จงไขว่คว้าแบบไม่เบียดเบียนถ้าอยากได้อยากมี แต่ถ้าได้เกินพอดีแล้วก็จงแบ่งปัน แค่นี้ก็สุขพอดีแล้ว



Group Blog
 
<<
มีนาคม 2554
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
31 มีนาคม 2554
 
All Blogs
 

วิถีธรรมชาติ Sami...วิถีชนพื้นเมืองในสวีเดน (ตอน 3_ไป Gammlia ดูเรนเดียร์ที่พิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง)

จากตอนที่แล้วคงได้ทราบกันแล้วว่า ชน Sami อาศัยอยู่ใน 4 ประเทศ แต่ทั้งนี้สภาพทางภูมิศาสตร์ไม่ได้แยกความเป็น Sami ของพวกเขาเลย เขาถือว่าพวกเขาอยู่และอาศัยในดินแดนเดียวกัน คือ Sápmi สืบมาตั้งแต่ครั้งบรรพชนจนถึงปัจจุบันมานานเป็นพันๆ ปี

Sami ใช้ภาษาเดียวกัน (Finno-Ugric languages) แต่อาจแบ่งแยกย่อยไปเป็นภาษาถิ่นที่ต่างกันไปตามถิ่นที่อาศัย มีเพลงชาติ Sámi soga lávlla (Samefolkets sång หรือ Song of the Sami People) มีวันชาติของตัวเอง (6 กุมภาพันธ์: Sami National Day) และมีธงชาติเป็นของตัวเอง



ธงที่ใช้เป็นสัญญลักษณ์เดียวกันมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1986 (พ.ศ. 2529) มีรูปแหวนวงกลมอยู่ตรงกลางของธง ครึ่งวงแหวนส่วนสีแดงสื่อถึงพระอาทิตย์ และครึ่งวงแหวนส่วนสีน้ำเงินคือพระจันทร์ โดยมีพื้น 4 สีที่เป็นสัญลักษณ์ขององค์ประกอบที่สำคัญในการอยู่รอดของ Sami สีเหล่านี้มักจะปรากฏบนชุดเครื่องแต่งกายพื้นเมือง (gákti หรือ Kolt)




อิอิ ยืมภาพที่เค้าแต่งชุด kolt มาตั้งแต่ตอนเล่าเรื่อง standing man นู่นแน่ะ









ถ้ามาเที่ยว Umeå ก็อย่าลืมเข้าไปชมพิพิธภัณฑ์เวสเตอร์บอตเตน (Västerbottens museum) ที่มีทั้งห้องจัดแสดงในอาคารต่างๆ รวมทั้งในพื้นที่ของ gamlia ที่จัดแสดงเป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งหรือ Gammlia friluftsmuseum เข้าชมฟรีค่ะ



วันนี้พาชมพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งในหน้าหนาวก่อนค่ะ ตอนนี้เค้าได้สร้างจำลองที่พักที่เรียกว่า Lavvu (Swedish: kåta "โค่ต้า") แคมป์ที่พักของชน Sami เวลาเค้าออกไปทำงานร่อนเร่ไปกับฝูงกวางเป็นระยะทางที่ไกลมาก จึงต้องมีที่พักในช่วงระหว่างนั้นค่ะ ซึ่งที่พิพิธภัณฑ์นี้ก็ได้ทำจำลองไว้เสร็จเรียบร้อยแล้ว…ไม่ดูก็คงไม่ได้ งั้นไปตามลายแทงนี้กันต่อเลยค่ะ









สิ่งก่อสร้างที่เดินผ่านมาเป็นที่พักอาศัยและโรงเรือนสำหรับการเกษตรกรรมของคนในท้องถิ่น (ตามที่เห็นในแผนที่ Gamlia ข้างบน) จึงยังไม่ใช่แคมป์ของ Sami ซึ่งเรายังเดินไปไม่ถึง...อดใจไว้ดูในตอนหน้านะคะ







