นี่แหละค่ะกวางเรนเดียร์ (Reindeer) สัตว์ที่มาคู่กันกับวิถีชีวิตชน Sami และเรียกกันในภาษาสวีดิช "เรน" (Sw. Ren) ส่วนเก้ง-กวางชนิดอื่นก็มีชื่อเรียกแตกต่างกันไปค่ะ... จำกันไม่ไหวหรอกค่ะ ต้องไปเข้าคอร์สล่าสัตว์ จะได้เห็นของจริง...แต่ไม่ล่ะค่ะบุญยังไม่มีโอกาสจะทำ ซ้ำจะเพิ่มความทุกข์ให้ชาวบ้าน งานนี้ขอบายค่ะ (บางคนอาจจะค้านถ้าถือว่าเป็นกีฬาชนิดหนึ่ง แหมใจนึงก็อยากทดสอบความแม่นค่ะ แต่กลัวจะมานั่งเศร้าไว้อาลัยกัน ทำชาวบ้านเสีย'รมณ์ไปอีก อยู่มันไปอย่างนี้แหละ แต่ถ้ามีโอกาสอยากจะลองขอตามเพื่อนไปดูเขาล่ากันค่ะ ทีนี้คงมีเรื่องเศร้าเคล้าน้ำตามาฝากกันแน่เลย แค่ดูคลิปวีดีโอที่ลงไปก่อนหน้านี้แล้วสองตอนก็อึ้งกิมกี่ซะทุกครั้งค่ะ อิอิ ถ้าดูละครไทยคิดเอาเองค่ะ ...ถึงว่ายุงชุม)
ในสวีเดนจะไม่มีกวางเรนเดียร์ (ป่า) อยู่ตามธรรมชาติ (ตามบัญชีแดงของสหภาพเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ IUCN-RE, Regionally Extinct) โดยจำนวนราว 260,000 ตัว ซึ่งจำนวนนี้มักจะไม่แน่นอนในแต่ละปี โดยขึ้นอยู่กับปริมาณการล่าหรือถูกนำไปชำแหละ กวางเรนเดียร์ถูกเลี้ยงและครอบครองได้เฉพาะสมาชิก (medlem "เม้ดเล่มม์" = member) ของชุมชน Sami ในพื้นที่นั้นๆ ซึ่งมีจำนวน 51 หมู่บ้าน (Sw. Sameby "ซอมเม่บีว์" คำว่า by "บีว์" = หมู่บ้าน...จำกันได้มั๊ยเอ่ย ตัวอักษร Y ออกเสียงยังไง บอกไปแล้วน๊าา) จึงนับว่าการทำกิจการกวางเรนเดียร์เป็นธุรกิจ ที่สร้างรายได้มากเลยทีเดียว
เจ้าของกวาง จำกวางของพวกเขาได้จากใบหู!
ใบหูที่ได้ถูกตัดขลิบ
คงเจ็บน่าดู ถ้าโชคดีกวางฝูงนั้นมีเจ้าของที่เป็นรุ่นแรกของกฎการครอบครองนี้ คงถูกขลิบแค่ 1-2 รอย แต่ถ้าเจ้าของเกิดใหม่คงพรุนไปทั้งหูแน่ อู๊ย
แต่เจ็บมากน้อยก็ไม่อาจรู้ได้ แค่เจาะใส่ตุ้มหูยังหวั่นเลย เพื่อความสวยศรีทนได้ อิอิ แต่เจ้ากวางน้อยต้องจำทนอย่างเดียวจะได้มีหูเหมือนแม่ไง
ฉะนั้นในช่วงราวเดือนพฤษภาคมก็จะเป็นช่วง kalvning "คัลฝ์นิ่ง" (ในภาษาอังกฤษ Eng. calving) ที่ลูกกวางคลอดออกมา หลังจากที่แม่กวางตั้งท้องมานานกว่า 225 วัน (ในคนราว 270 วัน) ลูกกวางแรกเกิดมีน้ำหนักราว 4-6 กิโลกรัม แล้วสักประมาณกลางเดือนมิถุนายน-กรกฎาคมก็จะเป็นกิจกรรมหนึ่งที่ลูกกวางต้องถูกทำเครื่องหมาย (kalvmärkning "คัลฝ์แมร์กนิ่ง" คำว่า märk = Eng. mark ...เห็นมั๊ยว่าบางคำในภาษาสวีดิชกับอังกฤษจะเพี้ยนกันไปนิดเดียวเอง) เพราะเหตุที่ว่า "ลูกใครหว่า" นี่เองที่รอไม่ได้ และด้วยเหตุที่ยังกินนมแม่อยู่ แม่ไปไหนลูกไปด้วย เรียนรู้ชีวิตจากแม่จนกว่าจะถึงฤดูใบไม้ร่วงก็จำต้องยืนด้วยลำแข้งตัวเองใช้ชีวิตต่อไปและอยู่รวมกันเป็นฝูง บางฝูงมีถึง 500 กว่าตัว ทีนี้วิธีการชี้ชัดว่าใครเป็นเจ้าของลูกกวางอีกนี่สิ เราก็อยากตามไปดูเหมือนกัน คงต้องหาโอกาสแล้วล่ะค่ะ แต่กรรมวิธีควานหาลูกกวางแล้วนำมาลงตราให้ถูกเจ้าของนี่ก็จะต่างกันไปแล้วแต่วิถีที่ยึดปฎิบัติกันมาของชน Sami ในแต่ละหมู่บ้าน
