Bloggang.com : weblog for you and your gang
GO Together with Koon Shy
Go Together with Koon Shy...One Day in NAKHONPHANOM...Forever in SAKONNAKHON...Part 2
จังหวัดบ้านเกิดของผมเองครับ "สกลนคร"
มาถึงสกลนครก็ต้องเจอสิ่งนี้ก่อน ประตูเมือง
แผนที่แหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดสกลนครโดยสังเขป
แผนที่ตัวเมืองสกลนคร
ขอพามาที่นี่ก่อนนะครับ วัดป่าสุทธาวาส
ความเป็นมาของวัด
หลวงปู่เสาร์ กันตสีลเถระ กับ หลวงปู่มั่น ภูริทัตตเถระได้รับการอาราธนาจาก อุบาสิกาสามพี่น้อง
ซึ่งได้แก่ นางนุ่ม, นางนิล ชุวานนท์ และนางลูกอินทร์ วัฒนสุชาติ ผู้มีความเลื่อมใสในพระอาจารย์ทั้งสองมาจำพรรษา ณ เสนาสนะป่าบ้านบาก ในปี พ.ศ. 2469
จากนั้นจึงได้จัดสร้างเป็นวัดป่าสุทธาวาสในเวลาต่อมา
ภายหลังที่ท่านจากภาคเหนือมาจำพรรษาที่วัดป่าโนนนิเวศน์ จ.อุดรธานีแล้ว
คณะศรัทธาชาวสกลนครได้กราบอาราธนาท่านมาจำพรรษา ณ วัดป่าสุทธาวาสอีกครั้งใน พ.ศ. 2484
จากนั้นท่านจึงไปจำพรรษาที่เสนาสนะป่าบ้านโคก จวบจนวาระที่ท่านใกล้มรณภาพจึงได้มาทิ้งขันธ์ ณ วัดป่าสุทธาวาสใน พ.ศ. 2492
วาระนิพพาน ณ วัดป่าสุทธาวาส
หลังจากที่ท่านพักอาพาธที่วัดป่าบ้านกลางโนนภู่ 11 วันแล้ว คณะศิษย์นุศิษย์ได้อาราธนาองค์หลวงปู่มั่นนอนในเปลพยาบาลแล้วนำท่านขึ้นรถเพื่อมาพัก ณ วัดป่าสุทธาวาส
ออกเดินทางแต่เช้าถึงวัดป่าสุทธาวาสประมาณเกือบ 12 นาฬิกา เพราะทางหินลูกรังกลัวจะกระเทือนมาก ท่านฯ ก็หลับมาตลอด นำท่านฯ ขึ้นกุฏิ
ศิษย์ผู้ใกล้ชิดก็มี ตัวผู้เล่า ท่านวัน ท่านหล้า ผู้จัดที่นอนให้ท่านฯ ได้ผินศีรษะไปทางทิศใต้ ปกติเวลานอนท่านฯ จะผินศีรษะไปทางทิศตะวันออก
ด้วยความพะว้าพะวัง จึงพากันลืมที่จะเปลี่ยนทิศทางศรีษะของท่านฯ
เวลาประมาณ 01.00 น. เศษ ท่านฯ รู้สึกตัวตื่นตื่นขึ้นจากหลับ แล้วพูดออกเสียงได้แต่อือๆ แล้วก็โบกมือเป็นสัญญาณ แต่ไม่มีใครทราบว่าท่านฯ ประสงค์สิ่งใด มีสามเณรรูปหนึ่งอยู่ที่นั้น
เห็นท่าอาการไม่ดี จึงให้สามเณรอีกรูปไปนิมนต์พระเถระทุกรูป มีเจ้าคุณจูม พระอาจารย์เทสก์ พระอาจารย์ฝั้น เป็นต้น มากันเต็มกุฏิ
เท่าที่สังเกตดู ท่านใกล้จะละสังขารแล้ว แต่อยากจะผินศีรษะไปทางทิศตะวันออก ท่านพลิกตัวไปได้เล็กน้อย ท่านหล้า ( พระอาจารย์หล้า เขมปตฺโต ) คงเข้าใจ
เลยเอาหมอนค่อยๆ ผลักท่านไป ตัวผู้เล่าเหตุการณ์ประคองหมอนที่ท่านหนุน แต่ท่านรู้สึกเหนื่อยมาก จะเป็นการรบกวนท่านฯ ก็เลยหยุด
ท่านฯ ก็เห็นจะหมดเรี่ยวแรง ขยับต่อไปไม่ได้ แล้วก็สงบนิ่ง ยังมีลมหายใจอยู่ แต่ต้องเงี่ยหูฟัง ท่านวันได้คลำชีพจรที่เท้า
