อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา...เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป...(สรรพสิ่งไม่มีอะไรเที่ยงแท้แน่นอน ไม่จีรังยั่งยืน ล้วนเป็นทุกข์ ตั้งอยู่ทนอยู่ไม่ได้ ต้องมีการเปลี่ยนแปลง)
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2552
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
27 สิงหาคม 2552
 
All Blogs
 

15 สูตรขจัดคราบความโสด

มีคำกล่าวจีนโบราณว่า "แสวงหาสมบัติล้ำค่าง่ายดาย แต่ยากประสบพบพานคนรัก" หลายคนอ่านแล้วคงได้แต่พยักหน้าหงึกๆ พลางรู้สึกสิ้นหวังอย่างช่วยไม่ได้ ขณะที่อีกหลายคนสามารถเปลี่ยนคนรักได้บ่อยและรวดเร็วยังกับเปลี่ยนเลนในระหว่างขับรถ
ไม่ว่าคุณจะจัดอยู่ในพวกไหน เราทั้งหลายต่างก็ฝักใฝ่ไขว่หารักประเภท 'ชั่วนิรันดร์' กันทั้งนั้น บางทีการอยู่เฉยๆ แล้วนั่งรอฟ้าหรือพรหมลิขิตนั้น อาจไม่วิธีที่เข้ายุคสมัยอีกต่อไปแล้วก็ได้ เราทั้งหลาย-ผู้มีจิตใจกระหาย...เอ้อ... เต็มเปี่ยมไปด้วยรัก-จึงควรเสนอหน้า (พร้อมตัวบวกหัวใจ) และยื่นมือเข้าช่วยโชคชะตาเพื่อเร่งกระบวนการนำพาไปสู่วินาทีสำคัญที่สุดของชีวิต ซึ่งก็คือการประสบพบพักตร์คนรัก...เรื่องแบบนี้ช้าไม่ได้ (เดี๋ยวได้พร้าเล่มงาม แทนที่จะได้ชายหรือหญิงรูปงาม)
เอาล่ะ จงเร่งศึกษาสูตรเหล่านี้ แล้วรีบปฏิบัติภารกิจแห่งรักเลยดีกว่า

1. เป็นฝ่ายรุก
ใช่ แล้ว...การเริ่มรุกอาจเป็นแค่ก้าวเล็กๆ ก้าวแรก แต่เป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่ที่สามารถเปลี่ยนชีวิตคุณได้ หายใจเข้าลึกๆ อ้าปาก ขยับเข้าไป แล้วเริ่มประเดิมบทสนทนาก่อน อายรึ? ถ้าอย่างนั้นอำพรางการจู่โจมของคุณด้วยคำถาม เช่น ถามเวลา หรือถนนหนทาง ถ้าคุณไม่เริ่มอาจไม่มีโอกาสได้พบคนที่แสนดึงดูดใจคนนั้นอีกชั่วนิรันดร์ ซึ่งเขาอาจจะเป็นคู่รักของคุณในฝันก็ได้
จำ คำกล่าวปลุกใจที่มีมาแต่โบราณได้ไหมว่า "nothing ventured, nothing gained" ไม่กล้าเสียงอย่าง ก็ไม่มีทาง ได้อะไรซักอย่าง -- สมน้ำหน้า! สิ่งสำคัญที่สุดอยู่ที่การเดินหน้าสร้างและสานสัมพันธ์เรื่อยไป ยิ่งคุณพบปะทำความรู้จักกับคนอื่นมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเพิ่มโอกาส ในการเจอะเจอ 'ความรักในชีวิต' มากขึ้นเท่านั้น

