มีคนเรียกผมว่า หมอตี๋หน้าเห่ย No.2
Group Blog
กระทู้ความรู้ห้องแมว
<<
กุมภาพันธ์ 2551
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
1 กุมภาพันธ์ 2551
โรคหู+ผิวหนังในแมว
All Blogs
โรคหู+ผิวหนังในแมว
ความรู้รอบพุงแมว : ตอนโปรแกรมวัคซีนของนุ้งเหมียว มิ้ว มิ้ว....
กระเป๋าพยาบาลสำหรับแมวเหมียว
ถ้ารักนู๋จริง อย่าทำกับนู๋อย่างนี้
โรคหู+ผิวหนังในแมว
หน้า blog นี้มาจากส่วนหนึ่งของกระทู้
อยากได้ความรู้จากเพื่อนๆเรื่องโรคในหูแมวนะค่ะ
//topicstock.pantip.com/jatujak/topicstock/2007/05/J5411731/J5411731.html
ในคลังกระทู้เก่า เนื่องจากไม่รู้ว่า กระทู้ในคลังจะโดนลบทิ้งเมื่อไหร่ จึงได้ทำการเก็บกระทู้ความรู้ที่น่าจะมีประโยชน์เอาไว้ใน blog แทน
-----------------------------------------------------------------
ไรขี้เรื้อนแห้ง
เป็นโรคผิวหนังที่ติดต่อตัวอื่นๆได้ เกิดจากการติดไรขี้เรือนที่ชื่อ Sarcoptes
อาการ
ขี้เรือนแห้งมักพบรอยโรคที่หัวและใบหู โดยขนจะร่วง เกา คัน และมีสะเก็ดแข็งๆ (แยกออกจากไรในหูคือ ขี้เรือนแห้งจะเป็นที่ใบหูและขอบหูเท่านั้น ไม่เป็นในรูหู)
การตรวจวินิจฉัย
ขูดผิวหนังไปส่องกล้องหาตัวไร
การรักษา ---> ให้หมอรักษาดีที่สุดครับ ฮ่าฮ่าฮ่า
(ในการรักษา โรคๆนึง มีหลายวิธีครับ ดังนั้นบางครั้งหมอแต่ล่ะคนก็รักษาไม่เหมือนกัน บางคนฉีดยา บางคนให้ยาผสมน้ำอาบ เช็ดตัว บางคนให้ยาหยอดหลัง ดังนั้นโรคอื่นๆก็เช่นกัน จะขอข้ามหัวข้อการรักษาไปล่ะกันนะครับ)
ไรในหู : Ear Mite
สาเหตุ
เกิดจากการติดไรในหูที่มีชื้อว่า "Otodectes cynotis" หรือที่เราเรียกกันว่า "ear mite" มักชอบอยู่ในที่อับและมี ความชื้น
อาการ
เกาที่ใบหูหรือสะบัดหัวไปมา ถ้าดูภายในหูจะพบขี้หูที่มีลักษณะเป็นสีดำหรือสีน้ำตาลเข้มเป็นจำนวนมาก รวมทั้งอาจพบน้ำ และบางกรณีอาจมีการอักเสบของหู ร่วมด้วยทำให้แมวรู้สึกคันมากและแมวจะแสดงออกโดยการเกาหรือสะบัดหัวไปมา
การตรวจวินิจฉัย
ทำได้โดยการใช้ไม้สำลีแคะหู(Cotton bud)เก็บตัวอย่างขี้หูไปส่องตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์เพื่อดูตัวไร
ข้อสังเกตุ
ไรในหูจะอาศัยอยู่แต่ภายในรูหูเท่านั้น ในขณะที่ไรขี้เรื้อนแห้งก็จะอยู่ที่ผิวหนังใบหู ขอบหูแต่ไม่เข้าไปในรูหูเช่นกัน (แต่สัตว์บางตัวก็อาจจะเป็นทั้ง 2 อย่างพร้อมๆกันได้นะครับ)
