Bloggang.com : สมาชิกหมายเลข 4587263 - ชวนมาฟังเพลง Spring day และ one of these night วิเคราะห์เพลงที่ทำให้คิดถึงเพื่อนที่จากไปแล้ว

ชวนมาฟังเพลง Spring day และ one of these night วิเคราะห์เพลงที่ทำให้คิดถึงเพื่อนที่จากไปแล้ว

ชวนมาฟังเพลง

Spring day (BTS) และ One of these night ( Red velvet )

มาวิเคราะห์เพลงที่ทำให้คิดถึงเพื่อนที่จากไปแล้ว

สวัสดีค่ะเพื่อนๆชาวบล็อกแก๊งค์ทุกคน ในวันว่างๆหรือเวลาว่างๆเพื่อนๆทุกคนทำอะไรกันคะ? ดูหนัง อ่านหนังสือ เที่ยว ช้อปปิ้ง หรือฟังเพลง เล่นกีฬา เล่นดนตรี น่าสนใจใช่ไหมคะ? เพื่อนๆทุกคนอาจจะมีงานอดิเรกที่ชื่นชอบเป็นของตัวเอง เราเองก็เหมือนกันค่ะ เวลาที่ว่างจากการเรียนและทำกิจกรรมมหาวิทยาลัยแล้ว เราชอบที่จะ ฟังเพลง K-pop และ อ่านบทความวิเคราะห์เพลง K-pop ค่ะ อาจดูเครียดๆแต่มันก็เป็นอีกตัวเลือกที่ไม่เลวแถมได้ความรู้ใหม่ๆ ได้รู้จักอะไรใหม่ๆเยอะเลยค่ะ

และวันนี้เราจะมาแนะนำเพลง K-POP ที่ฟังง่ายและมีความหมายดีๆกันค่ะ นั่งก็คือเพลง Spring day ของกลุ่มไอดอลเกาหลีคุณภาพ บังทันโซยอนดัน หรือ BTS จาก อัลบั้ม You Never Walk Alone ซึ่งปล่อยออกมาในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2017 และเพลง One of these night ของกลุ่มไอดอลเกิร์ลกรุ๊ป Red velvet จากมินิอัลบั้มที่2 The Velvet ซึ่งปล่อยออกมาในวันที่ 16 มีนาคม 2016 กันค่ะ

ซึ่งเราคิดว่าเพลงนี้เหมาะสำหรับเพื่อนๆที่ไม่ใช่แฟนเคป๊อบและอยากจะลองฟังดูมากๆ เพราะสไตล์เพลงออกสากลทำให้ฟังง่ายไม่ร้อง ' ห๊ะ ' เมื่อฟังครั้งแรกแน่นอนค่ะ

จะเป็นยังไงนั้นเรามาเริ่มฟังเพลงแรก Spring day พร้อมกันดีกว่าค่ะ

Spring day ( BTS )

ฟังเพลงแล้วมา วิเคราะห์ เพลงให้พอกรุบกริบๆกันเถอะค่ะ

เพลง Spring day หรือ บมนัล '봄날' โดยรวมแล้วเพลงนี้ให้ความรู้สึกถึงช่วงฤดูใบไม้ผลิใช่มั้ยคะ แต่เพื่อนๆบางคนอาจจะสงสัยว่ามันเกี่ยวกันอย่างกับชื่อเพลงล่ะ? เพลงนี้นะคะถูกปล่อยออกมาในช่วงใกล้เข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิของเกาหลีหรือช่วงท้ายของฤดูหนาวนั่นเอง ซึ่งมันเกี่ยวกับเนื้อเพลงที่จะกล่าวในส่วนต่อไปด้วยค่ะ

เพลงนี้เป็นเพลงที่เราชอบมากๆทั้งในความหมายของเพลง ด้านตัวเอ็มวีที่มีความเป็นศิลปะอาร์ตๆ รวมไปถึงเรื่องราวในเอ็มวีที่สื่อไปถึงเหตุการณ์ต่างๆให้แฟนคลับได้วิเคราะห์ได้อย่างลงตัว