2. ป่าวประกาศหารัก
เนื่องจากปัจจุบันยังไม่มีการประดิษฐ์เรดาร์ตรวจจับคนโสดขึ้น คนนับร้อยนับพันคนที่เดินเฉียดผ่านคุณไปจึงไม่มีทางตรัสรู้ได้เลยว่า คุณยังเป็นโสด และกำลังเหลียวซ้ายแลขวา สอดส่ายสายตาหารักอย่างขะมักเขม้นตลอด 24 ชม. ไม่น้อยกว่าเวลาเปิดบริการของเซเว่นอีเลฟเว่น หากคุณดั้นด้นอ่านมาจนถึงบรรทัดนี้ได้ ก็หมายความว่าขณะนี้ถึงเวลาแล้วล่ะ ที่คุณจะต้องลงมือทำอะไรสักอย่าง จงป่าวประกาศความตั้งใจ ที่จะแจกจ่ายรักแท้แก่เพื่อนร่วมโลก ผ่านทางอินเตอร์เนต หน้าหนังสือพิมพ์ หรือหากหมดหนทาง (แต่มีเงินซะอย่าง) จะใช้บริการจัดหาคู่ก็ได้ (ยกเว้น กลุ่มวัยเยาว์ ซึ่งนาฬิกาชีวิตเพิ่งเดินไปไม่เท่าไหร่ และยังเหลือวันเวลาให้ผลาญอีกเยอะ)

3. พัฒนาศิลปะการพบปะผู้คน
หลังคลอดออกจากท้องแม่ หัดพูดหัดเดินแล้ว คนเรายังต้องผ่านการพัฒนาด้านอื่นอีก เช่น การวางตัว การเข้าสังคม ซึ่งเรื่องเหล่านี้ เรามักไม่ได้รับการฝึกฝนเท่าที่ควร ศิลปะการเข้าหาผู้คน เริ่มจากการที่คุณไม่ปิดตัวเองไว้ให้ตู้ เตียง โต๊ะเก้าอี้หรือของรกๆ ในห้องมันเชยชม แต่ก้าวออกมาปรากฏตัวในสังคม หรือกลุ่มคนให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ไม่ว่าจะเป็นในชมรม งานคอนเสิร์ท ห้องสมุด งานทอดผ้าป่า ฯลฯ แรกๆ อาจจะมีอาการประดักประเดิดเขินอาย เงอะงะ พูดจาไม่เป็นภาษา แต่นี่ก็เหมือนกับการเล่นกีฬา หรือการลอกข้อสอบนั่นแหละ ฝึกๆ ไปก็จะชำนาญการขึ้นตามกาลเวลา โดยทั่วไปแล้ว คนอื่นๆ จะตอบรับการพยายามผูกมิตรของคุณ แต่หากมีใครบางคนหรือหลายคนเห็นว่าศิละปการผูกมิตรของคุณนั้น ไม่เห็นจะเข้าท่าตรงไหน เมื่อนั้นจงเปิดใจให้กว้างและยอมรับสิ่งต่างๆ ท้ายที่สุดเพื่อเห็นแก่ความรัก (และเห็นแก่ตัวด้วยส่วนหนึ่ง) คุณต้อง สอดส่ายสายตาสานสัมพันธ์กับรายต่อไป...อย่างไม่ยอมลดละ

4. ประกาศให้โลกรู้ว่าคุณยังมีชีวิตอยู่
ถ้าอยากพบคนรักในฝัน ก็จงอย่านอนหลับ ตื่นและลุกขึ้นมาเริงร่าท่ามกลางโลกกว้าง หลักสมการรักเบื้องต้นมีอยู่ว่า หากเขา ไม่เห็น+ไม่ได้ยินคุณ ผลลัพธ์ก็=ศูนย์ กล่าวคือคุณไม่ได้มีตัวตนอยู่บนโลก โถ...เสียแรงที่แม่อุตส่าห์อุ้มท้องมา ดังนั้น เริ่มก้าวแรกด้วยการก้าวให้พ้นประตูบ้าน
ถาม จริงๆ เถอะ คุณคิดว่าจะพบคนที่หมายปองด้วยวิธีไหนได้อีก ด้วยการหมกตัวอยู่ในบ้าน ดูละครเรื่องบ้านทรายทอง พลางฝันให้ชายกลาง ขี่ม้าขาวมาหางั้นหรือ...?

