การเสื่อมและการล่มสลายของจักรวรรดิโรมัน

ในช่วงระหว่างการเสียชีวิตของ มาคุส ออริอุส และการล่มสลายของโรมในศตวรรษที่ 5 เป็นเรื่องยากขึ้นทุกทีที่จะปกป้องจักรวรรดิจากพวกป่าเถื่อนได้ ระหว่าง ค.ศ. 180 และ 285 โรม ถูกคุมคามทางภาคตะวันออกและตะวันตกโดยเผ่าชนป่าเถื่อน จักรวรรดิเร่งระดมพลกองทัพเป็นสองเท่า นำไปสู่วิกฤติทางเศรษฐกิจ และอำนาจที่เพิ่มขึ้นของกองทัพ
สงครามปะทุขึ้นรอบด้าน ทางด้านตะวันออกมีจักรวรรดิเปอร์เซียน คุกคามไซเรีย อียิปต์ และประเทศในเอเชียไมเนอร์ พวกแฟรงค์บุกรุกฝรั่งเศสและสเปน
มีการปฏิรูปการเมืองครั้งสำคัญ สมัยจักรพรรดิดิโอคลิเตียน ในปี 286 พระองค์เชื่อว่า จักรวรรดิไม่สามารถที่จะปกครองได้ด้วยคน ๆ เดียว พระองค์จึงแบ่งออกเป็นสองภาค คือภาคตะวันออกและภาคตะวันตก ทรงเลือก นิโคมิเดีย ในเอเชียร์ไมเนอร์ เป็นเมืองหลวง และแต่งตั้งนายทหาร แมกซินินุส ปกครองภาคตะวันตกตั้งแต่มิลานไป
การจัดการดังกล่าวไม่สามารถยุติข้อขัดแย้งเกี่ยวกับการสืบทอดบัลลังก์ได้ คอนสแตนติน ยกทัพมายังโรมในปี 311 เพื่ออ้างสิทธิในบัลลังก์ ขณะที่เดินทางเขาอ้างว่า เขาได้เห็นนิมิตสำคัญของกางเขนปรากฏบนท้องฟ้า พร้อมกับคำพูดว่า "ด้วยสัญลักษณ์นี้ท่านจะได้รับชัยชนะ" เมื่อคอนสแตนตินขึ้นครองบัลลังก์เป็นจักรพรรดิเพียงผู้เดียวในปี 324 เขาจึงปกครองในฐานะคริสตชน เป็นการวางรากฐานของศาสนาคริสต์ ที่ได้แผ่ขยายไปทั้งจักรวรรดิตั้งแต่สมัยของเนโร และสมัยนี้เอง ที่คริสต์ศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติและโลกตะวันตก
แม้จะเปลี่ยนมานับถือคริสต์ศาสนา จักรวรรดิก็ยังเสื่อมถอยลงเรื่อย ๆ ในปี 324 คอนสแตนตินตัดสินพระทัยที่จะย้ายเมืองหลวงไปทางตะวันออก และเริ่มต้นใหม่ในเมืองใหม่ ชื่อ คอนสแตนติโนเปิล ขณะที่ในอิตาลี พวกป่าเถื่อนเคลื่อนเข้ามาเรื่อย ๆ ในที่สุด โรมก็ล่มสลายลงในปี 410

Create Date : 12 มิถุนายน 2550		1 comments
Last Update : 12 มิถุนายน 2550 12:59:21 น.
Counter : 964 Pageviews.
Share Tweet