ราคาหุ้นก็เหมือนชีวิต มีขึ้นมีลง มีเกิด แก่ เจ็บ ตาย (เข้ากับวันพระเนอะ)

ลุยกันใหม่คับ

  

ขอบคุณมากครับ อย่าให้กำไรลอยนวล

  

เพิ่งเห็นว่ามันมีฟีเจ้อร์แบบเตือนด้วยว่ามีโพส ตรงมุมล่างซ้ายมันเด้งขึ้นมา

  

🌝พรุ่งนี้คงสดใสกว่าวันนี้

  

เกรงว่าตลาดจะลงจนถึงสิ้นเดือน ต้องอดทนรอ ไม่ได้ล้างพอร์ต แต่ลดหุ้นลง รอซื้อกลับ

  

วันนี้ nmg เล่นกายกรรม

  

เหอๆ งงกับมันมาก ดีที่เมื่อวานเล่นรอบ เนชั่น ดับบิล 3 ทุนเลยลดลง เลยพอได้กับเขามั่ง

  

มันพูดยากมากนะ ตัวนี้ เนชั่น ดับบิล 3 ตรงนี้น่าซื้อเพิ่ม เพราะ เดือน 6 แปลงเป็นแม่ ก็จะได้กำไร น่าจะลากขึ้น แต่เสียวแม่จะลงมาข้างล่างต่ำกว่า 2 บาท

  

ทุบเนชั่นแหลกเลยค่ะ มีเรื่องอะไรคะคุณอินฯ

  

//pantip.com/topic/33365683/comment1

ลองอ่านดูอะ ทุน slc 0.99 มี 225 ล้านหุ้น ตรงนี้คือทุน

nmg แม่ก็คล้ายๆกัน

ตัวนี้ผมยังมั่่นใจถืออยู่นะ แต่ โชคดีที่ขายเล่นรอบไปบางส่วน ราวๆ 10-20 เปอร์เซนต์ ถ้าเกิน1.1 อย่าไล่ ขอให้โชคดี

ส่วนตัวหวังตัวนี้จะเป็นหุ้นเปลี่ยนชีวิตอยู่ แต่ได้ไม่ได้ อยู่ที่ฟ้า

  

เคยติดดอยอมเลือด เกือบ 3 เดือน ขายกำไร 10 เปอร์เซนต์ กระไรอยุ่ ลองถือต่อดู

  

ทราบว่าคุณอินชอบตัวนี้ คงมีเยอะอยู่ เห็นเล่นกันโหดมากเลยถามดู

สุดท้าย slc คงได้หุ้นไม่พอจะเข้าไปทำอะไรได้

กสทชเหมือนจะเข้ากับกลุ่ม สุทธิชัย ใช่มั้ยคะ

ทำแบบนี้เค้าหวังแค่กำไรหรือหวังฮุบเลย

คุณจะเข้าประชุมมั้ยคะ สงสัยจะสนุก

  

ถึงรู้ว่า เสี่ยง แต่ก็ยังคงขอลอง ไม่กล้าให้ใครมาเล่นตามเท่าไหร่ ผลตอบแทนคุ้มกับเสี่ยงไหม ก็ขึ้นอยู่กับจ้าวตลาดให้หรือไม่ให้


โดยมุมมอง แบบเม่าโลกสีชมพู นิดๆ

slc ไม่ขายหุ้นหรอก ทั้งแม่ ทั้งลูก เพราะมีไพ่เหนือกว่า สามารถแปลงเป็นตัวแม่ได้ ตอนเดือน มิถุนายน ยกเว้นเฮียหยุ่นจะทุบแม่ให้ต่ำกว่า 1 บาท ซึ่งมันก็ทำไม่ได้ เพราะ slc ก็จะเอาเงินเข้าซื้อเพื่อฮุบกิจการ ถึงคุณ หยุ่นจะเกลียดยังไง ก็คงฉลาดที่จะไม่ทำ

nmg-w3 หมดอายุ 2561 ตอนที่เข้าไป 1 บาท อมเลือดเกือบ 3 เดือน เชื่อว่าในที่สุดก็น่าจะเจรจากันได้

nmg-w3 คงไม่ออกจากตลาด เชื่อว่า กลต คงไม่ยอม เพราะเม่าถือเยอะ ต้องมีการคุ้มครองอยู่แล้ว

