2559 'ลิงอาละวาด' เขย่าดวงเมือง มฤตยูมาเยือน เปลี่ยนครั้งใหญ่ในรอบ 84 ปี คสช.ตกที่นั่งลำบาก เศรษฐกิจ โดย ผู้จัดการรายวัน หมอช้าง - ทศพร ศรีตุลา 2559 'ลิงอาละวาด' เขย่าดวงเมือง มฤตยูมาเยือน เปลี่ยนครั้งใหญ่ในรอบ 84 ปี คสช.ตกที่นั่งลำบาก เศรษฐกิจปั่นป่วน ซินแสภาณุวัฒน์ พันธุ์วิชาติกุล 2559 'ลิงอาละวาด' เขย่าดวงเมือง มฤตยูมาเยือน เปลี่ยนครั้งใหญ่ในรอบ 84 ปี คสช.ตกที่นั่งลำบาก เศรษฐกิจปั่นป่วน อ.ภิญโญ พงศ์เจริญ 2559 'ลิงอาละวาด' เขย่าดวงเมือง มฤตยูมาเยือน เปลี่ยนครั้งใหญ่ในรอบ 84 ปี คสช.ตกที่นั่งลำบาก เศรษฐกิจปั่นป่วน ฟองสนาน จามรจันทร์ 2559 'ลิงอาละวาด' เขย่าดวงเมือง มฤตยูมาเยือน เปลี่ยนครั้งใหญ่ในรอบ 84 ปี คสช.ตกที่นั่งลำบาก เศรษฐกิจปั่นป่วน อรรถวิโรจน์ ศรีตุลา ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - เปิดตำราโหราศาสตร์ ปี 2559 ปีวอก (ปีลิง) ธาตุไฟ ปีแห่งความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของประเทศไทย โดยการลงมติเป็นเอกฉันท์ของนักโหราศาสตร์ชื่อดังหลายคนด้วยกัน ดาวบาปพระเคราะห์หลายดวงรุมเร้าดวงเมือง โดยเฉพาะ ดาวมฤตยู ดาวแห่งความเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ ที่ใช้เวลาโคจรถึง 84 ปี กว่าจะเคลื่อนกลับมาทับดวงเมือง ซึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ชาติไทยอิทธิพลของดาวมฤตยูส่งผลต่อการปฏิรูปประเทศครั้งใหญ่มาแล้วถึง 2 ครั้ง 2 ครา โดยประเด็นสำคัญที่ทำนายตรงกันคือ รัฐบาลทหารมีการโยกย้ายปรับเปลี่ยน การเมืองการปกครองจะถูกสังคายนาใหญ่ รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่ต้องจับ เศรษฐกิจจะเกิดความผันผวนอย่างรุนแรง รวมทั้งโรคภัยไข้เจ็บโรคระบาดร้ายแรง ฯลฯ ดวงเมืองประเทศไทยในปี 2559 ตามหลักโหราศาสตร์ ภายใต้การปกครองประเทศ การทำรัฐประหารของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. จะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง ติดตามได้จากคำทำนายของบรรดาหมอดูชื่อดังต่อไปนี้ พลังลบดาวมฤตยู หุ้นตกฮวบฮาบ เริ่มต้นที่ หมอช้าง - ทศพร ศรีตุลา หมอดูชื่อดังของประเทศ ทำนายทายทักดวงเมือง ปี 2559 ตามหลักโหราศาสตร์จีนเรียกว่าเป็น ปีลิง ธาตุไฟ ซึ่งชื่อก็บอกชัดเจนอยู่ว่าทิศทางดวงเมืองจะเป็นอย่างไร ธาตุไฟชื่อก็บอกอยู่แล้วว่ามีความแรง ดวงเมืองปี 2559 เป็นปีที่ทำนายยากที่สุด เพราะมีการเปลี่ยนแปลงของดวงดาวซึ่งนานครั้งจะเกิดขึ้น ดาวมฤตยู หรือ ดาวยูเรนัส ซึ่งดาวดวงนี้ต้องใช้เวลาถึง 84 ปีถึงจะเวียนมาสักครั้งหนึ่ง และเมื่อเวียนมาแล้วจะอยู่กับดวงเมืองไปอีก 7 ปี ปี 2559 ดาวมฤตยู จะเข้าสู้ราศีเมษ ราศีของดวงเมือง โดยวางเสาหลักเมืองไว้วันที่ 21 เมษายน 2325 การมาเยือนของดาวมฤตยูอดีตจะล้วนแล้วแต่เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่นำพาประเทศพัฒนาต่อไป รอบล่าสุด 84 ปีก่อน ตรงกับ ปี 2475 สิ้นสุดระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์เปลี่ยนแปลงเข้าสู่การปกครองระบอบประชาธิปไตย ดาวมฤตยู เป็นดวงดาวแห่งนวัตกรรม หมายถึงการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น ซึ่งจะคงอยู่กับดวงเมืองไปอีก 7 ปี นับจากปี 2559 เป็นนิมิตรหมายอันดีของประเทศไทยเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น แต่มีข้อแม้ว่าไม่ได้ดีขึ้นทันทีภายในปีแรก “การเปลี่ยนแปลงต้องมีความวุ่นวายไม่พอเป็นเรื่องปกติ ซึ่งเชื่อว่าอะไรที่เตรียมจะเปลี่ยนแปลงในปีนี้เป็นต้นไป น่าจะนำมาสู่สิ่งที่ดีขึ้น ทางโหราศาสตร์เราก็รอดาวดวงนี้เหมือนกัน บางเรื่องมันก็คาราคาซังกันมานาน เหมือนกับบางเรื่องก็ต้องผ่าตัดใหญ่ช่วงปี 2559 เพื่อให้ไปสู่สิ่งที่ดีดีขึ้นในอนาคต เพราะฉะนั้นในภาคของการเมืองเอง ก็น่าจะเป็นปีที่เหนื่อยและวุ่นวาย แต่เวลาดูดวงเมืองอย่างไปดูปีเดียว บางทีเราอ่านคำพยากรณ์แค่ปีเดียว แล้วรู้สึกว่าไม่เห็นมันจะมีอะไรดีเลย ปีนี้ไม่ดีไม่ได้แปลว่าปีถัดไปจะไม่ดี การเปลี่ยนแปลงในปี 2559 จะนำไปสู่สิ่งที่ดีกว่าในปี 2560 ก็เป็นไปได้ ซึ่งดวงเมืองก็เป็นอย่างนั้นด้วย เทียบกัน ปี 2559 เราขับรถไปยังเส้นทางใหม่ เรายังหลงทางเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวากันอยู่แต่ ปี 2560 เราจะเริ่มชำนาญทางมากขึ้น