มีนาคม 2562

 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
การเช่าห้องพักในประเทศอังกฤษ ฉบับนักศึกษา
337341

130สวัสดีค่ะ วันนี้จะมาเล่าเรื่องการเช่าหอพักที่ประเทศอังกฤษกันนะคะ ส่วนมากแล้วนักเรียนต่างชาติที่เดินทางเข้ามาศึกษา ณ ประเทศอังฤษนั้นมักจะนิยมเช่าหอพักที่เป็น หอนักเรียนทั้งของเอกชนและมหาวิทยาลัยเป็นหลัก เนื่องจากเป็นวิธีที่ง่ายและสะดวกที่สุดในบรรดาการหาห้องเช่าที่นี่ค่ะ แต่หนูมูนมีเหตุผลหลายประการที่ไม่สะดวกที่จะพักหอนักเรียนจึงได้ตัดสินใจหาหอพักส่วนตัวจึงเป็นที่มาของประสบการณ์ในบล๊อกวันนี้ค่ะ 

ก่อนอื่นขอจำแนกประเภทของหอพักที่นักเรียนนิยมกันและอธิบายการคร่าวๆถึงแต่ละวิธี

1. การเช่าหอพักของมหาวิทยาลัย 

ขอเรียกสั้นๆว่าหอในแล้วกันนะคะ หากใครคิดว่าหอพักมหาวิทยาลัยนั้นจะถูกกว่าหอพักนักเรียนเอกชนข้างนอก บอกได้เลยว่า คิดผิดค่ะ ราคาไม่แตกต่างกันมากค่ะ เผลอๆราคาอาจจะสูงกว่าด้วยซ้ำ เพราะมันใกล้ไม่ต้องเดินทางค่ะและบางที่เค้ารวมอาหารบางมื้อให้ด้วยค่ะ จึงทำให้หอในนั้นเต็มเร็วค่ะ เด็ก Undergrate ค่อนข้างนิยมพักหอในค่ะ  เพราะสะดวกที่สุด หอในเเนี่ยเป็นหอรวมค่ะที่นี่อาจจะมีกฎระเบียบเรื่องความปลอดภัยตามประกาศของมหาวิทยาลัยค่ะ แต่ก็ไม่ได้เข้มงวดขนาดแบบหอในของบ้านเรานะคะ ไม่มีพี่ยามมาคอยดักจับค่ะ ไม่ต้องกลัว

ค่าเช่าหอส่วนมากคิดเป็นรายสัปดาห์ รวมบิลต่างๆแล้ว แต่เวลาจ่ายจะคิดต่อเทอมหรือต่อปีการศึกษาค่ะ เป็นเงินก้อนใหญ่พอสมควร บางที่แบ่งชำระได้บางที่ก็ต้องจ่ายเต็มจำนวน ก็ต้องเตรียมเงินเอาไว้ส่วนนี้ค่ะ พอครบสัญญา หรือจบปีก็ต้องย้ายออกค่ะ ถ้าจะอยู่ต่อก็ต้องมีการคุยหรือการจองในรายละเอียดแต่ละที่ไม่เหมือนกันค่ะ อาจจะไม่สะดวกหากใครมีแผนจะอยู่เที่ยวต่อนะคะ เพราะเรียนเสร็จก็ต้องเตรียมย้ายออกให้นักเรียนรอบปีถัดไปเข้ามาอยู่ต่อค่ะ 

ห้องพักมีให้เลือกหลายแบบมาก คือในห้องทุกห้องจะมีเตียงนอน, ตู้เสื้อผ้า, โต๊ะเขียนหนังสือให้ค่ะ นอกนั้นจะแตกต่างกันไปตามประเภทห้อง ขออธิบายหลักๆแล้วกันนะคะ ดังนี้ค่ะ 

