มะเร็งเม็ดเลือดขาว Multiple myeloma : เก็บสเต็มเซลล์ และปลูกถ่าย
# มะเร็งไขกระดูก ก่อนที่จะเล่าเรื่องเพิ่มเติมรายละเอียดเกี่ยวกับมะเร็งเม็ดเลือดขาว MM จากบล็อคhttps://www.bloggang.com/mainblog.php?id=klongขออนุญาตแปะลิ้งค์เกี่ยวกับโรคนี้ที่มีเพื่อนๆ โพสในพันทิปครับ น่าสนใจมากครับhttps://pantip.com/topic/34018003/มาที่การรับการรักษาของผม เพิ่มรายละเอียดจากภาพรวมที่ผมเล่าไปแล้วนะครับ-เมื่อผมได้รับยาคีโมครบคอร์ส คือ 4 เดือน เสร็จสิ้นเดือนตุลา 2017 (2560)-อ.หมอให้ตรวจเลือด เจาะไขกระดูก ตรวจไม่พบโปรตีนผิดปกติแล้วอ. ก็ให้จองเตียง เพื่อเก็บสเต็มเซลล์ ให้เร็วที่สุด เพื่อให้ได้คุณภาพที่ดีที่สุด-ได้เตียงปลายเดือนพฤศจิกายน 2017 ครับ มานอน รพ.อยู่ 3 คืน ครับ-ผมได้รับยากระตุ้นการสร้างเม็ดเลือด 2 โดส ครับโชคดีที่มีอาการปวดกระดูกนิดเดียว กินพาราฯ ก็เอาอยู่คุณหมอ Resident บอกว่า บางคนปวดมากจากการรับยากระตุ้นฯ ต้องให้ยาแก้ปวดแรงๆ-เมื่อเก็บสเต็มเซลล์ได้ตามกำหนดแล้ว ทราบผลตอน 5 โมงเย็น ว่าได้ครบแล้วคุณหมอมาถอดสายออกปุ๊บ คุณพยาบาลก็มาบอกว่า ให้กลับบ้านตอน 6 โมงเย็นครับ จะเรียกผู้ป่วยท่านอื่นมาแอ็ดมิตต่อทันที-อ.หมอ ได้บอกไว้ก่อนแล้วว่า ผมจะได้คิวปลูกถ่ายอีกประมาณ 1 ปีครับระหว่างนี้ ก็รับยา Maintenance therapy เป็น Cyclophosphamide 11 เม็ด+Dexamethazone 5 เม็ด ทุกสัปดาห์ -มีอาการคลื่นไส้ท้องอืด ประมาณ 1-2 วัน ทุกสัปดาห์ เป็นปกติ-ผมได้เข้าห้องปลูกถ่ายไขกระดูก วันที่ 17/12/2018 (2561) ขอเรียกเป็นวันแรกนะครับวันแรก ยังไม่ทำอะไร ให้มาเตรียมพร้อมครับ-ห้องปลูกถ่ายไขกระดูก เป็นห้อง Positive Air Pressure คือมีห้องควบคุมความดันอากาศ อีกห้องหนึ่งพ่นอากาศทางท่อ ให้ผ่านฟิลเตอร์ที่กรองเชื้อและฝุ่น ให้เป็นอากาศที่บริสุทธิ์ และให้ความดันในห้องปลูกถ่ายฯ สูงกว่าห้องด้านนอกเพื่อไม่ให้เชื้อจากด้านนอก (ถ้ามี) ผ่านเข้าไปในห้องได้ -ปรับอุณหภูมิที่ 22 องศาเซลเซียส-วันที่สอง ไปรับการแทงสายสำหรับรับยา เกล็ดเลือด น้ำเกลือ ฯลฯ-วันที่สาม รับยาคีโมปริมาณสูง เพื่อจัดการเซลล์มะเร็งที่อาจหลงเหลืออยู่-วันที่สี่ พัก 1 วัน มีอาการเพลีย อยากนอนทั้งวันครับ-วันที่ห้า รับ stem cell อาการเพลียมากขึ้น เริ่มเหม็นกลิ่นอาหาร-จากวันนี้ไป ทานได้แต่ข้าวต้มเปล่า เพราะเหม็นกลิ่นอาหารมากครับ มื้อละไม่เกิน 10 ช้อน -เวลาผ่านไปแต่ละวันไม่ต่างกัน กินแทบไม่ได้ ต้องรับสารอาหารทางหลอดเลือด-ทานข้าวต้มเปล่าประมาณ 1 สัปดาห์ ก็เริ่มทานไข่ขาวต้มได้ พยายามทานไข่ขาวทุกมื้อ-จากวันที่รับสเต็มเซลล์ มีอาการเกล็ดเลือดต่ำ รับเกล็ดเลือดทั้งหมด 8 ถุง เลือด 1 ถุง-มีอาการเพลีย สะลึมสะลือเกือบตลอด-คุณหมอและคุณพยาบาลดูแลใกล้ชิดมาก กระตุ้นให้ดื่มน้ำมากๆ-คุณพยาบาลเน้นมากๆ เรื่องระวังไม่ให้ล้ม เอากระบอกฉี่กับเก้าอี้ถ่ายวางไว้ข้างเตียงกำชับว่า ถ้าไม่ไหว ให้กดเรียกกริ่งเรียกให้มาพยุง อย่าเดินไปห้องน้ำเองให้ไปเฉพาะเวลาอาบน้ำ ผมพอเดินเกาะเสาน้ำเกลือไปได้ โดยมีคุณพยาบาลดูแลตลอด-อาการค่อยๆ ดีขึ้น เม็ดเลือดขาวเริ่มมา หลังจากรับสเต็มเซลล์ 12 วันและค่อยๆ เพิ่ม อาการดีขึ้นๆ จนคุณหมอเห็นว่า ให้ออกมาพักฟื้นได้-ผมได้รับอนุญาตให้ออกจากห้องปลอดเชื้อวันที่ 16/01/2019 ครับ-ก็กลับมาพักฟื้นต่อที่บ้านครับ ก็ทำตามที่คุณพยาบาลแนะนำอย่างเคร่งครัดเพราะร่างกายเปราะบางครับ ถ้าติดเชื้อหวัด หรือติดเชื้อทางเดินอาหารก็อาจต้องแอ็ดมิตเลย ต้องระวังอย่างเต็มที่ครับ คำแนะนำการปฏิบัติตัว ก็เหมือนกับผู้ป่วยมะเร็งอื่นๆ ที่ได้รับยาคีโมครับเพราะภูมิคุ้มกันของร่างกายลดลงเหมือนกัน-เดือนแรก ผมยังเดินสะเงาะสะแงะ ต้องใช้ไม้เท้าช่วยพยุงตลอดครบสองเดือนวันที่ 17/03/2019 (2562) เดินได้คล่องขึ้น แต่ก็ยังใช้ไม้เท้าอยู่ครับ-รับยา Thalidomide เป็น Maintenance therapy ครับอาการข้างเคียงคือ มึนงงเล็กน้อย เท้าบวม ยอมรับสภาพครับก็หวังว่า จะดีขึ้น และโรคไม่กลับมาเร็วนัก เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ เป็นเรื่องเฉพาะตัว เป็นความฝันของผมเอง-ตอนกลางคืน วันที่ผมรับยาคีโมโดสสูง ผมหลับไปด้วยความเพลีย-ตอนที่หลับสนิท ผมรู้สึกว่า ได้ยินเสียงพึมพำๆ ดังมาก เหมือนอยู่ในตลาดจนตื่นขึ้น และเดินมาในตรอกโล่งๆ แห่งหนึ่ง (อยู่ในความฝันนะครับ)-เจอคน Homeless เข้ามาบอกผมว่า ขอมาอยู่ด้วยตอนนั้น ผมรู้สึกกึ่งหลับกึ่งตื่น และรำพึงในใจว่าเราอยู่ในห้องปลอดเชื้อ รพ.ศิริราชนี่หว่า คนอื่นเข้ามาไม่ได้จะให้อยู่ได้ยังไง ตอนนั้น ผมก็คิดว่า น่าจะเป็นคนมาขอส่วนบุญก็อธิษฐานอุทิศส่วนบุญให้ และขอบารมีสมเด็จพระราชบิดาให้ช่วยคุ้มครองด้วย -ภาพตรงนี้ก็ค่อยๆ จางไป แล้วผมก็เห็นพ่อกับแม่ ครับคุณแม่ผมเสียไปแล้วประมาณ 20 ปี คุณพ่อเสียไปแล้ว 11 ปีครับคุณพ่อนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน คุณแม่ยืนอยู่ข้างๆ-หน้าท่านยิ้มอย่างมีความสุข แล้วผมก็ได้ยินเสียงคุณภรรยาเรียกผมผมก็รู้สึกตัวลืมตาตื่น เห็นว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยรู้สึกเพลียๆ ก็หลับต่อจนเช้าครับหลังจากนั้น ผมก็ไม่ฝันแบบนี้อีกเลยครับ-ตั้งแต่ท่านทั้งสองเสียไป เพิ่งเคยฝันถึงท่านนี่แหละครับผมเล่าให้น้องสาวฟัง น้องบอกว่า พ่อกับแม่คงเป็นห่วงเลยมาเยี่ยมแต่ก็มีหลายคนบอกว่า ท่านน่าจะมาคอยรับผม -อันนี้เล่าให้อ่านกันเพลินๆ นะครับขอบคุณทุกท่านที่อ่านมาจนจบครับ