|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
~Into the West~
ไม่นานก่อนหน้านี่มีโอกาสได้ดู LOTR ฉบับ Extended พร้อมๆกับได้ดู Kizarasu Cat's Eye ภาคแรก(เสียที) สิ่งที่ไม่น่าเชื่อคือหลังจากดูแล้วทั้งสองเรื่องกลับได้อะไรบางอย่างแก่เรามาเหมือนกัน
ถ้าคุณรู้ว่าระยะเวลาที่เหลืออยู่บนโลกนี้ของคุณถูกกำหนดไว้แน่นอนแล้ว...คุณจะทำอะไร
เด็กหนุ่มสองคนจากคนละเรื่องราวกลับให้คำตอบบางอย่างได้ คนหนึ่งเป็นเพียงตัวละครที่สมมุติขึ้น คนหนึ่งมีชีวิตและได้ใช้ชีวิตจริงๆบนโลกใบนี้...
Bussan; Tabuchi Kohei หลังจากจบมอปลาย ก็ใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยในเมืองชายทะเลคิซาราซึ กินเบียร์ฟรีๆที่ร้านของเพื่อน ชีวิตมีความสุขกับการเล่นเบสบอลไปวันๆ จนกระทั่งวันหนึ่ง หมอได้บอกกับเขาว่า...
เขาเป็นมะเร็งและจะมีชีวิตได้อีกเพียง 6 เดือน...
6 เดือนที่เหลือไม่ได้ทำให้เขาอยากทำอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอัน
แต่สิ่งที่เขาตั้งใจทำคือใช้ชีวิตธรรมดาๆให้สนุกที่สุด มีความสุขที่สุด กับเพื่อนที่รักที่สุด กับเบสบอลที่รักที่สุด และในเมืองที่รักที่สุดเมืองนี้... สุดท้ายแล้วความตายของเขาแม้ไม่ได้ก่อให้เกิดผลยิ่งใหญ่เหมือนละครน้ำเน่าหลายๆเรื่อง แต่เขาได้ลาจากเมืองชายทะเลที่เขารักไปโดยได้ใช้ชีวิตอย่างที่เขาต้องการแล้ว
. . . . .
ใน The Return of The King ฉบับ Extended แผ่น Appendices นั้น ปีเตอร์แนะนำให้เรารู้จักเด็กหนุ่มคนหนึ่ง เด็กหนุ่มผู้มีฝีไม้ลายมือฉกาจฉกรรจ์ เด็กหนุ่มที่มีอนาคตไกลถึงผู้กำกับระดับโลกได้ อายุไม่ถึง 16 ปี เขาฝากผลงานเป็นหนังสั้น เรื่อง DFK6498 เกี่ยวกับชีวิตของคนที่ติดอยู่ใน"กรงขัง" ที่ประตูไม่เคยล็อก แต่ไม่มีทางออกไปได้..
พออายุ 17 ปี ผลงานชิ้นสำคัญกับหนังสั้นอีกหนึ่งเรื่องชื่อว่า Strike Zone เกี่ยวกับเด็กคนหนึ่งที่รักกีฬาซอร์ฟบอลเป็นชีวิตจิตใจ แต่เขาไม่สามารถเล่นกีฬาที่เขารักได้อีก เขาจึงจัดสินใจสร้างทีมของเขาเอง...
ขณะที่ถ่ายทำ LOTR ทั้งสามภาคอยู่นั้น ปีเตอร์กับฟรานอยากร่วมรณรงค์เรื่องการบริจาคอวัยวะในนิวซีแลนด์เป็นแคมเปญโฆษณา นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ปีเตอร์และฟรานได้รู้จักกับเด็กหนุ่มคนนี้
เด็กหนุ่มผู้เป็นมะเร็ง และเสียชีวิตด้วยอายุเพียง 17 ปี
Cameron Duncan
ตอนที่ปีเตอร์กับฟรานได้พบกับดันแคน มะเร็งของดันแคนกลับมาอีกครั้งกำลังทำการรักษาอยู่ ทั้งคู่ได้คุยกับดันแคนเรื่องแคมเปญนี้ เด็กหนุ่มดีใจมากที่ได้มีโอกาสได้ร่วมงานกับผู้กำกับขวัญใจคนนิวซีแลนด์คนนี้ หลังจากนั้นดันแคนจึงเป็นแขกประจำของกองถ่าย LOTR ทุกคนล้วนชื่นชมในวิธีคิดของดันแคน แม้ว่าเขาจะเป็นมะเร็ง ซึ่งไม่รู้ว่าจะมีวันหายได้หรือไม่ แต่เขากลับใช้ชีวิตทุกๆวันให้เหมือนกับว่าวันรุ่งขึ้นเขาจะไม่สามารถใช้ชีวิตอีกต่อแล้ว หลังจากเสร็จแคมเปญโฆษณาบิจาคอวัยวะ ดันแคนก็เริ่มถ่าย Strike Zone พร้อมๆกับการเข้ารับคีโมในโรงพยาบาลอย่างต่อเนื่อง
"กรงขัง" ใน DFK6498 และเหตุที่ทำให้เด็กหนุ่มเล่นซอร์ฟบอลต่อไปอีกไม่ได้ใน Strike Zone คือ โรคมะเร็งของตัวดันแคนเอง
จนวันที่ 12 พฤศจิกายน 2003 ดันแคนก็จากโลกนี้ไป หลุมศพของเขาตั้งอยู่บนยอดเนินที่เห็นเมืองที่เคยอยู่ จนถึงสนามซอร์ฟบอลที่เคยเล่นได้