ไม่ได้เชียร์ให้ซื้อ เป็นความเห็นส่วนตัวของการวิเคราะห์แบบเม่าๆ

กรณีที่เลวร้ายที่สุด คือ nmg ลงไป 1.7-1.8 ตัวลูกก็ 70-80 สตางค์ ก็ยังพอมีความเป็นไปได้อยู่ ก็อยู่ที่คุณหยุ่นจะเอายังไง

  

แอบเสียว

  

คงตามดูเฉยๆค่ะ หมดงบ

แต่อยากศึกษาไว้ก่อน

วันนี้ กดแม่ ยกลูกต่อ

  

nmg มาแรงอ่ะ ช่วยพอร์ตคุณอินจากหุ้นปั่นได้เยอะล่ะสิจ๊ะ

  

ลุ้นต่อไปอะ กสทช เลื่อนตัดสิน slc ออกไปอีก 1 อาทิตย์ เสียวๆ นะ แต่ต้องถือข้ามลุ้นไปต่อ

ทำไมถึงต้องลากยาวถึงป่านนี้ไม่เข้าใจเลย

  

เวลาตัดสินอะไร เค้ามักดูกระแสสังคมก่อน

ก็คงรอประเมินมังคะ ถ้าตัดสินตามความยุติธรรมจริงๆ

มันต้องใช้ความกล้าหาญ คงพบได้ยากในบ้านเรา

  

รอบนี้ขาลงหนักมาก tse ลงไปเรื่้อยๆ เคยเชื่อว่า เสี่ยสมพงศ์ จะไม่ลง 555

samco ไม่น่าดอยเลยจริงๆ ประมาทเกินไป พีอี 40 เท่า ตรง 7.5 ไม่ขาย ขอลองติดดอยลงโทษตัวเองซะตั้ง ไม่ซื้อแต่ไม่ขาย

uac ฐานแน่นมากๆ ตรง 10 บาท ไม่น่าจะหลุด หวังว่า

nmg-w3 ถ้าไม่ขึ้น คราวนี้จะหนักมาก ในเมื่อเป็นตัวความหวัง เราคงต้องเหลือเอาไว้

หุ้นประกันชีวิตเริ่มขึ้น แล้ว bla ก็รู้สึกดีขึ้นเยอะ

ทีวีดิจิตอล ไซตืเวย์ดาวน์ ตอนนี้ดอย rs mono แกรมมี่ แต่มีไม่เยอะ

mti tip smg seaoil ไม่ขึ้น ไม่ลง ทำให้พอร์ตยังทรงๆ ได้

  

รอรับ เพช อย่างใจเย็น ณ จุดๆ นี้

  

คดีslc ตั้งแต่เดือน มค แล้ว ป่านนี้ ยังไม่ไปไหนเลย เมืองไทยเป็นอย่างนี้ ผลประโยชน์

  

อีกจุดนึงที่เห็น หุ้นพื่นฐานดี ชนะ หุ้นปั่น ตอนตลาดขาลงเสมอ กำไร แอดวาน แต่ขาดทุน tse

หุ้น mti ได้ปันผลฟรี ชนะตลาดได้เลย

  

บางทีเรายังดูไม่ออกเลยว่าตัวไหนหุ้นปั่น

ตัวไหนหุ้นดี หลงคิดว่า tse เป็นหุ้นดีนะเนี่ย

เห็นคุณชอบ pace จังเลยค่ะ ดียังไงคะ

อ่านในสินธรเค้าบ่นผู้บริหารแย่ แถมงบ ขาดทุนตลอด

แล้วราคาตอนนี้ น่าเข้าแล้วหรือคะ

ขอทราบเป็นความรู้หน่อยนะคะ ช่วงนี้คงไม่ได้เล่นอะไร

ติดดอยสูงมากมองลงมามันน่าหวาดเสียว ไม่กล้าโดด

  

ที่ เพช ขาดทุนหลายปี เพราะ มันกำลังก่อสร้าง คอนโด ห้างสรรพสินค้า ที่ ช่องนนทรี ซึ่งจะบุ๊คกำไรปลายปีนี้