เด็กๆ ชอบนั่งเจ้าแผ่นพลาสติกเรียกว่า "พูลก้า" (Sw. Pulka) ที่ผู้ปกครองจะลากพาเที่ยวไปบนพื้นหิมะ



…เจอธงแขวนไว้ ใช่แน่นอน



นี่แหละค่ะกวางเรนเดียร์ (Reindeer) สัตว์ที่มาคู่กันกับวิถีชีวิตชน Sami และเรียกกันในภาษาสวีดิช "เรน" (Sw. Ren) ส่วนเก้ง-กวางชนิดอื่นก็มีชื่อเรียกแตกต่างกันไปค่ะ... จำกันไม่ไหวหรอกค่ะ ต้องไปเข้าคอร์สล่าสัตว์ จะได้เห็นของจริง...แต่ไม่ล่ะค่ะบุญยังไม่มีโอกาสจะทำ ซ้ำจะเพิ่มความทุกข์ให้ชาวบ้าน Smiley งานนี้ขอบายค่ะ (บางคนอาจจะค้านถ้าถือว่าเป็นกีฬาชนิดหนึ่ง แหมใจนึงก็อยากทดสอบความแม่นค่ะ แต่กลัวจะมานั่งเศร้าไว้อาลัยกัน Smiley ทำชาวบ้านเสีย'รมณ์ไปอีก อยู่มันไปอย่างนี้แหละ แต่ถ้ามีโอกาสอยากจะลองขอตามเพื่อนไปดูเขาล่ากันค่ะ Smiley ทีนี้คงมีเรื่องเศร้าเคล้าน้ำตามาฝากกันแน่เลย แค่ดูคลิปวีดีโอที่ลงไปก่อนหน้านี้แล้วสองตอนก็อึ้งกิมกี่ซะทุกครั้งค่ะ อิอิ ถ้าดูละครไทยคิดเอาเองค่ะ ...ถึงว่ายุงชุม)

ในสวีเดนจะไม่มีกวางเรนเดียร์ (ป่า) อยู่ตามธรรมชาติ (ตามบัญชีแดงของสหภาพเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ IUCN-RE, Regionally Extinct) โดยจำนวนราว 260,000 ตัว ซึ่งจำนวนนี้มักจะไม่แน่นอนในแต่ละปี โดยขึ้นอยู่กับปริมาณการล่าหรือถูกนำไปชำแหละ กวางเรนเดียร์ถูกเลี้ยงและครอบครองได้เฉพาะสมาชิก (medlem "เม้ดเล่มม์" = member) ของชุมชน Sami ในพื้นที่นั้นๆ ซึ่งมีจำนวน 51 หมู่บ้าน (Sw. Sameby "ซอมเม่บีว์" คำว่า by "บีว์" = หมู่บ้าน...จำกันได้มั๊ยเอ่ย ตัวอักษร Y ออกเสียงยังไง บอกไปแล้วน๊าา) จึงนับว่าการทำกิจการกวางเรนเดียร์เป็นธุรกิจ Smiley ที่สร้างรายได้มากเลยทีเดียว




เจ้าของกวาง จำกวางของพวกเขาได้จากใบหู!


ใบหูที่ได้ถูกตัดขลิบ… คงเจ็บน่าดู Smiley ถ้าโชคดีกวางฝูงนั้นมีเจ้าของที่เป็นรุ่นแรกของกฎการครอบครองนี้ คงถูกขลิบแค่ 1-2 รอย แต่ถ้าเจ้าของเกิดใหม่คงพรุนไปทั้งหูแน่ อู๊ย… แต่เจ็บมากน้อยก็ไม่อาจรู้ได้ แค่เจาะใส่ตุ้มหูยังหวั่นเลย เพื่อความสวยศรีทนได้ อิอิ แต่เจ้ากวางน้อยต้องจำทนอย่างเดียวจะได้มีหูเหมือนแม่ไง

