Group Blog
little pilot flies by mind
มกราคม 2550
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
19 มกราคม 2550
Ready to Take off
All Blogs
เมื่อ accident เกิดขึ้นกับ student pilot
No-go decision due to WX n Traffic
Cross country flying
Ready to Take off
Ready to Take off
วันนี้ก็เป็นวันดีอีกวันเนื่องจากเป็นวันเปิดบลอกของ little pilot เองค่ะ บลอกของ little pilot ก็จะเป็นเรื่องราวประสบการณ์ต่างๆของ little pilot
สำหรับวันเปิดบลอก liitle pilot ได้มีโอกาสอ่านเรื่องราวของนักบินฝนหลวง อยากให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันค่ะ
----------------------------------------------------------
กัปตันผู้อุทิศชีวิตให้ ฝนหลวง พ.ต.สิงห์คม มาฆะมงคล
เรื่อง : เสาวณีย์ เกษมวัฒนา / ภาพ : ณัฏฐ์ฐิติ อำไพวรรณ
หลายคนทำความดีโดยที่ไม่ได้ต้องการให้คนอื่นรับรู้ แต่หากความดีนั้นส่งผลให้เกิดแรงบันดาลใจ และอาจนำพาซึ่งประโยชน์อย่างยิ่งใหญ่ต่อสังคม บุคคลซึ่งกระทำความดีด้วยใจบริสุทธิ์ก็จำเป็นต้องเปิดเผยตัวตนและเรื่องราว เพื่อหวังว่าสิ่งที่ทำนั้นจะจุดประกายให้ทุกคนได้ตระหนักและร่วมกันทำความดี
กัปตันของฝนหลวง
พ.ต.สิงห์คม มาฆะมงคล อดีตนักบินผู้ปฏิบัติการโครงการฝนหลวง โครงการในพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 1 ใน 9 ของบุคคลต้นแบบจากหนังสือ 9 คน 9 ความดี เพื่อพ่อ จัดทำโดย บริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ ถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตตลอดระยะเวลาการทำงานในฐานะนักบินของโครงการฝนหลวง โดยมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นแบบอย่าง
ก่อนที่จะเข้ามา ผมคิดว่าโครงการฝนหลวงเป็นไปได้ยาก เพราะท้องฟ้ากว้างใหญ่ไพศาล และสารเคมีที่เราไปปล่อยบนท้องฟ้ามันเล็กน้อยมาก ไม่น่าจะเป็นไปได้ จึงอยากจะรู้ว่าวิธีการของพระองค์ท่านทำอย่างไร หลังจากที่เข้ามาศึกษาและปฏิบัติด้วยตัวเอง เห็นผลด้วยตาแล้ว ขณะนี้เราเชื่อร้อยเปอร์เซ็นต์ว่า ฝนหลวงของพระองค์ท่านนั้นทำได้จริงและเห็นผลจริง พ.ต.สิงห์คม เปิดเผยถึงแรงบันดาลใจที่ทำให้เขาก้าวสู่การเป็นนักบินในโครงการฝนหลวงตลอดระยะเวลา 20 ปี
ปัจจุบัน แม้กัปตันสิงห์คมจะอยู่ในวัยเกษียณ แต่เรื่องราวที่ผ่านมาในชีวิตล้วนเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำ โดยกัปตันวัย 60 ปี ย้อนความทรงจำเมื่อสมัยเริ่มต้นทำงานเป็นนักบินของโครงการฝนหลวงตั้งแต่ปี 2539 จนได้เลื่อนตำแหน่งเป็นหัวหน้าหน่วยการบิน คือคุมทั้งเฮลิคอปเตอร์และเครื่องบิน มีนักบินภายใต้การดูแลกว่า 85 คน และยังเป็นครูการบินจนถึงวัยเกษียณ
ในหลวงทรงสั่งการด้วยพระองค์เอง
