" จั ด ชี วิ ต ~ ใ ห้ เ ป็ น ร ะ เ บี ย บ "
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2550
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
17 พฤศจิกายน 2550
 
All Blogs
 

ฝากไว้ให้คิด .. สะกิดใจ




พ ร ะ ส ว ด

“ กุสลา ธัมมา อะกุสลา ธัมมา…….”
พระสวดไปใจยังวุ่นวาย รับรู้ไม่ได้ว่าสวดอะไร คงสวดให้ผู้ตาย
ฟัง เรานั่งฟังเฉยๆ ก็พอ ฟังพระสวดเพื่อมารยาท
คงพลาดอานิสงส์ ใจคงไม่เข้าใจ ถ้าฟังไปภาวนาไป
ใจคงเห็นความจริง ว่าที่นอนนิ่งๆนั่นมิใช่ใคร
คนเคยมีหัวใจเช่นเรา วันนี้เป็นโอกาสเขา
“พรุ่งนี้อาจเป็นโอกาสเรา”


เ ค า ะ โ ล ง

เสียงโลง มีเสียงพูดเบาๆจากผู้เคาะว่า
“รับศีลนะ ทานข้าวนะ ฟังพระสวดนะ” ทำไปเพื่ออะไร
หรือเพียงแค่เคยทำตามกันมา
หรือว่า “เคาะประชดคนเป็น”
ในยามมีชีวิตอยู่ เตือนแค่ไหนก็เตือนเถิด
ดูเหมือนไม่สนใจกับสิ่งเหล่านี้ในยามนี้ เตือนไปก็คงไร้ความหมาย
คนตายจะไปรับรู้เรื่องอะไร คงเตือนคนเป็นให้เห็น ถึงความจริงว่า
“สิ่งที่ดีเร่งขวนขวาย”
วัว ควาย ช้าง ม้า ยามมันมรณาประโยชน์ได้
มนุษย์นี่ซิเน่าเปื่อยสูญไป ดีชั่วที่ทำไว้ส่องโลกให้เห็น



อ า ห า ร ห น้ า โ ล ง

ชีวิตใครบางคน ถ้าไม่ตาย ก็คงไม่มีใครให้ความสนใจ มากมายเช่นนี้
อาหาร ผลไม้นานาชนิด จัดเรียงรายด้านหน้าโลง สิ่งใดที่ผู้ตายชอบใจ
แพงแค่ไหนก็แสวงหามา เพื่อเป็นเครื่องเซ่น แด่ดวงวิญญาณ
ถ้าเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น ในยามผู้ตายมีชีวิตอยู่ เราคงได้เห็นสีหน้า
และได้รับคำขอบใจ อาหารก็คงมีประโยชน์ แก่ผู้รับด้วย
แต่เวลานี้...
ทุก ๆ สิ่ง ทุก ๆ อย่างคงอยู่สภาพเดิม
บุคคลที่จะรับวัตถุสิ่งของเรา ขณะนี้ เขาไม่รับรู้อะไรแล้ว
หรือว่าทำไป เพียงเพื่อสนองความรู้สึกเราในยามมีชีวิต ถ้าเราแสดงออก
ซึ่งความเอื้อเฟื้อ เผื่อแผ่ให้แก่กัน คงจะเป็นสิ่งที่ดีกว่าเหตุการณ์
“อาหารหน้าโลง” เป็นแน่


ชุ ด สี ดำ

ในยามสูญเสีย บุคคลอันเป็นที่รักหรือญาติมิตร คงไม่มีใครคิดที่จะดีใจ
พกพาความสุขและรอยยิ้ม หรอกนะ
สีดำ .. เป็นสีแห่งความทุกข์ โลกให้ความหมายไว้เช่นนั้นในยามมีงานศพ เรามักพบแต่ คนใส่ชุดสีดำเป็นส่วนมาก
บ่งบอกว่า “กำลังไว้ทุกข์” ความจริงแล้วความทุกข์ของคน
ใช่ว่าจะมีเรื่องความตายสิ่งเดียวเท่านั้นหาได้ไม่ “การเกิด การแก่ การเจ็บ ความผิดหวัง”สิ่งเหล่านี้ก็คือ ความทุกข์ทั้งสิ้น การใส่ชุดดำมางานศพ
เพื่อบอกว่าเป็นการไว้ทุกข์ เป็นการทำตามประเพณี
แต่จะให้ดีต้องไว้ทุกข์ด้วยใจ เพ่งถึงสภาวะความผลัดพลาด
ความไม่แน่นอน และบอกตัวเองว่า เหตุการณ์เช่นนี้ คงต้องเกิดขึ้นกับเรา ...