  

อ่อ ค่ะ เห็นคุณอินพูดถึงบ่อยๆเพราะ มองอนาคต

เข้าใจแล้วค่ะ

  

วิเคราะห์ TSE 2
ตี 1.12 นาที ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมา เนื่องจากก่อนนอนคนข้างในถามผมตลอดเวลาว่า ข่าวที่อ่านไปเมื่อเช้านี้เป็นข่าวที่เชื่อถือได้หรือไม่ คิดยังไม่ทันไร คนข้างในก็พาร่างกายลุกออกจากเตียงและเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในห้องทำงาน
ระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์กำลังเปิด ผมสวดมนต์ไปพลางๆ เป็นการคุยกับคนข้างบนขอให้ท่านเปิดทางให้ผมเห็นอนาคต TSE ด้วยเถิด
เมื่อคอมพิวเตอร์ พร้อมทำงาน
คนข้างในก็สั่งการร่างกายอย่างรวดเร็ว: google ข่าว TSE เดี๋ยวนี้
พงศกร: GOOGLE TSE GOOGLE TSE หลังจาก google ข่าว TSE อยู่เกือบชั่วโมง
คนข้างในก็ตะโกนออกมาดังๆ: ที่ญี่ปุ่น TSE แม่งเอาแน่ เฟสแรก 15-20MW ส่วนเฟส 2 30-40MW ถ้าเฟสแรกไปได้ดีเฟสสองก็ต้องตามมาแน่ๆ
พงศกร: แล้วรู้ได้ไงว่ามันจะไปได้ดี
คนข้างในกระซิบเบาๆ: เอ็งลืมแล้วหรือ เมื่อปีที่แล้วเอ็งเคยเล็งหุ้น EPCO ไว้ บริษัทเขาไปลงทุนโรงไฟฟ้าที่ญี่ปุ่นเป็นล่ำเป็นสัน อย่างนี้ก็แปลว่าทางโล่งปลอดภัยสำหรับ TSE ระดับหนึ่งเลยทีเดียว
พงศกร: แล้วโครงการที่ฟิลิปปินส์ยิ่งอ่านยิ่งเหมือนมันยังมีรายละเอียดที่ยังไม่แน่นอนอีกเยอะเลยนะ พันธมิตรก็ยังไม่มีเลย อย่างนี้เอาไงดี
คนข้างใน: เอาไงก็เอา ตัดๆมันทิ้งไปก่อนก็ได้ โครงการยังมีความไม่แน่นอนอีกเยอะ เดี๋ยวค่อยมาว่ากันอีกที
พงศกร: อย่างนี้ก็คิดแบบอนุรักษ์นิยมละกันว่า เฟส1 + เฟส 2 ที่ญี่ปุ่น จะทำให้ TSE มีการผลิตกระแสไฟฟ้าเพิ่มขึ้นประมาณ 50MW ซึ่งเฟส 2 อาจต้องรออีกสักพัก
คนข้างใน: แล้ว 1MW สามารถทำกำไรให้ TSE เท่าไหร่
พงศกร: อันนี้ขอเทียบเคียงกับเอกสารฉบับแรกที่ TSE ลงไว้ใน //www.set.or.th ตอนที่เข้ามาในเทรดในตลาดหลักทรัพย์ละกัน
คนข้างใน: ได้ๆ
พงศกร: เปิดไปที่หน้า 3 ของเอกสาร มีการบอกวันจ่ายไฟฟ้าของโรงไฟฟ้า SSE1 ทั้ง 10 โรง กำลังการผลิตรวม 80MW และเมื่อพลิกไปที่หน้า 4 มีบอกไว้ว่า 6 เดือนแรกของปี 57 มีรายได้จาก SSE1 จำนวน 316.98 ล้านบาท
คนข้างใน: เดี๋ยวก่อนนะทำไมเปอร์เซ็นการถือครองหุ้นของ TSE ในโครงการ SSE1 ที่มีกำลังการผลิตไฟฟ้าจำนวน 80MW มีการถือครองจาก TSE อยู่เพียง 60% หละ
พงศกร: อ๋อ เขาตัดขาย 40% ของโครงการ 80MW นี้ไปให้บริษัทลูกของ ปตท. (GPSC) แล้วหละสิ