5. พัฒนาสมองด้วยการพูดคุย
ประโยชน์อย่างหนึ่งของการพูดคุยกับมนุษย์คนอื่นๆ คือ คุณจะได้พัฒนาสติปัญญาไปด้วยในตัว อีกฝ่ายจะทำให้คุณได้คิด พยายาม และทำสิ่ง ต่างๆ ซึ่งจะช่วยเสริมประสบการณ์ใหม่ๆ ให้แก่ชีวิต ผู้พูดที่ยอดเยี่ยมคือ ผู้พูดที่สามารถพูดได้เกี่ยวกับทุกอย่าง แต่ไม่พูดเฉพาะเจาะจงลงไปในเรื่องใดซักอย่าง อธิบายให้ฟังแล้วไม่น่าเวียนหัว ก็คือ พวกเขามักหาเรื่องชวนคุยได้เสมอ (ความสามารถเดียวกับพวกเด็กช่างกลที่เก่ง(ร้าย)กาจ ขนาดชวนหาเรื่องต่อยตีได้ทุกที่นั่นแหละ) บทสนทนาแรกเริ่มกับคนแปลกหน้า ควรเป็นเรื่องเบาๆ ลืมการถกปัญหาสังคม แสดงแนวความคิดทางปรัชญา ด่ารัฐบาล หรือวิเคราะห์ การก่อกำเนิดโลกบนดวงดาวบวกอีก 5,000 กาแล็คซี่ อะไรทั้งหลายแหล่ที่ชวนเวียนหัว แทนที่จะได้ไปเที่ยวไหนต่อไหนด้วยกัน คุณอาจต้องถูกหามเข้าโรงพยาบาล

6. พลังความคิดพิชิตความกลัวถูกปฏิเสธ
เราทุกคนล้วนแต่กลัวหน้าแตกกันทั้งนั้น อาการกลัวถูกปฏิเสธนี้ มาจากเชื้อร้ายที่บ่มเพาะอยู่ในสมอง นั่นคือความคิดในแง่ลบ ที่เรา พร่ำบอกตัวเองว่า "ฉันเป็นคนไม่มีค่า ไม่มีน้ำยา ฉะนั้นฉันคงจะถูกปฏิเสธไปชั่วชีวิต" นั่นเป็นการใส่ร้ายป้ายสีอันขุ่นมัวหมองให้กับหัวใจดวงชมพู ของคุณโดยใช่เหตุ ไปๆ มาๆ ก็จะกลายเป็นความวิตกกังวลฝังลึก ทั้งที่ไม่มีมูลเหตุให้คุณต้องตกอยู่ในสภาพน่าสงสารเช่นนั้นเลย เพียงเพราะว่าใครบางคนพูดว่า "ไม่" ใส่หน้าคุณ ไม่ได้หมายความว่ามันเป็นความผิดของคุณสักหน่อย การถูกปฏิเสธไม่ได้หมายความว่า คุณคือคนที่น่าหลีกเลี่ยง การตัดสินใจของคนคนนั้น อาจไม่ได้มีอะไรเกี่ยวกับคุณเลยก็ได้ บางทีเขาอาจจะปฏิเสธที่จะเป็นแฟนกับคุณก็เพียงเพราะว่า ขณะนั้นมีเงินพอเลี้ยงปากเลี้ยงท้องได้เฉพาะก็แต่ตัวเขาเท่านั้น หรือเพิ่งเลิกกับแฟนมาไม่กี่ชั่วโมง หรือบังเอิญหน้าตาของคุณดันไปเหมือนกับ อาจารย์ใหญ่ที่โรงเรียนของเขาเข้า เหล่านี้ไม่ใช่เรื่องที่คุณจะไปตรัสรู้ได้ว่า มีปมปัญหาอะไรอยู่เบื้องหลังการตัดสินใจของเขา
เคยไหมที่คุณได้พบใคร บางคนที่แสนดีและน่ารัก แต่ว่าเขาก็เป็นได้แค่คนรู้จักที่แสนดีและน่ารัก เพราะหัวใจของคุณยืนกรานคำเดียวสั้นๆ ว่า "ไม่ ช่าย...เลย" ทั้งที่พวกเขาไม่มีโทษสมบัติอะไรที่เสียหายแม้แต่น้อย
ไม่ว่าใครจะพูด หรือทำให้คุณรู้สึกแย่ขนาดไหน ให้ความเชื่อมั่นในคุณค่าของตัวเองเป็นเกราะป้องกัน และนำพาชีวิตของคุณไปสู่รักที่แท้จริง