ท อ ด ผ้ า บั ง สุ กุ ล

เสียงพระบริกรรมในขณะพิจารณาผ้าบังสุกุล ว่า......
“อะนิจจา วะตะ สังขารา อุปปาทะวะยะธัมมิโน
อุปปัชชิตตะวา นิรุชฌันติเตสัง วูปะสะโม สุโข”

แปลความว่า ... ร่างกายนี้หนอ ไม่เที่ยงแท้แน่นอน มีการเกิดขึ้น ตั้งอยู่
และก็แตกสลายไป เป็นธรรมดา การพิจารณาร่างกายให้เห็น
เป็นธรรมดา นั่นแหละหนา “คือ ความสุข”
บทพิจารณานี้ ถ้ามีในใจใคร ถ้าสิ้นลมหายใจไป ดูไม่จำเป็น
ที่จะให้พระรูปใด ต้องมาพิจารณา แต่ ...... ดูเหมือนว่า
คนไม่กล้า พิจารณา เพราะกลัวว่า “จะตายไว”



ด อ ก ไ ม้ จั น ท น์

ดอกไม้จันทน์ นับพันดอก ที่เหล่าญาติมิตรวางไว้
เพื่อไว้อาลัยกับการจากไป ของบุคคลที่ตนรัก
บางคนวางลงทั้งน้ำตา ในใจบ่นว่า “ไม่น่าเลย”
บางคนวางลงพร้อมเสียงร้องไห้ในใจบ่นว่า “ทำไมต้องตายด้วย”
บางคนวางลงพร้อมด้วยความสลดใจ ในใจบ่นว่า
“เราก็จะเป็นเช่นคุณ”บางคนวางลงพร้อมใจสงบนิ่ง ในใจ “ไม่ได้คิดอะไรเลย”
ดอกไม้จันทน์ดอกนั้น ไม่คู่กับตัวฉันในวันที่นี้ แต่......
จะคู่กับฉันในวันที่ ฉันสิ้นลมหายใจ


เ ห รี ย ญ บ า ท ใ น ป า ก ผี

การกระทำที่เกิดจากความคิด หวังให้ผู้ตายได้มีเงินใช้
จึงปรากฏเหรียญบาทในปากผี มนุษย์ผู้มีสติปัญญา มองเห็นว่า ....
นี่หนา มนุษย์ในที่สุด แม้เงินที่ใส่ไว้ในปาก ก็ไม่อาจเอาไปได้
แต่ .... ทำไมหนอชีวิตทั้งชีวิต จึงบ้าแต่กับคำว่า “เงิน” อยู่ตลอดวันตลอดคืน
“เงิน” คือพระเจ้าที่สามารถดลบันดาลทุกสิ่งทุกอย่างได้
แต่ไม่อาจดลบัลดาลให้มนุษย์ พบแสงสว่างแห่งความจริงได้ว่า ....
“ชีวิต คือ ความทุกข์”
เพราะว่า .... เงินคือ สิ่งโกหกมนุษย์ อยู่ตลอดเวลาว่า
“ชีวิต คือ ความสุข”


ดู ห น้ า ... ค รั้ ง สุ ด ท้ า ย

ต่างอยากเห็นหน้าว่า เวลานี้เจ้าเป็นเช่นไร
พอเปิดโลงไป ทุกคนต่างเมินหน้าหนี ถึงจะสวยงดงามดังเทพี
ก็คงไม่มีใครที่จะสนใจเจ้า ดูหน้าศพแล้วย้อนดูหน้าเรา
คนมีชีวิตเขลาหรือไม่หนอ พยายามเสริมแต่งตามคำยอ
เพื่อล่อลวงให้คนชม แท้ที่จริงเห็นความจริงมั๊ย
ว่าสวยสักปานใด พอเปิดชมโลงไปทำไมต้องเมินหน้าหนี
“ความสวย คงแพ้ ความดี”
พึงทำให้มีดีจะสวยตลอดกาล


ก ลิ่ น ศ พ

ในสมัยยังมีชีวิตอยู่ สู้แสวงหาเครื่องสำอางที่มีราคา
เพียงเชื่อว่า .... ให้ร่างกายยังสวยสดงดงาม
มาบัดนี้ ... เพียงสิ้นลมไม่กี่นาที กลิ่นที่ดีก็สูญสิ้นไป
คนเคยชมเจ้าว่า ... งามสง่า กลิ่นกายาเจ้าแสนหอม
คนเคยยื้อแย่งและรุมตอม มาบัดนี้ ..... จ้างก็ไม่ยอม เข้าชิดกายา
แถมยังบ่นว่า .... เจ้าช่างเหม็นจัง คิดบ้างเถอะว่าอย่าบ้าไปกับสังขาร
อย่าหลอกตัวเองเลยนงคราญ อีกไม่นานก็ทุเรศสิ้นดี
เพียรสร้างตัวให้มีแต่ความดี กลิ่นเจ้านี้ก็จะหอมมั่นคง
ชั่วนิจนิรันดร์ โดยไม่มีวันจืดจาง