คนข้างใน: เขาขายกันตั้งแต่เมื่อไหร่วะ?
พงศกร: เขาขายกันนานแล้ว
คนข้างใน: อ๋อ อย่างนี้ที่กำไรไตรมาส 2 ช่วงเดือน เมษายน – มิถุนายน 57 ก้าวกระโดด เป็น 592 ล้านบาท แล้วตกลงมาในไตรมาส 3 เหลือ 111 ล้าน เพราะมีกำไรจากการขายหุ้น 40% ของ SSE1 ให้บริษัทลูกของ ปตท. สินะ
พงศกร: ถูกต้อง แต่อันนี้เป็นการจ่ายงวดสุดท้ายนะ ก่อนหน้านี้มีการจ่ายมา
ก่อนแล้ว ถ้าไม่เชื่อลองดูรายการกำไรจากการเปลี่ยนสถานะเงินลงทุน ในงบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จดู
คนข้างใน: แล้วที่เมื่อกี้เอ็งอ่านข่าวย้อนหลังแล้วบริษัทบอกว่ามีกำลังการผลิต 99 MW อย่างนี้ก็รับรู้รายได้ไม่ถึง 99 MW หนะสิ เพราะ TSE ได้ขายหุ้น 40% ของบริษัทที่ถือหุ้นโครงการโรงไฟฟ้าจำนวน 80 MW ไปแล้ว
พงศกร: ถูกต้องแล้ว
คนข้างใน: อย่างนี้ TSE ก็เหลือไฟฟ้าที่สามารถรับรู้รายได้ให้ผู้ถือหุ้นของ TSE ไม่กี่ MW เองหนะสิ
พงศกร: 80MW x 60% = 48 MW ก็เยอะอยู่นะ ส่วนรายได้จากโครงการรูฟท๊อป 14 โครงการ กำลังการผลิต 14 MW และรายได้จากโครงการ TSE1 จำนวน 4.5 MW ผมว่าเราตัดมันทิ้งไปก่อน
คนข้างใน: อ่าวทำไมหละ
พงศกร: เพราะโครงการ TSE1 ใช้เทคโนโลยีแบบ Thermal ซึ่งก็อย่างที่เห็นจากเอกสารหน้า 4 ลงทุนไป 900 ล้าน รายได้ปีละ 22 ล้าน ถือว่าขาดทุนยับเยิน
คนข้างใน: มันเป็นไปได้อย่างไร โครงการลงทุนเกือบพันล้านเชียวนะ
พงศกร: TSE เป็นบริษัทที่นำเทคโนโลยี Thermal หรือรางรวมแสงเข้ามาใช้ในประเทศไทยเป็นบริษัทแรก เนื่องจากเทคโนโลยียังไม่ได้ทดลองใช้ในสภาพแวดล้อมของประเทศไทยอย่างจริงจัง เมื่อนำมาติดตั้งแล้วจึงล้มเหลวไงหละ โครงการต่อๆมา หรือ SSE1 จึงต้องเปลี่ยนมาเป็นระบบแผงโซลาร์เซลล์
คนข้างใน: อ๋อ ไม่น่าหละ TSE ถึงต้องเลื่อนการเข้าตลาดไปนานพอสมควร เพราะมีปัญหาโรงแรกทำให้ต้องมาเริ่มกันใหม่จากติดลบนี่เอง
พงศกร: เริ่มจากติดลบ?
คนข้างใน: ใช่แล้วก็โรงแรกเจ๊งไงหละ เลยมีฐานะทางการเงินค่อนข้างลำบากในช่วงก่อนที่โรงไฟฟ้า SSE1 จะเสร็จ
เอาหละเอ็งคิดกำไรของ TSE สักที่เหอะ จะได้นำไปเปรียบเทียบหากำไรที่จะเกิดขึ้นจากการลงทุนโรงไฟฟ้าในอนาคต
พงศกร: จากข่าว TSE ลงวันที่ 12/2/58 TSE มีการขายกระแสไฟฟ้าจากโครงการรูฟท็อปแล้วจำนวน 7 โครงการจาก 14 โครงการ กำลังการผลิต 14 MW หรือโครงการละ 1 MW และจากเอกสารที่เราดูกันตอนต้นมีการประกาศสถานะโครงการรูฟท็อปไว้ ณ 30/6/57 ว่ามี 3 โครงการเตรียมจ่ายไฟแล้ว
