|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
เมื่อแม่ค้า กลายเป็น "ครู"
ครูครับ สีมีก่อครับ
ฉันเงยหน้า ละสายตาจากหนังสือที่เปิดอ่านเพื่อให้คลายจากความเครียดทันทีที่ได้ยินเสียงถาม หัวคิ้วที่ขมวดเป็นปมนั้นค่อยๆคลายออกจากกัน เมื่อเห็นว่าคนพูดเป็นใคร
มีก่า เอาสีหยังดีกา สีน้ำกะว่าสีเตียนเจ้า คำถามพร้อมรอยยิ้มอ่อนโยนให้กับลูกค้าที่ยืนยิงฟันอยู่ตรงหน้า ความรู้สึกแข็งกระด้างจางหายไปเกือบครึ่งก็ว่าได้ ยามเมื่อเห็นว่าลูกค้าคนนั้น คือใคร
เป็นเวลาเกือบสิบปีเห็นจะได้ ที่ฉันกลายเป็นคนยิ้มยาก ชีวิตนี้มีแต่งานและความรับผิดชอบที่เพิ่มขึ้น ทำให้ฉันกลายเป็นคนแข็งกระด้างไปโดยไม่รู้ตัว งาน เงิน ธุรกิจ การแข่งขัน เติบโตขึ้นพร้อมกับอายุ แต่นั่นก็หมายถึงภาระทุกอย่างที่ต้องแบกรับไว้เสมือนเงาเฉกเช่นเดียวกัน
คำเรียกขาน ที่บรรดาลูกค้าหลายๆคนขานเรียกนั้น ทำให้หลายต่อหลายคนเข้าใจผิดมานักต่อนัก ยิ่งกว่านั้นบางคนเรียกซะหรูว่า อาจารย์ กันเลยทีเดียว ทั้งๆที่ความจริง ฉันจบบัญชีจากมหาวิทยาลัยเอกชนและไม่เคยสอนหนังสือที่ไหนมาก่อนเลย หากจะมี ก็คงจะมีแต่โรงเรียนชีวิตกระมัง
ลูกศิษย์ เหมือนต้นไม้จากต้นเล็กๆ ก็กลับกลายเป็นต้นไม้ใหญ่ ที่ค่อยๆเจริญงอกงาม ตามวันเวลา ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ฉันเองมีส่วนในการให้น้ำ พรวนดินต้นไม้หลายๆต้นนั้น เป็นความภาคภูมิใจที่ฉันเก็บไว้ลึกสุดเสมอ จากประถม เข้าสู่มัธยม และกำลังจะก้าวเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัย บัดนี้ต้นไม้หลายๆต้น เริ่มแผ่กิ่งก้านสาขาร่มรื่น พลอยทำให้ฉันรู้สึกชื่นใจไปด้วย
ช่วงระหว่างที่ลูกค้าและลูกศิษย์เลือกของในร้าน ฉันนึกย้อนอดีตกลับไปเมื่อประมาณสิบกว่าปีที่ผ่านมา ทุกฉาก ทุกตอน ภาพเด่นชัดไม่พร่าซีดเหมือนรูปถ่ายทั่วๆไป เพราะภาพทุกภาพฉันแต่งแต้มและเก็บรักษาไว้อย่างดี ด้วยอัลบั้ม ใจ ของฉันเอง
โด เร มี ฟา ซอล ลา ที โด๊
เสียงครูและลูกศิษย์ตัวน้อยๆประสานเสียงกันดังเซ็งแซ่ภายในวัด บริเวณศาลาบาตร วัดพร้าวหนุ่ม ในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์จะเป็นที่นัดชุมนุมระหว่างครูสอนดนตรีพื้นเมือง กับลูกศิษย์ที่สนใจในด้านนี้ โดยการเรียนการสอนนั้นไม่มีค่าตอบแทนอันใด นอกจากน้ำใจและสิ่งที่ต้องการถ่ายทอด อย่างเต็มเปี่ยม ใครอยากเรียน หากใจรัก ที่นี่เปิดรับทุกคนด้วยใจเช่นกัน
เด็กน้อยอายุราวๆ4-6ขวบ นั่งหน้าสลอนประมาณ30กว่าชีวิต แถวยาวเหมือนทหาร ถูกจัดเป็นระเบียบ จำนวนคนและเครื่องดนตรีครบชุด ใครถนัดซึง สะล้อ ขลุ่ย กลอง ฉิ่ง ฉาบ ให้เลือกตามความสมัครใจไม่มีการการบังคับกะเกณฑ์
ถึงแม้จะต้องตะโกนจนเสียงแหบเสียงแห้ง แต่ครูหลายๆคนก็ยังรู้สึกสนุกกับการสอนลูกศิษย์ตัวน้อยๆกันอยู่ราวกับลดอายุกันเลยทีเดียว ฉันสอนลูกศิษย์ให้ไล่เสียงตัวโน๊ตดนตรีให้คล่อง แต่กว่าเสียงแจ้วๆจะพร้อมกันได้นั้น เล่นเอาบรรดาครูสมัครเล่นหลายคนแทบจะลมจับกันเลยทีเดียว เด็กๆเหมือนปู เราทุกคนต้องไล่จับปูใส่กระด้ง แถมเป็นกระด้งใหญ่ซะด้วย
