ประกันเงินออม กับ ประกันชีวิตแบบจ่ายทิ้ง เลือกอย่างไรให้คุ้มค่าเงิน
หลักของการทำประกันชีวิตเบื้องต้นนั้นคือป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นกับชีวิตเราเป็นการจ่ายเบี้ยในวันนี้เพื่อคุ้มครองชีวิตในวันข้างหน้าไม่ว่าจะเป็นเหตุคาดฝันต่างๆที่เกิดขึ้นในอนาคตเช่น ไม่ว่าจะเป็นการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุหรือการเจ็บป่วยก็ตามก็ยังมีเงิชดเชยทิ้งไว้ให้คนข้างหลังที่สูญเสียคนสำคัญไป วันนี้เราจะมาพูดถึงประกัน2 รูปแบบ คือ ประกันเงินออมกับ ประกันชีวิตแบบจ่ายทิ้ง เลือกทำแบบไหนจะคุ้มค่ากว่ากัน ประกันเงินออมแบบสะสมทรัพย์ นั้นเป็นประกันแบบที่บริษัทประกันตกลงที่จะจ่ายเงินตามกรมธรรม์ให้กับผู้รับผลประโยชน์หากผู้เอาประกันเสียชีวิตหรือจะจ่ายเงินคืนตามที่ตกลงให้แก่ผู้เอาประกันหากถึงระยะเวลาสิ้นสุดตามกรมธรรม์พูดง่ายๆคือ หากเราเสียชีวิตคนในครอบครัวก็ได้เงินชดเชยตามกรรมธรรม์แต่ถ้าไม่เสียชีวิต เมื่อครบระยะเวลาเราก็จะได้เงินคืนเช่นกัน - ข้อดี คือบริษัทประกันเป็นผู้รับความเสี่ยงในการนำเงินของเราไปลงทุนโดยที่เราไม่ต้องเสี่ยงเพราะสุดท้ายหากเราอยู่ครบตามสัญญาก็จะได้รับเงินตามที่ระบุ
- ข้อเสีย เนื่องจากกรมธรรม์ประกันชีวิตมักเป็นแบบระยะยาวดังนั้น เงินของเราต้องอยู่กับบริษัทประกันนานพอสมควรทำให้ไม่มีสภาพคล่อง เงินหากเกิดเหตุฉุกเฉินก็ไม่สามารถนำออกมาใช้ได้ก่อนจนกว่าจะครบระยะเวลา
ประกันชีวิตแบบจ่ายแล้วทิ้งนั้นบริษัทประกันจะจ่ายเงินตามที่ระบุในกรมธรรม์ในกรณีที่ผู้เอาประกันเสียชีวิตเท่านั้นมีทั้งแบบระบุเวลาและตลอดชีพ พูดให้ง่ายก็คือถ้าไม่เสียชีวิตก็เหมือนเสียค่าเบี้ยประกันฟรีไปเลย - ข้อดีของการประกันแบบจ่ายทิ้งคือเบี้ยประกันถูกวงเงินคุ้มครองสูง
- ข้อเสียก็คือ เบี้ยประกันจะสูงขึ้นตามอายุของเราเนื่องจากถือว่าความเสี่ยงมากขึ้น
ข้อแตกต่าง ประกันออมทรัพย์และประกันจ่ายแล้วทิ้งคือเบี้ยประกันนั่นเองเพราะเบี้ยประกันของประกันออมทรัพย์จะแพงกว่าประกันแบบจ่ายแล้วทิ้ง นั่นก็เป็นเพราะว่าประกันแบบสะสมทรัพย์บริษัทประกันต้องใช้เงินจากเบี้ยประกันของเราส่วนหนึ่งไปลงทุนเพื่อให้ได้ผลตอบแทนและนำมาคืนให้เราในกรณีอยู่ครบสัญญานั่นเอง แบบไหนที่เหมาะกับเรา ดูเหตุผลว่าเราตัดสินใจทำประกันไปเพื่ออะไรเช่นถ้าเป็นเสาหลักของครอบครัว มีรายได้คนเดียวควรเลือกแบบจ่ายแล้วทิ้งเพราะเบี้ยประกันถูก หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็จะได้เงินชดเชยสำหรับช่วยเหลือครอบครัวได้ในระยะเวลาหนึ่งในช่วงที่ต้องสูญเสียผู้นำครอบครัวไป ส่วนประกันแบบสะสมทรัพย์กรณีไม่อยากเสียเงินไปฟรีๆและอยากได้เงินคืนเป็นก้อน ก็สามารถใช้เป็นเงินออมได้โดยที่ไม่มีความเสี่ยงใดๆ และยังช่วยสร้างวินัยในการออมให้กับคุณอีกด้วย การประกันชีวิตทั้งแบบออมทรัพย์และแบบจ่ายทิ้งหากมีอายุกรมธรรม์เกินกว่า 10 ปียังมีข้อดีคือเบี้ยประกันในแต่ละปีสามารถนำมาหักลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 100,000บาทอีกด้วยค่ะ
Create Date : 25 มกราคม 2561 |
Last Update : 23 พฤษภาคม 2561 16:18:44 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1676 Pageviews. |
|
|