อย่างนี้ถ้าคิดแบบอนุรักษ์นิยม ก็เอา 80MW X 60% บวกด้วย 3 MW จากรูฟท็อป ก็จะได้จำนวน MW ที่สร้างรายได้และกำไรให้กับ TSE ในช่วงไตรมาสที่ 3 ที่ผ่านมา เท่ากับ 51 MW
คนข้างใน: ไปดูที่งบกำไรเบ็ดเสร็จงวดสามเดือนสิ้นสุด 30 กันยายน สิว่ามีกำไรเท่าไร
พงศกร: กำไรงวด 3 เดือน สิ้นสุด 30 กันยายน 57 มีกำไรอยู่ที่ 111 ล้านบาท สมมติว่าโรงไฟฟ้าที่ญี่ปุ่นและโครงการโรงไฟฟ้ารูฟท็อปมีกำไรเท่ากับโรงไฟฟ้าที่เมืองไทย หลังจากโครงการที่ญี่ปุ่นและไทยเสร็จเรียบร้อยแล้ว บริษัทจะมีกำไรอยู่ที่ < [(51+50+14)/51] x111 > เท่ากับ 250.29 ล้านบาท 1 ปีบริษัทจะมีกำไร (250.29 x 4 ไตรมาส) เท่ากับ 1,001.18 ล้านบาท
กำไรต่อหุ้นเท่ากับ (1,001.18 ล้านบาท/1,815 ล้านหุ้น) = 0.55161 บาท/หุ้น
คนข้างใน: แล้ว TSE มีนโยบายจ่ายเงินปันผลเท่าไร?
พงศกร: 40% ของกำไร
คนข้างใน: อย่างนี้ถ้า TSE ปันผลผู้ถือหุ้นจะได้รับเงินจำนวน 0.55161 บาท x 40% เท่ากับ 0.22065 บาทต่อหุ้น
ใช้หลักขี้หมาเพื่อเปรียบเทียบเงินปันผลกับดอกเบี้ยเงินฝากเพื่อหาราคาสูงสุด
พงศกร: เงินปันผล 0.22065 หารด้วยอัตราดอกเบี้ยที่ 3% เท่ากับราคาหุ้นสูงสุดเท่ากับ 7.35 บาทต่อหุ้น
คนข้างใน: ตอนนี้ราคาหุ้นในตลาดอยู่ที่ 8.35 บาทต่อหุ้น
พงศกร: ถือว่ารับรู้ผลการดำเนินงานในอนาคตไปแล้ว
คนข้างใน: รับรู้อนาคตของการไปลงทุนที่ญี่ปุ่นแต่ TSE ยังมีข่าวที่จะเข้าไปเทคโอเวอร์ Wind Energy และข่าวเข้าไปลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าในฟิลิปปินส์ให้เล่น
พงศกร: อย่างนี้แปลว่าถ้าต้องการซื้อ TSE ก็ต้องถือยาวๆ เพื่อรอโครงการในอนาคต
คนข้างใน: ก็ไม่เชิง เพราะเมื่อประกาศข่าวการลงทุนที่ญี่ปุ่นออกมา จะเกิดการเก็งกำไรแย่งกันเข้าซื้อหุ้น TSE จากรายย่อย ทำให้ราคาทะยานขึ้นไป ส่วนที่จะไปปรับฐานอยู่เท่าไรก็จะอยู่ที่รายย่อยเข้าไปช่วยพยุงราคามากน้อยเพียงใด
พงศกร: หุ้นตัวนี้ดูเหมือนถูกเพราะ IPO มาที่ 3.90 บาทแต่ตอนนี้อยู่ที่เพียง 8 บาทกว่าๆเท่านั้น แต่พอคำนวณราคาออกมาแบบนี้แล้วดูแพงจัง
คนข้างในกระซิบด้วยเสียงแผ่วเบา: ก็เป็นปกติ เพราะตอนขายหุ้น IPO เจ้าของเขารู้มูลค่าที่สมเหตุสมผลของบริษัทอยู่แล้ว เรื่องอะไรเขาจะขายถูกๆ ราคาที่พุ่งขึ้นจากราคา IPO จึงเป็นราคาที่ซื้ออนาคตทั้งนั้น
หวังว่าบทความจะเป็นประโยชน์สำหรับท่านไม่มากก็น้อย
พงศกร บุญวรเมธี
หมายเหตุ: บทความนี้ตั้งอยู่บนสมมติฐานโครงการโรงไฟฟ้าที่ญี่ปุ่นมีขนาด 50 MW

