Group Blog
 
 
มิถุนายน 2554
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
19 มิถุนายน 2554
 
All Blogs
 

ใกล้โค้งท้าย คิวแทรกอื้อ!!

ใกล้โค้งท้าย คิวแทรกอื้อ!
















เหตุการณ์มือปืนตามมาบุกยิงนายก อบจ. ลพบุรี หัวคะแนนพรรคภูมิใจไทย เสียชีวิตกลางกรุง



คือสัญญาณบ่งชี้ชัดว่าการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการเดิมพันประเทศครั้งใหญ่ที่แต่ละพรรคการเมืองพร้อมต่อสู้เอาชนะกันทุกรูปแบบโดยไม่เลือกวิธีใช้



ตั้งแต่การตั้งเวทีปราศรัยหาเสียง เดินยกมือไหว้ขอคะแนนชาวบ้านแบบตรงไปตรงมา



ไปจนถึงการส่งมือปืนไปเช็กบิลหัวคะแนนฝ่ายคู่แข่ง ถึงจะโบร่ำโบราณและเสี่ยงต่อกฎหมาย แต่ก็เป็นวิธีที่ได้ผล ทำให้บรรดาหัวคะแนนหวาดกลัวไม่กล้าออกเดินหาเสียง ทำให้พรรคพ่ายแพ้ไปในที่สุด



ในขณะที่การเลือกตั้งยิ่งเดินหน้าเข้าใกล้วันที่ 3 ก.ค.มากเท่าไหร่ บรรยากาศก็ยิ่งดุเดือดเลือดพล่านมากขึ้นเท่านั้น



แล้วก็ยังเป็นพรรคเพื่อไทยภายใต้การนำของ "นายหญิงคนใหม่"น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ยังเป็นฝ่ายครองกระแสเหนียวแน่น



ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็เป็นฝ่ายเหนือกว่าพรรคประชาธิปัตย์ของนายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ



ทั้งที่มีฐานะเป็นรัฐบาลรักษาการหลังอยู่ในอำนาจเต็มมา 2 ปีครึ่ง แต่พรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่สามารถนำเอาข้อได้เปรียบตรงนี้มาใช้ประโยชน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ



ยิ่งไปกว่านั้นเหตุการณ์ความรุนแรงเดือนเม.ย.-พ.ค.2553 ที่มีผู้เสียชีวิต 91 ศพ และบาดเจ็บเกือบ 2,000 คน ได้กลายเป็น "ตราบาป" ของรัฐบาลอภิสิทธิ์



ซึ่งมาผลิดอกออกผลในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง เมื่อมีคนจำนวนหนึ่งออกมายืนชูป้ายทวง ถามคดี 91 ศพ ไม่ว่านายอภิสิทธิ์จะไปหาเสียงในพื้นที่ไหนๆ ก็ยากจะหลบหลีกพ้น



การชี้แจงผ่านสื่อเฟซบุ๊กเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าว 2 ตอนติดต่อกัน ด้วยการพยายามโยนทุกสิ่งทุกอย่างไปให้ "ทักษิณ" และ "คนชุดดำ"



นอกจากไม่ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้นแล้ว ยังก่อให้เกิดผลลบต่อพรรคและตัวนายอภิสิทธิ์มากขึ้นด้วย



เพราะยิ่งมีการมองว่าบิดเบือนมากเท่าไหร่ ยิ่งมีคนพร้อมออกมาเปิดเผยเรื่องราวความจริงเพื่อหักล้างมากขึ้นเท่านั้น



ถึงประชาชนคนไทยทั้งประเทศต่างแสดงอารมณ์ร่วม ต้องการให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นเข็มทิศนำทางประเทศชาติออกจากวังวนความขัดแย้งที่เป็นมาหลายปี



แต่ล่าสุดกลับมีสัญญาณแทรกซ้อน บ่งชี้ถึง "ความไม่ปกติ" ของการเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ที่อาจนำพาประเทศกลับไปสู่วงจรความปั่นป่วนวุ่นวายอีกระลอก



โดยทุกอย่างเกิดขึ้นสอดรับกับกระแส "ยิ่งลักษณ์" ที่พุ่งแรงนับตั้งแต่ออกจากจุดสตาร์ต ผ่านโค้งแรกจนกระทั่งมาถึงช่วงก่อนเข้าโค้งสุดท้าย สวนทางกับกระแส "อภิสิทธิ์" ที่ตกรูดจนมาอยู่ในโซนอันตราย



กระทั่งเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันว่า ถ้าหากไม่มีขบวนการ "มือ-เท้าที่มองไม่เห็น" ออกมาเตะตัดขาฝ่ายตรงข้ามให้ล้มคว่ำในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนเข้าสู่เส้นชัย



ก็ยากที่นายอภิสิทธิ์และพรรคประชาธิปัตย์จะทำคะแนนไล่กวดได้ทัน



ที่สำคัญต้องไม่ลืมว่าโครงสร้างอำนาจรัฐบาลอภิสิทธิ์เป็นโครงสร้างที่มีความสลับซับซ้อน



ดังนั้น ความพ่ายแพ้ของพรรคประชาธิปัตย์จึงไม่ได้หมายความถึงความพ่ายแพ้ของนายอภิสิทธิ์คนเดียวโดดๆ ที่จะรับผิดชอบด้วยการลาออกจากเก้าอี้หัวหน้าพรรค