1.1 Shared bathroom 

ตามชื่อเลยค่ะ ห้องน้ำรวม ห้องครัวอาจจะมีหรือไม่มีให้ก็ได้ค่ะ ต้องถาม ถ้ามีให้ก็แชร์ครัวแน่นอน จะมีส่วนห้องนั่งเล่นที่ใช้ร่วมกันด้วยบางที่อาจจะเป็นส่วนหนึ่งของครัวนะคะ เป็นที่กินข้าวและนั่งเล่นรวมกัน ห้องแบบนี้มักจะมีราคาถูกที่สุด ราคาอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับว่าแชร์รวมกี่คนค่ะ ยิ่งแชร์มากคนราคาก็ยิ่งถูก บางที่ดีหน่อยแชร์ห้องอาบน้ำแต่มีห้องส้วมให้ภายในห้องราคาก็อาจจะขยับขึ้นมาอีกค่ะ 

ข้อดี
-ถูก
-มีคนทำความสะอาดพื้นที่ส่วนรวมให้ (ถี่แค่ไหนแล้วแต่ที่ค่ะ)

ข้อเสีย
-ไม่มีความเป็นส่วนตัว
-ความสะอาดบางทีก็คาดหวังไม่ได้ ขึ้นอยู่กับแต้มบุญที่มีว่าได้เมทแบบไหนค่ะ

1.2 En-suit

อ่านว่า เอ็น/อองสวีทนะคะ คือเป็นห้องที่มีห้องน้ำส่วนตัวค่ะ  ดีขึ้นมาหน่อยแต่ส่วนมากห้องน้ำก็จะเล็กค่ะ แต่อย่างน้อยก็ไม่ต้องใช้ร่วมกับใครเนอะ ส่วนครัว/ห้องนั่งเล่น/ห้องทานข้าวก็ยังคงแชร์เหมือนกันกับด้านบนค่ะ หอในนิยมทำห้องพักแบบนี้เยอะเลยค่ะ ข้อดีข้อเสียไม่ต่างกับด้านบนมาก ดีตรงที่มีห้องน้ำเป็นของตัวเองค่ะ เหมาะสำหรับคนซีเรียสเรื่องห้องน้ำค่ะ 


1.3 Flat Studio
คือ ห้องที่มีครัวส่วนตัวเพิ่มเข้ามาค่ะ ถือว่าเป็นแฟลทส่วนตัวแล้วค่ะ ไม่แชร์อะไรกับใคร ห้องนั่งเล่น/ส่วนทานข้าว ก็คือตรงครัวนั่นล่ะค่ะ เนื่องจากห้องในหอพักที่นี่เล็กมาก ใส่ครัวเข้ามาก็จะเป็นเป็นครัวน้อยๆจริงๆ ราคาก็จะขยับขึ้นมาอีกค่ะ ห้องแบบนี้จะนิยมมากในนักเรียน หอพักเอกชนเลยจะมีห้องพักแบบนี้ให้เลือกมากหน่อยค่ะ ถ้าอยู่ระยะสั้นๆแบบนี้ก็สะดวกและเป็นส่วนตัวค่ะ น่าจะเหมาะกับคนที่มี Life Style ไม่ค่อยอยู่ติดบ้าน เอาไว้กลับมานอน อาจจะโอเคค่ะ 

ข้อเสีย
เวลาทำกับข้าว กลิ่นนี่อบอวลมากค่ะโดยเฉพาะอาหารไทย กลิ่นติดทั้งห้อง โดยเฉพาะที่นอน ทนนิดหนึ่งค่ะ423  123

1.4 Flat one bedroom

ห้องลักษณะนี้หอในมีน้อยมาก แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่มีนะคะ แต่ราคาแพงเอาเรื่องไม่ค่อยจะว่างค่ะเพราะมีน้อย แต่ก็สะดวกสบายที่สุดค่ะ มีห้องนอนแยกเป็นสัดส่วน ขนาดห้องก็จะใหญ่กว่าห้องประเภทที่กล่าวมาแล้ว ใครได้อยู่แบบนี้ก็สบายไปเลยล่ะค่ะ ไม่มีปัญหาเมทและกลิ่นอาหารติดที่นอนแน่ๆ