ฉะนั้นในช่วงราวเดือนพฤษภาคมก็จะเป็นช่วง kalvning "คัลฝ์นิ่ง" (ในภาษาอังกฤษ Eng. calving) ที่ลูกกวางคลอดออกมา หลังจากที่แม่กวางตั้งท้องมานานกว่า 225 วัน (ในคนราว 270 วัน) ลูกกวางแรกเกิดมีน้ำหนักราว 4-6 กิโลกรัม แล้วสักประมาณกลางเดือนมิถุนายน-กรกฎาคมก็จะเป็นกิจกรรมหนึ่งที่ลูกกวางต้องถูกทำเครื่องหมาย (kalvmärkning "คัลฝ์แมร์กนิ่ง" คำว่า märk = Eng. mark ...เห็นมั๊ยว่าบางคำในภาษาสวีดิชกับอังกฤษจะเพี้ยนกันไปนิดเดียวเอง) เพราะเหตุที่ว่า "ลูกใครหว่า" นี่เองที่รอไม่ได้ และด้วยเหตุที่ยังกินนมแม่อยู่ แม่ไปไหนลูกไปด้วย เรียนรู้ชีวิตจากแม่จนกว่าจะถึงฤดูใบไม้ร่วงก็จำต้องยืนด้วยลำแข้งตัวเองใช้ชีวิตต่อไปและอยู่รวมกันเป็นฝูง บางฝูงมีถึง 500 กว่าตัว ทีนี้วิธีการชี้ชัดว่าใครเป็นเจ้าของลูกกวางอีกนี่สิ เราก็อยากตามไปดูเหมือนกัน คงต้องหาโอกาสแล้วล่ะค่ะ แต่กรรมวิธีควานหาลูกกวางแล้วนำมาลงตราให้ถูกเจ้าของนี่ก็จะต่างกันไปแล้วแต่วิถีที่ยึดปฎิบัติกันมาของชน Sami ในแต่ละหมู่บ้าน

บางหมู่บ้านก็ยังใช้วิธีการเดิมที่ต้องอาศัยความชำนาญ คือการโยนบ่วงเชือกคล้องคอเจ้าลูกกวาง (มีในคลิบวีดีโอ ตอนที่แล้ว) โอ้...สุดยอดเลยค่ะ อย่างงี้ถ้ามาเที่ยวงานวัดบ้านเราคง เจ้าของเกมส์คงเจ๊งแน่ บางที่เค้าจะต้อนกวางมาเป็นกลุ่มเล็กๆ ก่อนแล้วกักไว้ในคอก ทีนี้ก็ร้องลั่นหาลูกหาแม่กันระงม Smiley ส่วนลูกที่กักไว้ก็จะใส่ปลอกคอก่อนที่จะปล่อยออกไป ด้วยสัญชาตญานความเป็นแม่ลูกกันเค้าก็จะเดินไปหากัน (มีหลงมั่งมั๊ยหนอ) จากนั้น (คน) ก็รีบวิ่งตามเชียว …พอเห็นหูของตัวแม่มีรอยบากอย่างนี้ก็จะตะโกนให้เจ้าของมาพรากลูกพรากแม่อีกรอบนึง นำมาเข้าคอกจัดการตีตราสมบัติตระกูลเชียวนะ ...คว้ามีดหมั๊บ ม่ะ ตัดให้ขาดเลย ชับชับชับ ทำให้เร็วจะไม่เจ็บ? เค้าว่างั้นค่ะ ราว 1 นาทีกว่าสำหรับหูสองข้างของกวางหนึ่งตัว... ถ้ากวางสามหูก็ขอหวย เอ๊ย คงไม่มีน่ะ ก็ถือเป็นอันเสร็จพิธี กวางแม่ลูกก็ได้อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขล่ะจ๊า