โอกาสที่จะเดินหน้าไปต่อของเราก็จะมีเข้ามา เพราะฉะนั้น ปี 2559 จะเป็นการปฏิรูปเปลี่ยนแปลง ความโชคดีของดวงเมืองรออยู่ เช่น อาจจะมีเรื่องการเปิด AEC ที่เกิดขึ้น” ดาวมฤตยูเข้าอาจจะหมายถึงการเปลี่ยนแปลงในด้านเศรษฐกิจ รวมทั้งเรื่องของรัฐธรรมนูญจะมีความชัดเจนขึ้น เป็นวิถีทางใหม่ๆ ของประเทศไทย อย่างเมื่อครั้ง 84 ปีที่แล้วนั่นเอง หมอช้าง ทำนายเรื่องของเศรษฐกิจโดยอ้างอิงอธิบายให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น ในเชิงของเศรษฐกิจต้องบอกว่าตอนที่ดาวมฤตยูเข้ามาครั้งที่แล้ว (84 ปีก่อน) ตลาดหลักทรัพย์ยังไม่มีจึงเป็นเรื่องที่วิเคราะห์ยาก “ปี 2559 อาจจะวุ่นวายจริงๆ มันจะทรงตัวหรือถดถอยต้องระวัง ด้วยความที่มันจะไปรู้หัวก้อยต้องมีนาคม 2559 ไปแล้ว ต้องให้มฤตยูเข้าดวงเมืองไปก่อน เพราะว่าสถิติยังไม่เคยเกิด คือตลาดหลักทรัพย์ เมืองไทย ไม่เคยเจอมฤตยูเข้าดวงเมืองมาก่อน เพราะมันเปิดมาไม่ถึง 84 ปี ทีนี้เลยต้องมาดูกันว่าเมื่อมันเข้ามาแล้วถูกกันไหม? ยกตัวอย่าง คนไม่รู้จักแล้วมาเจอกันอาจจะถูกชะตาหรือไม่ถูกชะตาก็เป็นเรื่องที่ยากจะคาดเดา เช่นกันดาวมฤตยูที่กำลังจะเข้าดวงเมืองต้องรอดูกันต่อไปว่าจะเป็นอย่างไร ชื่ออาจจะน่ากลัว มฤตยู แต่อาจจะเข้ามาถูกชะตาดวงเมืองพาหุ้นขึ้นก็ได้ แต่ทางกลับกันเจอกันแล้วเกลียดก็เป็นไปได้เช่นกัน สรุปคือต้องลองเจอกันเสียก่อนแล้วผลลัพธ์จะปรากฏเองว่าเป็นอย่างไร รอดูช่วงปลายๆ เดือนมีนาคม รู้เรื่อง “ในเชิงของนักลงทุนต้องบอกว่าต้องระมัดระวัง ช่วงต้นปีปี 2559 ดาวมันเปลี่ยนเยอะเหลือเกิน นอกจากดาวมฤตยูแล้ว 16 มกราคม ดาวราหูเปลี่ยนอีกดวงหนึ่ง ดาวราหูผูกกับหุ้นหรือการลงทุน เชื่อว่าโอกาสที่พระราหูเปลี่ยนมกราคมเกิดข่าวดีหลังจากหุ้นตกระเนระนาด เศรษฐกิจน่าจะมีข่าวดีมากขึ้น แต่ว่าเดือนมีนาคม ดาวมฤตยู เข้าอีกดวงหนึ่ง มันก็เหมือนกับว่ามีข่าวดีได้ประเดี๋ยวประด๋าว ภาพรวมใครที่อยากจะลงทุนอะไรหรือมีความเสี่ยงเยอะๆ แนะนำว่าสงกรานต์ไปแล้วดีกว่า รอดูผลกระทบจากดาวมฤตยูก่อนตัดสินใจลงทุน ซึ่งจะเป็นความผันผวนอย่างมากในปี 2559 ต้องระมัดระวัง” นอกจากนี้ ดาวมฤตยู และราหู ยังมี ดาวเสาร์ เปรียบดังคมหมู่มาก เกษตรกร ซึ่งยังไม่อยู่ในตำแหน่งที่ดี ซึ่งอย่างที่เห็นผลกันในปี 2558 ราคาสินค้าสินค้าเกษตร หรือข่าวในเชิงเศรษฐกิจยังมีน้อย สำหรับเรื่องภัยธรรมชาติไม่ต้องทำนายก็เห็นปัญหากันอยู่ หมอช้าง อธิบายเพิ่มเติมว่า ภัยแล้งมาสอดคล้องกับปี 2559 ที่เป็นปี ลิงธาตุไฟ ไฟมันไม่ถูกับน้ำ ปีที่ธาตุไฟแรงกกว่าธาตุน้ำ ก็จะมีปัญหาอยู่แล้ว “ดาวมฤตยู เข้าราศีเมษ เป็นราศีที่เป็นธาตุไฟที่แรงที่สุดของดวงเมือง ก็ทำให้พลัง ของธาตุไฟแรงขึ้น คือมีเรื่อง ภัยแล้งเรื่องหนึ่ง ระวังไฟจากไฟไฟไหม้ เพราะธาตุไฟแรง ก็จะเป็นเรื่องของไฟที่เกิดขึ้นได้บ่อยในปี 2559 เป็นสิ่งที่ต้องระมัดระวัง เรื่องแล้งก็ต้องดูแลเป็นพิเศษเพราะไม่มีดวงดาวดวงใดเกี่ยวข้องกับธาตุน้ำ เพราะฉะนั้นภาพรวมถือว่าเป็นปีแห่ง การเปลี่ยนแปลง” ดวงเมือง ปี 2559 ดวงดาวที่ดูแลดวงเมืองอยู่นั้นอ่อนกำลังลง แต่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงในช่วงของกลางปีไปแล้ว แต่อยากให้มองที่ผลลัพธ์มากกว่าจุดเริ่มต้น บางทีเริ่มต้นไม่ค่อยสวย แต่ปลายทางหลังนั้นจะดีขึ้น ดาวมฤตยู เป็นดาวแห่งเทคโนโลยีวิวัฒนาการ ซึ่งนักวิทยาศาสตร์มีดาวมฤตยูอยู่ในดวงเยอะ ทดลองลองผิดลองถูกสุดท้ายก็กลายมาเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่ทำให้ประเทศเราดีขึ้น ดวงเมืองเช่นเดียวกันในทุกๆ ด้าน เชื่อว่าการเมือง เศรษฐกิจ น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ลัคนาราศีเมืองไทยนั้นตรงกับลัคนาราศีของโลก เท่ากับว่าอิทธิของดาวมฤตยูจะส่งผลให้โลกเกิดการจัดระเบียบใหม่ อย่างเค้าลางเรื่องความขัดแย้งหรือสงครามก็มีความน่าจะเป็นที่เกิดขึ้นมาได้ วานรวิวาท ป่วน(การ)เมือง คนไม่ดีจะเข้ามาปกครอง ผู้เชี่ยวชาญโหราศาสตร์จีน ซินแสภาณุวัฒน์ พันธุ์วิชาติกุล จากสถาบันศาสตร์แห่งชีวิต กล่าวว่า ปี 2559 ถือเป็น ปีวอก ธาตุไฟ ชงกับ ปีขาล ธาตุน้ำ ทำนายว่าคนที่จะมาเป็นใหญ่ถือเป็นศัตรูกับดวงเมือง จะส่งผลให้บ้านเมืองไม่สงบสุขอย่างที่ควรจะเป็นไป ย้อนกลับไปที่ฤกษ์ยามตั้งเมือง 21 เมษายน 2325 คำนวณตามโหราศาสตร์ ปีนั้นเป็น ปีขาล