รูหูชั้นนอกอักเสบ (กรณนี้จะพูดถึงการติดเชื้อในหูนะครับ)
คือการอักเสบติดเชื้อของรูหูชั้นนอก
อาการ
ผนังของรูหูอักเสบแดง มีเลือดหรือหนอง มีกลิ่นเหม็น
สาเหตุ
- เกิดจากการติดเชื้อ เช่นแบคทีเรีย เชื้อรา เชื้อยีสต์ ไรในหู ***วันนี้จะพูดถึงกรณีนี้นะครับ***
- น้ำเข้าหูนานๆ โดยไม่เช็ดออก ---> หูอับชื้น/อักเสบ มีเชื้อต่างๆเข้ามาแทรกซ้อน
- อาการแพ้ หรือภูมิแพ้ บางอย่างก็ออกอาการที่หูได้เช่นกัน
การตรวจวินิฉัย
ทำคล้ายๆกับการตรวจหาไรในหู คือใช้ไม้สำลีแคะหูเก็บตัวอย่าง และนำไปส่องดูด้วยกล้องจุลทรรศน์ แต่ต่างกันตรงที่ เชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา เชื้อยีสต์ มีขนาดเล็กมากและ ใสไม่มีสี ดังนั้นจึงต้องย้อมสีก่อน เพื่อเวลาส่องกล้องจะได้มองเห็น
การรักษา
ขึ้นอยู่กับว่าเป็นเชื้อตัวไหน การรักษามีทั้งยากิน ยาฉีด ยาหยอดหู
*** กรณีที่เป็นเรื้อรัง รักษาไม่หายซักที อาจทำการเก็บตัวอย่างในรูหูไปเพาะเชื้อและทำการทดสอบหาความไวของยาด้วยก็ได้ จะได้จัดยาให้ตรงกับเชื้อ (การเป็นเรื้อรังรักษากันมานานๆ หรือเปลี่ยนคลินิกบ่อยๆ ได้ยาไม่ต่อเนื่อง อาจทำให้เกิดการดื้อยาได้ จึงอาจต้องทำการทดสอบหาความไวของยา)
===============================================
ดังนั้นการรักษาหูอักเสบโดยทั่วๆไปจะมีดังนี้ครับ
1.รักษาที่สาเหตุ (ต้องตรวจให้รู้ก่อนว่าเกิดจากอะไร และรักษาให้ตรงกับสาเหตุ)
2.บรรเทาตามอาการ เช่นเกาคันมาก อาจต้องให้ยาลดคันร่วมด้วย
3.การป้องกันการทำร้ายตัวเอง ---> ใส่ collar ป้องกันการเกา ***สำคัญนะครับ*** บางตัวเกาจนเลือดโชกเลยก็มี
4.ป้องกันการติดต่อตัวอื่นๆ
5.ป้องกันไม่ให้กลับมาเป็นซ้ำอีก
****ซึ่งการรักษา การกำหนดแนวทางการป้องกันต่างๆ ขึ้นอยู่กับว่าหูอักเสบที่เป็นเกิดจากสาเหตุอะไร ดังนั้นขั้นตอนที่อ๊อบคิดว่าสำคัญที่สุดคือการวินิจฉัยให้ได้ก่อนว่าหูอักเสบที่เป็นเกิดจากอะไร
ปล.รูปรูหูอักเสบของแมวหายากจริงๆครับ เพราะปกติรูหูอักเสบจะพบในหมาเยอะกว่าในแมวมากๆ รูปที่เป็นตัวอย่างจะเป็นหูหมาแทนครับ แต่ลักษณะจะเหมือนๆกันครับ
ส่วนคำถามอื่นๆ
-ปัจจัยที่ทำให้เกิด เช่น อาบน้ำบ่อยๆ ?