ชีพจรของท่านเต้นเร็วชนิดรัวเลย รัวจนสุดขีดแล้วก็ดับไปเฉยๆ ด้วยอาการอันสงบ
เป็นอันว่าอวสานแห่งขันธวิบากของท่านฯ ได้สิ้นสุดลงแล้ว ท่ามกลางศิษย์จำนวนมาก ในเวลาประมาณ 02.00 น. เศษๆ ณ วัดป่าสุทธาวาส อ.เมือง จ.สกลนคร
เหลือไว้แต่ผลงานของท่านมากมายเหลือคณานับ
ภายหลังจึงได้มีการฌาปนกิจศพของท่าน และประชุมเพลิงศพ ณ วัดแห่งนี้ เมื่อวันอังคารที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2493
ต่อมาจึงได้สร้างอุโบสถในบริเวณที่ประชุมเพลิง และพิพิธภัณฑ์หลวงปู่มั่นตรงบริเวณกุฏิที่องค์ท่านมรณภาพ
ตัวพิพิธภัณฑ์มีลักษณะการก่อสร้างแบบสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ประยุกต์ สร้างด้วยกระเบื้องดินเผา
เดี๋ยวไปชมด้านในกันนะครับ
ภายในพิพิธภัณฑ์มีรูปหล่อเหมือนองค์ของพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ในท่านั่งสมาธิ
ตู้กระจกบรรจุอัฐิของท่านที่แปรสภาพเป็นแก้วผลึกใสสีขาว ยกฐานสูงพื้นปูด้วยหินอ่อน
ภายในรู้สึกถึงความเยือกเย็นและสงบเงียบ
ตู้แสดงเครื่องอัฐบริขารต่างๆ
แม้พระอาจารย์มั่น จะปฏิบัติธุดงคกรรมฐานและอยู่ตามป่าเขาต่างๆเป็นประจำ แต่ท่านก็มิได้ละเว้นที่จะศึกษาหนังสือธรรมอื่นๆเช่นพุทธศาสนิกชนทั้งหลายศึกษากัน
รวมทั้งประวัติความเป็นมาของท่านตั้งแต่เกิดจนมรณภาพ
เครื่องใช้ประจำวันของพระอาจารย์มั่น
จันทสารเจติยานุสรณ์ หรือ เจดีย์พิพิธภัณฑ์หลวงปู่หลุย จนฺทสาโร
โดยเจดีย์นี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงมีพระราชกระแสว่า
"ควรสร้างเจดีย์ที่วัดป่าสุทธาวาส อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร ที่วัดนี้ มีอัฐิธาตุของพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถระ ท่านจะได้อยู่ใกล้กัน"
ขึ้นไปชมด้านบนครับ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ร่างแบบเจดีย์องค์นี้ ด้วยพระองค์เอง
หุ่นขี้ผึ้งหลวงปู่หลุย จนฺทสาโร
เดินเยอะแล้วเดี๋ยวพาไปทานอาหารกันซะหน่อยครับ
Sawitree Coffee อยู่ถนนเสรีไทย เปิดบริการตั้งแต่ 10.00 - 23.00 หยุดทุกวันจันทร์
เบอร์โทรศัพท์ 08-0773-3090 ครับ
เป็นร้านประจำของที่บ้านและแขกบ้านแขกเมืองเช่นพี่จิบ พี่เสือ น้องแพท พี่เถียนและครอบครัวก็ได้มาลองที่ร้านนี้แล้ว
กังหันวิดน้ำเล็กๆ เป็นของประดับเก๋ๆของทางร้าน
มีจำนวนโต๊ะมากพอสมควร อยู่โดยรอบของสระน้ำ
ช่วงนี้น้ำในสระค่อนข้างสูงครับ
บริเวณนี้จะเป็นโต๊ะของผู้ที่สูบบุหรี่
พาเดินชมโดยรอบ
ร้านอาหารดูร่มรื่น สบายๆครับ
ตอนเย็นจะมีโต๊ะอยู่บริเวณนี้ด้วย