ธาตุน้ำ เดือน มังกร ยามกระต่าย ตามหลักโหราศาสตร์แล้ว เสือเปรียบดังผู้มีอำนาจพวกทหาร ตำรวจ จะขึ้นมาเป็นใหญ่ในการดูแลปกป้องบ้านเมือง มังกร เป็นสัญลักษณ์ของฮ่องเต้ โอรสแห่งสวรรค์ หรือ มหากษัตริย์ ต้องมีพระมหากษัตริย์ในการปกครองดูแลประเทศ กระต่าย หมายถึงความใจดีซึ่งเปรียบดังอุปนิสัยคนไทยที่จิตใจดีโอนอ่อนผ่อนตาม ธาตุน้ำ คือการเงิน การคลัง นักธุรกิจ เมื่อเข้าสู่ ปีวอก ธาตุไฟ ปีวอก กับ ปีขาล ชงกัน เป็นปรปักษ์กัน ย้อนเหตุการณ์กลับไปปี 2555 -2556 ซินแสภาณุวัฒน์ กล่าวว่าตนได้ทำนายว่าจะมีการหักหลังกันของกลุ่มคนมีอำนาจ และเกิดเหตุการณ์ปฏิวัติรัฐประหารขึ้น เฉกเช่นเดียวกัน ปี 2559 ดวงเมืองของประเทศไทยนั้นจะมีการเปลี่ยนแปลงวุ่นวาย เรียกว่า ปีวานรวิวาท โดยเฉพาะกลุ่มคนมีอำนาจในรัฐสภาอาจะมีความประพฤติเข้าข่าย ลิงหลอกเจ้า หรือ หนุมานเผาลงกา ซินแสภาณุวัฒน์ ทำนายว่า จะเกิดความขัดแย้งของกลุ่มคนมีอำนาจในประเทศ กลุ่มทหาร นักการเมือง ที่ตั้งขึ้นมาอย่าง คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) “ปัญหาต่างๆ จะรุมเร้า และที่น่ากลัวไปกว่านั้นคนไม่ดีจะกลับเข้ามาปกครองบ้านเมืองอีก อันพิจารณาได้จากท่าทีของท่านนายกฯ ที่พยายามประนีประนอมฝ่ายนำคนเข้ามาพูดคุยปรองดองสมานฉันท์ กลับกลายเป็นช่องทางให้คนไม่ดีเข้ามามีอำนาจ ส่วนคนดีๆ พอเห็นกลุ่มที่ไม่ดีเข้ามาเขาจะเริ่มถอยหนีเขาไม่อยากร่วมสังฆกรรมหรือร่วมทำงานด้วยในบางเรื่อง ทำให้คนไม่ดีมีบทบาทมากขึ้นเรื่อยๆ “พวกนี้เขาจะหวังทำทุกทาง เพื่อเข้าสู่วงจรอำนาจในการขยายอิทธิพล ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้จะสร้างปัญหาให้กับรัฐบาลในปี 2559เหมือนคนไม่ดีเข้ามาอยู่ในบ้านคุณแล้วเขาก็มองว่าบ้านนี้ไม่ดี ทั้งที่เจ้าบ้านเขาดี แต่พวกที่ไม่ดีมาอาศัยอยู่มาสร้างปัญหา” ซินแสภาณุวัฒน์ ทายทักในเรื่องของเศรษฐกิจต่อไปว่า ผู้มีอำนาจหรือรัฐมนตรีกระทรวงต่างๆ ต้องแสดงความจริงใจต่อประชาชน อย่าทำตัวเป็นลิงหลอกเจ้า อย่าหลอกลวงประชาชนว่าเรื่องนั้นเรื่องนี้จะดีไปเสียหมดสุดท้ายก็พังครื้น “อย่าหลอกประชาชน ไปบอกว่าเศรษฐกิจจะดีอะไรจะดีเขาก็ลงทุน พอเจ๊งขึ้นมาเป็นอย่างไร รัฐบาลอย่าหลอกประชาชน กระทรวงการคลังนี่สำคัญที่สุดเพราะเป็นตัวหลักในการขับเคลื่อนการเงิน ขอให้คุณสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ที่ยืนอยู่ตรงนั้น อย่าหลอกประชาชน ดีก็บอกดี ไม่ดีก็บอกไม่ดี เขาจะได้เตรียมตัวตั้งรับ ที่บอกลิงหลอกเจ้ามีความหมายในหลายประเด็น การเปิด AEC เมืองไทยเราต้องมีความจริงใจมิเช่นนั้นเขาจะถอยหนี้ คนคิดไม่ดีก็พยายามสร้างปัญหา เมืองไทยเรามีคนขวางรัฐบาลและการเคลื่อนตัวของเศรษฐกิจ พยายามเตะสกัดขา พยายามสร้างกระแส สร้างเรื่องขึ้นมา แต่เมื่อไทยมีพระสยามเทวาธิราช หรือปฐมบรมกษัตริย์ ดูแลบ้านเมือง เราอย่าคิดว่าไม่จริง ลองสังเกตคนที่คิดไม่ดีกับบ้านเมืองแพ้ภัยตัวเองไปในที่สุด อดีตนายกบางท่านพยายามคิดกุมอำนาจทุกอย่างสุดท้ายต้องจรลีไปอยู่ต่างประเทศ” เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในปี 2559 สร้างความวุ่นวายปั่นป่วน โดยเฉพาะประเด็นเศรษฐกิจซึ่งจะเกิดผลกระทบมากที่สุดใน ปีวอก ธาตุไฟ รวมทั้งเรื่องการเมืองที่ต้องประวิงเวลารักษาความสงบก่อนเข้าสู่การปฏิรูปอย่างแท้จริง “เศรษฐกิจไทยปั่นป่วนในปี 2559 ปีหน้าอย่าเพิ่งมีการเลือกตั้งเพราะบ้านเมืองจะวุ่นบ้านเดือดร้อน ควรเลื่อนเวลาออกไปปี 2560 ต้องระวังปืนไฟบ้านเมืองจะเดือดร้อน การสมานฉันท์ต้องใช้เวลากลุ่มที่เสียประโยชน์ย่อมไม่ต้องการสมานฉันท์กับกลุ่มที่ได้ประโยชน์ มีการยุแยงถ้าไม่มีการยุแยงเมืองไทยจะไปได้เรื่อยๆ แต่ถ้ามีคนมายุแยงตะแคงรั่วต้องให้ประชาชนเห็นความเป็นจริงที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร ข้าราชการขอให้เห็นแก่เมืองไทยเห็นแก่ส่วนร่วม อย่าคล้อยตามนักการเมืองเห็นแก่ผลประโยชน์มากเกินไป เพราะท้ายที่สุดแล้วกรรมนั้นจะตามสนอง ขอให้คนทำงานรับใช้ประเทศเปลี่ยนทัศนคติ อย่าคิดว่าคนที่ก้าวออกไปนอกประเทศแล้วจะกลับมาเป็นใหญ่ มันเป็นไปไม่ได้ คนข้างตัวที่ผู้นำจะเอาเข้ามาร่วมงานมองให้ดีอย่ามองเพียงสมานฉันท์ ณ วันนี้ ทุกคนต่อหน้าดี ลับหลังเขาก็ส่องสุมอะไรบ้างอย่าง” ซินแสภาณุวัฒน์ ทำนายต่อไปว่าดวงของ คสช. เข้าเคราะห์จะมีปัญหาและอุปสรรค “ดวงผู้นำของรัฐบาล ไม่ว่านายกฯ รองนายก รัฐมนตรีหลายๆ ฝ่าย ดวงเข้าเคราะห์เยอะ จะมีปัญหา จึงเน้นย้ำว่าอย่าดึงคนไม่ดีเข้ามาร่วมสังฆกรรมเพราะคนดีเขาจะถอยหนี เขาจะ ละ วางมือถอยหนี ระวังศัตรูจากฝ่ายที่ต้องการต่อต้านเพื่อกลับสู่อำนาจ ไม่มีการปฏิวัติซ้อน แต่จะมีการเปลี่ยนแปลงในรัฐบาลที่ทหารดูแลอยู่ ปี 2559 ถึงเวลาที่ประเทศไทยจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่” เกิดเหตุการณ์สร้างวีรบุรุษ ย้อนกลับไปในอดีตฟ้าเปิดให้ นช.