แต่ยังหมายถึงบรรดา "มือ" ต่างๆ ที่อยู่เบื้องหลังพรรคประชาธิปัตย์ รวมถึง "กองกำลังทราบฝ่าย" ที่เคยหนุนหลังรัฐบาลอภิสิทธิ์ จะต้องพ่ายแพ้ไปด้วย



กลุ่มอำนาจเหล่านั้นจะยอมรับได้หรือไม่หากพรรคเพื่อไทยชนะแล้วได้เข้ามาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล



เพราะอาจเสี่ยงต่อการถูกเช็กบิลขนานใหญ่ ต่อให้น.ส.ยิ่งลักษณ์จะท่องคาถาปรองดอง "ไม่แก้แค้น แต่จะแก้ไข" ซ้ำแล้วซ้ำเล่าก็ตาม



จึงไม่น่าแปลกใจหากขบวนการ "หักก้ามปู" จะโผล่พรึบขึ้นมาในช่วงนี้



ทั้งแบบเปิดเผยอย่างกรณี "แก้วสรร-หมอตุลย์" และแบบที่ไม่เปิดเผยอย่างกรณีรูปถ่าย "อริสมันต์-ยิ่งลักษณ์" ที่มีการนำมาเผยแพร่ทางสื่ออินเตอร์เน็ต เป็นต้น



นอกจากขบวนการแบบเปิดเผยและไม่เปิดเผยแล้ว



ยังมีในรูปแบบคลุมเครือที่ต้องตีความกันยกใหญ่ เช่น ท่าทีของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ที่ล่าสุดได้ประกาศผ่านโฆษกกอ.รมน.ว่า



ของดให้สัมภาษณ์ 2 สัปดาห์ก่อนถึงวันเลือกตั้ง เพราะไม่ต้องการให้มีคนนำเอาคำพูดตนเองไปขยายใช้ประโยชน์ในทางการเมือง



อย่างไรก็ตามการประกาศรูดซิปปากของพล.อ.ประยุทธ์ เกิดขึ้นภายหลังการออกมาเปิดใจทางรายการโทรทัศน์ ถึงจุดยืนของกองทัพในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อทางการเมือง



ถึงจะเป็นการเปิดใจแบบเป็นกลางๆ สนับสนุนให้ประชาชนเลือกคนดีมีคุณธรรม เพื่อให้บ้านเมืองและสถาบันอยู่รอดปลอดภัย



แต่เป็นเพราะภาพลักษณ์เดิมๆ ของ กองทัพ ที่ติดตัวมาตั้งแต่เหตุการณ์รัฐประหาร 19 ก.ย.49 มาจนเหตุการณ์เดือนเม.ย.-พ.ค.53



จึงทำให้มีการนำคำพูดของพล.อ.ประยุทธ์บางช่วงบางตอนมาขยายผลว่าเป็นการส่งซิกต่อต้านพรรคเพื่อไทย รวมทั้งกรณีการกำหนดยุทธการ 315 ปราบปรามยาเสพติด ก็ถูกตีความเป็นการจงใจสกัดกั้นผู้สมัครพรรคเพื่อไทย



ทั้ง 2 กรณีได้รับการปฏิเสธจากกองทัพ



แต่บังเอิญมีข่าวทางหน้าหนังสือพิมพ์ พร้อมหลักฐานเอกสารตีตราลับ ด่วนมาก ลงวันที่ 3 มิ.ย.54 ทหารสัสดีจังหวัดสมุทร สาคร ทำถึงผอ.กต.สมุทรสาคร ขอรายชื่อหัวคะแนนผู้สมัครส.ส.แบบแบ่งเขต



เลยทำให้สังคมยังกังขากับจุดยืนกองทัพ ว่าได้วางตัวเป็นกลางอย่างที่ผบ.ทบ.กล่าวไว้จริงหรือไม่



แต่ที่ถูกจับตาเป็นประเด็นมากที่สุดในตอนนี้



คือกรณีจู่ๆ 5 เสือ กกต. ก็บินเงียบไปดูงานต่างประเทศพร้อมกันถึง 4 คน



ตั้งแต่นายอภิชาต สุขัคคานนท์ นายประพันธ์ นัยโกวิท นายวิสุทธิ์ โพธิแท่น นางสดศรี สัตยธรรม เหลือเพียงนาย สมชัย จึงประเสริฐ นั่งเฝ้าสำนักงานคนเดียว



จนหลายคนเป็นห่วงว่าอาจเป็นเงื่อนไขใหญ่ทำให้การเลือกตั้งสะดุด



เพราะเมื่อลองมาแล้วหลายวิธีก็ยังสกัดกั้นกระแสความแรงของฝ่ายตรงข้ามไม่อยู่ ขณะที่ระฆังบอกเวลาหมดยกใกล้ดังเข้ามาทุกที



เหลือวิธีเดียวคือ "ล้มเวที" มันเสียเลย..อย่างนั้นรึเปล่า!??


ที่มา

 




 

Create Date : 19 มิถุนายน 2554
0 comments
Last Update : 19 มิถุนายน 2554 10:41:56 น.
Counter : 735 Pageviews.


konseo
Location :
ohio United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 34 คน [?]




Friends' blogs
[Add konseo's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.