รู้จักไต้หวันให้มากขึ้น

ไต้หวัน เกาะเล็กๆ ในมหาสมุทรแปซิฟิก ที่ยังเป็นที่ถกเถียงกันว่ามีสถานภาพเป็นรัฐอธิปไตยหรือไม่

นักวิชาการทั่วโลกต่างงัดตำราขึ้นมาอภิปรายในเรื่องดังกล่าวกันอย่างกว้างขวาง

จริงๆแล้ว ไต้หวันมีสถานภาพอย่างไรนั้น มีความสำคัญพอๆกับคำถามที่ว่า ไต้หวันจะเป็นอย่างไรต่อไป

เรามาทำความรู้จักกับไต้หวันให้มากขึ้นกันดีกว่าค่ะ

ไต้หวัน หรือที่ภาษาจีนเรียกว่า ไถ-วัน (Taiwan)/ 臺灣 มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า สาธารณรัฐจีน (Republic of China) เป็นเกาะเล็กๆในมหาสมุทรแปซิฟิก ที่ในสมัยก่อนคนต่างชาติส่วนใหญ่รู้จักกันในนามเกาะ ฟอร์โมซ่า (Formosa) และอยู่ใกล้กับจีนแผ่นดินใหญ่โดยมีทะเลช่องแคบไต้หวันกั้นกลาง

คนในไต้หวันส่วนใหญ่เป็นชาวจีนที่อพยพมาจากจีนแผ่นดินใหญ่ ในสมัยที่มีการสู้รบกับระหว่างพรรคกั๋วมินตั๋งที่นำโดย เจียงไคเช็ค กับพรรคคอมมิวนิสต์ ที่นำโดย เหมาเจ๋อตุง และจบลงด้วยความพ่ายแพ้ของ พรรคกั๋วมินตั๋ง

บรรดาครอบครัว ญาติพี่น้อง และผู้สนับสนุนพรรคกั๋วมินตั๋งที่พ่ายแพ้ จึงอพยพหลบลี้หนีออกจากแผ่นดินจีน แตกกระสานซ่านเซ็นไปอยู่ในหลายๆประเทศ รวมทั้งประเทศไทย เท่าที่ทราบบริเวณดอยแม่สลองก็มีชาวจีนที่อพยพมากับกองพลที่ 93 เพื่อรอวันกลับไปทวงอำนาจคืนในจีนอีกครั้ง

แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความหวังอันนี้ก็เลือนรางออกไป พร้อมๆกับระบอบคอมมิวนิสต์ที่หยั่งรากลงในแผนดินมังกร ชาวจีนที่ดอยแม่สลองเหล่านั้นจึงทิ้งอาวุธ และทำมาค้าขายกลายเป็นคนไทยเชื้อสายจีนธรรมดาๆ ทั่วไป

สำหรับผู้อพยพคณะใหญ่สุดในครั้งนั้นหนีไปตั้งหลักที่เกาะไต้หวันและอาศัยอยู่เรื่อยมาจนปัจจุบันเป็นปีที่ 97

พรรคการเมืองสำคัญของไต้หวันมีอยู่ 2 พรรคคือ พรรค KMT (kuo-min-tang)หรือกั๋ว-มิน-ตั๋ง และพรรค DPP (Democratic progressive party) โดยตั้งแต่เริ่มก่อตั้งไต้หวันเป็นต้นมา พรรค KMT จะมีบทบาทนำในทางการเมืองไต้หวันมาโดยตลอด

แต่เมื่อ 8 ปีเศษที่ผ่านมา พรรค DPP ภายใต้การนำของนายเฉิน-สุ่ย-เปียน ได้ชนะการเลือกตั้งและได้เป็นรัฐบาลมายาวนานถึง 2 สมัย เป็นเวลา 8 ปี

อย่างไรก็ตามการเลือกตั้งทั่วไปครั้งล่าสุดในปี 2008 ที่ผ่านมานี้ นาย หม่า-อิง-จิ่ว ได้นำพรรค KMT ชนะการเลือกตั้งกลับเข้ามาเป็นผู้นำรัฐบาลได้อีกครั้ง

และทั่วโลกก็จับตาดูความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับไต้หวันมากขึ้น เนื่องจากช่วง 8 ปีที่ผ่านมาพรรค DPP ค่อนข้างมีนโยบายที่แข็งกร้าวต่อจีน ซึ่งแตกต่างจากพรรค KMT ที่ต้องการประคับประคองเศรษฐกิจของไต้หวันโดยเน้นนโยบายสร้างความสัมพันธ์ที่ดีทางเศรษฐกิจในการเผชิญหน้ากับจีน

นับแต่นี้อนาคตความสัมพันธ์ระหว่างจีน VS ไต้หวันจะลงเอยกันอย่างไร และจะไปสิ้นสุดที่ใด

ถือว่าเป็นบททดสอบภาวะผู้นำของ หม่า-อิง-จิ่ว ที่จะนำพาเกาะเล็กๆแห่งนี้ให้อยู่รอด และหาทางเลือกที่ดีที่สุดในการเผชิญหน้ากับมหาอำนาจของโลกอย่างจีน

ไต้หวันแบ่งออกเป็น 22 เขตเมือง โดยมีเมืองไทเปซิตี้ เป็นเมืองหลวง และมีเมืองเกาสง ไถหนาน และไถจง เป็นเมืองใหญ่ ที่มีแรงงานต่างชาติมากมายรวมทั้งแรงงานไทย