ถ้าเป็นช่วงหน้าฝนก็ต้องดูอากาศดีๆนะครับ ไม่งั้นอาจจะได้ยกอาหารวิ่งหนีสายฝนแทน
ทางไปห้องน้ำครับ
สั่งอาหารดีกว่าครับ หิวแล้ว
ทางเดินวางด้วยหินแผ่น ถ้าเป็นหน้าฝนต้องเดินระวังนิดนึงครับ
เครื่องดื่มมาก่อนครับ กาแฟเย็นและชาเย็น ชื่นใจมากๆ
และแล้วอาหารก็มา แกงส้มชะอมไข่ เป็นเมนูที่บ้านผมสั่งเกือบทุกครั้งที่มาทานที่นี่
เนื้อปูผัดผงกะหรี่ จานนี้ก็อร่อยครับทานก็ง่ายด้วย จริงๆแล้วเป็นคนขี้เกียจแกะปูครับ
ทอดมันกุ้ง กรอบนอกนุ่มในหอมมันมากๆ
ลาบก้อนทอด จานนี้ก็อร่อยเช่นกัน
เช็คบิลเรียบร้อย ไปเที่ยวกันต่อครับ
น้ำตกคำหอม อยู่ในอุทยานแห่งชาติภูพาน ห่างจากตัวเมืองประมาณ 14 กิโลเมตร
น้ำมีหลายชั้นครับ และน้ำจากน้ำตกนี้จะไหลลงสู่อ่างเก็บน้ำห้วยเดียก
บริเวณโดยรอบน้ำตกมีทัศนียภาพที่สวยงามร่มรื่นมีโขดหินมากมาย เหมาะแก่การนั่งพักผ่อนเป็นอย่างมาก
จึงนิยมพาครอบครัวมานั่งรับประทานอาหารในช่วงวันหยุด เพราะห่างจากตัวเมืองไม่มากนัก
บริเวณทางเข้าน้ำตกคำหอมเป็นสถานที่ที่สวยงามเป็นอย่างมากเพราะสามารถมองเห็นตัวเมืองสกลนครและหนองหารได้
จึงถือว่าเป็นจุดชมวิวที่สวยมากแห่งหนึ่งของสกลนครเลยทีเดียว
ถนนดังกล่าวนั้นมีความโค้งมากที่สุดในเส้นทางสกลนคร - กาฬสินธุ์ จึงเรียกว่า "โค้งปิ้งงู" ในปัจจุบันได้มีการสร้างบริเวณดังกล่าวเป็นสวนหย่อมมีการปลูกต้นไม้นานาชนิดไว้
และมีการสร้างหลักกิโลเมตรที่เคยได้ชื่อว่าเป็นหลักกิโลเมตรที่ใหญ่ที่สุดในโลกมาแล้ว
ดังนั้นจึงมักมีผู้ที่ผ่านไปผ่านมาต้องแวะชมวิวหรือพักผ่อนเป็นประจำ
แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาป่าไม้ในเทือกเขาภูพานได้ถูกทำลายเป็นจำนวนมากจึงทำให้น้ำในน้ำตกคำหอมมีจำนวนน้อยลง หากเป็นฤดูร้อนจะไม่มีน้ำไหลเลย
สถานที่ต่อไปผมจะพาไปเที่ยวอาสนวิหารอัครเทวดามีคาแอลครับ
ตั้งอยู่ที่ตำบลท่าแร่ บนถนนสกลนคร-นครพนม ห่างจากตัวเมืองสกลนครประมาณ 21 กิโลเมตร
อาสนวิหารอัครเทวดามีคาแอลท่าแร่ แต่เดิมเป็นอาคารไม้ มีหอด้านหน้า 2 หอด้านหลังสุดอีก 1 หอ มีมุขด้านข้างๆละ 2 มุข จุคนได้ประมาณ 1,000 คน
โบสถ์หลังเก่านั้นคาดว่าสร้างขึ้นระหว่าง ค.ศ.1898 - 1900
ต่อมาประมาณ ค.ศ.1992 มีผู้ใจศรัทธาได้ซื้อระฆังใหม่ 3 ใบ ขนาดลดหลั่นกันตามลำดับไปถวายวัด ทางวัดจึงได้ดัดแปลงอาคารที่มีอยู่ให้ใช้กับระฆัง 3 ใบ
โดยตัดหอด้านหน้าทั้ง 2 หลังออก แล้วได้สร้างหอใหม่ตรงกลาง ด้านหน้าวัดเพื่อแขวนระฆัง 3 ใบ
กาลเวลาล่วงมาถึง พ.ศ.2521 อาคารโบสถ์เก่าชำรุดทรุดโทรมมาก พระคุณเจ้าเกี้ยน เสมอพิทักษ์ ผู้ เป็นประมุขมิซซังท่าแร่ - หนองแสงในขณะนั้น