นักบินของฝนหลวง ส่วนใหญ่จะมาจากนักบินของกองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ หรือจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งจะต้องผ่านการสอบและฝึกอย่างน้อย 60 ชั่วโมง จากนั้นจึงผ่านการฝึกฝนเรื่องการทำฝน ซึ่งช่วงปีแรกๆ ของการทำงาน กัปตันสิงห์คม เล่าว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะทรงสั่งการจากพระตำหนักสวนจิตรลดาด้วยพระองค์เองตลอดระยะเวลา 5 ปีแรก ตั้งแต่ปี 2514-2519 เนื่องจากขณะนั้นยังไม่ค่อยมีนักวิชาการที่มีความชำนาญในการทำฝนหลวง และการค้นคว้าวิจัยยังไม่กว้างขวางเท่าไหร่นัก จึงทรงรับเป็นหัวหน้าคณะปฏิบัติการทำฝนหลวง โดยทรงกำกับ ดูแล และพระราชทานคำแนะนำสูตรการทำฝนหลวง พร้อมกับทรงติดตามถึงผลที่ได้รับ และทรงประเมินงานอย่างละเอียด
พระองค์ท่านจะเสด็จฯ มาทอดพระเนตรพวกเราที่ทำฝนหลวงอยู่บ่อยๆ เพื่อพระราชทานกำลังใจ เพราะท่านทรงเห็นใจคนทำงานฝนหลวงว่ามีความลำบากตรากตรำและอันตราย ถ้าพระองค์ท่านทรงมีเวลาก็จะมาดูแล และพระราชทานคำแนะนำเป็นครั้งคราว อดีตหัวหน้านักบินฝนหลวง กล่าวถึงพระเมตตาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พระราชทานแก่คณะทำงาน
*ความเสี่ยงในก้อนเมฆ
อันตรายที่ว่าคือการต้องบินฝ่าเข้าไปในวงเมฆ ซึ่งหากเป็นเครื่องบินปกติทั่วไปจะต้องบินหลบเมฆ เนื่องจากข้างในจะมีสภาพอากาศแปรปรวน อาจทำให้เครื่องบินสะเทือนเหมือนที่เรียกว่าหลุมอากาศ แต่ขณะที่อากาศแปรปรวนในเมฆนั้น เครื่องบินฝนหลวงกลับต้องบินเข้าไป จึงอาจทำให้เกิดอันตรายหากเครื่องยนต์มีปัญหา หรือโครงสร้างเครื่องบินรับไม่ได้ ซึ่งมีหลายครั้งที่เขาต้องเสี่ยงและเกือบเอาชีวิตไม่รอด
ผมเคยเครื่องบินตกครั้งหนึ่งที่ จ.เชียงใหม่ คือขณะนั้นเราเพิ่งเข้ามาได้ 2 ปี ประสบการณ์ก็ยังไม่ค่อยมี หวังแต่จะได้งานอย่างเดียวโดยลืมนึกถึงความปลอดภัย ขาหักไปข้างหนึ่ง แต่ความตั้งใจก็ไม่ลดลง เพราะเราก็ค่อยๆ ศึกษาหาความรู้ไปเรื่อยๆ ว่าสมควรต้องทำยังไง บินตรงไหน ตอนเข้ามาใหม่ๆ บางครั้งเราไม่ค่อยเข้าใจ การเข้าไปอยู่ในสภาพอากาศแบบนั้นมันยากมาก
ต้องเชื่อว่าฝนหลวงทำได้จริง
นอกจากนี้ กัปตันสิงห์คมยังเล่าต่อว่า ในชีวิตนี้บินมาหมื่นกว่าเที่ยว เห็นฝนตกกับตามาหลายร้อยครั้ง วันไหนที่บินกลับมาแล้วรู้ว่าฝนตก ทุกคนจะดีใจกันมาก ถึงกับฉลองกันใหญ่ แต่หากวันไหนฝนไม่ตกใจคอก็ห่อเหี่ยว กลับมาพิจารณากันว่าเป็นเพราะอะไร ซึ่งต้องมาหาสาเหตุกัน และบางครั้งฝนก็ตกจนบินกลับยังสนามบินตัวเองไม่ได้
หลังจากเราโปรยสารเคมี เราก็จะบินดูสักนิดหน่อย จะเห็นการเปลี่ยนแปลงทางฟิสิกส์ของเมฆอย่างชัดเจน เมื่อเราเติบโตขึ้นเราก็สั่งสอนรุ่นน้องๆ พาเขาไปดู ทำให้เขาเห็นจนเกิดความเชื่อมั่นว่าฝนหลวงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทำได้จริง เพราะพระองค์ท่านเคยตรัสไว้ว่า ถ้านักบินและนักวิชาการไม่เชื่อว่าฝนหลวงทำได้จริงแล้วใครเขาจะเชื่อ เพราะฉะนั้น เราก็ทำให้เขาเห็นจะได้มีความตั้งใจในการทำงาน
ต้องทำฝนหลวงต่อไป
