Bloggang.com : NEWSU_CHADA : แฟชั่นไทย สู่สายตา แฟชั่นระดับโลก

แฟชั่นไทย สู่สายตา แฟชั่นระดับโลก

จากการวิเคราะห์ของแวดวงดีไซเนอร์และนักวิชาการต่างเห็นตรงกันว่า เทรนด์แฟชั่นโลกในปี 2012 จะดึงความงามของธรรมชาติมาสู่ไลฟ์สไตล์คนเมือง

อุตสาหกรรมสิ่งทอและแฟชั่นไทยอันมีเอกลักษณ์ที่แนบอิงใกล้ชิดกับธรรมชาติจะอาศัยจังหวะนี้อย่างไรในการผลักดันแบรนด์ไทยสู่วงการแฟชั่นโลก

รวมถึงการสร้างนักศึกษาด้านแฟชั่นดีไซน์ให้ก้าวล้ำเรียนรู้สิ่งใหม่ ไปพร้อมกับไม่ลืมอัตลักษณ์ไทย

รศ.ดวงสุดา เตโชติรส อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร (มทร.พระนคร) เปิดเผยว่า มทร.พระนครมีนโยบายให้คณะอุตสาหกรรมสิ่งทอและออกแบบแฟชั่น ส่งเสริมให้บัณฑิตมีทักษะการปฏิบัติงานในสายงานของตนเอง รวมถึงการสร้างกระบวนการคิด วิเคราะห์ และสังเคราะห์สภาพการณ์และการเชื่อมโยงบริบททางด้านสังคม บูรณาการร่วมกับการจัดการเรียนการสอน เพื่อให้บัณฑิตมีความพร้อมในการปฏิบัติงานจริง เรียนรู้สิ่งใหม่อย่างต่อเนื่อง มีความล้ำหน้าทางวิทยาการ และมองเห็นกระแสแฟชั่นในอนาคต

ผศ.ภูวพัสส์ เอกตาแสง คณบดีคณะอุตสาห กรรมสิ่งทอและออกแบบแฟชั่น มทร.พระนคร กล่าวถึงกระแสแฟชั่นในปี 2012 ว่า เป็นการเน้นการสร้างสรรค์แนวคิดที่เกิดจากการวิเคราะห์ถึงวิถีชีวิต ทัศนคติ การดำเนินชีวิตของผู้คนจาก ทั่วโลก

เทรนด์สีที่จะมาแรงในฤดูร้อนปี 2012 ส่วนใหญ่จะเน้นไปที่อารมณ์ ความรู้สึก และความเป็นธรรมชาติ มีแรงบันดาลใจมาจากสิ่งรอบตัว ผสมผสานความแตกต่างระหว่างนวัตกรรมและความคลาสสิค แฝงเข้ากับการสร้างความแปลกใหม่และมุ่งเน้นให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ผู้คนยุคปัจจุบันที่ต้องมีกิจกรรมและการทำงานอยู่ตลอดเวลา

จากข้อมูลแนวโน้มแฟชั่นฤดูร้อนปี 2012 แบ่งได้เป็น 5 กลุ่ม คือ

1. Haunted ความงามที่ซ่อนเร้น โดยจะดึงความงดงามที่น่าสะพรึงกลัวของสถานที่ลี้ลับ โดยเลือกใช้โทนสี เช่น สีเขียวเข้ม หรือสีซีเปีย รวมทั้งลายพิมพ์ดอกไม้สำหรับเสื้อผ้าท่อนบน ผสมกับกางเกงหรือกระโปรงสีแวมป์ แทนสีดำ

2.Road Trip เป็นความทรงจำในการผจญภัย เน้นไปที่ความจัดจ้านและสว่างกว่าแม่สีปกติ ทำให้รู้สึกสนุกสนาน สดใสร่าเริง ในรูปแบบของชุดลำลอง โดยนำมาใช้ทั้งในเสื้อผ้าบุรุษ เสื้อผ้าสตรี เสื้อผ้าเด็ก และเสื้อผ้ากีฬา

3.Atlas มุมมองจากธรรมชาติ โทนสีจะเน้นความเป็นธรรมชาติและสีบนแผนที่ ทั้งสีลาเวนเดอร์ สีน้ำตาลแดงของแผนที่โบราณ สีเขียวหัวเป็ด สีน้ำเงินสด ที่ปรากฏอยู่ตามแผนที่จีพีเอส

4.Energy พลังแห่งความสร้างสรรค์ โทนสีที่ใช้จะมีทั้งกลุ่มสีพาสเทล พลังแห่งความอ่อนเยาว์และเย้ายวน สีเทาอ่อนและสีเขียวอ่อน เพื่อปรับลุกส์ให้ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นแต่ยังคงดูทันสมัย

