ラブラブ山コンビ

laruku_poy
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




B Type, Fangirling, ติ่งไปวันๆ


5 X 10 - ARASHI
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2551
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
23 พฤษภาคม 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add laruku_poy's blog to your web]
Links
 

 
~Wristband สีเหลืองและสีดำ~

สองสามวันก่อนติดฝนที่พระราม 9 ก็เลยไปนั่งกินข้าวคนเดียว
กินไปก็เล็งฝนไปว่าเมื่อไรมันจะหยุดตก
ในขณะที่รอข้าว ก็มีเค้ามาเป็นคู่มานั่งข้างขวา และผู้ชายอีกคนมานั่งข้างซ้าย
ข้าวมา นั่งกินไปเล็งฝนไปเหมือนเดิม คู่ข้างขวา สั่งเหมือนเรา หัวเราะอยู่ในใจ หึหึ มันไม่อร่อยซะหน่อย
ข้างซ้ายไม่ได้ใส่ใจ เราก็กินข้าวของเราต่อไป
ซักพักหางตามันก็เห็นว่า ไอ้ข้างซ้ายเราเนี่ย ‘ไมมันมองบ่อยจังวะ!!
ไม่สนใจ ยังคงกินไอ้ที่ไม่อร่อยต่อไปด้วยความเสียดายเงิน
แต่หางตาก็ยังเห็นนะว่ามองมาเป็นระยะ เหมือนมีเรื่องจะคุย
ไม่สน เราจะ((จำใจ))กินต่อไป
กินเสร็จ จะเรียกเช็คบิน ควักการ์ตูนออกมาอ่าน รอเช็คบิน

ทีนี้แหละ ข้างซ้ายก็เรียก
“น้องครับ พี่เห็นน้องใส่ริสแบนด์รักในหลวงกับนเรศวรเนี่ย น้องเทิดทูนสถาบันกษัตริย์ใช่ไหมครับ”
ไอ้เราก็เลยหันไปดูหน้า ผู้ชาย อายุประมาณ 40 ล่ะมั้ง ดูจากสีเทาๆบนหัว
คิดในใจ ถามทำไมวะ???
“พี่เห็นน้องใส่ริสแบนด์สองเส้นนี้ พี่ก็เลยถาม พี่ถามได้ไหมว่าทำไมถึงรักในหลวง”
คิดในใจ รักในหลวงนี่ต้องมีเหตุผลด้วยหรือวะ ไม่รักสิต้องถามเหตุผลมากกว่า
ติดลบ -5
ถึงในใจปรอทจะประมาณ 30 ร้อนกว่าอุณหภูมิห้องแล้ว แต่ก็ตอบเขาไปว่า เพราะที่ท่านทำเพื่อเรามามากมายเราถึงได้รักท่าน ประมาณนั้น
ตาคนนั้นเลยเริ่มร่ายยาวเอาแบบคร่าวๆว่า
“ที่ในหลวงเหนื่อยมา 60 ปีเนี่ยเพราะพวกข้าราชการประจำ
ข้าราชการที่บอกว่าตัวเองเนี่ยเป็นข้าของราชานี่แหละเป็นคนที่ทำให้ในหลวงเหนื่อย เพราะกินทั้งระบบกินกันตั้งแต่บนยันล่าง
พวก ส.ส.น่ะไม่มีทางกินได้หรอก เพราะงบแต่ละอย่างกว่าจะได้ใช้ต้องให้พวกประจำเป็นคนเซ็นมันถึงจะได้เม็ดเงินออกมา ((เถียงในใจ แล้วไอ้ที่ผ่านงบมาให้แต่ละกระทรวงเนี่ย ไม่ใช่พวกพี่ งั้นเหรอ??))
เงินกว่าจะได้ใช้เนี่ยต้องถึงระดับรองอธิบดี อธิบดีเสียก่อน ((เถียงในใจ รองอธิบดี อธิบดี เนี่ยมันมาตามโผพวกพี่ไม่ใช่เหรอ??))
ระบบนี้มันเป็นมาตั้งแต่สมัยอยุธยาขุนนางศักดินาทั้งหลาย พวกนี้แหละที่คอยกดไม่ให้ประชาชนคนธรรมดา ได้ศึกษาหาความรู้อย่างเต็มที่ ตั้งแต่กำหนดหลักสูตรการเรียนในโรงเรียนแล้ว
เพื่อที่คนเหล่านั้นถูกควบคุมได้ง่ายๆ พี่เห็นเป็นอย่างงี้มาทุกๆสมัย ((เถียงในใจ คนกำหนดนโยบายกำหนดหลักสูตรเนี่ย พวกพี่ไม่ใช่เหรอ???))…บรา บรา บรา”
สรุปแล้วพี่แกต้องการจะบอกว่าที่บ้านเมืองแย่อยู่ทุกวันนี้เพราะข้าราชการประจำไม่ใช่เพราะฝ่ายการเมือง เพราะว่ามันเป็นอย่างนี้มาเนิ่นนานตั้งแต่สมัยเปลี่ยนแปลงการปกครอง
ฝ่ายประจำที่เข้ามาอยู่ฝ่ายการเมืองก็เอาวัฒนธรรมเก่าๆทำเนียมเดิมๆมาใช้ในฝ่ายการเมืองด้วย ระบบส่วยระบบกินมันเลยหมดไปไม่ได้เสียที
สุดท้ายแล้วเราก็รู้ในสิ่งที่พี่แกต้องการจะสื่อเพราะพี่แกบอกว่า จนมีเขาคนนั้นมานั่นแหละถึงได้เห็นความเปลี่ยนแปลง
เราก็อ๋อออออออ รู้ละ ที่ร่ายยาวมาทั้งหมดเนี่ยเพื่อประเด็นนี้นี่เอง ชักแม่น้ำทั้ง5มาทั้งหมดก็เพื่อการนี้นี่เอง หึหึหึหึ เราได้แต่หัวเราะอย่างขมขื่นอยู่ในใจ
ได้แต่คิดว่า การเปลี่ยนแปลงที่ว่าของพี่เขาเนี่ย เปลี่ยนจากฝ่ายประจำมาอยู่ฝ่ายการเมืองแทนหรือไง
จริงอยู่เราได้เห็นอะไรหลายๆเปลี่ยนแปลงเป็นในทางที่ดีขึ้น แต่การเปลี่ยนแปลงที่ว่าเนี่ยมันได้ทำลายรากฐานของบ้านของเมืองเหมือนปลวกชอนไชหรือป่าว
หน่วยเล็กของสังคมอย่างครอบครัวกี่ครอบครัวกันได้เปลี่ยนวิถีการเป็นอยู่การใช้ชีวิตมาบูชาวัตถุหาความสุขจากวัตถุมากขึ้น ทิ้งความสุขทางใจไปเสียสิ้น
ใหญ่ขึ้นมาอย่างชุมชนหมู่บ้านซักกี่ครัวเรือนกันที่ทำมาหากินเพื่อเพียงแค่อยู่แค่กินอย่างมีความสุข ทุกคนล้วนแล้วแต่ใฝ่หาวัตถุที่ถูกปลูกฝังไว้ว่าเป็นสิ่งที่แสดงความสุข

รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง
การนั่งฟังเพื่อเรียนรู้ความคิดความอ่านของคู่สนทนาของเราสามารถทำให้เรารู้จักคู่สนทนาจากความคิดที่เขากลั่นกรองออกมาเป็นคำพูดนี่แหละ
เราจึงเลือกไม่ตอบโต้ ไม่แสดงความเห็น ไม่แสดงท่าที ทำตนดั่งผู้ฟังที่ดีเท่านั้น
คำถามที่พี่เขาถามว่า “น้องเห็นมั๊ยครับว่าข้าราชการที่พูดปาวๆว่ารักในหลวงเนี่ย เขารักในหลวงกันแบบนี้เนี่ยเหรอ” ลอยผ่านหูเราไปพร้อมกับที่เราก้มมองริสแบนด์ที่อยู่บนข้อมือซ้าย
แล้วตั้งถามกับตัวเองว่า เราใส่ริสแบนด์สองเส้นนี้เพื่ออะไร

การฟังอย่างมีสติ เมื่อไตร่ตรองอย่างดีแล้ว แม้ว่าจะไม่ได้ประโยชน์อะไรขึ้นมาจากการฟังครั้งนี้ซักเท่าไร แต่อย่างน้อยก็เราก็เตือนสติตนเองได้ว่า
เราจะใส่ริสแบนด์เพื่อแสดงความรักความจงรักภักดีเพียงอย่างเดียวไม่ได้
สองเส้นที่อยู่กับข้อมือเป็นเครื่องเตือนสติเตือนใจเราว่าเราทั้งหลายนั้นล้วนแล้วแต่เป็นคนในแผ่นดิน เป็นข้าในพระองค์
ถึงแม้วันนี้เราจะไม่ได้เป็นข้าแห่งราชา ไม่เป็นผู้แทนของใคร
แต่เราควรจะคิดถึงคนอื่นให้มากขึ้น นึกถึงตัวเองให้น้อยลงหรือป่าว
บรรพกษัตริย์เราอุทิศตนเพื่อประเทศชาติแค่ไหน แล้วเราในฐานะข้าแผ่นดินทำอะไรไปแล้วบ้าง
หน้าที่มากน้อยอาจจะมาพร้อมกับตำแหน่ง แต่ไม่หน้าที่เล็กน้อยแค่ไหนมันก็เป็นหน้าที่ต่อบ้านต่อเมือง
ได้แต่ย้ำกับตัวเองว่าต้องทำ และจะต้องทำให้สำเร็จ...



Create Date : 23 พฤษภาคม 2551
Last Update : 23 พฤษภาคม 2551 17:52:09 น. 3 comments
Counter : 656 Pageviews.

 
..รู้สึกภูมิใจในลูกสาวของแม่คนนี้อย่างที่สุด..ความกตัญญู..เป็นเครื่องหมายของคนดี..


โดย: ..ข้า..ของแผ่นดิน.. IP: 117.47.92.24 วันที่: 28 พฤษภาคม 2551 เวลา:19:41:09 น.  

 
..... อันนี้ก็ต่างคนต่างความคิดนะ แต่หากต่างคนต่างไม่มีจุดยืนที่ที่ตรงกัน เรื่องรางเหล่านี้ก็เกิดขึ้นได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ดั่งที่เป็นอยู่ ณ บัดเดี๋ยวนี้ไง


โดย: ผ่านมา IP: 124.121.175.162 วันที่: 2 มิถุนายน 2551 เวลา:22:40:20 น.  

 
เหมือนค่านิยมรักในหลวงมันถูกปลูกฝังมาในสังคมไทยไม่ต่างอะไรกับการที่คนญี่ปุ่นรักชาติ

รักในหลวง แบบไม่มีเหตุผลอ้ะ


โดย: stupid_turtle IP: 58.8.211.211 วันที่: 9 สิงหาคม 2551 เวลา:22:17:38 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.