อาบน้ำบ่อยไม่ได้ทำให้เกิดหูอักเสบครับ แต่น้ำเข้าหูแล้วไม่เช็ดออกให้แห้งอันนี้ล่ะสาเหตุที่ทำให้หูอักเสบได้
-ลักษณะขี้หูปกติ เช่น ควรเป็นสีไร เยอะแค่ไหน
ขี้หูปกติจะสีเข้มๆ เช่นน้ำตาลหรือดำ แต่ปริมาณไม่มาก และไม่เหม็นมากนัก
-การเช็ดหู
ถ้าไม่มีขี้หู หรือไม่มีกลิ่นเห็มนก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเช็ดบ่อยๆ 1-2 อาทิตย์ครั้งก็ได้ อย่างปุยฝ้ายที่บ้านอ๊อบเช็ด 2 อาทิตย์ครังนึง ใช้สำลีและ cotton bud ธรรมดา ไม่ได้ใช้น้ำยาเช็ดหู (ปล. น้ำยาเช็ดหูก็ทำให้หูอักเสบได้ ถ้าสัตว์ตัวนั้นแพ้)
-หยอดยาในหูนะค่ะ
ไม่จำเป็นจริงไม่ควรใช้ยาครับ เด๋วดื้อยาหมดจะไม่มียารักษา
-ตามปกติถ้าเค้าไม่ได้เป็นไรก้อต้องเช็ดใช่มั้ยค่ะ
นานๆครั้ง ตามปริมาณขี้หูครับ แมวไทยปกติ ถ้าไม่มีขี้หูก็ไม่ต้องเช็ดบ่อย ที่ต้องดูแลคือแมวขนยาว หรือแมวหูพับ ซึ่งหูจะอับชื้นได้ง่าย
-ควรใช้ยาเช็ดหรือหยอดยี่ห้ออะไรค่ะ
อันนี้ถามเพื่อนๆคนอื่นดีกว่าครับ คงไม่เหมาะที่อ๊อบจะมาแนะนำยี่ห้อสินค้าต่างๆ
-แล้วเวลาเช็ดนี่ที่บอกว่าหูเค้าเป็นตัวแอลนะค่ะ คือว่าถ้าเช็ดแล้วเราจะเช็ดได้ลึกแค่ไหนค่ะ บิวมะค่อยกล้าเช็ดลึกค่ะ แต่เห็นขี้หูลึกๆแล้วก้ออยากล้วงไปมากเยย
เช็ดได้ครับ ไม่ต้องกลัวว่า cotton bud จะไปแทงเยื่อแก้วหู เพราะรูหูเป็นรูปตัว L แต่เวลาเช็ดก็ทำด้วยความนุ่มนวลครับ เพราะการทำด้วยความรุนแรงกระแทกกระทั้น หรือแมวสะบัดหัว แล้วเราขืนแรงเอาไว้ทำให้ผนังรูหูบาดเจ็บได้ (ปล.cotton bud ยี่ห้อที่สำลีนุ่มๆหน่อยนะครับ บางยี่ห้อแข็งเหลือเกิน แคะหูตัวเองยังเจ็บเลย + ดูยี่ห้อที่สำลีปลายไม่ไม่หลุดง่ายๆด้วยนะครับ เคยมีกรณีแคะไปแคะมา พอเอาไม้ออกมา สำลีหลุดอยู่ในรูหูแมวก็มีนะครับ ฮาไม่ออกเลยทีเดียว)
-แล้วเวลาเช็ดเค้าเจ็บมัยค่ะ
ทำด้วยความนุ่มนวลครับ หูปกติ คงไม่เจ็บเท่าไหร่ แต่ถ้าหูอักเสบแล้ว เวลาเช็ดทำความสะอาดก็เจ็บพอสมควรครับ(แต่บางครั้งก็จำเป็นต้องทำ)
เชื้อราในแมว / ขี้กลาก (Dermatophytosis, ringworm)
เชื้อราชนิด dermatophyte ทำให้เกิดโรคในบริเวณที่มี keratin ได้แก่ ผิวหนังชั้นนอกสุด เส้นผมและเล็บ เกิดจากเชื้อ 3 genera คือ Trichophyton, Microsporum และ Epidermophyton ซึ่งอาศัยอยู่ในดิน คน และสัตว์ โดยเชื้อที่พบในแมวคือ Mycrosporum canis
ลักษณะรอยโรคของเชื้อราคือ ขนร่วงเป็นวงๆ ตรงกลางวงจะไม่ค่อยมีขน ส่วนที่ขอบๆของรอยโรคจะพบว่าเส้นขนบริเวณขอบๆนั้นจะหลุดร่วงได้ง่าย
ดูลักษณะรอยโรคเชื้อราตามรูปนะครับ
ความสำคัญของโรคเชื้อราคือเป็น โรคสัตว์ติดต่อสูคน/Zoonosis
แต่ไม่แน่อาจจะมีเจ้าของคนใดซกมกเป็นเชื้อราก่อนแล้วเอาไปติดเจ้าเหมียวก็ได้ครับ ฮ่าฮ่าฮ่า (อันนี้ล้อเล่นนะครับ ขี้กลากเป็นโรคที่ติดต่อได้ง่าย ใครเป็นไม่ได้หมายความว่าซกมกนะครับ)
ดังนั้นเมื่อสงสัยว่าแมวเป็นเชื้อราพาไปหาหมอตรวจด่วนก่อนที่จะติดต่อไปยังตัวอื่นๆหรือเจ้าของ
ปล.โรคเชื้อราเป็นโรคติดต่อ บุคคลที่มีความเสี่ยงสูงในการเป็นคือผู้ที่เลี้ยงแมว(ที่เป็นเชื้อรา)อย่างใกล้ชิดและสัตวแพทย์นั่นเอง ฮ่าฮ่าฮ่า (แต่เค้ายังไม่เคยเป็นนะตัวเอง)
Create Date : 01 กุมภาพันธ์ 2551
Last Update : 3 เมษายน 2556 17:35:57 น.
