.:+✿+:. หอฟ้าเทียนถาน 天坛 - สนามกีฬารังนก 鸟巢(รอบ 2) .:+✿+:.

6-12-08



ตอนประมาณ 9 โมง นัดกันไปเทียนถาน The Temple of Heaven
นัดเจอกันที่แมคตอน 9 โมง


แล้วกว่ากินข้าวเสร็จ ก็ 10 โมง ตามเคย


นั่งแท๊กซี่ไปประมาณ 40 หยวน

ตอนนี้เหลือคนไปเที่ยวด้วยกันแค่ 6 คนแล้ว

อี้ จูน แจ๊ค เกต พี่เจี๊ยบ แป๋ม



ไปถึงก็ซื้อบัตรเข้าไปดู ใช้บัตร นศ แล้ว ลดได้เหลือ 25 หยวน
ก็เข้าไปดู ไม่ค่อยมีอะไรเลย
แต่หนาวมากกกกกกกก


ข้อมูล: "หอบวงสรวงฟ้า" หรือ "เทียนถาน"
//thai.cri.cn/chinaabc/chapter22/chapter220113.htm

//www.travelfortoday.com/scoopbeijing01.htm

เข้าไปก็จะเจอหอบูชาใหญ่ๆ คือ หอบูชา Qi Nian Dian หรือว่าหอบูชาเนี่ยแหละ
ก็ไม่ค่อยมีอะไร หลังจากที่ไปกู้กง(พระราชวังต้องห้าม),,, อวี้เหอหยวน(พระราชวังฤดูร้อน)
ก็รู้สึกว่าเริ่มเฉยๆ ละ ตอนแรกก็ยังตื่นเต้นดี ดูไปดูมา มานคล้ายๆ กันไปหมดเลยง่า......

แต่หอบูชาตรงนี้แหละที่บอกว่า เสาแต่ละเสาแทนความหมายอะไรๆ (( อ่านเอาเองเนอะ ))

ดูจากรูปเล็กๆ ตรงมุมซ้ายล่าง ... อากาศหนาวประมาณ 0 องศา แต่มีคนบ้ากินไอติม !!!

แล้วก็ไปเห็นว่า แม้แต่ฝาท่อก็ยังเขียนชื่อสถานที่ไว้เลย .. สงสัยเผื่อใครมาแงะไป จะได้รู้ว่าเอามาจากไหน 555

ต่อรูปอีกสักหน่อย .. ตอนที่ไป ก็ยังอุตส่าห์จะจำข้อมูลได้นิดๆ แต่ไม่ปึ๊ก
ก็ไปอธิบายต่อให้เพื่อนๆ ฟัง แบบคร่าวๆ

อันนี้น่าจำเป็นตำหนักไจกง ที่เก็บแท่นบูชาไรเยอะๆ อ่ะ
เพราะเข้าไปดู ก็เห็นแผ่นป้ายๆ ตอนแรกก็นึกว่า แผ่นป้ายชื่อคนตายแบบในหนังจีนอ่ะ


บริเวณกำแพงด้านหลังตำหนักเนี้ยแหละ

ที่มีความสำคัญคือ เป็นที่ๆ สามารถยืนพูดจากอีกฝั่งนึง แล้วอีกฝั่งนึงได้ยิน
ลองนึกภาพว่า เรายืนอยู่ตรงวงกลม .. ถ้าเราพูดจากด้านซ้าย .. ด้านขวาก็จะได้ยิน ....... แม้เพียงเสียงกระซิบ
เค้าว่ากันงี้ - - - แต่ตอนไปเล่นอ่ะ คนมันเยอะ เสียงมันดัง ก็เลยไม่รู้เรื่อง
มีแต่อาแปะ อาม่า อาเจ้ ทั้งหลาย เค้าก็มัวแต่ "ฮู่ .. ฮ่า .. โฮ่ .. เฮ้ .. อ้ากกกกกกก"

มาถึงหอนี้..น่าจะเป็นหอเทพสถิต The Imperial Vault of Heaven

หลังจากขึ้นไปดูหอบูชาแล้ว ก็ไปลองเล่นตรงกำแพงมั่ง

เราก็ไปยืนเรียก "เกตตตตตตตตตตตตตตตตตตตตต" (( คนบ้าที่กินไอติมแหละ ))

ก็ไม่ได้ยินตามระเบียบ ... ไปอ่านข้อมูลอีกเวบนึง
เค้าบอกว่า เป็นที่ๆ ฮ่องเต้ใช้เล่นกันกะนางสนม หรืออะไรพวกเนี้ย
ประมาณว่า กระซิบคุยกันที่ผนัง .. อีกฝั่งก็จะได้ยิน


ถ้าได้ยินจริงนี่ .. Amazing มากอ่ะ กว้างนะ
เส้นผ่าศูนย์กลางของกำแพงน่าจะเกิน 40-50 เมตรอ่ะ
แต่ด้วยความที่เป็นวงกลม กะพื้นก็มีรูๆ
อาจจะเป็นเพราะสมัยก่อนมันเงียบ มันก้อง พื้นเป็นรู สามารถได้ยินกันได้
สมัยนี้มีทั้งรถยนต์ คนเยอะแยะไปมา ก็คงไม่ได้ยินเป็นธรรมดา

ถ้ามาตอนกลางคืน .. ไม่แน่ อาจจะได้ยินก็ได้ (( กลางคืนปิดไม่ได้เข้า ))
ลองคิดดูว่าถ้าไปกลางคืน .. คงจะหลอนน่าดู .. เรียกชื่อเพื่อน เสียงอาจจะออกมาเป็นเสียงอะไรไม่รู้ก็ได้