ข้อเสีย

แพง สั้นๆได้ใจความ289


2. การเช่าหอพักเอกชน

ประเภทห้องให้เลือกเหมือนด้านบนเลยค่ะ เพียงแต่เป็นหอนอกมหาวิทยาลัย บริหารจัดการโดยเอกชน มีให้เลือกเยอะมาก แต่อาจจะอยู่ห่างออกจากมหาวิทยาลัยมาหน่อย โลเคชั่นก็เลือกเอาที่สบายใจได้เลยค่ะ ห้องที่นิยมก็ Studio จึงมีความคล้ายคอนโดมิเนียมบ้านเรานั่นเองค่ะ 
ราคาค่าห้องแพงมากน้อยขึ้นอยู่กับ สิ่งอำนวยความสะดวกหรือส่วนกลาง, ความใหม่ของตึก, ขนาดห้อง, และโลเคชั่นค่ะ

การชำระเงินคิดต่อสัปดาห์เหมือนกันค่ะ ส่วนมากรวมบิลและจะจองห้องได้ 44-58 อาทิตย์/สัญญา ต้องชำระงินเป็นก้อนเช่นกันค่ะ อาจจะแบ่งจ่ายได้แล้วแต่หอนั้นๆค่ะ

3. เช่าบ้าน/แฟลทด้วยตนเอง

กรณีจะพูดถึงการขอเช่าทั้งแฟลทหรือบ้านทั้งหลังนะคะ อาจจะหาเพื่อนคนไทยหรือต่างชาติมาแชร์กันอีกทีอันนี้ก็แล้วแต่ค่ะ กรณีของเราคือเช่าแฟลท 1 ห้องนอนทั้งห้อง ด้วยตนเองค่ะ การเช่าแบบนี้ค่อยข้างยุ่งยากและซับซ้อนโดยเฉพาะนักศึกษาต่างชาติอย่างเรานี่เองค่ะ ส่วนมากจะคิดเป็น PCM รายเดือนและไม่รวมบิลต่างๆค่ะ เราต้องติดต่อจัดการบิลต่างๆด้วยตัวเอง ยุ่งยากขึ้นมาหน่อย ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าแก๊ส พวกนี้มีรายละเอียดปลีกย่อยต่างจากเมืองไทยมากๆ เพราะเค้าให้เอกชนบริหารจัดการค่ะ ไม่ได้เป็นของรัฐแบบเมืองไทย มีให้เลือกจ่ายรายเดือน 3 เดือน หรือ 6 เดือนค่ะ ค่าเนตคล้ายๆกันกับบ้านเรา ที่นี่หากคนทั่วไปเช่าบ้านมักมีภาษีด้วยนะคะเรียกว่า Council Tax ส่วนมากจะไม่รวมในค่าเช่า  แต่เป็นนักเรียนไม่ต้องจ่ายค่ะ แจ้งทางมหาวิทยาลัยได้ให้ออกหนังสือรับรอง อย่างกรณีเราแจ้งออนไลน์ให้ทางมหาวิทยาลัยทราบเค้าก็จะแจ้งต่อไปทาง Council ในเขตที่เราอยู่เองว่าเราอยู่บ้านหลังนี้/แฟลตนี้ก็จะได้รับการยกเว้นภาษีค่ะ 

เอาล่ะ ขั้นตอนแรกในการหาห้องพักง่ายและสะดวกที่สุด คือ หาห้องที่ถูกใจจากเว็บไซต์หลักของที่นี่นะคะ 3 เว็บไซต์ดังนี้ค่ะ หรือใครจะไปเดินดูตามสำนักงานของเอเย่นต์ต่างๆก็ได้นะคะ เค้ามักจะตั้งสำนักงานอยู่ในเมืองเดินเข้าไปบอกห้องที่เราต้องการได้เลยค่ะ อย่างเมืองที่เราอยู่เอเย่นต์ก็อยู่ใกล้ๆกันค่ะ 
     https://www.rightmove.co.uk
   https://www.zoopla.co.uk
  https://www.gumtree.com

เราใช้เว็บแรกคือ Rightmove เป็นหลัก ส่วน Gumtree ไม่ค่อยกล้าค่ะ เพราะเข็ดจากประกาศในเว็บนี้ที่หลอกให้โอนเงินมัดจำตั้งแต่อยู่เมืองไทยซะอีกค่ะ เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังนะคะ

เมื่อได้ห้องที่ชอบนะคะ โทรนัดค่ะ124 สูดหายใจเข้าลึกๆซ้อมค่ะ 555 พูดให้ชัดๆเข้าไว้ ตอนมาอยู่ที่นี่แรกๆ การโทรศัพท์ถือเป็นความท้าทายอย่างมากค่ะ เพราะโอกาสไม่รู้เรื่องสูง 122  ฮ่าๆๆ แต่การหาบ้านทำให้ปัญหานี้หมดไป ไม่ใช่เก่งขึ้นนะคะ แต่เราใจกล้าหน้าด้านค่ะ ฮ่าๆ ก็เค้าอยากได้ห้องอ้ะ  การโทรนัดคือการคุยกับเอเจนต์นะคะ ที่นี่นิยมปล่อยเช่าผ่านคนกลางอย่างเอเย่นต์เนื่องจากสะดวกแก่เจ้าของห้อง โดยผู้เช่าอย่างเราต้องจ่ายค่าธรรมเนียมและค่าดำเนินการอื่นๆที่เอเย่นต์เรียกเก็บด้วยนะคะ ถูกแพงแล้วแต่เจ้าเลยค่ะ  ส่วนมากจะเป็นหลักร้อยปอนด์ 292ขึ้นไปค่ะ แพงมากค่ะ

พอนัดเอเย่นต์ได้ไปให้ตรงเวลาค่ะก่อนเวลาสักนิดจะดีมากเพราะส่วนมากเค้าจะนัดติดๆกัน ถ้าเราไปช้าอาจจะเบียดเวลาของคิวอื่นได้ค่ะ เค้าจะพาเราเข้าไปดูห้องอยากรู้อะไรสอบถามได้เลยค่ะ หรือจะต่อรองอะไรทำผ่านเอเย่นได้หมดนะคะ หรือถ้าเราตกลงจะเช่า เอเย่นต์จะให้เรากรอกแบบฟอร์มขอเช่าค่ะ แล้วให้แลนด์ลอร์ดพิจารณาเลือกผู้เช่าเอง จะบอกว่าส่วนนี้คืออุปสรคหลักเลยค่ะ เพราะแลนลอร์ดเลือกผู้เช่าค่ะ โดยเฉพาะในเมืองที่มีความต้องการเช่าสูงๆเค้าจะเลือกผู้เช่ามากค่ะ  ซึ่งหากคุณเป็นผู้ถูกเลือกขั้นตอนต่อไปคือเตรียมเอกสารและชำระเงินค่าเอเย่นต์ก่อนค่ะ จากนั้นเอเย่นต์จะเช็คเอกสารทั้งหมดก่อนปล่อยห้องนะคะ อาจใช้เวลา 3-7 วัน  ซึ่งเอกสารที่ต้องใช้หลักๆ คือ

-statement และเอกสารยืนยันตัวของผู้เช่า
-บุคคลการันตีซึ่งต้องมีสัญชาติอังกฤษที่มีรายได้เป็นหลักแหล่งนะคะ

ซึ่งตรงนี้แน่นอนค่ะ ไม่มีแต่ไม่เป็นไรค่ะ เราขอจ่ายล่วงหน้ารายปีได้ แต่ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแลนลอร์ดอีกนั่นแหละค่ะ ซึ่งผลก็คือไม่เคยถูกรับเลือกค่ะ ช่างน่าเศร้า 146    ช่วงเวลา 3 อาทิตย์แรกที่มาเหยียบแผ่นดินอังกฤษคือการเดินหาที่พักค่ะ ระหว่างนั้นเราต้องพักในโรงแรมไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายค่ะ โทษฐานชะล่าใจ คิดว่าง่ายเหมือนบ้านเรา จนสุดท้ายเลยตัดสินใจใหม่ค่ะ คือ

