กทม.จัดงบ 6.5 ล้าน ทำหมัน-ฝังไมโครชิพ สุนัขจรจัด
กทม.จัดงบ 6.5 ล้านทำหมันและฝังไมโครชิพสุนัขจรจัด 2 หมื่นตัว เผยแต่ละปีต้องใช้เงินด้านนี้ถึง 100 ล้าน ผลสำรวจสุนัขจรจัดทั่วกรุงมี 1 แสนตัว เร่งปลูกจิตสำนึกให้คนที่เลี้ยงเจ้าตูบ รักสัตว์เลี้ยงของตัวเหมือนลูก ไม่ทอดทิ้งสร้างภาระสังคม
พญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงมาตรการดูแลสุนัขในพื้นที่กรุงเทพฯ ว่า กทม.มีนโยบายที่จะทำหมันสุนัขและฝังไมโครชิพให้ได้ทั้งหมด 20,000 ตัว งบประมาณ 6.5 ล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างขั้นตอนการร่างเงื่อนไขการประกวดราคา (ทีโออาร์) ตามระเบียบราชการ และเตรียมจัดซื้อรถโมบายเคลื่อนที่ เพื่อให้บริการทำหมันสุนัขและฝังไมโครชิพนอกสถานที่ โดยจะไปตั้งตามแหล่งชุมชนใหญ่ ๆ
รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า กทม.มีศูนย์พักพิงสุนัข 2 แห่ง คือ 1.ศูนย์พักพิงสุนัขประเวศ ซึ่งล่าสุดมีจำนวนสุนัขจรจัดประมาณ 2,000 ตัว โดย กทม.พยายามดูแลสถานที่ให้ถูกสุขลักษณะ ขณะเดียวกัน กทม.ก็มีแผนจะก่อสร้างโรงพยาบาลสัตว์ รวมถึงการจ้างบุคลากรมาดูแลสุนัขเหล่านั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการออกแบบ และ 2.ศูนย์พักพิงสุนัขทัพทัน จ.อุทัยธานี มีสุนัขจรจัดประมาณ 2,000 ตัว ซึ่งสามารถรองรับได้อีกมาก สำหรับงบประมาณในการดูแลสุนัขจรจัดจำแนกเป็นค่าอาหารปีละ 8 ล้านบาท แต่ปีนี้คาดว่าจะเพิ่มเป็น 10 ล้านบาท ค่าวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าปีละ 6 ล้านบาท ค่าทำหมันปีละ 6.5 ล้านบาท และค่าฉีดไมโครชิพปีละประมาณ 5 ล้านบาท แต่หากรวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นค่าจ้างบุคลากร ค่าดูแล เป็นต้น อยู่ที่ประมาณ 100 ล้านบาทต่อปี
"จากการสำรวจจำนวนสุนัขในพื้นที่กรุงเทพฯ ของสำนักสถิติแห่งชาติ
เมื่อปี 2553 พบว่า มีจำนวนสุนัขบ้านประมาณ 600,000 ตัว และสุนัขจรจัดประมาณ 1a00,000 ตัว ซึ่งการทำหมันมีส่วนทำให้สุนัขจรจัดเพิ่มขึ้นไม่มาก" รองผู้ว่าฯ กล่าว และว่า ได้สั่งการให้สัตวแพทย์นำสุนัขพันธุ์ต่างๆ มาวิเคราะห์วิจัย ว่าการเลี้ยงดูสุนัขแต่ละพันธุ์ตลอดทั้งชีวิตของสุนัขตัวนั้นจะต้องใช้เงินจำนวนเท่าไหร่ ตอนสุนัขโตขึ้นจะเป็นอย่างไร และมีโรคอะไรบ้างที่จะมาจากสุนัข เพื่อให้คนที่คิดจะเลี้ยงได้ตระหนักให้มากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันนี้จำนวนประชาชนที่เลี้ยงสุนัขเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ เพราะฉะนั้นจะต้องมีการปลูกจิตสำนึกของคนเลี้ยงให้รักสุนัขเหมือนรักลูก ไม่ทอดทิ้ง
ข้อมูลจาก ไทยโพสต์