5.Metamorphosis การเปลี่ยนแปลงถ่ายทอดแรงบันดาลใจ เล่าถึงแรงบันดาลใจในการสรรค์สร้างชิ้นงานหนึ่ง ลักษณะของการถ่ายทอดนั้นต่อเนื่องอย่างไม่รู้จบ กลุ่มสีที่ใช้จะเน้นการใช้สีผสมผสานกัน สะท้อนความเป็นตัวของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นความแข็งแกร่ง ความอ่อนหวาน ความสดใส

"ทิศทางการพัฒนาแฟชั่นของไทยแตกต่างจากประเทศที่เป็นศูนย์กลางเช่นในยุโรป แม้ภาครัฐและเอกชนจะมีความตื่นตัวทางด้านแฟชั่นก็ยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร เหตุผลสำคัญคือ ประชากรไทยส่วนใหญ่เป็น กลุ่มชนชั้นกลาง ขณะที่แฟชั่นเป็นเรื่องของคนในสังคมผู้มีฐานะ อีกทั้ง นักออกแบบของไทยเองยัง ขาดประสบการณ์ในการสร้างแบรนด์และการตลาด การตามกระแสโดยไม่หันมามองสิ่งที่เป็นรากเหง้าของวัฒนธรรม สิ่งเหล่านี้สามารถแสดงออกถึงอัตลักษณ์ และสร้างตัวตนให้กับรูปแบบสินค้าภายใต้แบรนด์ของไทยได้เป็นอย่างดี"

"ตรงจุดนี้เองทำให้แฟชั่นไทยไปไม่ถึงจุดมุ่งหมายในเวทีระดับโลก ดังนั้นการพัฒนาอุตสาหกรรมด้านแฟชั่นจึงควรเหลียวมองต้นทุนทางวัฒน ธรรมที่เป็นสมบัติล้ำค่าของศิลปวัฒนธรรมไทย เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนและสามารถสร้างพื้น ที่ในตลาดโลกได้" ผศ.ภูวพัสส์กล่าว

ผศ.ภูวพัสส์กล่าวด้วยว่าทิศทางอุตสาห กรรมสิ่งทอในตลาดอาเซียนหรือระดับโลก เมื่อศึกษาจากมูลค่า การส่งออกของอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มของไทย ปี 2553 พบว่ามีมูลค่าการส่งออกทั้ง หมด 7,678 ล้านเหรียญสหรัฐ มีอัตราการขยายตัวของมูลค่าการส่งออกรวมเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อนร้อยละ 19.2

ประการแรก เกิดจากการรวมกลุ่มภายใต้เขตการค้าเสรีอาเซียนและการรวมกลุ่มการค้าอื่นๆ ที่ต้องการนำเข้าเส้นใย เส้นด้าย และผ้าผืน อันเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตเครื่องนุ่งห่มในกลุ่มอาเซียนคือ เวียดนาม ลาว กัมพูชา และพม่า ทำให้การส่งออกของอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มของไทยในอาเซียนขยายตัวเพิ่มขึ้น

ประการที่สอง ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทยย้ายฐานการผลิตไปอยู่ในประ เทศที่มีค่าแรงถูกกว่า เช่น ลาว เพื่อลดต้นทุนการผลิต คาดการณ์ได้ว่าแนวโน้มการขยายตัวต่อการส่งออกสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มไทยยังน่าจะขยายตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

"หากมองถึงเรื่องการพัฒนาบุคลากรแล้ว เชื่อแน่ว่านักออกแบบของไทยล้วนมีความสามารถและศักยภาพ รวมทั้งขอบข่ายทางด้านฝีมือที่สามารถสู้เวทีระดับโลก นักออกแบบของไทยหลายคนเติบโตในวงการแฟชั่นโลก เช่น ก้อย สุวรรณาเกต, เอก ทองประเสริฐ, ฐากูร พานิชกุล รวมถึงนักออกแบบรุ่นใหม่ๆ ที่มีความสามารถ แต่ยังขาดโอกาสในการแสดงศักยภาพของตนเอง"

"ภาครัฐควรสนับสนุนกิจกรรมการเรียนรู้ การเสริมทักษะ การศึกษาดูงาน ตลอดจนการจัดเวทีการแสดงผลงาน เพื่อส่งเสริมความสามารถของนักออกแบบไทยให้เป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาประชาคมโลก" ผศ.ภูวพัสส์กล่าว

Create Date : 01 กุมภาพันธ์ 2555

Last Update : 1 กุมภาพันธ์ 2555 8:15:00 น.

0 comments

Counter : 577 Pageviews.