มาเริ่มที่ เนื้อเพลงชวนคิดถึงเพื่อนรัก กันดีกว่าค่ะ

เพลง Spring day โดยรวมสรุปแล้วมีความหมายถึง

การอยู่คนเดียวโดดเดี่ยวท่ามกลางความหนาวเหน็บโดยไม่มีเธอเพื่อนรัก

และบอกให้รอก่อนนะหมดหนาวนี้และใบ้ไม้ผลิกลับมาอีกครั้ง

อยู่ตรงนั้นให้นานกว่านี้ให้ดอกไม้เบ่งบาน

แล้วเราคงจะได้พบกัน

เราชอบตรงที่เพลงนี้เป็นการเขียนถึงเพื่อนได้ละมุนมากจริงๆ และเปรียบเทียบความเหงาเป็นฤดูหนาวได้ลงตัวมากๆค่ะ ยิ่งการเปรียบเปรยมากมายทั้งฤดูกาล หิมะ ดอกไม้ ทุกอย่างมันดูเหงาและสวยงามมีความหวังอย่างบอกไม่ถูก

ซึ่งบังทันได้ปล่อยเพลงนี้ในช่วงที่คนเกาหลีเขาเปรียบเปรยเอาไว้ว่าเป็นช่วงที่ฤดูหนาวนั้นใกล้จะหมดลงไปแล้ว ช่วงที่ความหนาวเริ่มหายไปจนดอกไม้ผลิบาน แต่ความหนาวนั้นได้พีคขึ้นส่งท้ายก่อนจะหมดฤดู เปรียบเปรยก็คือความหนาวที่อิจฉาดอกไม้ที่กำลังจะผลิบาน ทำให้ตรงกับในเนื้อเพลงที่มีหลายท่อนสื่อความหมายถึงว่า

"เธอกำลังจะเปลี่ยนไป(สื่อถึงเพื่อนหรือดอกไม้) ฉันเกลียดที่เธอเปลี่ยนไป ฉันอยากจะเกลียดแต่ฉันทำไม่ได้(แกล้งให้หนาวอีกครั้งแต่แค่ระยะสั้นๆ) ฉันคิดถึงเธอเหลือเกิน (ปล่อยให้ดอกไม้ผลิบาน)"

และในเนื้อเพลงยังมีคนวิเคราะห์กันว่าบังทันอยากจะสื่อถึงเหตุการณ์เรือเซวอล (จะอ้างอิงในส่วนต่อไปค่ะ) ว่าคิดถึงเพื่อนที่จากไปแล้ว และเฝ้ารอคอยอย่างมีความหวังว่าจะกลับมาได้พบกันอีกครั้ง (พบเจอร่างที่สาปสูญ) ซึ่งในเหตุการณ์เรือเซวอลนี้มีหลายอย่างในตัวบทเพลงเลยค่ะว่าสื่อถึงได้ใกล้เคียงเลยทีเดียว

แต่แค่เพลงเนื้อหาสวยแล้วยังไม่พอ เอ็มวียังภาพสวยมากแถมยังมีเรื่องราวและสัญลักษณ์ที่แทงใจมากจริงๆ ไปกันที่เอ็มวีกันต่อดีกว่าค่ะ

MV อย่างกับหนังสั้น วิเคราะห์จนโลกหมุน

ถ้าเพื่อนๆคนไหนที่เป็นแฟนคลับของวง BTS อยู่แล้วคงจะทราบกันดีว่าวงนี้มีจุดเด่นที่ตัว MV นั้นมีเนื้อหาเป็นเรื่องราวต่อกันมาหลายต่อหลายอัลบั้มแล้ว ตั้งแต่ MV เพลง I Need U ในปี 2015 มาจนถึงเพลงล่าสุดอย่าง Fake love ในปี 2018 อาจจะเกี่ยวข้องตรงๆหรือเกี่ยวข้องเล็กน้อย แต่เหล่าอาร์มี่(แฟนคลับ)คาดว่าจะต่อยาวไปอีกไม่รู้จักจบสิ้นเป็นมหากาฬแข่งกับจักรวาลมาเวลแน่นอนค่ะ5555

แต่เราจะไม่กล่าวไปยาวขนาดนั้น เราจะขอยกมาพูดแค่หนึ่งทฤษฏีเล็กๆ(เราชอบเป็นการส่วนตัว)ที่คาดว่าใกล้เคียงที่สุดของเพลงนี้มาแล้วกันนะคะ ซึ่งในแกนหลักของตัว MV เหล่าแฟนคลับวิเคราะห์ไปว่าน่าจะเป็นทฤษฏี Omelas จากหนังสือชื่อ The Ones Who Walk Away from Omelas เขียนโดย Ursula K. Le Guin มากที่สุด แต่ในที่นี้เราจะมากล่าวถึงทฤษฏีรองที่แทรกมาเพียงเล็กน้อยอย่าง ' เรือเซวอล ' กันค่ะ