นอกจากนี้ในด้านชนชาติต่างๆ ภายในเกาะไต้หวันเอง แต่เดิมก็มีชนเผ่าพื้นเมืองอีกหลายเผ่าที่อาศัยอยู่แล้ว ซึ่งหน้าตาของชนพื้นเมืองส่วนใหญ่จะและตาโตและผิวคล้ำกว่าชาวจีน

ชาวไต้หวันมองว่าชาวพื้นเมืองหน้าตาดีเพราะตาโต สาวๆที่นี่หลายคนจึงชอบเขียนขอบตา และใส่คอนแทค เลนส์แบบบิ๊กอายเพื่อให้ตาโต บ้องแบ๊ว เคยได้ยินเพื่อนไต้หวันเล่าให้ฟังว่า มีนักร้องคนนึงเป็นคนพื้นเมือง ดังมากและหน้าตาสวยมาก แต่ลืมชื่อเธอคนนั้นไปแล้วเสียนี่

ภาษาจีนกลางเป็นภาษาราชการที่ใช้กันในไต้หวัน แต่สำหรับผู้สูงอายุ มักจะใช้ภาษาไต้หวันหรือที่เรียกว่า ไถ-ยวี๋ (คำว่า ยวี๋ เวลาอ่านออกเสียงให้ทำปากกลมๆ แล้วออกเสียงว่า ยวี๋) ซึ่งน่าจะเป็นภาษาจีนในตระกูลเดียวกับภาษาแต้จิ๋ว ดังนั้นคำหลายคำเราก็พอจะรู้จักและคุ้นเคย เช่นคำว่า บ๊ะจ่าง ก็เป็นคำเรียกขนมชนิดหนึ่งที่คนไทยรู้จัก และภาษาไต้หวันก็เรียกเช่นเดียวกัน

แถมยังมีภาษาไต้หวันอีกหลายคำ ที่มีเสียงพ้องกับคำภาษาไทยที่มีความหมายหมิ่นเหม่ล่อแหลม มีน้องที่ไปทำงานพิเศษเสิร์ฟอาหารคนหนึ่งเล่าว่า หากคนไต้หวันสั่ง “ข้าวต้มปลา” เป็นต้องได้เฮ เพราะเมื่อออกเสียงเป็นภาษาไต้หวันทำเอาน้องๆสาวไทยอายม้วนเลยทีเดียว

สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของไต้หวันมีมากมาย ภูเขาที่มีชื่อเสียงก็เช่น อา-หลี่-ซาน(A-li-shan) ยวี่-ซาน (Yu-shan) หลี่-ซาน (Li-shan)

ถ้าเป็นที่ท่องเที่ยวแบบทะเลก็เช่น เกาะเผิง-หู(peng-hu) ลวี่-เต่า (Lyu-dao) และเคนติ้งหรือเขิ่น-ติง(Kenting)

แหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอื่นๆเช่น ทะเลสาบสุริยัน-จันทรา ที่คนไต้หวันเรียกว่า รื่อ-เยวี่ย-ถาน หรือ San moon lake, ไท่-หลู่-เก๋อ หรือ (taroko) ซือ-โถว (Si-tou) และเย๋-หลิว (ye-liu) ก็เป็นแหล่งท่องเที่ยวอันดับต้นๆที่เมื่อมาไต้หวันแล้วไม่ควรพลาด

นอกจากนี้วิวแถวๆชายฝั่งตะวันออก ไล่มาตั้งแต่เมือง จี้หลง(kee-lung) ยี-หลาน (yi-lan) ฮัว-เหลียน (hua-lian) ไถ-ตง (tai-tung) ก็ล้วนแล้วแต่มีสวยงาม ขึ้นชื่อ ซึ่งสามารถนั่งรถไฟหรือรถทัวร์เที่ยวดูวิวชายฝั่งข้างทางได้ เที่ยวไปกินไปสบายๆไม่รีบ น่าจะใช้เวลาประมาณ 4-5 วัน

แต่ถ้าหากว่ามีเวลาน้อย 3-4 วันจะเที่ยวแต่เฉพาะแถวๆไทเป ก็แนะนำ พิพิธภัณฑ์กู้กง ตึก101 (วัน-โอ-วัน) ตึกที่สูงที่สุดในโลกในปัจจุบัน อนุสรณ์สถานเจียงไคเช็ค ท่าเรือต้านสุ่ย หยางหมิงซาน จี้หลง และไนท์มาร์เก็ตที่มีอยู่มากมาย ล้วนแล้วแต่เป็นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้เข้าไปสัมผัสเกาะเล็กๆ แห่งนี้

คนไต้หวันเรียกเมืองไทยว่า ไท่-กั๋ว และรู้จักกรุงเทพ (ม่าน-กู๋) ว่าเป็นแหล่งสวรรค์ของการชอบปิ้งราคาถูก แหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อคือพัทยา และภูเก็ต (ภู-จี๋-เต๋า) นอกจากนี้สินค้าจากไทยที่ขึ้นชื่อสำหรับสาวๆไต้หวันคือกระเป๋าผ้ามันๆยี่ห้อหนึ่ง โดยเค้าเรียกว่า ม่าน-กู๋-เปา หรือกระเป๋ากรุงเทพฯ ที่ใครไปใครมาเป็นต้องซื้อไปฝากสาวๆกัน

เล่ามานี้...เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับไต้หวันพอสังเขป จากประสบการณ์และการได้อ่านได้ฟังได้พูดคุยมา

หากมีข้อผิดพลาดใดใด ต้องขออภัย และหากมีข้อมูลเพิ่มเติมก็สามารถแนะนำได้ค่ะ

Create Date : 24 สิงหาคม 2551 Last Update : 27 สิงหาคม 2551 0:37:11 น. Counter : 1717 Pageviews.		7 comments
Share Tweet