ได้ปรึกษากับคณะกรรมการวัดและเห็นพ้องต้องกันว่า ควรสร้างพระวิหารขึ้นใหม่ โดยรื้ออาคารเก่าออกทั้งหมด
สถาปัตยกรรมอาคารหลังใหม่นี้เป็นรูปทรงเรือใหญ่ เป็นสัญลักษณ์ของการเคลื่อนย้ายชาวคริสตังจากสกลนครมายังท่าแร่ และเรียกชื่อว่า อาสนมหาวิหารมิคาแอล
ย้อนกลับมาทางตัวเมืองสกลนครประมาณหลักกิโลเมตรที่ 18 เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ หนองหาร
เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ชมวิวทิวทัศน์ของหนองหารอีกรูปแบบหนึ่ง
พร้อมทั้งยังเป็นสถานที่ตั้งของศูนย์ OTOP เทศบาลตำบลท่าแร่
และในอนาคตอันใกล้นี้ ทางมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์วิทยาเขตเฉลิมพระเกียรติสกลนคร จะปรับปรุงภูมิทัศน์โดยรอบ ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวและสวนบัวนานาชาติอีกด้วย
หนองหาร เป็นทะเลสาบน้ำจืดที่มีชื่อเสียงขนาดใหญ่แห่งหนึ่งของประเทศไทย มีเนื้อที่ประมาณ 123 ตารางกิโลเมตร
มีเกาะน้อยใหญ่อยู่ 20 เกาะ มีเกาะดอนสวรรค์เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุด
บนเกาะมีวัดร้างและพระพุทธรูปเก่าแก่ และเป็นที่อยู่อาศัยของนกนานาชนิด
ภาพแสงสุดท้ายของหนองหารก่อนกลับเข้าตัวเมืองครับ
วัดคู่บ้านคู่เมืองของชาวสกลนคร "วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร"
"บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์" เป็นบ่อน้ำที่มีมาพร้อมองค์พระธาตุเชิงชุม เดิมมีน้ำพุผุดขึ้นมาเนื่องจากเป็นปลายทางของลำน้ำใต้ดินซึ่งไหลมาจากเทือกเขาภูพาน
ผ่านศูนย์ราชการด้านทิศเหนือ ผ่านใจกลางเมืองข้างวัดเหนือ แล้วไหลมาผุดที่นี่ เรียกว่า "ภูน้ำซอด" หรือ "ภูน้ำลอด"
แล้วไหลผ่านไปที่สระพังทอง ในสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ซึ่งอยู่ติดกับวัด เมื่อน้ำน้อยลงเรื่อยๆจึงได้มีการทำผนังกั้นไม่ให้ดินพังลงไป
ในอดีตจะมีการนำน้ำจากบ่อน้ำที่นี่ไปประกอบพิธีเมื่อมีพิธีกรรมอันสำคัญต่างๆอีกด้วย
พระธาตุเชิงชุม ตั้งหันหน้าไปทางหนองหารที่อยู่ทางทิศตะวันออก เป็นเจดีย์ก่ออิฐถือปูน รูปทรงสี่เหลี่ยม สูง 24 เมตรเศษ
ฐานเป็นรูปสี่เหลี่ยม ส่วนบนเป็นทรงบัวเหลี่ยม ไม่มีลวดลายประดับ ที่ฐานเจดีย์ มีซุ้มประตูทั้งสี่ด้าน
ซุ้มยอดประตูมีลักษณะเป็นยอดปราสาท ข้างในทึบสร้างด้วยศิลาแลง และหินทรายแดง มีซุ้มประตูหลอกแบบขอม ด้านทิศ เหนือ ใต้ และตะวันตก
ซุ้มประตูทางเข้าจริงด้านทิศตะวันออกแต่แรกเริ่มพระธาตุเชิงชุมคงเป็นปราสาทหินทรายศิลปะสมัยขอม