ทักษิณ ชินวัตร เข้ามาเป็นใหญ่ จนบ้านเมืองเกิดปัญหาสั่งสม แบ่งฝักแบ่งฝ่ายแตกแยกมาเนิ่นนาน เป็นตัวแปรเพื่อล้างบางคนไม่ดี โดยพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. เข้ามาบริหารบ้านเมืองในสภาวะการณ์ไม่ปกติ เปรียบดังวีรบุรุษเข้ามาปรับกระบวนทัศน์ของสังคมคนไม่ดีจะถูกตัดตอนไปเรื่อยๆ ปี 2559 ต้องระวังเรื่องก่อการร้ายอันมีผลประโยชน์มหาศาลแอบแฝงอยู่ ส่วนเรื่องของภัยธรรมชาติพิจารณาตามหลักฮวงจุ้ย เพราะมนุษย์ไปทำลายธรรมชาติ ธรรมชาติย้อนกลับมาทำลายตัวเรา ฮวงจุ้ยมีการเปลี่ยนแปลงทุก 20 ปี เมื่อปี 2547 เกิดสึนามิ แผ่นดินเคลื่อนตัว เกิดการเปลี่ยนแปลงเปลือกโลก ฉะนั้น อีก 9 ปีข้างหน้าจะมีพายุใหญ่เกิดขึ้น แล้วเมื่อสิ้นสุดฮวงจุ้ยยุค 180 ปี เกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่ทั่วโลก “สำหรับ ปีวอก ธาตุไฟ ต้องระวังคือเรื่องอัคคีภัย ภัยแล้ง น้ำไม่มี ต้องระวัง เรื่องของ ปืนไฟภัยพิบัติ เมืองไทยไม่มีภูเขาไฟ เรื่องภัยก่อการร้ายเรื่องปืนไฟ เรื่องการเสียเลือดเสียเนื้อต้องระวัง” ซินแสภาณุวัฒน์ กล่าวทิ้งท้าย คสช. ตกที่นั่งลำบาก -เฝ้าระวังโรคร้าย โหรการเมืองชื่อดัง อ.ภิญโญ พงศ์เจริญ นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ ทำนายตามหลักโหราศาสตร์ว่า สำหรับดวงเมือง ปี 2559 นั้นจะเป็นปีที่ค่อนข้างดุเดือด มีการเปลี่ยนแปลงเกิดการพัฒนารอบด้านในปีวอกมีพระเคราะห์เข้าดวงเมืองหลายองค์ กระทบกับเรื่องการเปลี่ยนแปลงต่างๆ อันเป็นผลมาจาก 'ดาวบาปพระเคราะห์รุมดวงเมือง' พระมฤตยู ดาวมฤตยูจะย้ายจากราศีมีน จรเข้าสู่ราศีเมษ ไปทับดวงเมือง วันที่ 16 มีนาคม 2559 เหตุการณ์ดาวมฤตยูจรมาตรงนี้เคยเกิดตั้งแต่สร้างเมืองมาแล้ว 2 ครั้ง ตามวงรอบตามวัฏฏะต้องใช้เวลา 84 ปี และจะอยู่กับดวงเมืองไปอีก 7 ปี ก่อนจะเคลื่อนตัวออกไป รอบแรกหลังจากสร้างกรุงเทพฯ เมื่อปี 2392 ดาวมฤตยูจะย้ายจากราศีมีน เข้าราศีเมษ ในปลายรัชกาลที่ 3 เกิดเหตุโรคภัยไข้เจ็บระบาดรุนแรง โรคอหิวาตกโรค เป็นต้น ต่อมาเกิดการปฏิรูปทางสังคม การเมือง และเศรษฐกิจ ครั้งใหญ่และนำสู่การเปลี่ยนแปลงการปกครองครั้งใหญ่ รอบที่ 2 ในปี 2475 ดาวมฤตยู เคลื่อนเข้าสู่ดวงเมืองตามตามวัฏฏะ 84 ปี เกิดการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองครั้งใหญ่ 24 มิถุนายน 2475 จากสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นระบบประชาธิปไตย เป็นต้น เป็นฐานข้อมูลทางโหราศาสตร์ที่ชี้ชัดว่าผลพวงจากการเคลื่อนตัวเข้ามาของ พระมฤตยู ส่งผลให้ดวงเมืองเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เป็นแน่แท้ ซึ่งในปี 2559 ก็จะมีทั้งเรื่องดีและเรื่องไม่ดีที่ต้องเกิดขึ้นตามวัฏฏะ อ.ภิญโญ ทำนายว่า เรื่องโรคภัยไข้เจ็บเป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเรื่องโรคระบาด หรืออย่างที่เห็นกันก็เป็นโรคไข้เลือดออกที่ต้องระวัง รวมทั้งโรคอื่นๆ ที่อาจติดตามมาต้องระวัง อีกเรื่องหนึ่งที่ร้อนแรงในปี 2559 ทางด้านการเมืองต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิด ภัยพิบัติจะต้องระวังให้มากเลย อังคาร เสาร์ เป็นดาวอุบัติเหตุอุบัติภัยเรื่องภัยธรรมชาติ เกิดไปกุมกันอยู่ตรงราศีพิจิกค่อนข้างนาน “มฤตยูทับอาทิตย์ในดวงเมือง หมายถึง ผู้นำการเมืองการปกครองเกิดการเปลี่ยนแปลง แต่การเปลี่ยนแปลงนั้นไม่ใช่เรื่องเลวร้าย มันมีเรื่องดีเป็นสิ่งใหม่ๆ เข้ามา มีการพัฒนาประเทศสู่ความเจริญรุ่งเรืองมีวิวัฒนาการใหม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี ซึ่งเป็นสิ่งที่ประชาชนคนไทยอาจไม่ชินต้องปรับตัวเข้ากับสภาวะใหม่ๆ อาจจะมีกฎหมายใหม่ๆ เกิดขึ้น อีกหน่อยก็จะเป็นเรื่องดี การปรับปรุงการปฏิรูปประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมันไม่ได้มีแต่พระมฤตยูองค์เดียว