  

หมัดเด็ดเสี่ยยักษ์ ... ทำอย่างไรถึงจะมีพอร์ตพันล้าน
สรุปจากงานสัมนากลยุทธ์การลงทุนสไตล์พอร์ตพันล้านแบบนักลงทุนผู้ประสบความสำเร็จ จัดโดย KKTRADE ที่หาดใหญ่

- ส่วนน้อยรวย ส่วนใหญ่กลางๆไม่ได้ไม่เสีย ทีเหลือขาดทุน

- จิตวิทยาข้อสำคัญ "ต้องรอให้ได้ หุ้นทุกตัวมีรอบของมัน"

- เล่นหุ้นครั้งแรกขาดทุน แต่ไม่เป็นไร คนเราต้องมีการจ่ายค่าเทอมก่อนเสมอ

- อยู่ท่ามกลางแวด-วงของคนเล่นหุ้น ต้องเอาตัวเองไปคลุกคลีกับกลุ่มคนเหล่านั้น

- ลอกข้อสอบของคนที่สอบตก ยังไงเราก็ยังสอบตกอยู่อย่างนั้น เราต้องลอกข้อสอบคนที่สอบผ่าน สอบได้ที่ 1 พวกเขาเหล่านั้นมีแนวคิดอย่างไร มีกลยุทธ์อย่างไรในตลาดหุ้น มีหลักการอะไรบ้าง

- สไตล์ผม ถ้ามีคนบอกซื้อหุ้นที่ 7 บาท ราคาไป 10 บาท กำไร 2 บาท เป็นผม ผมไม่เล่น สำหรับผมมันต้องจาก 5 บาทไป 15 บาท แล้วต้องมีเหตุผลว่าเพราะอะไรถึงไป 15 บาท

- ต้องหาบิ๊กช็อตให้เจอ อย่าเล่นหุ้นหลายตัว ดูอย่าง ดร.นิเวศน์ ชนะหุ้นเพียงแค่ตัวเดียว CPALL ถ้าหาไม่เจอเราต้องอดทนรอ

- ทนรวยให้ได้ .... สมมุติผมมีหุ้นที่ 3 บาท ขึ้นไป 11 บาท ราคาลงมา 5 บาท มันเจ็บปวด แต่เราทนความเจ็บปวดได้ไหม ทนได้ไหม ถ้าเราทนได้วันข้างหน้ามันไป 13 บาท หรืออาจจะ 14 บาท

- ซื้อหุ้น ต้องซื้อที่ล่างๆยอดหญ้า ไม่ใช่มันขึ้นไปถึงสวรรค์แล้วซื้อตาม เล่นแบบนี้ได้แค่ค่ากับข้าวแต่ไม่รวยนะ ต้องกลับมาถามตัวเราเองว่าเราอยู่ในตลาดหุ้นหวังรวย หรือหวังค่ากับข้าวไปวันๆ

- ต้องหาหุ้นในดวงใจให้เจอ หาหุ้นพลิกชีวิต เล่นสั้นๆเดย์เทรดไม่รวย

- ผมเล่นหุ้นแค่ 3 ตัว 5 ตัว แต่ต่อยหนัก(หมายถึง ซื้อตัวเดียวหนักๆ) ไม่ใช่มีหุ้น 30 ตัว 50 ตัว

- ต้องหาหุ้นที่คนไม่มอง คนรังเกียจ นั้นแหละหุ้นที่ผมจะกลับมามอง เราต้องยืนอยู่ฝั่งของคนส่วนน้อย

