เมื่อตัดทุกสิ่งทุกอย่างแล้วจะมีกำไร 40% ข้อสอง ธุรกิจเดิมมีความเสี่ยงเรื่องราคาโลหะที่ผันผวน ข้อสาม มีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ขึ้นลงตลอดเวลา สุดท้ายคือ ความเสี่ยงเรื่องการประมูลโครงการแม้เราจะมีความเชี่ยวชาญแต่ต่อไปก็คงไม่ง่าย

ภายในแผน 3 ปี ธงสำคัญอยู่ที่โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 100 เมกะวัตต์ จากปัจจุบันที่ดำเนินการอยู่ 57 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นที่ทำไปแล้วในปี 2554 จำนวน 27 เมกะวัตต์ และกำลังจะดำเนินการในปี 2555 อีก 30 เมกะวัตต์ โดยจะมีกำไรเมกะวัตต์ละ 8-9 ล้านบาทต่อปี

"ตอนนี้เรากำลังหาผู้ร่วมลงทุนซึ่งอาจเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยจะให้เข้ามาถือหุ้น 50% ในบริษัท จี พาวเวอร์ ซอร์ซ จำกัด ที่มีงานผลิตไฟฟ้า 27 เมกะวัตต์ มูลค่า 3,000 ล้านบาท คาดว่าจะได้เงินจากพันธมิตรใหม่ 2,000 ล้านบาท จะเริ่มขายไฟฟ้าได้ในวันที่ 1 ก.พ.2555 คาดว่าจะสร้างรายได้ราวๆ 1,500 ล้านบาท หลังเราได้ผู้ร่วมทุนจะทำให้อัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) ลดลงเหลือ 1.7 เท่า จาก 4 เท่า”

นอกจากนี้ ภายใน 3 ปีนี้ บริษัทยังมีแผนจะผลิตไฟฟ้าพลังงานลม 100 เมกะวัตต์ ล่าสุดได้ร่วมมือกับกระทรวงพลังงานของพม่า ร่วมในโครงการพัฒนาด้านพลังงานลมขนาด 1,000 เมกกะวัตต์ มูลค่าการลงทุน 60,000 ล้านบาท ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่รัฐตะนินตายี, คะฉิ่น, และมอญ คาดว่าจะเริ่มที่รัฐตะนินตายีก่อน ปัจจุบันอยู่ระหว่างสำรวจพื้นที่ เพื่อขึ้นเสาสำหรับวัดค่าลมถ้าเกินระดับ 6 เมตรต่อวินาทีอาจขึ้นโครงการได้เร็วกว่ากำหนด คาดว่าจะผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมได้ในปี 2558

ตามแผนจะตั้งเป็นบริษัทร่วมทุน โดยกันกุลเอ็นจิเนียริ่ง ถือหุ้น 20-30% รัฐบาลพม่า 10% กฟผ.และกฟภ. 25% ที่เหลือจะหาพันธมิตรเข้ามาถือหุ้น หากไม่มีอะไรผิดพลาดพันธมิตรอาจเป็นนักลงทุนจากเกาหลีใต้และญี่ปุ่น เพราะเขาทำธุรกิจในพม่าอยู่แล้ว

"ถ้าเราถือหุ้น 20-30% จะใช้เงินไม่เกิน 100 ล้านบาท เพื่อตั้งเสาวัดความเร็วของลม ส่วนเงินทุนที่เหลืออาจกู้จากสถาบันการเงินทั้งในและนอกประเทศ ตอนนี้เล็งจะขอกู้จากธนาคารโลก และธนาคารเพื่อพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) นอกจากนี้ เรายังสนใจธุรกิจน้ำมันและแก้สในพม่าซึ่งอยู่ระหว่างศึกษาโครงการ และเริ่มมีธุรกิจจำหน่ายท่อส่งก๊าซในพม่าแล้วแต่ยังมียอดขายไม่มาก คาดว่าในปี 2555 จะทำจริงจัง โดยจะหาพันธมิตรในประเทศไทยมาร่วมลงทุน”

สมบูรณ์ ทิ้งท้ายว่า ในปี 2554 บริษัทจะมีรายได้ประมาณ 3,500 ล้านบาท เทียบกับปี 2553 ที่มีรายได้เพียง 1,300 ล้านบาท แต่ปี 2555 รายได้จะขยายตัว 30% พุ่งขึ้นมาแตะ 4,000 ล้านบาท นี่ยังไม่รวมรายได้ที่ยังไม่รับรู้รายได้ (Backlog) ในพม่าที่มีกว่า 1,500 ล้านบาท...เขาส่งสัญญาณ!!! ขณะที่ราคาหุ้น GUNKUL เดินหน้ารับข่าวดีล่วงหน้าไปแล้ว




 

Create Date : 02 มกราคม 2555
0 comments
Last Update : 2 มกราคม 2555 16:02:59 น.
Counter : 651 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


manloveclash
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add manloveclash's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.