เด็กชาย เด็กหญิง บางคนทะโมน บางคนเรียบร้อย บางคนยิ้มอย่างเดียว บางคนแก่นแก้วเหลือหลาย บางคนกล้าๆกลัวๆ บางคนเหนียมอาย แทบจะเรียกได้ว่า รู้นิสัยใจคอกันเลยทีเดียวแหล่ะว่าแต่ละคนเป็นยังไง จากวันเป็นเดือน จากเดือนเป็นปี ลูกศิษย์หลายคนสามารถเล่นดนตรีพื้นเมืองได้คล่อง บางคนมีพรสวรรค์ มีลูกเล่นแพรวพราว หยิบจับเครื่องดนตรีได้หลายชนิด บางคนเล่นเก่ง เสียงไพเราะเชียวแหล่ะ พลอยทำให้ครูยิ้มหน้าบานยิ่งกว่าจานเชิงซะอีก บางทีนึกครื้มๆเวลามีงานวัดงานบุญที่ไหน ทั้งครู พี่เลี้ยง และลูกศิษย์ก็จะกระเตงกันไปช่วยงานบุญแบบไม่มีค่าตอบแทนเสมอ เป็นการฝึกปรือฝีมือไปในตัว บางที่เจ้าภาพใจดีเลี้ยงขนม บางที่เลี้ยงข้าว ถึงบางที่จะไม่เลี้ยงอะไรเลยก็ไม่มีปัญหาเพราะครูเลี้ยงอยู่แล้ว ก็ลองไม่เลี้ยงดูซิ ลูกอ้อนทั้งหลายแหล่ที่พ่อเจ้าพระคุณทูนหัวของครูสรรหามาอ้อนนั้น ทำให้ครูปฏิเสธย๊ากกกชะมัด
ครูครับ ครูขา หนูหิววววววววววว มั่งล่ะ ครูจ๋า ครูใจดี๊ ใจดี บ้างล่ะ ครูคนสวย บ้างล่ะ และ ฯลฯ........(เสียงนกกระจอกแตกรัง)
เลยทำให้ใจไม่แข็งพอสักกะที บางคนยิ่งกว่านั้น ถ้าอยากกินหนมที่ถูกใจเค้า ก็มักจะมีคำเรียกขานฉันแปลกออกไปจากทุกที เพื่อทำให้ฉันต้องรีบควักตังค์จ่ายโดยเร็ว แต่เป็นการจ่ายด้วยความเต็มใจนะ จะว่าขำก็ขำ ฉุนก็ฉุน ไปๆมาๆกลายเป็นเอ็นดูทุ๊กที ก็นี่ไงคะ เรียกซะแบบนี้แหล่ะค่ะ
แม่ขา จนฉันสะดุ้งตาเหลือกก็ออกจะบ่อยไป บางทีก็พร้อมใจกันเรียก แม่ กันทั้งโขยงเลยทีเดียว เวลาไปไหนแต่ละทีฉันเลยมองดูคล้ายๆมีลูกหลายคนซะงั้น!
นึกมาถึงตอนนี้แล้วต้องแอบยิ้มกับตัวเอง มาถึงวันนี้แล้ว หลายคนกำลังจะเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัย ทุกคนเติบใหญ่ ก้าวไปสู่ทางชีวิตที่ได้เลือกกันไว้
สิ่งที่ฉันภูมิใจก็คือ ถึงแม้ว่าจะได้สอนไปเพียงแค่รุ่นเดียวก็ตาม แต่ไม่ว่าวันเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน หากพวกเค้าทุกคนได้พานพบฉัน ไม่ว่าที่ไหน หนุ่ม-สาวเหล่านั้นจะยกมือไหว้พร้อมกับเรียกคำว่า ครู เสมอ
สิ่งที่ฉันหวังไว้ก็คือ การบ่มเมล็ดพันธุ์แห่งความอ่อนโยนในจิตใจ ผ่านตัวโน๊ตดนตรีให้พวกเค้าไปนั้น คงจะทำให้พวกเค้ามีจิตใจที่อ่อนโยนและกลายเป็นคนดีของสังคมสืบต่อไป เมล็ดพันธุ์ของฉัน คงจะเติบใหญ่เพื่อให้ฉันได้ชื่นใจในกาลภายหน้า ฉันหวังไว้เพียงแค่นั้น จริงๆ
Create Date : 09 มิถุนายน 2551 |
|
9 comments |
Last Update : 9 มิถุนายน 2551 23:02:23 น. |
Counter : 660 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: แม่ไก่ 14 มิถุนายน 2551 16:48:03 น. |
|
|
|
| |
โดย: เจ๋วะรัฐถะ IP: 124.157.158.122 14 มิถุนายน 2551 19:50:18 น. |
|
|
|
| |
โดย: เจ๋วะรัฐถะ IP: 124.157.154.165 15 มิถุนายน 2551 21:47:46 น. |
|
|
|
| |
โดย: ลูกสาวแม่บัว IP: 117.47.0.125 25 มิถุนายน 2551 11:25:13 น. |
|
|
|
| |
โดย: เจ๋วะรัฐถะ IP: 124.157.154.201 29 มิถุนายน 2551 17:47:57 น. |
|
|
|
| |
โดย: jimmy IP: 222.123.210.83 5 กรกฎาคม 2551 14:22:54 น. |
|
|
|
| |
โดย: ลูกสาวแม่บัว IP: 117.47.3.74 9 กรกฎาคม 2551 11:35:00 น. |
|
|
|
|
|
|
|
ดูแลใส่ปุ๋ยให้เมล็ดพันธุ์เติบใหญ่เป็นไม้โต แล้วจะกลายพันธุ์เป็นอย่างอื่นหรือไม่
คงต้องรอตอนออกผล
เปนกะลังจัยให้ จ๊ะ