7. ศิลปะในการถาม
จริงๆ แล้วการเปิดฉากสนทนาไม่ใช่เรื่องยาก แต่ปัญหาที่ยิ่งกว่า เกิดขึ้นเมื่อคุณได้รับคำตอบกลับมาเพียงสั้นๆ..ตามด้วยความเงียบที่ ดูเหมือนยาวนานชั่วนิรันดร์ วิธีที่จะทำให้บทสนทนาดำเนินไปอย่างราบ รื่น คือถาม ถาม ถาม และต้องเป็นคำถามที่ชวนตอบ (อย่าให้ขาดตัว 'อ' ไปเชียวนะ) เมื่อถามแล้วก็อย่า ลืมฟังคำตอบอย่างสนอกสนใจด้วยล่ะ เพราะคำตอบเหล่านี้จะบอกอะไรเกี่ยวกับตัวเขาได้มากมาย แล้วคุณก็สามารถประเมินตรวจเช็คดูว่า เขาผ่านการ สอบคัดเลือกเข้าสู่ห้องหัวใจของคุณหรือไม่ การถามคำถามเหมือนกับการไขปริศนา - ปริศนาภายในร่างกายและจิตใจของคนคนนั้น

8. เปิดตาให้กว้างในชีวิตประจำวัน
ไม่ว่าจะทำอะไรอยู่ที่ไหนก็ตาม หมั่นเหลียวมองไปรอบๆ และสังเกตผู้คน ชีวิตจะมีเรื่องราวน่าสนใจขึ้นกว่าเดิม เมื่อคุณสอดส่องมองโลกของ คนอื่นบ้างนอกจากตัวเอง ลองนึกดูสิว่า มันแสนเพลิดเพลินขนาดไหน เวลาไปเที่ยวเขาดินเมื่อตอนเด็กๆ น่ะ แล้วคุณจะพบว่า สถานที่ธรรมดาๆ อาจกลายเป็นที่ที่แสนจะ วิเศษที่สุด ในการพบคนที่น่าสนใจ อย่าตัดสินใจใครจากเพียงรูปร่างหน้าตาภายนอกหรือเลือกพูดคุยเฉพาะกับคนที่'ดู'ดีหรือเป็นมิตรเท่านั้น

9. มองหาให้ถูกที่
คนเรามักจะไปในสถานที่ที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลายและสบาย ผู้ชายชอบไปส่งเสียงเย้วๆ อยู่ข้างสนามกีฬา หรือไม่ก็ไปออกเหงื่อตามโรงยิม ส่วน ผู้หญิงก็ชอบออกกำลังด้วยการเดินช็อปปิ้ง หากปล่อยให้การณ์ดำเนินไปอย่างนี้ ทั้งสองเพศอาจไม่มีวันได้พบเจอกัน! หากอยาก เปิดโอกาสให้ตัวเองได้รู้จักเพศตรงข้ามและพร้อมยอมลงทุนบ้างเล็กน้อย สาวๆ ทั้งหลายทำไมไม่ไปลงเรียนวิชาคาราเต้ ยูโด โดดร่ม ดำน้ำ เพื่อเติมความตื่นเต้นเร้าใจให้ชีวิต? ส่วนผู้ชายก็อาจหันมาศึกษาศาสตร์ในด้านการทำอาหาร จัดดอกไม้ เล่นเพียโน คุณอาจได้ค้นพบความสามารถ ที่แอบซ่อนอยู่ในตัวมานาน แถวด้วยคนน่ารักคนใหม่!