บางหมู่บ้านก็ยังใช้วิธีการเดิมที่ต้องอาศัยความชำนาญ คือการโยนบ่วงเชือกคล้องคอเจ้าลูกกวาง (มีในคลิบวีดีโอ ตอนที่แล้ว) โอ้...สุดยอดเลยค่ะ อย่างงี้ถ้ามาเที่ยวงานวัดบ้านเราคง เจ้าของเกมส์คงเจ๊งแน่ บางที่เค้าจะต้อนกวางมาเป็นกลุ่มเล็กๆ ก่อนแล้วกักไว้ในคอก ทีนี้ก็ร้องลั่นหาลูกหาแม่กันระงม ส่วนลูกที่กักไว้ก็จะใส่ปลอกคอก่อนที่จะปล่อยออกไป ด้วยสัญชาตญานความเป็นแม่ลูกกันเค้าก็จะเดินไปหากัน (มีหลงมั่งมั๊ยหนอ) จากนั้น (คน) ก็รีบวิ่งตามเชียว
พอเห็นหูของตัวแม่มีรอยบากอย่างนี้ก็จะตะโกนให้เจ้าของมาพรากลูกพรากแม่อีกรอบนึง นำมาเข้าคอกจัดการตีตราสมบัติตระกูลเชียวนะ ...คว้ามีดหมั๊บ ม่ะ ตัดให้ขาดเลย ชับชับชับ ทำให้เร็วจะไม่เจ็บ? เค้าว่างั้นค่ะ ราว 1 นาทีกว่าสำหรับหูสองข้างของกวางหนึ่งตัว... ถ้ากวางสามหูก็ขอหวย เอ๊ย คงไม่มีน่ะ ก็ถือเป็นอันเสร็จพิธี กวางแม่ลูกก็ได้อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขล่ะจ๊า
เนื่องจากกวางเรนเดียร์ถูกเลี้ยงแบบใช้ชีวิต (อิสระ) ในธรรมชาติ ซึ่งนอกเหนือจากภัยบนถนนหนทาง ภัยธรรมชาติ เช่น หิมะถล่ม ก็ยังเลี่ยงไม่ได้กับกลุ่มอันธพาลในป่า หมี สุนัขจิ้งจอกและอีกหลายๆ ชนิด มักจะได้กลิ่นสาบตัวอ่อนเอ๊าะๆ กระดูกอ่อนๆ เนื้อนุ่มๆ อิอิ น้ำลายสอ มักจะวนเวียนหาโอกาสกัน เฮ้อ ชีวิตหนอกว่าจะโตมาได้ ฉะนั้นการดูแลฝูงกวางจึงไม่ง่ายเลย ต้องคอยระวังภัย และคอยนับคอยต้อนตามกลับมาในเขตที่หากิน ให้อยู่ดีกินดี...น้ำหนักไม่ดีก็ราคาตกล่ะจ๊าแต่นี่เป็นเชิงการค้า ถ้ามองในมุมของการมีชีวิตของสัตว์ในเขตหนาว (มาก) ก็คงต้องเร่ร่อนหาที่อยู่ที่กินอันสมบูรณ์...ไปด้วยกันทั้งคนทั้งกวาง เพื่อการอยู่รอดของทั้งสองฝ่าย
ดังนั้นคงแยกจากกันไม่ได้เลยระหว่างชีวิตกับธรรมชาติ ถ้าขาดความสมดุลย์ก็อยู่กันอย่างลำบากค่ะ
การทำเครื่องหมาย (Renmärke "เรนแมร์กเก้อะ") เครื่องหมายที่เป็นรอยบากไว้ที่ใบหูของกวาง เป็นลักษณะเฉพาะที่ต้องได้รับการลงทะเบียนรูปแบบไว้ เพื่อจะได้ไม่ซ้ำกันและเครื่องหมายนี้ก็จะตกเป็นมรดกสืบทอดของครอบครัวหรือในหมู่เครือญาติ ทำให้สามารถตรวจสอบได้ว่าใครเป็นเจ้าของ ซึ่งกวางอาจถูกขายมาจากหมู่บ้าน Sami แห่งใดแห่งหนึ่ง หรือจากอุบัติเหตุเนื่องจากถูกรถไฟหรือรถยนต์ชนจนบาดเจ็บหรือเสียชีวิต (ถ้าคนรอด...อิอิ) ก็จะสามารถระบุลักษณะของรอยตัดที่ใบหู
ของกวาง แล้วแจ้งเหตุต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อตามติดต่อเจ้าของกวางได้ต่อไป
ถ้าเป็นบ้านเราคงหิ้วเผ่นแจ้น เรียกคงไม่จอด อิอิ น่าสงสารคนขับรถส่งปลา ที่พัทลุงจัง
(ทำบล๊อกได้น่ารักจัง)