เนื่องจากกวางเรนเดียร์ถูกเลี้ยงแบบใช้ชีวิต (อิสระ) ในธรรมชาติ ซึ่งนอกเหนือจากภัยบนถนนหนทาง ภัยธรรมชาติ เช่น หิมะถล่ม ก็ยังเลี่ยงไม่ได้กับกลุ่มอันธพาลในป่า หมี สุนัขจิ้งจอกและอีกหลายๆ ชนิด มักจะได้กลิ่นสาบตัวอ่อนเอ๊าะๆ กระดูกอ่อนๆ เนื้อนุ่มๆ อิอิ น้ำลายสอ มักจะวนเวียนหาโอกาสกัน เฮ้อ ชีวิตหนอกว่าจะโตมาได้ ฉะนั้นการดูแลฝูงกวางจึงไม่ง่ายเลย ต้องคอยระวังภัย และคอยนับคอยต้อนตามกลับมาในเขตที่หากิน ให้อยู่ดีกินดี...น้ำหนักไม่ดีก็ราคาตกล่ะจ๊าแต่นี่เป็นเชิงการค้า ถ้ามองในมุมของการมีชีวิตของสัตว์ในเขตหนาว (มาก) ก็คงต้องเร่ร่อนหาที่อยู่ที่กินอันสมบูรณ์...ไปด้วยกันทั้งคนทั้งกวาง เพื่อการอยู่รอดของทั้งสองฝ่าย

ดังนั้นคงแยกจากกันไม่ได้เลยระหว่างชีวิตกับธรรมชาติ ถ้าขาดความสมดุลย์ก็อยู่กันอย่างลำบากค่ะ

การทำเครื่องหมาย (Renmärke "เรนแมร์กเก้อะ") เครื่องหมายที่เป็นรอยบากไว้ที่ใบหูของกวาง เป็นลักษณะเฉพาะที่ต้องได้รับการลงทะเบียนรูปแบบไว้ เพื่อจะได้ไม่ซ้ำกันและเครื่องหมายนี้ก็จะตกเป็นมรดกสืบทอดของครอบครัวหรือในหมู่เครือญาติ ทำให้สามารถตรวจสอบได้ว่าใครเป็นเจ้าของ ซึ่งกวางอาจถูกขายมาจากหมู่บ้าน Sami แห่งใดแห่งหนึ่ง หรือจากอุบัติเหตุเนื่องจากถูกรถไฟหรือรถยนต์ชนจนบาดเจ็บหรือเสียชีวิต (ถ้าคนรอด...อิอิ) ก็จะสามารถระบุลักษณะของรอยตัดที่ใบหู…ของกวาง แล้วแจ้งเหตุต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อตามติดต่อเจ้าของกวางได้ต่อไป


…ถ้าเป็นบ้านเราคงหิ้วเผ่นแจ้น เรียกคงไม่จอด อิอิ น่าสงสารคนขับรถส่งปลา ที่พัทลุงจัง Smiley



"ไลเคน" ของกินของชอบเค้าล่ะ


ในหน้าหนาวเจ้ากวางจะยังชีพโดยขุดหิมะหาอาหาร ...นึกๆ ไปเหมือนคนเข้าป่าหาขุดหน่อไม้ ผลไม้หรือป่าพืชอื่นๆ พวกมอส และที่ชอบที่สุดสมชื่อก็คือไลเคน (lichen) หรือเรนเดียร์มอส (reindeer moss: Cladonia rangiferina Sw. renlav "เร้นล้อฝว์ ") ที่ขึ้นบนพื้นทั่วไป




หน้าร้อนเราจะพบมอสไลเคนขึ้นแทรกทั่วไปกับผลไม้ป่าและพืชอื่นๆ ค่ะ แต่ถ้าหิมะคลุมหนาตึบล่ะก็เจ้ากวางก็ต้องใช้ประสาทสัมผัสจากจมูกแล้วก็คุ้ยๆๆๆ ถึงจะได้หม่ำ หรือเล็มตามต้นไม้ก็มีค่ะ



เรนเดียร์มอส (Reindeer moss: Cladonia rangiferina)


ไลเคนชนิด Renlav เติบโตช้ามากเพิ่มขึ้นได้แค่เพียงประมาณ 10% ต่อปี หากยังต้องมาเผชิญกับภาวะบรรยากาศโลกที่ถูกเปลี่ยนแปลงอีก ซึ่งแน่นอนค่ะความอยู่รอดของสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศน์นั้นก็คงต้องพยายามปรับตัว ...ไม่รอดก็ตาย!