ผ่านประสบการณ์เฉียดตายมาได้ และยังคงยืนหยัดทำงานมานานถึง 20 ปี เหตุผลของกัปตันสิงห์คมมีเพียง 3 ข้อ คือ ความชอบเรื่องการบิน คืออาชีพ และสิ่งสำคัญคือ ฝนหลวงเป็นโครงการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ได้ผลและเกิดประโยชน์กับประชาชนอย่างแท้จริง ยิ่งไปกว่านั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นห่วงพสกนิกรอยู่ตลอดเวลา จึงมีรับสั่งให้ทำฝนหลวงทั้งปี ตั้งแต่ฤดูแล้งจนถึงฤดูฝน นั่นหมายความว่าฤดูแล้งทำเพื่อให้ฤดูฝนมาเร็วขึ้น พอฤดูฝนก็ทำเพื่อให้ฝนหยุด เพราะฉะนั้น คณะทำงานจึงมีเวลาว่างแค่ 2-3 เดือนเท่านั้น
ต้องทำต่อไปเรื่อยๆ เพราะพระองค์รับสั่งว่า โครงการฝนหลวงจะต้องมีการวิเคราะห์ วิจารณ์ และวิจัยกันตลอดเวลา และไม่ต้องเกรงว่าคนอื่นจะวิจารณ์อย่างไร ให้ทำตามสติกำลัง เมื่อทำได้ผลแล้วให้บันทึกเก็บไว้เป็นตำราของคนรุ่นหลัง นี่คือพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่กัปตันสิงห์คมจดเป็นบันทึกแห่งความทรงจำได้เป็นอย่างดี
เวลาที่เหนื่อยหรือเวลาที่ท้อแท้ สิ่งที่กัปตันสิงห์คมนึกถึงคือความดีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงปฏิบัติแก่พสกนิกรชาวไทย ทุกครั้งที่เขามองเห็นสายพระเนตรของพระองค์ที่ทรงแสดงออกถึงความรักและพระเมตตาอย่างเต็มเปี่ยม บ่งบอกชัดเจนว่าไม่มีใครห่วงใยประชาชนคนไทยเท่าในหลวงอีกแล้ว
*ความเสี่ยงในก้อนเมฆ
อันตรายที่ว่าคือการต้องบินฝ่าเข้าไปในวงเมฆ ซึ่งหากเป็นเครื่องบินปกติทั่วไปจะต้องบินหลบเมฆ เนื่องจากข้างในจะมีสภาพอากาศแปรปรวน อาจทำให้เครื่องบินสะเทือนเหมือนที่เรียกว่าหลุมอากาศ แต่ขณะที่อากาศแปรปรวนในเมฆนั้น เครื่องบินฝนหลวงกลับต้องบินเข้าไป จึงอาจทำให้เกิดอันตรายหากเครื่องยนต์มีปัญหา หรือโครงสร้างเครื่องบินรับไม่ได้ ซึ่งมีหลายครั้งที่เขาต้องเสี่ยงและเกือบเอาชีวิตไม่รอด
ผมเคยเครื่องบินตกครั้งหนึ่งที่ จ.เชียงใหม่ คือขณะนั้นเราเพิ่งเข้ามาได้ 2 ปี ประสบการณ์ก็ยังไม่ค่อยมี หวังแต่จะได้งานอย่างเดียวโดยลืมนึกถึงความปลอดภัย ขาหักไปข้างหนึ่ง แต่ความตั้งใจก็ไม่ลดลง เพราะเราก็ค่อยๆ ศึกษาหาความรู้ไปเรื่อยๆ ว่าสมควรต้องทำยังไง บินตรงไหน ตอนเข้ามาใหม่ๆ บางครั้งเราไม่ค่อยเข้าใจ การเข้าไปอยู่ในสภาพอากาศแบบนั้นมันยากมาก
ต้องเชื่อว่าฝนหลวงทำได้จริง
นอกจากนี้ กัปตันสิงห์คมยังเล่าต่อว่า ในชีวิตนี้บินมาหมื่นกว่าเที่ยว เห็นฝนตกกับตามาหลายร้อยครั้ง วันไหนที่บินกลับมาแล้วรู้ว่าฝนตก ทุกคนจะดีใจกันมาก ถึงกับฉลองกันใหญ่ แต่หากวันไหนฝนไม่ตกใจคอก็ห่อเหี่ยว กลับมาพิจารณากันว่าเป็นเพราะอะไร ซึ่งต้องมาหาสาเหตุกัน และบางครั้งฝนก็ตกจนบินกลับยังสนามบินตัวเองไม่ได้
หลังจากเราโปรยสารเคมี เราก็จะบินดูสักนิดหน่อย จะเห็นการเปลี่ยนแปลงทางฟิสิกส์ของเมฆอย่างชัดเจน เมื่อเราเติบโตขึ้นเราก็สั่งสอนรุ่นน้องๆ พาเขาไปดู ทำให้เขาเห็นจนเกิดความเชื่อมั่นว่าฝนหลวงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทำได้จริง เพราะพระองค์ท่านเคยตรัสไว้ว่า ถ้านักบินและนักวิชาการไม่เชื่อว่าฝนหลวงทำได้จริงแล้วใครเขาจะเชื่อ เพราะฉะนั้น เราก็ทำให้เขาเห็นจะได้มีความตั้งใจในการทำงาน
ต้องทำฝนหลวงต่อไป