ทฤษฏี เรือเซวอล โศกนาฏกรรมที่ไม่อาจลืมเลือน

เหตุการณ์นี้ต้องย้อนไปในวันที่ 16 เมษายน 2014 ค่ะ เป็นวันที่เรือเซวอล เรือข้ามฟากของประเทศเกาหลีใต้นั้นอัปปางลงกลางทะเล ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก และส่วนมากเป็นนักเรียนระดับมัธยมปลายที่ไปทัศนศึกษาค่ะ

Spring day ถูกปล่อยหลังจากเหตุการณ์นี้ 3 ปี ซึ่งเท่าที่อ่านบทวิเคราะห์ในเว็บต่างๆ MV เพลง Spring Day จะเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นมีส่วนเล็กๆที่เชื่อมโยงกันอยู่ดังนี้ค่ะ

1. นาฬิกาและกระจกที่ไม่มีเงาสะท้อน ในฉากห้องเครื่องซักผ้าของจินและจีมิน

เป็นที่ฮือฮากันในช่วงแรกๆเลยค่ะเพราะตอนแรกเหล่าอาร์มี่วิเคราะห์กันไปต่างๆนาจนมีคนมาสังเกตว่าเวลาของนาฬิกาใน MV Spring day นั้นตรงกันกับเวลาเกิดเหตุของเรือเซวอล ทำให้แฟนคลับพุ่งตรงการวิเคราะห์ไปถึงเหตุการณ์เรือเซวอลอย่างไม่มีข้อกังขาค่ะ

และในฉากเดียวกันนั่นเองคือสังเกตไหมคะว่าในห้องนั้นมีจีมินที่นั่งอยู่บนเครื่องซักผ้าซึ่งอยู่ตรงข้ามกับเครื่องซักผ้าที่จินยืนอยู่ และพอกล้องตัดมาที่ตัวเครื่องกลับมีแค่จินที่มีเงาสะท้อนอยู่ในกระจกเท่านั้น (หมายถึงว่าจีมินอาจเป็นตัวแทนของคนที่ได้จากไปแล้ว)

2. รองเท้าที่จีมินเก็บได้

ในบทวิเคราะห์บอกว่า รองเท้าที่จีมินเก็บได้จากทะเล และนำไปแขวนไว้ที่ต้นไม้นั้น จะสื่อถึงการไว้อาลัยผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์นี้ โดยรองเท้านั้นเปรียบเสมือนรองเท้าของผู้เคราะห์ร้าย และจีมินเป็นผู้ที่เก็บมันขึ้นมาได้ จึงนำไปแขวนไว้เพื่อเป็นการรำลึกถึง (เป็นความเชื่อของคนเกาหลีค่ะว่าถ้าเอารองเท้าของผู้ที่เสียชีวิตไปแขวนไว้บนต้นไม้ จะให้ให้พวกเขาไปถึงสวรรค์ด้วยรองเท้านั้น)

3. การเฝ้ามองจากใต้ท้องเรือ

ในฉากนี้จะเห็นได้ว่าจินจะทำมือเป็นสัญญาลักษณ์บางอย่าง ซึ่งอาจจะสื่อถึงการเฝ้ามองจากใต้ท้องเรือที่กำลังจะจมลงไปหรือการถูกกังขังไม่สามารถจะหนีตามเพื่อนไปได้และทำได้แค่เฝ้ามองเพียงเท่านั้น

เราขอยกแค่ตัวอย่างสั้นๆของการวิเคราะห์ในส่วนของ MV ไว้เพียงเท่านี้นะคะ เพราะนอกเหนือจากนี้จะเป็นแค่รายละเอียดยิบย่อยที่เกี่ยวข้องเพียงเล็กน้อยเท่านั้นค่ะ เรามาต่อกันที่ท่าเต้นซึ่งเป็นส่วนที่เราชอบที่สุดกันเลยดีกว่า

ท่าเต้นอันทรงพลังแต่ในเวลาเดียวกันก็อ่อนโยน

ท่าเต้นที่ค่อนข้างเด่นชัดของเหตุการณ์เรือเซวอลที่ค่อนข้างจะชัดเจนจะมีอยู่ 3 จุดใหญ่ๆด้วยกันค่ะ