หรืออ๊อบชั่นที่ 2 เป็นทางเลือกสำหรับกวางเรนเดียร์ถ้าหากสภาพอากาศหน้าหนาวนั้นโหดร้ายมาก มีแต่น้ำแข็ง...เจ็บขากีบอ่ะ แถมพื้นที่ป่าก็ถูกรบกวนจากการตัดโค่นทำลายป่า การสร้างทางใหม่ ทำให้แหล่งอาหารในธรรมชาติถูกจำกัดไปโดยปริยาย เจ้ากวางเหล่านี้หมดทางทำมาหากิน ก็ต้องยังชีพแบบเล่นของสูงถ้าเอื้อมถึงก็หาเล็มไปตามต้นไม้ต่างๆ ที่มีไลเคนชนิด Usnea (Sw. Hänglav "แฮ่งล๊อฟว์" häng = แขวน) ...จำง่ายๆ เพี้ยนมาจากภาษาอังกฤษ hang นั่นเอง

ที่น่าเป็นห่วงคือไลเคนอันเป็นแหล่งพลังงานต่อกวางในฤดูหนาว อุดมไปด้วยสารอาหารที่สำคัญคือ คาร์โบไฮเดรต ซึ่งไลเคนบางชนิดอาจมีคาร์โบไฮเดรตสูงถึงราว 90 % (lichenin หรือ moss starch) และโปรตีนนิดเดียวค่ะแค่ประมาณ 5 % และอื่นๆ ดังนั้นเจ้ากวางเรนเดียร์ก็ต้องดึงเอาโปรตีนของสะสมจากร่างกายมาใช้กันล่ะค่ะ และด้วยความโชคดี (หรือโชคร้ายกันแน่น๊อ) ที่เป็นสัตว์เศรษฐกิจเจ้าของก็ต้องขุนกันหน่อยล่ะค่ะ เค้ามีอาหารเม็ดสำเร็จรูปมาเสริมให้ในยามที่เกิดภาวะขาดแคลนอาหาร ...อิอิ สมัยก่อนกวางเป็นอาหารเลี้ยงคน แต่เดี๋ยวนี้คนต้องเลี้ยงอาหารกวางจ่ะ

เห็นมั๊ยคะว่ายังมีเรื่องอีกยาวที่ให้คิดพิจารณา... ทำไมเค้ามีชีวิตอยู่รอดมาได้ กิน-นอน-ยืนจ๊องหง่องท่ามกลางความหนาวเย็นสุดขั้ว Smiley




ส่วนในฤดูร้อน อาหารของพวกกวางส่วนใหญ่เป็นหญ้า ใบไม้ และพืชอื่น ๆ ที่เจริญเติบโตบนพื้นดิน นอกจากนี้ก็ยังมีเห็ดต่างๆ Smiley ที่เป็นของโปรดอีกอย่างหนึ่งด้วย

เล่าไปเล่ามาชักเรื่องยาว (ที่จริงมีอีกเย๊ออะSmiley) เรื่องกวางเลยเป็นเรื่องกว้าง ขออนุญาตต่อไปในตอน 4 ดีกว่า ไปดูที่อยู่ที่พักของชน Sami ในยุคเริ่มแรกกัน เพราะเดี๋ยวนี้เขาอยู่ในบ้านอย่างเราๆ นี่แหละค่ะ สบายกว่ากันเยอะ แต่เค้าก็ยังทำเก็บไว้เป็นบ้านในหน้าร้อน (Sw. Sommarstuga=ซอมม่าสตูก้า) ก็เปลี่ยนบรรยากาศไปได้อีกแบบค่ะ … เมื่อสบายแล้วอย่าลืมความเคยลำบากที่สอนให้เราแกร่งขึ้นและไม่ท้อที่จะสู้ต่อไปนะคะ