ผ่านประสบการณ์เฉียดตายมาได้ และยังคงยืนหยัดทำงานมานานถึง 20 ปี เหตุผลของกัปตันสิงห์คมมีเพียง 3 ข้อ คือ ความชอบเรื่องการบิน คืออาชีพ และสิ่งสำคัญคือ ฝนหลวงเป็นโครงการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ได้ผลและเกิดประโยชน์กับประชาชนอย่างแท้จริง ยิ่งไปกว่านั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นห่วงพสกนิกรอยู่ตลอดเวลา จึงมีรับสั่งให้ทำฝนหลวงทั้งปี ตั้งแต่ฤดูแล้งจนถึงฤดูฝน นั่นหมายความว่าฤดูแล้งทำเพื่อให้ฤดูฝนมาเร็วขึ้น พอฤดูฝนก็ทำเพื่อให้ฝนหยุด เพราะฉะนั้น คณะทำงานจึงมีเวลาว่างแค่ 2-3 เดือนเท่านั้น
ต้องทำต่อไปเรื่อยๆ เพราะพระองค์รับสั่งว่า โครงการฝนหลวงจะต้องมีการวิเคราะห์ วิจารณ์ และวิจัยกันตลอดเวลา และไม่ต้องเกรงว่าคนอื่นจะวิจารณ์อย่างไร ให้ทำตามสติกำลัง เมื่อทำได้ผลแล้วให้บันทึกเก็บไว้เป็นตำราของคนรุ่นหลัง นี่คือพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่กัปตันสิงห์คมจดเป็นบันทึกแห่งความทรงจำได้เป็นอย่างดี
เวลาที่เหนื่อยหรือเวลาที่ท้อแท้ สิ่งที่กัปตันสิงห์คมนึกถึงคือความดีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงปฏิบัติแก่พสกนิกรชาวไทย ทุกครั้งที่เขามองเห็นสายพระเนตรของพระองค์ที่ทรงแสดงออกถึงความรักและพระเมตตาอย่างเต็มเปี่ยม บ่งบอกชัดเจนว่าไม่มีใครห่วงใยประชาชนคนไทยเท่าในหลวงอีกแล้ว
-------------------------------------------------
สุดท้ายนี้ก็ขอขอบคุณ นสพ Post today สำหรับบทความดีๆค่ะ
little pilot
Create Date : 19 มกราคม 2550
Last Update : 22 มกราคม 2550 20:55:52 น.
5 comments
Counter : 952 Pageviews.
Share
Tweet
Welcome to the sky then!
โดย:
namit
วันที่: 20 มกราคม 2550 เวลา:0:07:31 น.
ขอบคุณที่นำบทความดีๆมาให้อ่านครับ
รักในหลวงที่สุดครับ
โดย: Dr.Manta (
Dr.Manta
) วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:23:40:04 น.
ถึงคุณเสาวณีย์ เกษมวัฒนา จำผมได้หรือเปล่า ว่าเราเคยเรียนด้วยกัน ชั้นประถม ดีใจที่ได้เจอเพื่อนอีกครั้ง ไม่รู้หลอกนะว่าจะได้อ่านหรือเปล่าtannawat@windowslive.com
โดย: โอภาส เพ็ชร์ปุ่น IP: 125.26.6.149 วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:10:40:00 น.
อยากไ้ด้หมายเลขติดต่อ ของ พ.ต.สิงห์คมอ่ะค่ะ.
หากทราบ รบกวนส่งเมลล์
anntraveller@hotmail.com
ขอบคุณมากๆ นะคะ.ด่วยจริงๆ
โดย: Anne ทีวีไทย IP: 125.24.226.27 วันที่: 30 พฤษภาคม 2553 เวลา:14:21:19 น.
ถ้ามีPPLสามารถเป็นนักบินฝนหลวงได้รึเปล่าครับ
โดย: นกน้อย IP: 113.53.144.132 วันที่: 11 สิงหาคม 2553 เวลา:10:30:38 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
little_pilot
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
Friends' blogs
namit
Dr.Manta
prapasawat
Webmaster - BlogGang
[Add little_pilot's blog to your web]
Links
Emirates Airlines
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.