ดาวที่น่าจับตามองมีดาวพฤหัสฯ ราหู และดาวเสาร์ ซึ่งผลกระทบทั้งด้านดีและไม่ดี” “ดาวพระเสาร์ ตอนนี้จรอยู่ในราศีพิจิกเป็นภพมรณะของดวงเมือง เป็นเจ้าเรือนที่ 10 ซึ่งหมายถึง ผู้ปกครอง อาจอาจหมายถึง ครม. คสช. ผู้มีอำนาจในการปกครองประเทศ ดาวเสาร์ ย้ายปี 2560 เพราะฉะนั้นก็ต้องอธิบายว่า จะเกิดการเปลี่ยนแปลงจริงๆ น่าจะเป็นปี 2560 ตอนที่ดาวเสาร์ย้ายเข้าราศีธนู ในปี 2560 เดือนมีนาคมดาวผู้บริหารราชการแผ่นดิน ดาว ครม. ย้ายในช่วงปีนั้นช่วงต้นปี 2560 ก็คงจะเกิดการเปลี่ยนแปลง ถ้าว่าตามดวงเมืองแล้ว ไม่น่าจะเกิดการปฏิวัติซ้อน หรือมีการเลือกตั้งขึ้นภายในปี 2559 “ดาวอังคาร เป็นดาวทหาร ดาวกองทัพ ดาวอุบัติเหตุเภทภัย ดาวอังคารโคจรวิปริตอยู่ในราศีพิจิกกุมดาวเสาร์ค่อนข้างนานถึง 7 เดือน เพราะฉะนั้น อังคารกับเสาร์กุมกันต้องระมัดระวังเรื่องความรุนแรง เรื่องความขัดแย้ง เพราะดาวคู่นี้ดาวของความขัดแย้ง อุบัติเหตุเภทภัย ดาวอังคารเคยพักที่ราศีเมษ เมื่อปีที่ประเทศไทยมีออกมาเรียกร้องของประชาชนกันเยอะๆ เพราะฉะนั้นปี 2559 ก็มีเรื่องความขัดแย้งเกิดขึ้น ประชาชนลุกฮือแบบที่ผ่านมา แต่ตามตำราทำนายในเรื่องศึกต่างเมืองเข้ามา ก็จะเกิดเหตุเภทภัย และดาวอังคารดาวเสาร์อยู่ในราศีพิจิก ก็จะเล็งไปในราศีพฤษภ ที่เป็นราศีที่ 2 ของดวงเมือง ส่งผลกระทบทางด้านของเศรษฐกิจ ฉะนั้น เศรษฐกิจต้องระมัดระวังยังต้องดูแลเอาใจใส่เรื่องปากท้อง เศรษฐกิจ การเมือง การคลัง “ปี 2559 เป็นปีที่หนักหน่วง เรื่องการลงทุนต้องดูตาม้าตาเรือวิถีทาง และดาวที่น่ากลัวนอกจาก มฤตยู ก็มีราหู เป็นตัวแทนของการเมือง ของรัฐสภา ของพรรคการเมือง ราหูตอนนี้อยู่ตรง ราศีกันย์ การเมืองมันถูกควบคุมก็ใช้วิธีการพิเศษอย่างที่เห็น อีกหน่อยราหูจะเข้า ราศีสิงห์ ซึ่งเป็นราศีภพที่ดีขึ้น เพราะฉะนั้นเรื่องการเมืองเรื่องเสรีภาพ เรื่องสิทธิต่างๆ มันก็น่าจะดูดีขึ้น ค่อยๆ ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม เมื่อราหูอยู่ตรงนั้นดวงเมืองก็ยังจะอ่อนแอไปถึงปี 2560เป็นปรปักษ์ทำให้การเกษตรอ่อนแอ การเมืองไม่เข้มแข็งแต่ที่น่าคิดที่สุดราหูเข้าเรือนอาทิตย์ ขณะที่มฤตยูทับเรือนอาทิตย์ เพราะฉะนั้นเราก็เน้นถึงเรื่องผู้ปกครองการเปลี่ยนแปลงจะดำเนินไปปี 2559 - 2560” มฤตยู ทับอาทิตย์ ยังมีความหมายว่า ผู้นำจะโดนกระทบในเรื่องชื่อเสียงเกียรติยศ เกิดวิกฤติศรัทธา เหมือนโดนเลื่อยขาเกาอี้ก็ต้องมาดูว่าเกาอี้มันแข็งไหม อย่างไรก็ตาม ประเทศจะขับเคลื่อนไปอีกตามวงรอบเป็นวัฏฏะเปลี่ยนแล้วก็เดินต่อไป สรุปคือ เรื่องการเมืองร้อนแรงเข้มข้น เกิดพรรคการเมืองใหม่ๆ นักการเมืองหน้าใหม่เข้ามาขับเคี่ยวในสภาฯ สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ตามหลักทางโหราศาสตร์ ทำนายว่าความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไกลๆ จรเข้าสู่ภพอริ มีลีลาโคจรถอยหลัง มีปัญหาอุปสรรค เรื่องนี้เกิดขึ้นพอแก้เรื่องนี้ก็เกิดเรื่องใหม่ แต่ท้ายที่สุดแล้วก้ผ่านไปได้ด้วยดี เหตุภัยพิบัติก็ต้องระวังให้มาก เพราะดาวอังคาร กับดาวเสาร์ เป็นดาวอุบัติเหตุอุบัติภัย เรื่องภัยธรรมชาติ เกิดไปกุมกันอยู่ตรงราศีพิจิกค่อนข้างนาน เรียกว่า ดาวบาปพระเคราะห์รุมดวงเมือง นอกจากนี้ ต้องเฝ้าระวังเรื่อง การก่อวินาศกรรม โจรกรรม เพราะมฤตยูคือความลึกลับมาจากภพข้างหลัง เพราะฉะนั้นยกเข้าราศีเมษ ลัคนาเมืองสถิตอยู่ นอกจากภัยธรรมชาติที่คาดการณ์กันอยู่ เป็นได้ว่าจะมีเกิดการฆ่ากันเอง วางระเบิดกันเอง รวมทั้งภัยลึกลับจากต่างชาติ ปฏิรูปขนานใหญ่ ไร้เงาปฏิวัติซ้อน ภาพรวมของดวงเมืองปี 2559 ปีแห่งการเขย่าเพื่อเปลี่ยนแปลงสู่ยุคใหม่ ฟองสนาน จามรจันทร์ โหรสมัครเล่นและผู้สื่อข่าวอาวุโส กล่าวว่า กรุงรัตนโกสินทร์ ถือกำเนิดขณะที่วางเสาหลักเมืองเมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน 2325 เวลา 06.54 น.