10. ทำตัวเป็นธรรมชาติ
อย่าพยายามทำตัวเป็น ซุปเปอร์แมน หรือ ซุปเปอร์วูแมน ประมาณว่ารู้ไปหมดซะทุกอย่าง เก่งรอบด้าน แทนที่จะสร้างความประทับใจกลับดูน่า หมั่นไส้ ลองคิดดูสิว่ามีคนปกติและโตแล้วที่ไหน เชื่อเรื่องซุปเปอร์แมนบ้างจ๊ะหนู ให้คนอื่นได้เห็นข้อดีข้อเสียของคุณ ไม่มีคนสมบูรณ์แบบอยู่ใน โลกนี้หรอก และถ้ามีคนประเภทนั้นอยู่จริง เขาก็คงไม่ต้องการความรักจากใครๆ อีกแล้ว ดังนั้นจงเป็นตัวของตัวเอง ..ขี้อายหน่อยๆ...บ๊องนิดๆ ... ก็แค่มนุษย์คนหนึ่งที่มีเลือดเนื้อ - แต่ที่สำคัญน่าทะนุถนอม

11. ไม่ต้องเลอเลิศเหมือนดารา
ผู้ชายหรือผู้หญิงที่ผ่านชีวิตมาพอสมควรจนฉลาดขึ้นบ้างแล้ว ต่างก็ทราบดีว่าความสวยความหล่อนั้นยังไม่พอสำหรับการหล่อเลี้ยง สัมพันธ์รักให้ยืนยาว คามมรักที่เบ่งบานอยู่ภายในต่างหากที่เป็นสิ่งสำคัญ ฉะนั้นทุกๆ คนต่างก็มีสิทธิ์ประสบความสำเร็จในความรักได้เท่าเทียมกัน

12. ค้นหากำแพงที่กั้นขวางคุณจากผู้คน
กำจัด ความกลัวและความคิดในแง่ร้ายซึ่งจะกลายมาเป็นกำแพงกั้นขวางความสัมพันธ์ของ คุณ จริงๆ แล้วความคิดในแง่ลบเป็นสิ่งที่มีอยู่จริง ก็แต่ในใจคุณเท่านั้น ความกลัวถูกปฏิเสธ กลัวการผูกมัด และกลัวความใกล้ชิดลึกซึ้ง เหล่านี้คืออุปสรรคใหญ่ที่คุณจะต้องพิชิตให้ได้ หากทำสำเร็จ ความสุขสมหวังก็จะรออยู่ที่เส้นชัย

13. ทำชีวิตให้มีความสุข
การ ทำตัวให้มีความสุขนั้น สำคัญกว่าการเป็นคนสวยเสียอีก บุคลิกลักษณะนิสัยที่ดีนั้น เป็นที่ปราถนาของคนส่วนใหญ่ กล่าวโดยรวมแล้ว เรากำลังพูดถึงคนที่มีความสุขเท่านั้นเอง ถ้าคุณไม่มีความสุข ก็จงเก็บความทุกข์ไว้คนเดียว และหาทางแก้ไขให้ได้เสียก่อน อย่าเที่ยวแจกจ่ายให้คนอื่น ด้วยคาดหวังว่าเขาหรือเธอ จะมาเป็นนักบำบัดทางจิต หรือนักกฏหมายที่จะช่วยคลี่คลายปัญหาทุกอย่างที่คุณสะสมมาตั้งแต่เกิด
ความ จริงก็คือว่าไม่มีใครอยากเข้าใกล้คนอมทุกข์ หรือคนเจ้าปัญหาหรอก นอกจากว่าคนคนนั้นจะมีปัญหาพอๆกัน ถ้าใครเพลิดเพลินไปกับการ ฟังคุณบ่นสบถด่าโชคชะตา นินทาคนรอบข้างแล้วล่ะก็ อย่าดีใจไป ควรวิตกกังวลให้จงหนัก! พยายามทำตัวให้มีความสุข จากนั้นคุณก็จะได้คนรักที่สุขภาพจิตดี มีความสุขเช่นกัน