การหาห้องเช่าจากแลนด์ลอร์ดโดยตรง

เหตุผลที่ไม่ทำแบบนี้ตั้งแต่แรกเพราะกลัวโดนโกงค่ะ คนโดนเยอะมากโดยเฉพาะนักศึกษาต่างชาติ ถ้าผ่านเอเย่นต์จะปลอดภัยกว่าเยอะค่ะ ป้องกันมิจฉาชีพได้แน่นอน ถึงแม้เราจะต้องเสียค่าธรรมเนียมต่างๆก็ตาม แต่เนื่องจากจุดที่ต้องการบ้านเป็นโซนที่มีความนิยมสูงมาก เค้ามีตัวเลือกเยอะ ส่วนมากก็อยากได้คนทำงาน, สัญชาติอังกฤษ และมีบุคคลการันตี มีความแน่นอนกว่าเราที่เป็นนักศึกษาต่างชาติน่ะค่ะ พอจะเข้าใจได้ว่าทำไมเราจึงไม่เป็นผู้ถูกเลือกค่ะ 145 ตัดใจลองหาเว็บที่น่าเชื่อถือที่ลงประกาศโดยแลนลอร์ดเอง เราเข้าไปคุยกับเค้าได้เลย คัดแล้วคัดอีกเลือกมาจากลิ้งด้านล่างนี้ค่ะ เค้ารวบรวม 5 เว็บที่เชื่อถือได้มาไว้ให้ค่ะ 

https://www.mirror.co.uk/money/sick-letting-agent-fees-5-6190595

โดยเราได้ห้องจากเว็บนี้ค่ะ 

https://wwwrent.co.uk

คุยและตกลงกับเจ้าของห้องเองได้เลยค่ะ สะดวก รวดเร็วมาก ดีกว่าผ่านเอเย่นต์ค่ะ แต่ๆๆๆก็กังวลว่าจะถูกหลอกเหมือนกัน จึงต้องพยายามหาข้อมูลและทำการบ้านอย่างดีค่ะ เพราะเนื่องจากเราไม่มีคนการันตีดังนั้นเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องชำระค่าเช่าล่วงหน้าเป็นปี ยิ่งทำให้เรากังวลมากค่ะ อย่าวางใจและอย่าจ่ายเงินจนกว่าจะได้กุญแจห้องและขนของเข้าห้องนะคะ ต้องพึงระวังให้มากๆค่ะ  

ย้อนกลับไปที่บอกว่า เราเคยเกือบโดนมาแล้วหนึ่ง คือ ตอนอยู่ไทยหาห้องไว้ล่วงหน้าเนี่ยล่ะค่ะ มีห้องหนึ่งเจอในเว็บ Gumtree (เว็บนี้โจรแฝงมาเยอะมาก ควรเลี่ยงค่ะ) สวยถูกใจมาก ราคาไม่แพง แต่เค้าเร่งให้เราวางมัดจำ เราก็เลยอีเมล์ไปขอว่าอยากจะโทรหาเพื่อวิดีโอคอลดูสภาพห้องก่อน แต่เค้าไม่สะดวกให้โทรอ้างว่าเพิ่งผ่าตัดเกี่ยวกับหูไม่สามารถคุยโทรศัพท์ได้ ล้ำมากจ้าโจร ตอนนั้นเลยเอะใจ แล้วถามหารูปห้องมุมต่างๆ เค้าส่งรูปอะไรมาแทนก็ไม่รู้เลยไม่ใกล้เคียงเลย ฮึๆๆ เช็คไปเช็คมาค่อนข้างมั่นใจว่ามิจฉาชีพแน่ค่ะ144 สงเมล์ไปบอกมันว่า โอนให้แล้วนะ ให้มันไปเช็ค แกล้งมันบ้าง จากนั้นก็ไม่ตอบเมล์มันอีกเลยค่ะ เลยคิดว่ารอมาเดินหาเองที่นี่น่าจะดีที่สุด สุดท้ายมาดูเองไม่โดนโกงแต่ก็ลำบากไปอีกแปดอย่างค่ะท่านผู้ชม