- วอลุ่มมันคือของจริง มันหลอกเราไม่ได้ หุ้นตัวนี้เมื่อก่อนเทรด 5 แสนหุ้น 8 แสนหุ้น อยู่ดีๆมาเทรด 10 ล้านหุ้นแบบนี้แสดงว่ามันต้องมีอะไรซักอย่างแล้ว ต้องกลับไปทำการบ้าน ต้องกลับไปดู

- ตลาดหุ้นไม่ใช่ยิมนาสติก ไม่มีคะแนนท่ายาก ไม่ต้องซิ่งมากหรือใช้เทคนิคแปลกพิศดารอะไร

- คุณไม่รู้หรอกว่าคนสำเร็จวันนี้ผ่านอะไรมาบ้าง เราเห็นแต่ตอนจบก็เลยคิดว่ามันง่าย มันสวยหรู แต่จริงๆแล้วระหว่างทาง เขาเผชิญกับความผันผวน ราคาเหวี่ยงตัวรุนแรง

- อยู่ในตลาดหุ้นเราต้องจริงจัง ไม่ใช่เอาเล่นๆหวัง 5% 10% เวลาตลาดถล่ม สึนามิมันมา มันพัดลงทะเลหมด มันเอาจนคุณหมดตัว มันไม่รู้หรอกว่าคุณหวัง 5% แล้วมันจะเมตตาคุณ

- อย่าไปกลัว ความกลัวจะบั่นทองกำลังใจของเรา

- เวลาซื้อหุ้นเราต้องคิดเหมือนเจ้าของกิจการ

- ความรู้จากอินเตอร์เน็ตมีมากมาย โดยเฉพาะ Opportunity Day จากตลาดหลักทรัพย์ นักลงทุนควรต้องดู

- เครื่องมือทางเทคนิคไม่ต้องใช้ให้เยอะ ใช้ชำนาญแค่ตัวเดียวก็พอ อย่าเล่นท่ายาก

- คนประสบความสำเร็จ แผลเต็มหลัง

  

เห็นพอร์ตแอบเครียดอยู่

  

-7 percent

  

-8.54 percent

  

ช่วงนี้เหมือนตลาดค่อยๆดูดซับกำไรในหุ้นที่ถือ รวมถึงดูดทุนด้วย

ผมว่าเลือกตัดสินใจยอมขายเก็บกำไรออกมาไว้ก่อน ค่อนข้างจะชัวร์กว่าถือนะ

แล้วค่อยรอไปรับต่ำลงได้ทุนใหม่ถูกลงกว่าเดิม (ส่วนตัวๆ)

  

ขอบคุณ คุณความดีมากเลยนะครับ บทเรียนความนี้จะจำจนขึ้นใจเลย

  

เสียดายเงินนะ จริงๆ แต่ก็อย่างน้อยได้บทเรียนที่ล้ำค่า คราวหน้าต้องไม่พลาด ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่มานั่งขายแล้ว

พงศกร: หุ้นตัวนี้ดูเหมือนถูกเพราะ IPO มาที่ 3.90 บาทแต่ตอนนี้อยู่ที่เพียง 8 บาทกว่าๆเท่านั้น แต่พอคำนวณราคาออกมาแบบนี้แล้วดูแพงจัง
คนข้างในกระซิบด้วยเสียงแผ่วเบา: ก็เป็นปกติ เพราะตอนขายหุ้น IPO เจ้าของเขารู้มูลค่าที่สมเหตุสมผลของบริษัทอยู่แล้ว เรื่องอะไรเขาจะขายถูกๆ ราคาที่พุ่งขึ้นจากราคา IPO จึงเป็นราคาที่ซื้ออนาคตทั้งนั้น

ฟังแล้วเจ็บแล้วโดนมากๆ

  

กลับมาได้บ้างแล้ว น่าจะดีขึ้นพอดู สู้ๆต่อไปคับ

  

-6.74 percent พอร์ตดีขึ้นเยอะ สถิติจริงๆ คือ -8.54 อย่าทำสถิติใหม่เลย อิอิ

  

สถิติดีขึ้นแล้วใช่มั้ยคะ?

  

เงินในพอร์ต เจอความผิดในอดีตหลอกหลอน อยู่ ติดดอยในอดีต อยู่ คงต้องกลับมาทบทวนตัวเองบ้าง