คาดหุ้นไทยเช้านี้(23-01-14)ลงกรอบแคบ ปัจจัยการเมือง-แรงขายต่างชาติกดดันตลาด
*นักวิเคราะห์คาดหุ้นไทยวันนี้ ดัชนีมีโอกาสปรับตัวลงในกรอบแคบๆ เนื่องจาก นักลงทุนยังมีความกังวลต่อปัจจัยการเมืองในขณะนี้ รวมถึงการที่นักลงทุน ต่างชาติกลับมาขายหุ้นอย่างต่อเนื่อง ก็เป็นปัจจัยที่กดดันตลาดหุ้น *ดัชนี S&P 500 ปิดทรงตัวในวันพุธ ขณะที่การเปิดเผยผลประกอบการ ที่ไร้ทิศทาง ไม่สามารถทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นในการเข้าหนุนตลาดขึ้นต่อไป ขณะที่ดัชนีอยู่ใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรม ดาวโจนส์ ปิดลบ 0.25% หลังบริษัทหลายแห่งเปิดเผยผลประกอบการที่อ่อนแอ *ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดวานนี้พุ่งขึ้น 1.76 ดอลลาร์ ปิดที่ 96.73 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของปีนี้ โดยได้แรงหนุน จากการเปิดใช้ท่อส่งน้ำมันขนาดใหญ่แห่งใหม่ ซึ่งจะช่วยลด ภาวะคอขวดที่กดดันราคาน้ำมันดิบสหรัฐมานาน 3 ปี และราคาน้ำมันยังได้ รับแรงหนุน จากภาวะอากาศหนาวเย็นในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นอุปสงค์ในเชื้อเพลิงทำความร้อน *วันพุธต่างชาติขายสุทธิ 861.64 ลบ. จากวันอังคารขายสุทธิ 964.07 ลบ. *เช้านี้บาท/ดอลลาร์อยู่ที่ 32.95/99 จากเมื่อวันพุธอยู่ที่ 32.84/91 *นักวิเคราะห์มองแนวรับที่ 1,270 ส่วนแนวต้านที่ 1,304 "การเมืองยังมีความวุ่นวาย การเลือกตั้งยังไม่มีความแน่นอน ดังนั้นตลาดวันนี้ น่าจะปรับตัวลง ในลักษณะ sideways ตลาดน่าจะซึมๆ" การเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ.นี้ยังไม่แน่นอนว่าจะเลื่อนหรือไม่ ซึ่งจะต้องรอดูคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญว่าจะออกมาเป็นอย่างไร ขณะที่ในช่วงนี้ นักลงทุนต่างชาติก็มีการขายออกมาต่อเนื่อง เพราะกังวลจากปัจจัยการเมือง จึงทำให้ เป็นปัจจัยลบต่อตลาดหุ้น ทั้งนี้ศาลรัฐธรรมนูญ นัดประชุมช่วงบ่ายวันนี้ เพื่อพิจารณาว่าจะรับคำร้อง ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)หรือไม่ กรณีขอให้วินิจฉัยว่าสามารถเลื่อน การเลือกตั้งได้หรือไม่ และอำนาจในการกำหนดวันเลือกตั้งใหม่เป็นขององค์กรใด ระหว่าง กกต.หรือ คณะรัฐมนตรี(ครม.) นายจักรกริช กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นวันนี้จะมีแนวรับที่ 1,270 ส่วนแนว ต้านอยู่ที่ 1,304 ดัชนีตลาดหุ้นสำคัญ *ดัชนีตลาดหลักทรัพย์เมื่อวันพุธ ปิดลบ 2.61 จุด หรือ 0.20% มาที่ 1,290.49 ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 31,760.74 ล้านบาท *ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เมื่อวันพุธ ปิดลบ 41.10 จุด หรือ 0.25% มาที่ 16,373.34 และ ดัชนีแนสแดค ปิดบวก 17.24 จุด หรือ 0.41% มาที่ 4,243.00 *ตลาดหุ้นในภูมิภาคเช้านี้ ส่วนใหญ่ปรับตัวลงกรอบแคบ โดยตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลบ 0.39%, ญี่ปุ่น บวก 0.32%, เกาหลีใต้ ลบ 0.71%, ไต้หวัน ลบ 0.1% และฮ่องกง ลบ 1.15% จับตาหุ้น *HPF กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ฯ เหมราชอินดัสเตรียลเข้าเทรดวันแรก *IRCP ชนะประมูลงานของ กสท.