1. เจโฮปคือผู้รอดชีวิตส่วนจีมินคือผู้ที่ยังติดอยู่ในเรือ

ในตอนเริ่มบทเพลงนั้นจะเห็นว่าจีมินคือคนที่ทำท่าเหมือนพยายามตะเกียดตะกายขึ้นมากน้ำทะเลอันเยือกเย็น และจะมีมือของเจโฮปที่ยื่นขึ้นไปจนสุดพ้นน้ำทะเลแล้ว(ในขณะที่คนอื่นๆประกบกันเหมือนตัวเรือ) จะเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าจีมินไม่สามารถที่จะขึ้นไปได้เหมือนกับเจโฮปทำให้ตัวเองกลับมานั่งอยู่คนเดียวและถูกคลื่นทะเลซัดหายไปและเป็นเจโฮปที่หันหลังกลับมาแล้วร้องเพลงประโยคแรก "ฉันคิดถึงเพียงเธอ"

เปรียบเทียบก็คือเจโฮปคือเพื่อนที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ในขณะที่จีมินไม่สามารถขึ้นมาจากน้ำทะเลได้และถูกพัดหายสาปสูญไปและเจโฮปยังคือคิดถึงเพื่อนที่จากไปอย่างมีความหวัง

2.ถ้าเราไม่วิ่งเราจะตายกันหมด

ในส่วนนี้เป็นส่วนที่วีเดินแยกตัวออกมานั่งคุกเข่ากุมมืออยู่ที่อก ถ้าดูเฉยๆอาจเป็นแค่หนึ่งในท่าเต้นธรรมดา แต่ถ้าหากเราย้อนไปอ่านความหมายของท่อนที่วีและจินร้องในช่วงของท่าเต้นนี้แล้วจะทำให้เข้าใจมากยิ่งขึ้นค่ะ โดยท่อนนี้ร้องว่า

You know it all
คุณรู้ทุกอย่าง
You’re my best friend
คุณคือเพื่อนที่ดีที่สุดของผม
아침은 다시 올 거야
อาชีมึน ทาชี อล กอยา
เช้าวันใหม่จะกลับมาอีกครั้ง

어떤 어둠도
ออดอน ออทุมโด
เพราะไม่มีความมืดมิด
어떤 계절도
ออดอน คเยจอลโด
หรือฤดูกาลใด
영원할 순 없으니까
ยองวอนฮัล ซุน ออบซือนีกา
ที่จะคงอยู่ไปตลอดการ

และเมื่อมาประกอบกับท่าทางของวีในเพลงแล้วเหมือนเป็นการปลอบประโลมตัวเองว่าเธอก็รู้อยู่แล้วว่าเธอเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดสำหรับฉัน ตอนนี้มันอาจจะมืดมิดและหนาวเหน็บแต่ไม่นานเช้าวันใหม่จะกลับมาอีกครั้ง และจินที่เดินตามมาทีหลังเดินมาจับไหล่ของวีเอาไว้ปลอบวีถ้าในเนื้อเพลงจะเป็นการปลอบในเชิงให้ความหวัง แต่ถ้าดูในท่าเต้นจะเหมือนการมาบอกว่า "ถ้าเราไม่รีบออกจากเรือเราจะตายกันหมด"ซึ่งนั่นทำให้ทั้งสองรีบวิ่งกลับมาหากลุ่มเพื่อนอีกครั้ง

3.เราได้เจอกันอีกครั้งแล้วนะ

ท่าเต้นนี้เป็นฉากจบของบทเพลงค่ะ โดยที่ตอนจบจะกลับมาอยู่คล้ายๆกับตอนเริ่มเพลงที่คลื่นได้ซัดกลับมาอีกครั้งและเห็นจีมินนั่งอยู่คนเดียวในเรือและน้ำทะเลที่หนาวเย็นจนจินเดินมาจับมือไว้นั่งลงตรงหน้าและกอดจีมิน เปรียบได้เสมือนว่าจีมินคือเพื่อนที่จากไปแล้ว(เสียชีวิตภายในเรือ)และจิน(ผู้รอดชีวิต)ที่ยังคงเฝ้ารอคอยเพื่อนกลับมา และก็ได้กลับมาเจอกันจริงๆในซักวันหนึ่ง (หมายถึงการเจอร่างผู้หายสาปสูญ)