บรื๋อ~~~~~~

อันนี้เป็นแท่นบูชา .. ประมาณว่า ฮ่องเต้จะมายืนอยู่ตรงจุดกึ่งกลาง
ตรงกลาง จะมีเป็นแท่นครึ่งวงกลม ให้ขึ้นไปยืน แล้วพูดคุยกะสวรรค์ได้


เท่าที่จำได้ .. ฮ่องเต้จะมายืนตรงแท่นนี้ แล้วก็ขอพร หรือใช้เป็นที่ติดต่อกับสวรรค์
เพราะเชื่อว่า ตรงบริเวณนี้ เหมือนกับว่า อยู่ใกล้สวรรค์มาก


พวกนักท่องเที่ยวก็ไปยืนต่อคิว จะไปยืนอธิษฐานกันตรงเนี้ยแหละ (( คนเยอะจนไม่ได้ถ่ายรูป ))
แต่กลุ่มพวกเรา พร้อมใจกันไม่เข้าไปต่อคิว
เพราะคิดว่า .. มันสูงเกินไปสำหรับคนธรรมดาอย่างเราอ่ะ
ที่นี่ เป็นที่ๆ สร้างเพื่อฮ่องเต้ ... แต่เราเป็นแค่คนธรรมดา บารมีไม่สูงพอ ไม่กล้าไปทำตามอ่ะ


เท่าที่จำได้ (จากที่ไปอ่านมาหลายๆ เวบ)
การออกแบบเหมือนยืนอยู่บนเมฆอะไรแนวนั้น คงจะดู Powerful มากอ่ะ


สมัยก่อน มันไม่มีตึก ก็คงเหมือนจริงอ่ะ ตอนนี้ดูแล้ว โอ้ยยย...ตึกเต็มไปหมด


แล้วก็แอบเซ็ง ... ข้อมูลเทียนถานที่อุตส่าห์เตรียมไว้ แปะไว้ตรงตู้เย็น ก็ยังอยู่ตรงตู้เย็น .. ลืมหยิบไป
ก็เลยเที่ยวดูเท่าที่จำได้ ตามมีตามเกิดไป




เที่ยวไม่นาน สัก บ่าย 2 ก็ไม่รู้จะเดินดูไรต่อ
แล้วก็เลยไปต่อ สนามรังนกต่ออีกที

นั่งรถไปอีก 40 หยวน แล้วก็ไปถึง คนเยอะมากกกกกกกกกกกกกกกกก
ก็ซื้อบัตรเข้าไปอีกคนละ 50 หยวน เข้าไปแล้ว ก็ไม่มีอะไร ก็สนามกีฬาอ่ะ

ก็ถ่ายรูปสักหน่อย ไหนๆ ก็มาแล้ว






คนเยอะมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ไม่รู้จะเยอะไปไหน
เข้าไปแล้วก็ไม่ได้ประทับใจอะไรอ่ะ มันก็สนามกีฬา
แต่แบบ ... อยู่ปักกิ่ง ไม่มา .. มันก็เหมือนจะขาดๆ

คนเยอะจริงๆๆๆๆๆๆๆ






ไปเที่ยวปี 2008 ก็ต้องทำไรสักหน่อย

ไปถ่ายรูปเบอร์เก้าอี้มา 555 ไม่มีไรจะเล่น


ตรงนี้เป็นเก้าอี้ที่นั่งเชียร์อ่ะ คนไปจุกอยู่อีกฝั่ง พวกเราก็เลยไปอีกฝั่ง ถ่ายรูปเล่นกันสักแป้บ
ถ่ายรูปจนเบื่อ (ก็ไม่มีอะไรอ่ะ) ก็ออกมาข้างนอก






ข้างในก็มีตัวมาสคอตให้ถ่ายรูป 2 ตัว พร้อมกะคนอย่างเยอะ
โอ้ยยยย....ยั้วเยี้ยๆๆๆ

ข้างนอก หนาวอ่ะ มีลมด้วย
หนาวๆๆๆๆ


ไม่รู้จะทำอะไรแล้ว ก็เลยไป Xi Dan
ไปหาข้าวกิน ไปเดินเล่นสักแป้บ
ไม่ทันทำไร กินข้าวเสร็จก็ 3 ทุ่มแล้ว ห้างก็เริ่มจะปิด เดินอีกแป้บเดียว
ก็เลยไปต่อที่อู่เต้าโข่ว


นั่งรถแท๊กซี่อีกประมาณ 30 หยวน
ก็ไปถึงอู่เต้าโข่ว ไปกินที่ร้าน ซารางบัง (( ร้านเกาหลี ))
กินกันจนเที่ยงคืนกว่าๆ ก็ง่วง หมดแรง
ก็เลยแยกย้ายกลับหอ


ค้นพบว่า กินเบียร์ผสมสไปร์ทอร่อยแฮะ ถึงเบียร์จะเหม็นไปหน่อย
แต่ก็กินได้ 5555 แย่แล้ว



แต่ว่า มาปักกิ่งรอบนี้ ... ทำตัวดีขึ้นนะ
แทบไม่ได้เที่ยวกลางคืนเลย แอลกอฮอลล์ก็แทบไม่แตะเลยด้วย


เด็กดีๆ ... รอกลับไปเมืองไทยแทน 555555 บ้าไปแล้ววว
กลับไทยก็จะเป็นเด็กดีเหมือนกานนนนนนนน

Create Date : 28 ธันวาคม 2551 Last Update : 28 ธันวาคม 2551 0:28:37 น. Counter : 900 Pageviews.		7 comments
Share Tweet