มูลค่า 132.79 ลบ หุ้นเด่นวันนี้ - SAMART(เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 27.40 บาท มองราคาหุ้นที่ล่าสุดปิดที่ระดับเดียวกับ ณ สิ้นปี 56 แย่กว่าเทียบกับค่าเฉลี่ยของกลุ่มสื่อสารที่ปรับตัวขึ้น 3.9% YTD สะท้อนผลงานใน 4Q56 คาดกำไรสุทธิ 4Q56 จะไม่โดดเด่น และการเลื่อนนำ"วันทูวัน คอนเทคส์"เข้าตลาดไปแล้ว ในระยะต่อไปประเมินว่าราคาหุ้นมีโอกาสกลับมาสะท้อนผลงาน 1Q57 ที่จะกลับมาฟื้นตัวขึ้นโดดเด่นอีกครั้ง โดยมีปัจจัยหนุนจากผลการดำเนินงานของ SAMART Engineering ที่จะรับรู้รายได้การขายกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอลเต็มไตรมาส และ SAMART U-Trans จะเริ่มรับรู้รายได้โครงการวิทยุการบินราว 800 ล้านบาทในปีนี้ - PTTEP(เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 194 บาท Downside Risk ถูกจำกัดจากการที่เป็นหุ้นในกลุ่มพลังงานที่นักลงทุนต่างชาติเข้าซื้อสุทธิมากที่สุดในช่วงที่ตลาดหุ้นไทยถูกกดดันจากการเมืองในประเทศ สะท้อนออกมาจากการที่ตั้งแต่ 2 ม.ค.2557 ต่างชาติซื้อสุทธิผ่าน NVDR ราว 620 ล้านบาท ต่อเนื่องจากในช่วง 24 ต.ค.-27 ธ.ค.2556 ที่ขายออกมาราว 1.41 พันล้านบาท ในด้านของผลการดำเนินงานเราประเมินกำไรสุทธิในปี 2557 ที่ 7.3 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 19% YoY ขณะที่จุดเด่นของ PTTEP คือมีฐานะทางการเงินแข็งแกร่ง โดยมีเงินสดในมือกว่า 2 พันล้านเหรียญ - SVI(ฟินันเซีย ไซรัส)คาดกำไรสุทธิ 4Q13 +347% Q-Q, +318% Y-Y เป็นบริษัทเดียวในกลุ่มที่กำไรโต Q-Q ทั้งที่เป็น low season และคาดว่ากำไรปกติปี 2014 จะเติบโตสูงสุดในกลุ่ม แนะนำเพียง"เก็งกำไร"เพราะราคาหุ้นที่ปรับขึ้นมาทำให้มี PE 13.2 เท่าไปแล้ว และ upside เริ่มแคบเมื่อเทียบกับราคาเป้าหมายที่ 4.50 บาท - PTTGC(โกลเบล็ก)"ซื้อ"เป้า 94 บาท มองราคาหุ้นได้ปรับตัวลดลงสะท้อนแนวโน้มผลประกอบการใน 4Q56 ที่อ่อนตัวไปแล้ว คาดส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ทรงตัวในระดับสูง รวมถึงกำลังการผลิตจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติผลักดันกำไร-ราคาหุ้นกลับมาเพิ่มขึ้น ปีนี้คาดปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้น 8-10% หลังหน่วยผลิตหลายแห่งที่หยุดซ่อมกลับมาดำเนินการปกติ กำไรสุทธิคาดในปี 56 ประมาณ 34,600 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 2%yoy และปี 57 ประมาณ 38,400 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 11%yoy สรุปข่าวประจำวันที่ 23-01-2014 //www.icedos.com/wp/?p=4200
Create Date : 23 มกราคม 2557 |
Last Update : 23 มกราคม 2557 9:56:10 น. |
|
0 comments
|
Counter : 2625 Pageviews. |
|
|