14. ตัดสายสัมพันธ์ที่ย่ำแย่ให้ขาดสะบั้น
ถ้า หากคุณไม่อาจริเริ่มสร้างสานรักใหม่กับใครได้ เพราะว่ากำลังเศร้า สลด หดหู่ ผิดหวังกับความรักที่กำลังดำเนินอยู่ในปัจจุบัน ขอแนะนำว่าให้รีบ ตัดออกรักซึ่งเหี่ยวเฉา และมีทีท่าว่ากำลังจะเน่านั้นทิ้งไป ให้หนอนมันชอนไชสลายหายไปจากโลกและความทรงจำโดยด่วน อย่าฝืนทนอยู่ในเส้นทางรัก ที่ไปไกลไม่ถึงไหนแล้วก็เฝ้ารอ 'ตัวจริง' ให้มาช่วยเหลือโอบอุ้มคุณขึ้นจากปลักตม การจมอยู่ในความสัมพันธ์ที่ไม่ มีความสุขสมหวังดังใจ จะทำลายโอกาสที่คุณจะได้พบคนที่ดีกว่าไปโดยไม่รู้ตัว หากเขาโผล่มาจริงๆ ก็คงถอยหนี ไปในเวลาอันรวดเร็ว เพราะรู้ว่าไม่มีที่ว่างสำหรับเขา แล้วนิยายรัรกเรื่องนี้ก็จะจบลงอย่างแสนเศร้า นั่นคือคุณต้องจมอยู่กับคนที่ 'ก็งั้นๆแหละ' ไปตลอดกาล

15. สร้างภาพลักษณ์ที่ 'ใช่'
เมื่อคุณพร้อมก้าวเข้าสู่สัมพันธ์รักที่จริงจัง พยายามควบคุมพฤติกรรมสุดๆ ทั้งหลายแหล่ของคุณให้อยู่ในขอบเขต แล้วเผยตัวตนที่แสดงถึง ความเป็นผู้เป็นคนและรับผิดชอบ ใครๆก็ย่อมต้องการคนที่เขาสามารถพาเข้ากลุ่มเพื่อนได้โดยไม่เสียหน้า หรือถูกกล่าวหาว่าบ้า ใครสักคนที่พึ่งพิง และไว้ใจได้ ทำให้เขาเห็นว่า คุณคือคนประเภที่เขาสามารถสร้างชีวิตด้วยได้

ข้อควรใส่ใจ(หรือ ส่วนไหนของร่างกายก็ได้) : จงเป็นตัวของตัวเอง อย่าลอกเลียนแบบจิ้งจกหรือกิ้งก่า โดยการพยายามปรับตัวไปเรื่อยๆ เพราะคุณเป็นมนุษย์นะจะบอกให้ (ที่สำคัญยังไงก็ไม่สามารถทำได้ดีเท่าพวกมันหรอก)
... เอาล่ะ ขอให้โชคดีมีคู่กันทั่วหน้า ...

ขอบคุณ saranair.com




 

Create Date : 27 สิงหาคม 2552
1 comments
Last Update : 2 เมษายน 2553 10:45:11 น.
Counter : 661 Pageviews.

 

 

โดย: klint77 29 สิงหาคม 2552 20:39:29 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]




Friends' blogs
[Add 's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.