จบกันไปแล้วนะคะกับเพลง Spring day เพลงที่ชวนให้คิดถึงเพื่อนรักในยามที่ห่างไกลที่มาพร้อมกับทฤษฎีเรือเซวอลที่ไม่อาจลืมเลือน แต่ว่า Spring day ยังคงแค่หยิบเรือเซวอลมาร้อยเรียงเป็นเรื่องราวเล็กๆให้นึกถึงเท่านั้น ยังมีอีกหนึ่งบทเพลงที่หยิบเรื่องราวของเรือเซวอลมาใส่ใน MV เพื่อรฤกถึงเหตุการณ์ที่น่าเศร้า นั่นก็คือเพลง One of these night นั่นเองค่ะ

One of these night ( Red velvet )

ฟังเพลงแล้วมา วิเคราะห์ เพลงให้พอกรุบกริบๆกันเถอะค่ะ

เพลง One of these night จริงแล้วเนื้อเพลงทั้งหมดอ้างอิงมาจากตำนานวันวาเลนไทน์ของจีน เรื่องสาวทอผ้ากับหนุ่มเลี้ยงวัวค่ะ ซึ่งตำนานดังกล่าวเป็นเรื่องราวความรักอันแสนประทับใจที่เล่าขานกันมาตั้งแต่อดีตกาล จนกลายเป็นหนึ่งในสี่ตำนานความรักพื้นบ้านที่ยิ่งใหญ่ของจีน แต่ว่ามันเกี่ยวกับเรือเซวอลตรงไหนล่ะ?

เนื้อเพลงไม่เกี่ยวแต่ว่าอย่างอื่น เกี่ยว เกือบทั้งเหมดเลยค่ะ

1. หน้าปกอัลบั้มที่สื่อถึงเพื่อนที่รัก

อย่างที่เราบอกค่ะว่าเพลง One of these night นั้นทางแฟนคลับค่อนข้างมันใจมากๆว่าเป็นเรือเซวอลแน่ๆ เพราะตั้งแต่หน้าปกอัลบั้มยังสื่อขนาดนี้ เรื่องของ MV ไม่ต้องเดากันแล้วค่ะ เรามาดูรูปที่ว่ากันดีกว่าค่ะ

จากในรูปนะคะทุกคนจะถือเทียนสีเหลืองซึ่งเปรียบเสมือนการไว้อาลัยต่อเหตุการร์ที่เกิดขึ้นของเรือเซวอลค่ะ และยิ่งไปกว่านั้นในส่วนของเยริ สมาชิกในวงที่อายุน้อยที่สุดก็ถูกเบลอไว้ด้วยเพราะช่วงอายุของเยรินั้นอยู่ในช่วงเดียวกับกับผู้ที่เสียชีวิตบนเรือค่ะ

2. MV ที่สื่อถึงเรือเซวอลตั้งแต่ต้นจนจบ

ถ้าเพลง Spring day นั้นเอ่ยถึงเรือเซวอลแค่เล็กน้อยแล้ว เพลง One of these night นั้นเรียกได้ว่าแทบจะเล่าเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นจนจบเลยก็ว่าได้ค่ะ ซึ่งทางแฟนคลับได้วิเคราะห์กันมาดังนี้ค่ะ

ซึงกิ เป็นตัวแทนของ ปาร์คจียอง พนักงานบนเรือที่ช่วยเหลือผู้โดยสารจนตัวเองต้องจบชีวิตลงในเรือ ซึ่งจะเห็นได้ว่ามีอยู่หลายฉากมากๆที่ซึลกิอยู่กับน้ำและประตูแต่ซึลกิแทบจะไม่เปิดประตูแล้วเดินออกไปเลยค่ะ มีแค่ฉากที่เปิดออกมาเจอเวนดี้(นักประดาน้ำ)แต่ไม่ออกไปหา และเปิดไปเจอโลกที่มีแต่ต้นไม้และแสงฟุ้งๆเหมือนกับสวรรค์และเธอเดินเข้าไปค่ะ

และในตอนจบของMVก็เป็นซึงกิที่คล้ายจะเดินอยู่ในโถงทางเดินห้องพักในเรือ ใส่ชุดสีขาวและแสงไฟที่ค่อยๆดับลงทีละดวงจนมืดสนิทค่ะ

จอย ไอรีน และ เยริ เป็นตัวแทนของ นักเรียนบนเรือที่เชื่อฟังกัปตันจนเสียชีวิตบนเรือ และประธานนักเรียนที่ยอมสละชูชีพของตัวเองให้เพื่อนจนต้องจบชีวิตลง