ช่วงระยะเวลาที่ปีเตอร์และฟรานรู้จักกับเด็กหนุ่มคนนี้ ได้สร้างแรงบรรดาลใจให้ฟรานเขียนเนื้อเพลง Into the West เพื่อประกอบ ROTK ได้อย่างลงตัว . . . . . เด็กหนุ่มสองคนที่ต่างเวลา ต่างวาระซึ่งกันและกัน กลับมีบางอย่างคล้ายกันอย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งอาจเป็นคู่เป็นคำตอบของคำถามสำหรับใครหลายๆคนได้
ทำไมเราต้องเราให้ถึงวันสุดท้ายของชีวิตเสียก่อนจึงค่อยทำในสิ่งที่ต้องการ ทำไม่เราไม่ทำเสียตั้งแต่วันนี้ ทำไม่เราถึงยอมให้มีข้อจำกัดกับชีวิตเราได้ ทำไมเราถึงไม่ข้ามข้อจำกัดนั้นไปเสียที จะทำยังไงให้ใจเราไม่มีกรงเสียที...
"Into The West" Written by Fran Walsh
Lay down Your sweet and weary head Night is falling Youve come to journey's end Sleep now And dream of the ones who came before They are calling From across the distant shore
Why do you weep? What are these tears upon your face? Soon you will see All of your fears will pass away Safe in my arms You're only sleeping
What can you see On the horizon? Why do the white gulls call? Across the sea A pale moon rises The ships have come to carry you home
And all will turn To silver glass A light on the water All souls pass
Hope fades Into the world of night Through shadows falling Out of memory and time Don't say: We have come now to the end White shores are calling You and I will meet again
And you'll be here in my arms Just sleeping
What can you see On the horizon? Why do the white gulls call? Across the sea A pale moon rises The ships have come to carry you home
And all will turn To silver glass A light on the water Grey ships pass Into the West
"สู่ขอบฟ้าตะวันตก" คำแปล...จิระนันท์ พิตรปรีชา
ทอดร่างลงจงนิทรา.. ท่านเหนื่อยล้ามามากแล้ว ให้ม่านแก้วราตรีนี้ห่มขวัญ ที่ตรงนี้..ที่สุดปลายทางสายนั้น จงหลับฝัน...เห็นผู้กล้ามารับรอง
มาร้องเรียกเพรียกหาอีกฟ้าฝั่ง ไยจึงหลั่งน้ำตาเปื้อนหน้าหมอง ? ที่หวาดหวั่นจะพลันหายในครรลอง ไร้ภัยผองอ้อมกอดนี้ที่นิทรา
สุดขอบฟ้ามองไปเห็นไหมนั่น? ข้ามคลื่นฝันนกทะเลเร่ร้องหา แสงจันทร์มัวสลัวส่องต้องนาวา แล่นลอยมาเทียบรับกลับคืนเรือน
สรรพสิ่งสิ้นสลายกลายเป็นทิพย์ แสงระยิบวิบผ่านวิญญาณเคลื่อน ม่านราตรีคลี่ทบลบหวังเลือน ความมืดเยือนซับรอยหมองของเวลา
แต่ใช่ว่า..ถึงที่สุดจะสุดสิ้น เมื่อคืนถิ่นมหรรณพฝั่งภพหน้า เราจะพบกันใหม่ให้สัญญา จงนิทราเถิดอ้อมกอดนี้ปลอดภัย
สรรพสิ่งสิ้นสลายกลายเป็นทิพย์ แสงระยิบวาววามผืนน้ำใส หมู่นาวาสีเทาท่องล่องผ่านไป สู่แดนไกลเบื้องประจิมริมฝั่งโพ้น
Create Date : 29 เมษายน 2551 |
|
1 comments |
Last Update : 29 เมษายน 2551 22:52:18 น. |
Counter : 717 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: ปอ IP: 124.120.5.174 2 พฤษภาคม 2551 0:04:43 น. |
|
|
|
|
|
|
ถึงจะป่วยร้ายแรงแค่ไหน
ถ้าทำตัวให้เข้มแข็ง ร่างกายก็เหมือนจะแข็งแรงไปด้วย
ชอบตรงที่หลุมศพอยู่บนเนินที่มองเห็นเมือง และสนามค่า