อิอิ ขอโทษนะครับผ๊ม อากาศมันเย็นอ่ะ เหงื่อก็ไม่ออก เอาออกทางนี้แย๊วกันครับ

ใครที่พลาดชมภาพคลิบวีดีโอในตอน 2 ย้อนไปดูได้นะคะ จะได้เห็นภาพตอนเค้าต้อนกวางเพื่อนำลูกกวางมาตัดทำเครื่องหมายที่ใบหูค่ะ และขออภัยนะคะ ถ้าหากภาษาที่นำมาใช้อ้างอิงไม่สามารถค้นเป็นภาษาไทยได้... แต่จะใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษารองค่ะ จากนั้นก็สวีดิชเลยค่ะ และคิดว่าถ้าดูที่ภาพประกอบแทนก็คงพอจะช่วยให้ได้เห็นและมีความเข้าใจชัดเจนขึ้นค่ะ Smiley



Free TextEditor




 

Create Date : 31 มีนาคม 2554
3 comments
Last Update : 1 สิงหาคม 2554 4:54:53 น.
Counter : 2287 Pageviews.

 

เป็นอีกประเทศที่น่าอยู่เลยจ๊ะ ตอนนั้นตามพ่อบ้านไปทำงาน ประทับใจประเทศนี้พอสมควรเลยจ้า ในเมืองก็มีอะไรให้ดูเยอะแยะ ออกข้างนอกก็อากาศดี ไปทางเหนือ อากาศก็ดีมาก ไปอยู่นั่นไม่เจ็บป่วยเลยส่วนตัว ปกติเดินทางจะไม่สบายตลอดพี่
(ทำบล๊อกได้น่ารักจัง)

 

โดย: por IP: 75.120.17.191 31 มีนาคม 2554 19:19:40 น.  

 

ขอบคุณน้อง Por มากๆ นะคะที่เข้ามาเยี่ยมทักทายกัน แหมชมซะเขินเลย แต่บล็อกนี้คงน่ารักไม่เท่ากับคนชมหรอกค่ะ ถ้าคิดถึงสวีเดนก็แวะมาดูรูปเพลินๆ ได้อีกนะคะ และขอให้มีความสุข-สนุกทุกครั้งกับการเดินทางค่ะ

 

โดย: ชีวิตนี้ขอแค่สุขพอดี 2 เมษายน 2554 15:00:11 น.  

 

ซิ่งรถมาเที่ยวสวีเดนค่ะ

 

โดย: Thip (Siriporn&Flemming ) 5 เมษายน 2554 3:12:21 น.  


ชีวิตนี้ขอแค่สุขพอดี
Location :
แพร่-Umeå Sweden

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






"ขอบคุณป้อแม่ปี้น้อง และยินดีจ๊าดนักที่มาเยือนเจ๊า พอดีมีก๋ำลังใจ๋ มีแฮงตี้จะหาเรื่อง (ดีดีม่วนม่วน) มาเล่าสู่กั๋นฟัง แล้วเฮาคงจะได้ป๊ะกั๋นแฮ๋มต่อไปเรื่อยๆ หนาเจ๊า"

myspace comments


ขอบขอบคุณทีมงาน Blogang ที่ได้ให้พื้นที่และ
แนะนำผู้มีพระคุณที่แสนจะใจดี ป้ามด ญามี่ KungGuenter lozocat และ...ทุกๆ คน (ค้นหากันได้ภายใต้กลุ่ม "การตกแต่ง Blog") จนสามารถสร้าง blog นี้ขึ้นมา...ก้าวต่อก้าว ได้เป็นรูปเป็นร่างประมาณนี้ค่ะ









Get this widget | Track details | eSnips Social DNA



MusicPlaylist
Music Playlist at MixPod.com










Umeå Weather











Friends' blogs
[Add ชีวิตนี้ขอแค่สุขพอดี's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.