จากรูปที่ไอรีนนั่งส่องกระจกแต่เงาในนั้นกลับไม่เหมือนกับเธอ สันนิฐานว่าที่เราเห็นกันอาจจะไม่ใช่กระจก แต่เป็นหน้าต่างเรือแต่เงาในนั้นก็คือเงาที่เกิดจากน้ำนั่นเองค่ะ และในซีนต่อมายิ่งเป็นการเฉลยว่าที่เราๆคาดเดานั้นเป็นจริงก็เพราะว่าหน้าต่างเรือนั้นแตกออกและมาน้ำทะลักเข้ามาค่ะ

และสุดท้ายไอรีนก็นอนอยู่ในห้องนั้นและสีของห้องเปลี่ยนไปเป็นสีฟ้า และถ้าสังเกตดีๆบนบริเวณหัวของเธอก็มีของบางอย่างลอยอยู่ นั่นแปลได้ว่าน้ำได้เข้ามาในห้องนี้จนเต็มแล้ว สิ่งของลอยไปลอยมาและไอรีนจมอยู่ในนั้น

ต่อมาฉากนี้เป็นฉากที่จอยเดินมาปีนบันไดสีขาวแต่พอกล้องเลื่อนมาอีกมุมจากพื้นทางเดินกลายเป็นน้ำแทน ตรงนี้สื่อถึงได้ว่าจอยพยายามที่จะเอาชีวิตรอดในขณะที่น้ำเข้ามาในเรือแล้ว ซึ่งจริงๆแล้วในเหตุการณ์จริงมีคลิปหลุดออกมาจากโทรศัพท์ของนักเรียนที่อยู่ในนั้นค่ะ ในคลิปคือเป็นภาพของเด็กนักเรียนที่ปีนบันไดเตียงขึ้นไปในขณะที่น้ำไหลเข้ามา (ขออภัยที่เราไม่สามารถหาคลิปมาแปะได้ค่ะ)

และเยริที่ดูเหมือนจะชัดเจนที่สุดว่าเป็นเด็กนักเรียนที่อยู่ในเรือค่ะ เพราะเนื่องจากที่ได้บอกไปข้างต้นว่าอายุของเธออยู่ในช่วงวัยเดียวกันกับนักเรียนที่เสียชีวิตภายในเรือ เธอจึงอยู่ในฉากที่อยู่บนเรือท่ามกลางฝนตกจนน้ำท่วมเรือ และสุดท้ายเธอก็เข้าไปอยู่ในสวรรค์(ที่ซึลกิเปิดประตูเข้าไป) พร้อมกับชุดฮู้ดสีขาวชุดเดียวกับหน้าปกอัลบั้มค่ะ

เวนดี้ เป็นตัวแทนของ เจ้าหน้าที่ซึ่งทำการลงไปช่วยเหลือในขณะที่น้ำทะเลนั้นเย็นมากจนเสียชีวิตลงในขณะที่ทำการช่วยเหลือค่ะ

และสุดท้ายเป็นฉากที่ทุกคนมานั่งล้อมวงกัน จุดเทียนเพื่อรฤกถึงเหตุการณ์ในครั้งนี้และเพื่อนที่ได้เสียชีวิตลงไปค่ะ ซึ่งตรงนี้ MV มีการเชื่อมไปในส่วนของตำนานสาวทอผ้ากับหนุ่มเลี้ยงวัวที่เป็นธีมหลักของเนื้อเพลงด้วยค่ะ

และอีกนัยหนึ่งที่ตัว MV ต้องการจะสื่อก็คือ ทางช้างเผือกนั้น ผู้ที่จะไปได้ก็คือผู้ที่เสียชีวิตแล้วเท่านั้นค่ะ

จบกันไปแล้วค่ะเพื่อนๆชาวบล็อกแกงค์สำหรับการแนะนำเพลงSpring day และเพลง Oneof these night เพลงที่ทำให้นึกถึงเพื่อนที่จากไปแล้วและการวิเคราห์ในสิ่งที่ตัวเพลงได้บอกไว้ค่ะ เราเขียนบล็อกนี้จากการอ่านบทวิเคราะห์ต่างๆมากมายและชอบมากเป็นการส่วนตัว ด้วยที่สองเพลงนี้นั้นเพราะมากและความหมายของเพลงก็ดีมาก เลยอยากจะรวบรวมไว้ในแบบที่เราเข้าใจคร่าวๆมาแบ่งปันให้กับเพื่อนๆทุกคน ถ้าหากมีการกล่าวผิดอย่างไรเราขออภัย ณ ที่นี้ด้วยนะคะ 💛