เ ม รุ

“เมรุมาศ สวยบาดตา รู้มั๊ยว่าเราไว้ ทำอะไร”
ชีวิตก็เท่านี้ถ้าไม่ฝังก็เผา
เราเคยเดินขึ้นเมรุ เพื่อวางดอกไม้จันทน์
นับครั้งไม่ถ้วน
วางดอกไม้ลงปลงใจไม่ได้ว่า
“เราก็จะเป็นเช่นเขา”
เดินลงจากเมรุเริ่มคิดโครงการ ถึงเรื่องงาน
และเรื่องเงิน คิดจนเพลิน จนลืมว่า
“คนเราก็ไม่พ้นเมรุ” เหมือนกัน



ไ ฟ

ไม่กี่นาที ร่างกายนี้ที่ไร้วิญญาณ
ก็ถูกไฟเผาผลาญ จนเป็นเถ้าถ่านโดยสิ้นเชิง
แต่ไฟมันเผาตอนตายแล้ว
ในตอนที่มีชีวิตอยู่พระพุทธเจ้า ตรัสไว้ว่า
“มนุษย์ที่ยังไม่พ้นจากกิเลสตัณหา ย่อมถูกกระแสแห่งไฟโลภะ
ไฟโทสะ ไฟโมหะ
เผาอยู่ตลอดเวลา”
ยอมไม่ได้ ให้อภัยไม่ได้ รู้สึกไม่พอใจยิ่งนัก
จมปลักกับกระแสแห่งโลกีย์ จนใครๆเตือนไม่ได้
ปรารถนาจนนอนไม่หลับดูซิ .... ถูกเผาแค่ไหน น่าสงสารใจดวงนี้จัง


ก ร ะ ดู ก

สัปเหร่อ บรรจงเก็บกระดูกใส่ถาดเพื่อนำไปเก็บไว้
มองดูไม่เห็นมีอะไร คงเห็นเพียง “เศษกระดูก”
ชีวิตคนถ้ากระดูกจะมีค่าก็ต่อเมื่อ ชีวิตทั้งชีวิตเป็นคนดี
ถ้าไร้ซึ่งความดี กระดูกกองนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับกระดูกของสัตว์
บางครั้ง ยังสู้กระดูกของสัตว์ไม่ได้
เห็นกระดุกในถาดอาจเห็นธรรมในใจได้ถ้าคิดเป็น
ไม่สักแต่ว่าเห็น ว่านั้นคือกระดูกคน



ที่ เ ก็ บ ก ร ะ ดู ก

ยามมีชีวิตอยู่ใครก็รู้ว่า ที่อยู่เจ้าใหญ่โต
มาบัดนี้ที่อยู่เจ้า ช่างคับแค้นเหลือเกิน
แสวงหา กอบโกย คดโกงต่อสู้เพื่อให้ได้มาทุกวิถีทาง
ในที่สุดแห่งชีวิต “ก็....แค่นี้”
ไม่ว่าคุณจะเป็นใครก็ตาม


ฝ า ก ไ ว้ ส ะ กิ ด ใ จ


คนที่ไม่เคยบอกความจริงกับชีวิตตัวเองว่า
“เดี๋ยวก็ตาย”
เป็นคนที่น่าเป็นห่วงยิ่งนัก
คนที่ไม่ยอมรับความจริง บนความจริงที่ปรากฏกับชีวิต
เป็นคนที่น่าสงสารที่สุดในโลก





 

Create Date : 17 พฤศจิกายน 2550
1 comments
Last Update : 18 พฤศจิกายน 2550 7:06:50 น.
Counter : 819 Pageviews.

 

สาธุ

 

โดย: fgd IP: 58.9.252.206 7 กุมภาพันธ์ 2556 19:56:27 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


" จัดชีวิต ~ ให้เป็นระเบียบ "
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ชีวิต ทุกวันนี้ อะไร ๆ ก็ ดู ซับซ้อนขึ้น..

บ่อย ครั้งที่เรามักได้ยินคำพูดจาก

ใครคนใดคนหนึ่ง ว่า

" ชีวิต มันไม่ ง่ายเหมือน ดังแต่ก่อน "

หลายครั้ง เรา รู้ สึกเหน็ดเหนื่อย

ในใจ บอก เรากลับมา ว่า

" ปล่อยวาง ซะบ้าง ก็คงจะดี "



เวลา ขณะนี้
Google

ท่องไปทั่วโลกหาแค่ในพันทิบก็พอ
Friends' blogs
[Add " จัดชีวิต ~ ให้เป็นระเบียบ "'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.