Conjunctions
สวัสดีนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบ้านดุงวิทยา ทุกคนนะค่ะ ข้อปฏิบัติในการเรียนนี้ 1.นักเรียนศึกษาความรู้ด้านล่างนี้ 2.โพสต์ชื่อ ชั้น เลขที่ เอาไว้ 3.สรุปเรื่องที่อ่านไว้ในสมุดเล่มเล็ก 4.ทำ Worksheet 11.1 Conjunction Conjunction (คำสันธาน) คือ คำที่ใช้เชื่อมประโยค 2 ประโยคสั้นๆ ทำให้กลายเป็นประโยคเดียวที่มีความยาวกว่าเดิม หรือใช้เชื่อมคำต่อคำ หรือระหว่างกริยาต่อกริยา เช่น ประโยคต่อประโยค I study English, but he studies Japanese. ฉันเรียนภาษาอังกฤษ แต่เขาเรียนภาษาญี่ปุ่น คำนามต่อคำนาม My father and I go to swim everyday. ฉันและพ่อไปว่ายน้ำทุกวัน กริยาต่อกริยา He comes and stays with me at home. เขามาพักอยู่กับฉันที่บ้าน Conjunction แบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ 1. Conjunction คำเดียว (Single Conjunction) 2. Conjunction วลีหรือผสม (Conjunction Phrase) ในบทเรียนนี้เราจะศึกษาเกี่ยวกับ Single Conjunctions ได้แก่ and, but, or, so And (และ) เป็นคำเชื่อมที่ให้ความหมายคล้อยตาม Example I: - I eat fried rice for breakfast. - I eat ham for breakfast. เราสามารถใช้คำเชื่อม and เพื่อรวมสองประโยคนี้เข้าด้วยกัน ได้ประโยค ดังนี้ I eat fried rice and ham for breakfast. นักเรียนจะเห็นว่าเราไม่ต้องเขียนคำว่า I ซ้ำอีก เพราะประธานเป็นคนๆเดียวกัน ดังนั้นสามารถตัดทิ้งได้เลย Example II: - He is tall. เขาสูง - He is handsome. เขาหล่อ He is tall and handsome. เขาทั้งสูงและหล่อ นักเรียนลองพิจารณาประโยคนี้นะค่ะ ว่าเราสามารถแยกเป็น 2 ประโยคย่อยได้อย่างไร ? I stayed home and watched T.V. on Sunday. ฉันได้อยู่บ้านและดูทีวีในวันอาทิตย์ นึกออกแล้วใช่ไหมค่ะ นักเรียนครูเก่งอยู่แล้ว.. เราสามารถแยกได้ ดังนี้ค่ะ 1. I stayed home on Sunday. 2. I watched T.V. on Sunday. But (แต่) เป็นคำเชื่อมที่ให้ความหมายขัดแย้งกัน Example I: - I like cooking. ฉันชอบทำอาหาร - Dania likes reading books. ดนัยชอบอ่านหนังสือ เราสามารถรวมเป็นประโยคเดียวได้ ดังนี้ ** I like cooking but Danai likes reading books. ฉันชอบทำอาหารแต่ดนัยชอบอ่านหนังสือ Example II: - I bought a newspaper. ฉันได้ซื้อหนังสือพิมพ์มา - I didnt read it. ฉันยังไม่ได้อ่านหนังสือพิมพ์นั้นเลย เราสามารถรวมเป็นประโยคเดียวได้ ดังนี้ ** I bought a newspaper but I didnt read it. ฉันซื้อหนังสือพิมพ์มา แต่ยังไม่ได้อ่านเลย นักเรียนลองพิจารณาประโยคนี้นะค่ะ ว่าเราสามารถแยกเป็น 2 ประโยคย่อยได้อย่างไร ? ** He tried hard but He was unsuccessful. ขาได้พยายามอย่างมาก แต่เขาก็ไม่ประสบความสำเร็จ แยกเป็นประโยคย่อยได้ ดังนี้ค่ะ 1. He tried hard. 2. He was unsuccessful. So (ดังนั้น) เป็นคำที่ใช้เชื่อมข้อความที่เป็นเหตุเป็นผลแก่กัน Example I: - The door was opened. ประตูเปิดอยู่ - I went in. ฉันเข้าไป เราสามารถรวมเป็นประโยคเดียวได้ ดังนี้ * * The door was opened, so I went in. ประตูเปิดอยู่ ดังนั้นฉันจึงเข้าไป Example II: - It was very hot. อากาศร้อน - I opened the window. ฉันเปิดหน้าต่าง เราสามารถรวมเป็นประโยคเดียวได้ ดังนี้ ** It was very hot, so I opened the window. อากาศร้อนฉันจึงเปิดหน้าต่าง นักเรียนลองพิจารณาประโยคนี้นะค่ะ ว่าเราสามารถแยกเป็น 2 ประโยคย่อยได้อย่างไร ? - They like films, so they often go to the cinema. พวกเขาชอบดูภาพยนตร์ ดังนั้น เขาจึงไปโรงภาพยนตร์บ่อยๆ แยกเป็นประโยคย่อยได้ ดังนี้ค่ะ 1. They like films. 2. They often go to the cinema. นักเรียนสังเกตนะคะว่า ประโยคเหล่านี้จะเป็นเหตุเป็นผลกันเสมอ ดังนั้นเราจึงใช้ So เชื่อม Or (หรือ) ใช้เชื่อมข้อความซึ่งเป็นทางเลือก Example I: Would you like pizza? คุณจะสั่งพิซซ่าไหมค่ะ Would you like fried chicken? คุณจะสั่งไก่ทอดไหมค่ะ เราสามารถรวมเป็นประโยคเดียวได้ ดังนี้ ** Would you like pizza or fried chicken? คุณจะสั่งพิซซ่าหรือไก่ทอดค่ะ? Example II: Do you love me? คุณรักฉันใช่ไหม Do you love her? คุณรักหล่อนใช่ไหม เราสามารถรวมเป็นประโยคเดียวได้ ดังนี้ ** Do you love me or her? คุณรักฉันหรือหล่อน ? นักเรียนลองพิจารณาประโยคนี้นะค่ะ ว่าเราสามารถแยกเป็น 2 ประโยคย่อยได้อย่างไร ? Do you like Thai food or Chinese food? เธอชอบอาหารไทยหรืออาหารจีน? แยกเป็นประโยคย่อยได้ ดังนี้ค่ะ 1. Do you like Thai food? เธอชอบอาหารไทยใช่ไหม? 2. Do you like Chinese food? เธอชอบอาหารจีนใช่ไหม? หากมีข้อสงสัยประการใด กรุณาถามได้ที่ห้องเรียนนะคะ ครูกนกวรรณ แมดสถาน PS. กรุณาส่งใบงานภายในวันศุกร์ที่ 12 ธันวาคม 2551 มิเช่นนั้นท่านจะถูกบันทึกชื่อในบัญชีดำ ....
Free TextEditor
Create Date : 08 ธันวาคม 2551 |
Last Update : 8 ธันวาคม 2551 21:26:30 น. |
|
20 comments
|
Counter : 680 Pageviews. |
|
|