เมื่อผูกดวงชะตาแล้วลัคนาสถิตราศีเมษ ธาตุไฟ อายุยืนยาวผ่านร้อนหนาว ทุกข์สุข รุ่งเรืองตกต่ำ ฯลฯ มาแล้ว233 ย่าง 234 ปี ครั้นตั้งแต่ 21 เมษายน 2559 เป็นต้นไปจะอายุเต็ม234 ย่างเข้า 235 ปี การนับยุคของกรุงรัตนโกสินทร์ (ตามหลักของอาจารย์ เทพย์ สาริกบุตร ในหนังสือโหราศาสตร์ไทยในวรรณคดี) เริ่มตั้งแต่มหากาฬ พันธุ์ยักษ์ รักบิณฑิต สนิทธรรม จำแขนขาด ราชโจร ชนร้องทุกข์ ยุคทมิฬ ถิ่นกาขาว ชาวศิวิไลซ์ ตามด้วยยุคที่ 11 คือยุคโชติช่วงชัชวาลที่มีการนำก๊าซธรรมชาติจากอ่าวไทยขึ้นมาใช้พัฒนาประเทศ และขณะนี้เรากำลังอยู่ใน ยุคที่ 12ของกรุงรัตนโกสินทร์คือยุคโทรศัพท์มือถือและอินเทอร์เน็ต ในปี 2559 จะเดินหน้าเข้าสู่ยุคใหม่ ยุคอีคอมเมิร์ซ และความทันสมัยต่างๆ จากระบบติดต่อสื่อสาร สมาร์ทโฟน การเดินทางทั้งใน - ต่างประเทศ ลอจิสติกส์ การค้าภูมิภาคอย่า AECการค้าชายแดน เกิดการต่อสู้กันทางความคิดบางอย่างในสังคมเหมือนที่เคยเกิดในอดีต เช่น การเกิดของลัทธิคอมมิวนิสต์- กับทุนนิยม การแบ่งแยกดินแดนในภาคใต้กับคนส่วนใหญ่อะไรทำนองนี้ การเปลี่ยนแปลงในปีใหม่ 2559นี้ มีทั้งเรื่องดีและร้ายจะเกิดขึ้นในเมืองอันเป็นธรรมดาของโลก แต่ที่หลีกไม่พ้นคือการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดและนำไปสู่สิ่งใหม่ทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ตัวบุคคล สถาบันต่างๆ เพราะอิทธิพลของดวงจรก็บอกว่าเป็นระยะของการเปลี่ยนผ่าน อาจจะมีการแต่งตั้งบุคคลสำคัญบางตำแหน่งให้เป็นที่ฮือฮาแบบผิดสังเกตุ ทั้งนี้ ต้องระวังฟืนไฟ หรืออุบัติเหตุใหญ่ในเมืองตั้งแต่หลังวันเกิดดวงเมือง21 เมษายน2559เป็นต้นไป “ประเทศไทยมีการเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่ที่บางประเด็นอาจต้องมากกว่าการปฏิรูปน้องๆ ปฏิวัติ ด้วยการมาถึงทับลัคนาและพระอาทิตย์ (๑) ดวงเดิมดวงเมืองของมฤตยู (0) จรเจ้าของภัยอาเพศ - การเปลี่ยนแปลง - ปฏิวัติที่ในที่สุดแล้วเมื่อมฤตยูจากไปมักไม่เหลือสิ่งเก่าที่ตกยุคไว้ “ปี 2559 นี้มฤตยูจรจะยกจากราศีมีน เข้าสู่ราศีเมษในวันที่ 6 มีนาคม 2559 แล้วจะอยู่ตลอดไปถึง ปี 2565 จึงอาจจะใช้เวลายาวนานยังผลการเปลี่ยนแปลงชนิดถึงรากถึงโคนของเมืองและการเมือง แต่ระยะแรกที่ดาวใหญ่ยกนี้อิทธิพลจะแรง ฉะนั้น ตั้งแต่ประมาณมีนาคม 2559 เป็นต้นไปถึงสิ้นปีอาจมีเรื่องไม่คาดฝันทางการเมือง ตัวบุคคล หรือเหตุการณ์แปลกๆ เช่นโรคระบาดเกิดขึ้น แต่หากบุคคลหรือองค์กรใดยังไม่ถึงคราวเปลี่ยนแปลงในปีนี้มฤตยูก็จะช่วยสั่งสมพลังไว้เพื่อที่การเปลี่ยนแปลงจะได้อุบัติในช่วงต่อไป “ระยะประมาณเกือบ 7 ปีที่มฤตยูจรทับลัคนาดวงเมือง หากผู้มีอำนาจในบ้านเมืองคัดท้ายดีการเปลี่ยนแปลงก็จะราบรื่น เฉกเช่นการมาทับลัคนาดวงเมืองรอบแรกเมื่อคราวการขึ้นครองราชย์ของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 4 ที่ทรงเตรียมประเทศสู่ความทันสมัยทุกๆ ด้านเพื่อรับมือกับอิทธิพลของชาติตะวันตกที่กำลังล่าอาณานิคมและผู้เขียนคาดว่าการมาถึงของมฤตยูรอบนี้ก็จะเป็นทำนองนั้น คำแนะนำคือหากใคร องค์กรใดที่เป็นเป้าของการเปลี่ยนแปลงแต่ไม่ตระหนักก็จะถูกบีบให้เปลี่ยนแปลง-เจ็บปวดและถูกทิ้งหลังการจากไปของมฤตยูจร “ในปี 2559 ระวังจะเป็นปีพลิกผันและยากลำบากทางเศรษฐกิจ คล้ายๆ ที่เกิดขึ้นกับเหตุการณ์ในอดีต คือวิกฤตการณ์ต้มยำกุ้งเมื่อปี 2540 หรือ เกิดกรณีราชาเงินทุนปี 2522 อันเกิดจากข้อบ่งชี้ทางโหราศาสตร์ ประมาณกลางเดือนมกราคม2559 - สิงหาคม2560 พระราหูจรจะกลับมาที่ราศีสิงห์จุดเดิมที่เคยสร้างปัญหาให้กับสองเหตุการณ์นั้นมาแล้ว “ฉะนั้น อาการทางเศรษฐกิจจะเริ่มตั้งแต่ประมาณต้นปี 2559 เป็นต้นที่จะเกิดการพลิกผันอย่างมากในเมืองบริการจัดการยากโดยเฉพาะอย่างยิ่งภายในสิงหาคม 2559 ที่ดาวจะเดินผิดปกติหลายดวง จะเกิดความเดือดร้อนทางเศรษฐกิจของประชาชนจึงจะค่อยๆ เบาบางลง “แต่ขอย้ำว่าปัญหาเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นในปี 2559นี้ในมุมของดาวจรที่ทำกับเมืองเดิมดวงเมืองแล้วไม่ได้ร้ายแรงเกท่ากับปี 2540 ถ้าหากฝ่ายรัฐบาลและเอกชนไทยระวังตัว คัดท้ายอย่างดีโดยดูจากประสบการณ์เมื่อปี 2540แล้วอาจจะเห็นโอกาสดีๆในท่ามกลางความร้ายของเศรษฐกิจก็ได้ “นักการเมืองเก่าๆ หรือ คนที่เคยทำกรรมเวร - สิ่งไม่ดีทั้งหลายไว้กับประเทศชาติมีโอกาสใช้กรรมเก่าเช่นเดินเข้าคุกหรือรับโทษต่อไป ตลอดทั้งปีจะมีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานใหญ่ๆ เตรียมการปูพื้นฐานสู่ยุคใหม่ไว้ให้ประเทศชาติต่อจากพฤศจิกายน 2557 ในทุกๆ ด้าน เช่นรถไฟ รถไฟฟ้า ฯลฯเพื่อที่จะเป็นฐานของประเทศไปอีกอย่างต่ำ 20ปี อันเป็นการซ้ำรอยประวัติศาสตร์เมื่อประมาณ30ปีที่แล้ว