สุดท้ายได้ห้องนี้ค่าราคาสูงหน่อยแต่ห้องและโลเคชั่นดีค่ะ เราขอเอกสารยืนยันความเป็นเจ้าของจากเค้าถ้าเค้าเป็นเจ้าของห้องจริงจะต้องมีค่ะ ถ้าเค้ามีให้ดูชื่อตรงก็สบายใจได้ มีเครื่องใช้ไฟฟ้าตั้งแต่เครื่องซักผ้ายันเครื่องล้างจานและเฟอร์นิเจอร์ครบถ้วนค่ะ วันที่ย้ายเข้ามา น้ำตาแทบไหลค่ะ ดีใจมาก เอาของออกจากกระเป๋าเดินทางได้สักที กะปิ น้ำปลา เครื่องปรุงต่างๆของข้า ได้หยุดเลือดที่ไหลซิบๆๆจากการจ่ายค่าโรงแรมไปเรื่อยๆ ดีใจมาก มีความโชคดีที่ห้องนี้เป็นห้องที่เค้าเพิ่งซื้อมาเพื่อปล่อยเช่าโดยเฉพาะ ดังนั้นเฟอร์นิเจอร์ทุกอย่างของใหม่หมดค่ะจึงได้ใช้เป็นคนแรก ยังพอมีแต้มบุญค่ะ พอขนของเข้ามาเซ็นสัญญาเสร็จรับกุญแจและจ่ายเงินเป็นสิ่งสุดท้ายค่ะ (ค่าเช่าห้องนี้คิดรายเดือน แต่ต้องจ่ายล่วงหน้า 1 ปี มีค่ามัดจำและค่าทำสัญญาอีกต่างหาก) เราขอแลนด์ลอร์ดจ่ายพร้อมกันทั้งหมดวันย้ายเข้าค่ะ เค้าก็โอเคไม่มีปัญหาถือว่าจบเรื่อง

อ้อ กรณีเช่าโดยตรงแบบนี้เราไม่เสียค่าเอเย่นต์แต่อาจจะยังต้องจ่ายค่าทำสัญญา และมัดจำ 1 เดือน ตามปกติ ซึ่งจ่ายค่าทำสัญญาไป 100 ปอนด์ค่ะ สำหรับค่ามัดจำไม่ต้องห่วงนะคะ เจ้าของห้องไม่มีสิทธิ์เก็บแบบบ้านเรานะคะ เค้าจะต้องเอาไปให้คนกลางเก็บมัดจำไว้ พอเราจะออกเค้าถึงจะไปขอคืนให้เราได้ และหากเค้าจะยึดมัดจำเราไม่ได้ง่ายๆค่ะ ต้องตกลงคุยกันให้เรายินยอมก่อน  อย่างน้อยที่นี่เค้าค่อนข้างทำอะไรเป็นระบบ ขั้นตอนจึงจะยุ่งยากสักหน่อย 

นี่คือห้องที่ได้มาค่ะ สวยงามตามท้องเรื่อง  แฮปปี้ดีไม่มีปัญหาและตั้งใจว่าคงไม่ย้ายไปไหนแล้วจนกว่าจะกลับบ้าน เพราะการหาห้องนั้นมันเหนื่อยมากค่ะ




ส่งท้าย 128

ทั้งหมดนี้คือประสบการณ์ส่วนตัว ในเมืองที่เรามาเรียนเท่านั้นนะคะ ที่อื่นๆในอังกฤษอาจจะแตกต่างกันไป หากใครมีประสบการณ์การเช่าห้องที่อื่นๆมาร่วมแบ่งปัน หรืออยากสอบถามเพิ่มเติมพูดคุยกันได้ค่ะ 



** อัพเดท กฎหมายการเช่าของอังกฤษมีการเปลี่ยนแปลงตาม Tenant fees act 2019 สรุปสั้นๆคือ หลังจากปี 2019 ผู้เช่าไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมต่างๆแล้วค่ะ ทำให้การเช่าห้องประหยัดไปเยอะมากเลย ย้ายห้องทีไม่ต้องจ่ายเบี้ยหัวแตกใดๆ ดีใจกับทุกคนที่จะเช่าห้องด้วยค่ะ  

1817





 



Create Date : 31 มีนาคม 2562
Last Update : 23 พฤศจิกายน 2564 21:09:59 น.
Counter : 7373 Pageviews.

1 comments
  
น่าจะบอกค่าเช่าด้วยนะครับ
โดย: Beim IP: 124.120.31.169 วันที่: 31 มีนาคม 2564 เวลา:20:28:20 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สมาชิกหมายเลข 3030800
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed

 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



ขีดเขียนทุกเรื่องราวตามประสบการณ์และทัศนะส่วนตัว
ยินดีพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับทุกท่านค่ะ

หากนำเนื้อหาและรูปภาพไปเผยแพร่
หรือแก้ไขดัดแปลงต้องได้รับอนุญาต
จากเจ้าของบล๊อกก่อนเท่านั้น ขอบคุณค่ะ