12 comments
Counter : 56646 Pageviews.
Share
Tweet
แมวที่บ้านก็เคยเป็นค่ะ ไรในหู
เป็นตัวเดียว ติดทั้งฝูงเลย
ตอนนั้นใช้วิธีหยอดยาที่หูค่ะ
โดย:
me-o
วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:20:40:57 น.
กะลังกลุ้มเลยเรื่องไรหูเนี่ย
น้องซิน ซิน ก็ เป็นน่ะ
แต่สามีพี่มันไม่พาไปรักษา
กะว่ากลับเมืองไทยจะแอบซื้อยาน่ะ
แต่ดูท่าทางจะไม่ง่ายนิ
เพราะต้องตรวจเช็คก่อนเนี่ยสิ เฮ้อ....
โดย: annie l (
Annie l
) วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:21:30:45 น.
เข้ามาเก็บข้อมูลความรู้ดีๆ เน้อหมอ
ขอบคุณอีกรอบ...เน้อออออออ
โดย: COOL ARTS (
ครูอาร์ท
) วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:22:13:59 น.
หวัดดีค่ะ...รบกวนสอบถามเรื่องเชื้อราแมวหน่อยค่ะ ตอนนี้กุ้มใจมากเลยค่ะ แมวเปอร์เซ๊ยเป็นเชื้อรา ซึ่งตอนเด็ก ๆ เค้าไม่เคยเป็นมาก่อน แต่ที่แปลกใจคือ ผิวหนังของเค้าจะเป็นสีดำ ๆ เทา ด่างเป็นวงกลม ไปเลยค่ะ ตรงโคนขนก้อเป็นสีน้ำตาล ดึงก้อหลุด แบบนี้กระจายไปทั่วใต้ท้องและขาหลัง ทำไมอาการของโรคไม่เหมือนกับคนอื่น หรือว่าติดเชื้อแบคทีเรีย ขอบคุณล่วงหน้าน่ะค่ะ รักษาหลายวิธีแล้วไม่ดีขึ่นเลย
โดย: cool IP: 203.144.187.18 วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:1:31:48 น.
^
^
^
กรณีผิวหนังเปลี่ยนสีโดยมากจะเกิดจากการที่ผิวหนังอักเสบเป็นระยะเวลายาวนานครับ
สามารถทำให้ผิวหนังเปลี่ยนสีได้
เอาจากลักษณะที่บอกมาก็น่าจะเป็นเชื้อราครับ ส่วนแบคทีเรียโดยมากมักจะเป็นในรูปแบบผิวหนังเยิ้มเป็นหนองมากกว่า
แต่ถ้าดีทีี่สุดจริงๆในการรักษา คือตรวจให้ทราบก่อนว่าเป็นอะไรแน่
- ขูดผิวหนังส่องกล้อง วินิฉัยขี้เรื้อน
- ขูดผิวหนัง ย้อมสี ส่องกล้อง ดูการติดเชื้อแบคทีเรีย ยีสต์ เชื้อรา
- กรณีเป็นกลุ่มการติดเชื้อ อาจทำการหาผลการไว หรือดื้อ ของเชื้อต่อยา
โดย: kittyob IP: 58.9.125.183 วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:12:01:21 น.
ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ ที่ตอบเรื่องเชื้อรา ตอนนี้ได้พาน้องเหมียวไปตรวจเพาะเชื้อที่โรงพยาบาลเกษตรแล้วค่ะ รอผลอยู่ค่ะ แปลกใจที่ตรงอื่นไม่ลามเลย ลามแต่ตรงแผลเดิม แผลเดิมขนเคยขึ้น แต่ดันลามตรงขอบด้านข้าง ภาวะนาให้หายป่วยเร็วๆ ค่ะ ถ้ามีที่รักษาดี ๆ ช่วยแนะนำบ้างน่ะค่ะ ขอบคุณอีกครั้งค่ะ
โดย: cool IP: 203.144.187.18 วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:9:22:08 น.
จริงๆแล้วดีทีี่สุด ถูกที่สุดก็โรงพยาบาลสัตว์ของมหาวิทยาลัยนั่นล่ะครับ เกษตร จุฬา มหิดล ได้ทั้งนั้นครับ
(เสียอย่างเดียวรอคิวนานหน่อย)
โดย: kittyob IP: 58.9.131.87 วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:8:51:49 น.
โถๆ เห็นรูปน้องแมวแล้วน่าสงสัยอ่ะคะ แล้วก็ทำให้คิดถึงหมาๆที่บ้าน เอ ไม่รู้ว่าอาการไรในหูนี่ในหมาจะเหมือนในแมวไหม พอดีสังเกตว่าหมาที่บ้านก็ขี้หูสีดำ ชอบสะบัดเหมือนกันอ่ะคะ สะบัดจนปลายหูป่องเหมือนมีเลือดมากองเลย ต้องพาไปหาหมอเจาะปลายหูอีก น่าสงสารจิง
หมออ๊อบสบายดีนะคะ ไม่ได้แวะมาเยี่ยมนานเลย แล้วจะกลับมาเยี่ยมใหม่นะคะ
โดย:
GottaBeMary
วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:21:30:36 น.
เลี้ยงแมวเปอร์เซีย สีขาวไว้อ่ะค่ะ ทีนี้ที่หางของเค้าจะมีสีดำๆ แบบว่าเวลาอาบน้ำก้อจะเห็นมันดำเป็นปื้น เช็ดหรือขัดเท่าไรก้อไม่ออกอ่ะค่ะ เป็นมานานแล้วด้วย เคยซื้อสเปรย์มาพ่นก้อไม่หายอ่ะค่ะ ไม่ทราบว่ามันเป็นอารัยค่ะ เป็นเชื้อราหรือเปล่า เคยไปหั้ยที่คลินิก ดู หมอบอกว่าไม่เป็นรัยอ่ะ งง
โดย: แม่น้องแบ๊ว IP: 203.146.83.92 วันที่: 25 มีนาคม 2551 เวลา:15:31:37 น.
โอ้โห เรานี่เซ็งสุด ๆๆ นองฟักทอง กับ แตงไทย เป็นทั้งเชื้อรา ทั้งไรในหูเลย ซวยสุด ๆๆ แต่ตอนนี้อยู่ในระหว่างการรักษา แหม กะพาไปแค่ฉีดวัคซีนนะ ดันเจอ สองโรคเลย โชคดีจริงๆ
โดย: Bento IP: 202.44.7.81 วันที่: 7 ตุลาคม 2551 เวลา:13:05:34 น.
ที่บ้านเลี้ยงแมวพันธ์เปอร์เซียเหมือนกันที่หางของมันก้อเป็นสีดำ หมอสัตว์บอกว่าให้ผสมเกลือลงในแชมพูแมว
อาจจะแสบเล็กน้อยแต่ก้อหายค่ะ
โดย: เด็กไม้แก่น IP: 118.175.188.215 วันที่: 20 พฤศจิกายน 2551 เวลา:19:32:36 น.
เลี้ยงแมวเปอร์เซียเหมือนกันแต่แมวหูเหม็นไม่ค่อยยอมให้เช็ดหูทำอย่างไรดีคะ
โดย: ปุ้ย IP: 192.168.0.134, 203.144.144.164 วันที่: 14 มีนาคม 2553 เวลา:19:19:35 น.
kittyob
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
Friends' blogs
Webmaster - BlogGang
[Add kittyob's blog to your web]
Links
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
เป็นตัวเดียว ติดทั้งฝูงเลย
ตอนนั้นใช้วิธีหยอดยาที่หูค่ะ