รอบของพระเสาร์จรเดินเข้าราศีพิจิก - ภพมรณะดวงเมืองที่รัฐบาลของพลเอกเปรม ติณสูลานนท์เคยลงทุนโครงการพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคตะวันออกให้ไทยโชติช่วงชัชวาลมาแล้ว” สำหรับรัฐบาลทหารภายใต้การปกครองของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา อาจจะไม่ค่อยก้าวหน้า หรือมีความขัดแย้ง หรือพยายามสร้างความขัดแย้งในเมือง หมู่ทหาร รัฐบาล คือประมาณเมษายน - สิงหาคม 2559 แต่ความพยายามนี้ก็จะไม่กระทบกระเทือน เดือนมีนาคม 2560 สิ่งที่ทำไว้ก็จะนำไปสู่ยุคใหม่ที่ต่อให้เทวดาก็กีดกันไทยจากความรุ่งโรจน์ไม่ได้ จะเกิดการเลือกตั้งรอบต่อไปจะอยู่ระหว่างประมาณ 7 สิงหาคม 2559-ประมาณ6กันยายน2560 แต่สภาที่มาจากเลือกตั้งจะอยู่ในลักษณะอ่อนแอ “ประมาณสิงหาคม 2559 เกิดความพลิกผันเกี่ยวกับกฎหมาย รัฐธรรมนูญหรือ ทุจริตคอร์รัปชั่น หรือวงการสงฆ์ พระ หรือวัยรุ่นหรือคนสำคัญในเมือง การเมือง อันเป็นผลจากพฤหัสบดีจรหัวหน้าฝ่ายธรรมะจะปะทะกับพระราหูจรฝ่ายอธรรมถึง 3รอบ ซึ่งรอบแรกที่น่าสนใจหลังวันที่ 30 ธันวาคม 2558 จะเกิดเหตุที่จะทำให้ฝ่ายธรรมะพลั้งพลาดต้องมีการทบทวนปรับเปลี่ยนตัวเองขนาดใหญ่ ขณะที่ฝ่ายอธรรมเริงร่า โดยอาการอาจจะออกที่มีปรับเปลี่ยนในรัฐบาล ตัดบางคนออกไปเพราะเรื่องเสียหาย (พฤหัสบดีจรสวนกับพระราหูจร พระราหูตัวแทนจะถูกตัดขาดสองท่อน) รอบ2 ที่เหตุการณ์ใหญ่จะเกิดขึ้นคือหลัง 27 กุมภาพันธ์ 2559และรอบที่ 3 หลังวันที่ 27มิถุนายน 2559ที่ผลที่สุดฝ่ายธรรมะจะชนะ” อย่างไรก็ตาม ตลอดทั้งปีไทยจะเป็นที่ประลองอิทธิพลของต่างชาติประเภทมหาอำนาจฉะนั้นควรใช้นโยบายที่หยุ่นโดยยึดผลประโยชน์สูงสุดของชาติเป็นสำคัญ ส่วนพืชผลทางการเกษตรส่วนใหญ่ยังจะไม่ดีขึ้นหรือทรงๆต่อไป รวมทั้งภัยแล้งจะบังเกิด พร้อมโรคระบาดสัตว์ - พืชเป็นบางช่วง พายุฤดูร้อนอาจเกิดเป็นระยะๆ หากฝนจะตกเมื่อเข้าฤดูฝนอาจจะได้ระดับหางพายุ ถ้าพายุจะเข้าเป็นลูกพอให้ได้น้ำจะเป็นตั้งแต่ประมาณกลางเดือนกันยายน 2559 เป็นต้นไป จับตา! ก่อการร้าย - สงคราม ปิดท้ายด้วย อรรถวิโรจน์ ศรีตุลา โหรการเมือง เผยทำนายสอดคล้องกันในเรื่องการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของเมืองไทยในปี 2559 “หลังวันที่ 16 มกราคม ดาวราหูยกมีการเคลื่อนไหวทางการบ้านการเมืองเกี่ยวกับปัญหาเศรษฐกิจต้องมีการเปลี่ยนแปลงแน่ทั้งระบบ เพราะว่าราหูโยงใยเรื่องของดวงเมืองด้วย ส่วนดวงเมืองอยู่ ราศีเมษ ตามหลักวิชา ราหู มาอยู่ ราศีสิงห์ กระทบ ราศีเมษ โดยตรง ดาวมฤตยู ดาวพฤหัสฯ ดาวเสาร์ เป็นดาวใหญ่ของดวงเมือง ฉะนั้นมันกระทบเรื่องใหญ่” แสดงให้เห็นว่าบ้านเมืองมีการเปลี่ยนแปลงแน่นอนในทางใดทางหนึ่ง แต่ไม่ขอท้ายว่าเปลี่ยนในทางที่ดีหรือไม่ดีนะ โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ “ราหูเป็นความรุนแรง ความกล้าเสี่ยง ถ้าราหูเข้ามาราศีสิงห์ มันถึงเวลาที่ประเทศชาติต้องมีการพัฒนาด้านสิ่งใหม่ๆ อย่างรุนแรง เพราะปี 2559และต่อไปอีก พระราหู จะไปทับดาวจันทร์ 1 - 2 ปี ซ้อนเลยเป็นเรื่องเศรษฐกิจโดยตรง ฉะนั้นเตรียมตัวให้ดีหลัง มกราคมไปแล้ว จะมีปัญหาเศรษฐกิจโดยตรง ปัญหาเศรษฐกิจโครงสร้างของประเทศจะมีการเปลี่ยนแปลงไปในรูปแบบใหม่ อีกอย่างหนึ่งดาวมฤตยู 16 จะขึ้นมาอยู่ราศีเมษ ทับดวงเมืองเลย อันนี้สนุก อะไรจะเกิดต้องไปดูกันไม่สามารถทายได้ผมดูดวงตัวเองแล้วว่าไม่ควรพูด พูดแล้วอันตราย “มฤตยูทับดวงเมืองเป็นดาวของความยิ่งใหญ่ การพัฒนาประเทศ ฉะนั้น พร้อมแล้วที่ประเทศจะต้องมีการพัฒนาอย่างรุนแรงแรง ซึ่งชัดเจนก็คือ เดือนเมษายน ตอนนี้เลยแสงดาวมันโผล่ขึ้นมาแล้วก็ควรมีการเตรียมการ เรามองเห็นอะไร โลกมีอะไรเปลี่ยนแปลงโลกจะเป็นอย่างนั้น เห็นไหม? ตอนนี้มีอะไรเกิดขึ้นในโลก เกิดการเคลื่อนไหวอะไรบ้าง รัสเซีย จีน ฝรั่งเศส มันมีลางบอกเหตุว่าจะมีเหตุการณ์เกิดขึ้น ขนาดไม่ทันไรเลย ย้อนกลับไปที่เหตุก่อการร้ายแยกราชประสงค์ ตอนนั้นดาวมฤตยูขึ้นกับราศีเมษอยู่พักหนึ่งมันขึ้นไปแล้วมันถอยมา พอมฤตยูขึ้นเข้าเมษปั๊บเกิดเหตุระเบิด แล้วมฤตยูกำลังจะเข้าก็ลองคิดดูว่ามันหลายถึงอะไร ดวงเปรียบเสมือนเข็มทิศที่มนุษย์มองไม่เห็น แต่เราล่วงรู้เหตุร้ายกำลังจะเกิดก็สามารถปรับให้มันดีขึ้นได้” คำทำนายตามหลักโหราศาสตร์จะเป็นที่ประจักษ์มากน้อยเพียงใด ตลอดศักราชใหม่ 