ภายในกรอบประตูทางเข้าอุโมงค์ด้านขวามือ มีจารึกพระธาตุเชิงชุมอักษรขอมโบราณ ราวพุทธศตวรรษที่ 16
องค์พระธาตุในปัจจุบันเป็นศิลปะล้านช้าง เนื่องจากช่วงที่อิทธิพลของอาณาจักรล้านช้างแผ่เข้ามาบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทยราวพุทธศตวรรษที่ 19
และได้มีการบูรณะองค์พระธาตุขึ้นมาใหม่
จริงๆ แล้วสกลนครยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่อยากแนะนำอีกหลายแห่งเลยนะครับ โอกาสหน้าจะรวบรวมมาให้ชมกันอีก (ถ้าไม่ขี้เกียจซะก่อน)
รีวิวชุดนี้เป็นรีวิวส่งท้ายปี 2554 นี้แล้วครับ ขอบคุณทุกๆ คนที่มาให้กำลังใจกันเสมอๆ
ขอใช้พื้นที่ตรงนี้กล่าวคำว่า "สวัสดีปีใหม่ 2555" ล่วงหน้าเลยนะครับ ขอให้มีความสุขกันทุกคนเลยครับ เที่ยวและพักผ่อนในช่วงปีใหม่ให้สนุกสนานนะครับ
,
Create Date : 15 ธันวาคม 2554
2 comments
Last Update : 16 มิถุนายน 2555 20:23:08 น.
Counter : 17826 Pageviews.
Share
Tweet
ท่าแร่ ดินแดนแห่งคริสตศาสนา ผู้มีพระเยซูเจ้า เป็นหัวใจของศาสนิก บรรยากาศคาทอลิก ความเป็นหนึ่งเดียวกัน เป็นเอกภาพ และความภูทิใจของพวกเรา
โดย: บราเดอร์ เอ IP: 171.4.110.168 2 พฤษภาคม 2555 7:34:12 น.
ภาพสวยมากเลยครับผม
โดย: เอกมล IP: 223.205.234.222 24 มิถุนายน 2555 8:46:01 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
Koon Shy_Tour Dee
Location :
สกลนคร Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
GO TogetheR with Koon Shy
Group Blog
ตกแต่งสวน
โรงแรมและรีสอร์ท
ท่องเที่ยวในประเทศ
ท่องโลก
รายการ Blue Planet
<<
ธันวาคม 2554
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
15 ธันวาคม 2554
Go Together with Koon Shy...One Day in NAKHONPHANOM...Forever in SAKONNAKHON...Part 2
Go Together with Koon Shy...One Day in NAKHONPHANOM...Forever in SAKONNAKHON...Part 1
All Blogs
Go Together with Koon Shy...One Day in NAKHONPHANOM...Forever in SAKONNAKHON...Part 2
Go Together with Koon Shy...One Day in NAKHONPHANOM...Forever in SAKONNAKHON...Part 1
GO Together with Koon Shy...Wonderful Chiangmai
Go Together with Koon Shy...Impressive Cha-am Petchaburi
Friends' blogs
One Light One Shadow
ย้ำคิดย้ำฝัน
กัปตันลูกชุบ
มาเรีย ณ ไกลบ้าน
ปลาหมึกน้อยกับนายโอเลี้ยง
Yai Klong_Tour Rai
3KKK
Webmaster - BlogGang
[Add Koon Shy_Tour Dee's blog to your web]
Links
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.