2559 คงได้พิสูจน์กัน! ****ล้อมกรอบ**** แก้ปีชง เสริมดวงชะตา 'เฮง' ตลอด ปีวอก สำหรับปี 2559ตรงกับนักษัตร ปีวอก (ปีลิง) ธาตุไฟ ท่านผู้เกิดในนักษัตร ปีขาล (ปีเสือ) ถือเป็นปีเดียวที่เป็น ปีชง กล่าวคือเมื่อสองนักษัตรที่ไม่ถูกกันเป็นปรปักษ์กันโคจรมาพบกัน จะส่งผลให้เกิดปัญหาและอุปสรรคในชีวิตตลอดทั้งปีซึ่งเป็นความเชื่อทางโหราศาสตร์จีน จึงมีวิธีการแก้ชงเพื่อเสริมดวงชะตา หมอช้าง - ทศพร ศรีตุลา หมอดูชื่อดัง กล่าว่า เรื่องของปีชงนั้นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า จะมีเพียงปีเดียวเท่านั้นที่เป็น ปีชง ในปี 2559 ซึ่งเป็น ปีวอก ชงกับ ปีขาล กล่าวคือมี ปีขาล เพียงปีเดียวเท่านั้นที่ชง ส่วนที่มักจะได้ยินว่ามีปีนักษัตรอื่นๆ มาร่วมชงนั้นเปรียบดังกุศโลบาย เพื่อเชิญชวนผู้คนมาร่วมทำบุญสร้างกุศลสะเดาะห์เคราะห์เท่านั้น จึงขอเตือนว่าอย่าหลงงมงาย ทำบุญตามที่เราสบายใจ “คนเราไม่ได้ชงบ่อย ปีชงมันมีแค่ปีเดียว ชีวิตเราจะเจอปีชงในทุกๆ 12 ปี อย่างปี 2559 เป็น ปีลิง ธาตุไฟ ปีที่ชงมีปีเดียวคือ ปีขาล การที่ไปเทียบเป็นเปอร์เซ็นต์ว่าปีไหนชง 20 เปอร์เซ็นต์ 50เปอร์เซ็นต์ ฯลฯ จะบอกว่าความทุกข์ของคนกี่เปอร์เซ็นต์มันลำบาก เพราะว่ามันไม่ใช่ส่วนลด ในกลุ่มปีขาล เป็นปีที่ค่อยข้างต้องดูแลเพราะว่ามีการเปลี่ยนแปลงเยอะในชีวิต ซึ่งมีสิทธิเป็นการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีได้ถ้าเราเตรียมตัว ฉะนั้น อย่าไปกังวลครับ เพระเดี๋ยวมีการหากินแปลกๆ มาบอกปีชงนะ คุณมีเคราะห์ต้องไปสะเดาะห์เคราะห์เสียตังค์เป็นหมื่นเป็นแสนไปไหว้พระ ซึ่งการทำบุญใครก็สามารถที่จะเดินเข้าไปได้ ก็ต้องบอกดว่าอย่างไปเป็นเหยื่อของสิ่งเหล่านี้ ให้เราใช้ชีวิตด้วยความมีสติมากขึ้น คนที่รวยจากปีชงก็มีเยอะ เพราะว่าการเปลี่ยนแปลงมันก็มีข่าวดีเข้ามาเหมือนกัน” เริ่มจาก ราศีเมษ เป็นราศีที่ดวงมีการเปลี่ยนเปลี่ยนแปลงเยอะเพราะว่าเป็นราศีที่ดาวมฤตยูเข้า ราศีตุลย์ เจอดาวมฤตยูคู่กัน และอีกหนึ่งราศีที่อาจจะเหนื่อยเรื่องของสุขภาพหน่อย คือ ราศีพิจิก เป็นราศีที่ต้องระมัดระวัง ส่วนราศีที่เป็นดาวรุ่งในปีหน้า ราศีธนู มีเรื่องความก้าวหน้าการงานมาก โชคของการเดินทางไกล ราศีมีน พ้นเคราะห์ ดวงดาวร้ายๆ ออกไปหมด โชคเรื่องหุ้นเรื่องของการลงทุน เรื่องคู่ เรื่องงาน เป็นราศีที่มีโอกาสที่ดีเข้ามาต่างกันไปแต่ละบุคคล ส่วนราศีที่เปลี่ยนแปลงเยอะที่สุดและดีที่สุดคือ ราศีกันย์ พระราหูย้ายออก ถือว่าเป็นราศีแห่งการเริ่มต้นใหม่ งานใหม่ ชีวิตใหม่ ส่วนพระราหูจะย้ายเข้าสู่ 2 ราศีด้วยกัน ราศีกุมภ์ กับ ราศีสิงห์ จะมีดาวราหูย้ายเข้ามา ย้ายเข้ามาวันที่ 16 มกราคม 2559 ซึ่งเป็นดาวดวงแรกที่มีการเคลื่อนย้ายของปีนี้ พระราหูเป็นดวงดาวแห่งต่างประเทศ ดังนั้น ใครที่ทำงานเกี่ยวข้องกับการเดินทางเยอะๆ หรือว่าาธุรกิจที่เป็นเรื่องของออนไลน์ ค้าขายทางเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม เมื่อเจอพระราหูก็จะกลับกลายเป็นเรื่องที่เป็นบวก เพราะว่าเหมาะกับงานที่ทำอยู่นั่นเอง แต่ทางที่ไม่ได้ทำงานในสายนี้ต้องระวัง เพราะว่าเป็นดวงดาวความมัวเมาลุ่มหลง หมายถึงว่าอาจจะไปหลงติดอะไรบางอย่าง ท่านที่มีความตั้งใจในที่จะสิ่งแปลกใหม่ในปี 2559 เช่นมีแอกทิวิตี้ใหม่ เช่น เล่นกีฬา ออกกำลัง ฯลฯ จะเป็นการใช้พระราหูในด้านที่เป็นบวก ก็จะส่งผลดี แม้กระทั่งการศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม เทกคอร์ส หาความรู้ใหม่ๆ ก็เป็นเรื่องที่ดี ข้อควรระวังราศีสิงห์ กับราศีกุมภ์ เป็นราศีที่ต้องหลีกเลี่ยงอบายมุข เป็นราศีที่ราหูย้ายเข้าอาจหลงไปในด้านมืด สำหรับการเสริมดวงของผู้ที่เกิดปีขาล ราศีรวมทั้งท่านผู้ต้องการเสริมดวงชะตาให้ดียิ่งขึ้น ปฏิบัติอย่างง่ายๆ โดยการทำบุญทำทาน โดยเฉพาะในเรื่องของการสร้างแสงสว่าง ทั้งทางด้านกายภาพ เช่น บริจาคหลอดไฟ, บริจาคน้ำมันตะเกียง หรือทางด้านจิตใจ เช่น บริจาคหนังสือเรียน, หนังสือสวดมนต์, สบทบทุนการศึกษาบวชพระบวชเณร เป็นต้น Create Date : 03 มกราคม 2559 Last Update : 3 มกราคม 2559 16:42:20 น. 0 comments Counter : 1401 Pageviews.   Share Tweet ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก Comment :   *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet