|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
ยินดีต้อนรับ สู่ Blog ร้าง
สวัสดี ความเหงา ขอบคุณ และ ขอโทษ ธรรมชาติและจักรวาล ที่ข้าพเจ้าได้อาศัยพึ่งพาดำเนินชีวิต และ ได้ล่วงเกินทั้งโดยเจตนาและมิได้เจตนา โปรดรับคำขอขมาลาโทษและอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้าด้วย.
Create Date : 15 ธันวาคม 2552 |
|
30 comments |
Last Update : 2 กันยายน 2564 3:31:16 น. |
Counter : 2660 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: ว่างแล้วพบกัน IP: 182.52.202.236 8 กันยายน 2556 11:43:44 น. |
|
|
|
| |
โดย: ตอน1 IP: 125.27.21.209 10 กันยายน 2556 0:19:41 น. |
|
|
|
| |
โดย: ตอน2 IP: 125.27.21.209 10 กันยายน 2556 0:56:42 น. |
|
|
|
| |
โดย: ตอน3 IP: 125.27.21.209 10 กันยายน 2556 1:20:36 น. |
|
|
|
| |
โดย: ตอน4 IP: 125.27.21.209 10 กันยายน 2556 1:54:24 น. |
|
|
|
| |
โดย: ตอน5 IP: 125.27.21.209 10 กันยายน 2556 2:57:03 น. |
|
|
|
| |
โดย: แค่ดอกไม้พลาสติค IP: 125.27.15.250 10 กันยายน 2556 8:12:03 น. |
|
|
|
| |
โดย: แปลก แต่ จริง IP: 110.49.251.118 12 กันยายน 2556 10:12:09 น. |
|
|
|
| |
โดย: เวลา IP: 182.52.202.101 12 กันยายน 2556 18:28:19 น. |
|
|
|
| |
โดย: ขาดใย IP: 182.52.202.101 12 กันยายน 2556 18:44:04 น. |
|
|
|
| |
โดย: บีบ ตีกรอบ IP: 182.52.202.101 12 กันยายน 2556 18:48:37 น. |
|
|
|
| |
โดย: ปรับโฟกัส IP: 182.52.202.101 12 กันยายน 2556 18:53:20 น. |
|
|
|
| |
โดย: ของแทนใจ IP: 182.52.202.101 12 กันยายน 2556 19:01:35 น. |
|
|
|
| |
โดย: จิตตก บาดเจ็บ IP: 182.52.202.101 12 กันยายน 2556 19:07:57 น. |
|
|
|
| |
โดย: ดี เลว ถูก ผิด IP: 182.52.202.101 12 กันยายน 2556 19:18:28 น. |
|
|
|
| |
โดย: สัญญาณเตือนแล้ว IP: 182.52.202.101 12 กันยายน 2556 19:24:19 น. |
|
|
|
| |
โดย: ยังเหลือคนของคุณ IP: 182.52.202.101 12 กันยายน 2556 19:34:28 น. |
|
|
|
| |
โดย: ปัญหาง่าย ๆ ใช่ไหม IP: 182.52.202.101 12 กันยายน 2556 19:52:27 น. |
|
|
|
| |
โดย: ลาก่อน IP: 182.52.202.101 12 กันยายน 2556 20:49:00 น. |
|
|
|
| |
โดย: ทุกข์นะ IP: 49.48.33.54 13 กันยายน 2556 1:28:34 น. |
|
|
|
| |
โดย: ดี ชั่ว ถูก ผิด IP: 49.48.33.54 13 กันยายน 2556 1:39:13 น. |
|
|
|
| |
โดย: ไม่เสมอไป IP: 49.48.33.54 13 กันยายน 2556 2:18:25 น. |
|
|
|
| |
โดย: ทุกสิ่งต้องเป็นเช่นนั้น จริงหรือ IP: 49.48.33.54 13 กันยายน 2556 4:03:41 น. |
|
|
|
| |
โดย: 0 IP: 125.27.14.60 17 กันยายน 2556 18:34:01 น. |
|
|
|
| |
โดย: ลาแล้ว IP: 125.27.14.60 17 กันยายน 2556 19:14:02 น. |
|
|
|
| |
โดย: เพลงสุดท้าย IP: 125.27.14.60 17 กันยายน 2556 22:04:11 น. |
|
|
|
| |
โดย: อีกก้าวหนึ่ง IP: 125.27.6.34 25 ตุลาคม 2556 18:08:56 น. |
|
|
|
| |
โดย: สิ้นสุด IP: 223.204.248.4 18 ธันวาคม 2556 20:58:58 น. |
|
|
|
| |
โดย: คำร่ำลา ครั้งสุดท้าย IP: 223.204.248.253 3 สิงหาคม 2557 10:14:20 น. |
|
|
|
| |
โดย: ประวัติศาสตร์ชีวิต (wrwrwr ) 2 กันยายน 2564 3:36:37 น. |
|
|
|
| |
|
|
ชีวิตที่ได้เรียนรู้ไม่จบสิ้น ทีละบท ๆ (คงถึงวันสุดท้าย จบการเรียนรู้ชีวิตล่ะมั้ง) คำถามเกิดขึ้นมากมายในใจ กับแต่ละบทเรียน ไม่สำคัญว่าบทเรียนชีวิตบทหนึ่งได้เรียนรู้ว่าไม่ดี แล้วจึงมีคำถามที่ควรหาคำตอบ เพราะแม้แต่บทชีวิตบทหนึ่งที่คิดว่าดีนะ สุขนะ แต่ก็ล้วนมีคำถามว่า ทำไม? เพราะอะไร? จึงได้เกิดบทชีวิตนี้ขึ้น
หลากหลายบทชีวิตมันจึงน่าสนใจและท้าทาย ให้เราได้วิเคราะห์และสังเคราะห์ เหตุที่มา ที่ไป และปัจจัยตัวแปรที่เกี่ยวข้อง ที่สุด เพื่อการระลึกรู้ อย่างเท่าทันตนเอง ซึ่งตรงกับ สติ และ สัมปชัญญะ หลักธรรมของพระพุทธเจ้า ธรรมเพื่อการป้องกันตนเอง มากกว่าที่จะแก้ไข การดำเนินชีวิต
วันนี้ Blog นี้ คงได้ทำหน้าที่ของมัน อย่างที่เจ้าของตั้งใจเสียที ในการบันทึกประสบการณ์หรือเหตุสำคัญ เผื่อว่าวันหนึ่งข้างหน้ามันอาจมีคุณค่า ไม่ว่าจะทั้งเชิงบวก เชิงลบ ก็ตาม เป็นเครื่องเรียนรู้ ตอกย้ำเตือน ให้สติ ฝึกการคิดพิจารณา การมีดุลยพินิจ วิจารณญาณ ที่ไม่ใช่มีชีวิตแค่มีความรู้สึก แต่เป็นผู้มีความรู้สึกนึกคิดในระดับวิจารณญาณ เป็นผู้มีชีวิตที่มีวิจารณญาณและใช้ดุลยพินิจ ไม่ใช่ใช้แค่ความรู้สึก เช่น สิ่งมีชีวิตทั่วไป
บันทึกเรื่องราวนี้ มีคำถามมากมาย ที่ใครจะช่วยกันตอบก็ได้ ผู้มีเรื่องราวคล้ายนี้ หรือเจ้าของเรื่องราวนี้ จะตอบก็ได้
เรื่องมีอยู่ว่า หญิงคนหนึ่ง รู้สึกไม่ดีกับชายคนหนึ่ง เธอเห็นว่าชายคนนี้ ประมาณว่า กินที่ลับ ไขที่แจ้ง ไม่ให้เกียรติผู้หญิงที่เคยคบหา และเป็นผู้ละลาบละล้วงเรื่องผู้อื่น ซึ่งเธอเองต้องระวังและหลีกเลี่ยง เพราะตัวเธอก็โดนแฮกค์ (ถาม) ข้อมูลส่วนตัวเช่นเดียวกัน
วันที่ชายคนนี้จะย้ายจากที่ทำงาน หญิงคนนี้จึงได้ถามว่า จะไปเมื่อไหร่ ชายคนนี้ตอบว่า ถามแรงนะ หญิงได้แต่ข้องใจ สงสัยว่าชายคนนี้รู้สึกอะไรจึงพูดว่าแรงนะ แต่ไม่ได้พูดคุยหรือเคลียร์ในสิ่งที่ตนสงสัย แต่กลับนำเรื่องราวที่ตนสงสัยเล่าให้เพื่อนร่วมงานฟัง ซึ่งเพื่อนร่วมงานก็ได้วิเคราะห์กันไป
หญิงคนนี้จึงได้รู้สึกว่า ตนไปทำให้ชายคนนี้รู้สึกไม่ดีหรือเปล่า และตลอดที่ผ่านมาตนเองก็รู้สึกไม่ดีกับชายคนนี้ วันหนึ่งจึงได้เช่าวัตถุมงคลมอบให้แก่ชายคนนี้ ด้วยคิดว่าต้องการความสบายใจทำให้เขารู้ว่าตนเองไม่ได้คิดอะไรไม่ดีกับเขา ด้วยการให้สิ่งของนี้ และไม่คิดด้วยว่า เมื่อให้ไปแล้วผู้รับจะรู้สึกอะไร
ชายคนนี้ได้เล่าว่า เมื่อได้รับสิ่งของก็รู้สึกดี ก็คิดว่าหญิงคนนี้รู้สึกดีกับตนเอง และได้นำภาพดี ๆ ของหญิงคนดังกล่าวกลับไปที่ทำงานแห่งใหม่ด้วย ชายดังกล่าวบอกอีกว่าตอนนี้ตนเองมีครอบครัวแล้วจึงไม่ค่อยคิดเรื่องชู้สาวเหมือนก่อน รวมทั้งเข้าใจว่า หญิงคนนี้คงมีใคร จึงไม่อยากจะคิด แต่ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ หญิงคนนี้คงไม่รอด เขาก็คงมีพฤติกรรมชายเจ้าชู้กับหญิงคนนี้แน่นอน
คำถามมีอยู่ว่า
1 การกระทำทั้งหมด หญิงคนนี้ แคร์ ชายคนนี้หรือไม่
2 สมเหตุผลหรือไม่ ในการที่หญิงคนนี้บอกว่ารู้สึกไม่ดีกับชายคนนี้ แล้วตนเองรู้สึกไม่ดีที่ผ่านมาอคติกับเขา จึงอยากให้สิ่งของกับเขา เพื่อสร้างความรู้สึกดีให้ตนเอง ละลายอคติตนเอง ว่าดีกับเขาแล้วเราจะได้ไม่ได้รู้สึกไม่ดีกับเขา
3 จริงหรือคนทั่วไปเมื่อให้สิ่งของกัน หวังแค่ความรู้สึกดีของตนฝ่ายเดียวเท่านั้นหรือจากการได้ให้ โดยไม่เกี่ยวกับความรู้สึกของผู้รับ ไม่คิดว่าผู้รับจะรู้สึกอะไร
4 หรือคนทั่วไป เรื่องการให้ การรับ ผู้ให้อะไรก็ตามก็ย่อมหวังว่าผู้รับจะรู้สึกดี หรือได้รับการช่วยเหลือ ปลดเปลื้อง และผลของผู้รับ จะนำมาซึ่งความรู้สึกดีของผู้ให้
5 ผู้หญิงทีดีทั่วไปคิดอย่างนี้หรือไม่ว่า ในเรื่องการให้สิ่งของกับผู้ชาย ตัวเองต้องการทำให้ตัวเองรู้สึกดี โดยไม่คิดว่า ผู้รับจะรู้สึกอะไร ไม่คิดถึงความรู้สึกผู้รับว่าจะรู้สึกอะไรกับตน รวมทั้งไม่ต้องระวังความรู้สึกอะไรของใคร จากการกระทำของตน จะรับหรือจะให้ ไม่ต้องคิดผลของมันจากคู่ตรงข้าม
6 ชายคนนั้น ไม่รู้เรื่องราวด้วยว่า ที่ผ่านมาหญิงคนนี้รู้สึกไม่ดีต่อตน รวมทั้งการพูดคุยแซวกันว่า "แรง" ซึ่งชายบอกว่า เป็นการพูดเล่น ตนไม่ได้คิดว่าการถามว่า จะย้ายไปวันใดนั้น เป็นการไม่อยากให้ตนอยู่ เพราะคงไม่มีใครไม่ชอบกันแล้วเข้ามาถามอย่างนั้น คำถามคือ
6.1 หญิงคนนี้ ไม่เคลียร์การสนทนา โดยอ้างว่า ไม่กล้า อะไรเป็นเหตุให้หญิงคนนี้จึงไม่กล้า ทั้งที่ตนเองสงสัยในคำพูดแซวเล่นธรรมดาของผู้ชาย ซึ่งเป็นคนที่พูดคุยกันได้ปกติตลอดมา
6.2 แต่เก็บงำความคิด ความสงสัยไปบอกเล่าเพื่อนฝูง ซึ่งไม่มีใครรู้จริง ได้แต่วิพากษ์ แล้วหญิงคนนี้ก็นำมาสรุปใส่ไว้ในใจตนว่า ชายคนนี้ต้องรู้สึกไม่ดี จากคำพูดถามไถ่ตน ตนเองจึงต้องทำไรสักอย่าง (ไม่ใช่เพื่อให้ชายรู้สึกดี) เพื่อให้ตนเองรู้สึกดี คำถามคือ
หญิงแคร์ชาย คนนี้ใช่หรือไม่ หรือแคร์อะไร
ทำไมจึงต้องให้ความสำคัญ กับเรื่องเล็กน้อยที่ตนเองกลับคิดว่าใหญ่ ทั้งที่สุดท้ายแล้ว ชายคนนี้ไม่ได้คิดอะไรด้วยซ้ำ ไม่ได้รู้ตัวด้วยซ้ำว่า หญิงคนนี้คิดไม่ดีกับตน เมื่อได้รับของ กลับคิดว่าหญิงคนนี้รู้สึกดีกับตนด้วยซ้ำ
7 การรู้สึกไม่ดีของ่คนที่เกิดขึ้น เพราะเห็นว่าผู้อื่นทำไม่ดีนั้น ทางแก้ต้องแก้ที่ใด เช่น ถ้าชายทำไม่ดี ตนเลยไม่ชอบ ต้องแก้ที่ชายทำดี ใช่หรือไม่ แล้วแก้ได้ไหม เขาทราบไหม หากแก้ไม่ได้ หรือไม่ต้องแก้
ความรู้สึกไม่ดี ทางเหลือที่เลือกควรแก้ที่ใคร ที่ใจผู้รู้สึกเองใช่หรือไม่ ควรคิดใหม่ รู้สึกใหม่ แผ่เมตตา เข้าใจคนให้มากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องราวที่เขาเป็นโดยทั่วไปไม่เกี่ยวอะไรกับเรา ทำความเข้าใจเขาได้ ใจเราก็เลิกอคติแล้ว และเราก็ได้ทำเพื่อตัวเราแล้ว ไม่ต้องไปแก้หรือเกี่ยวข้องกับผู้อื่นให้สุ่มเสี่ยง หรือเกิดผลกระทบอื่น และคำถามคือ
ทำไมจึงไม่แก้ที่ตัวเอง ใยจึงต้องนำมาใส่ใจให้เป็นปัญหา จนเป็นเหตุต่อเนื่องให้ต้องสู้อุตส่าห์คิดในการทำดีแก้ปัญหาโดยไปเช่าวัตถุมงคลมาเพื่อปฏิบัติดีต่อเขา เพื่อให้ตัวหญิงเองนั้นจะได้รู้สึกดี หายอคติแล้ว
8 การกระทำทั้งหมด หลอกตัวเองใช่หรือไม่ และที่สำคัญ หลอกผู้อื่นด้วย เพราะเขาไม่รู้ว่าให้เพราะอะไร ถ้าให้เพราะไม่ชอบเขา และให้เพื่อสะท้อนกลับไปที่ตนเองนั้น คำถามอีกว่า
หลอกตัวเอง หลอกผู้อื่น แล้วยัง เห็นแก่ตัว ทำเพื่อตัวเอง ใช่หรือไม่ เพราะอ้างว่า ไม่ได้เล็งเห็นผลหรือคิดว่า ให้ไปแล้ว ผู้รับจะรู้สึกอะไร ผลการให้จะเป็นอย่างไร
9 เป็นผู้หญิงให้อะไรกับใคร ไม่คิดบ้างหรือว่า ชายผู้รับจะรู้สึกอะไร หญิงบอกว่า ถ้าจะรู้สึกอะไร เขาก็ย้ายแล้ว คำถามคือ
นั่นแสดงว่า หญิงคนนี้คิด หรือไม่คิดกันแน่ กับผลของการให้ เพราะบอกว่า ถ้าจะรู้สึกดีหรือจะอะไรกับเรา เขาก็ย้ายแล้วจะทำอะไรได้ และหากคนมันจะคิด ให้ของหรือไม่ให้ของก็คิดได้ทั้งนั้น
10 ต่อมา ชายคนนี้ได้รู้ว่า หญิงคนนี้ให้เพราะอะไร จึงไม่ต้องการวัตถุมงคลนี้ โดยบอกว่า จะไปเอาออกจากที่ตั้ง แต่จะไม่ทิ้ง แต่จะเอาไปให้ผู้อื่นเสีย เพราะชายคนนี้รับสิ่งของต่าง ๆ และตีมูลค่าจากคุณค่าทางใจ และความรู้สึกที่ดีต่อกัน โดยมีสิ่งของเป็นตัวแทน
แต่ในความเป็นจริง เมื่อรู้ว่า ใจผู้ให้ไม่ได้รู้สึกดี แต่จะมาทำดีเพื่อตนเอง หลอกทั้งตนเองและผู้อื่นให้รู้สึกดีนั้น ตนไม่ขอรับเสียดีกว่า คำถามคือ
สิ่งของที่ให้นี้ ไม่ได้มาจากความรู้สึกดีจริง ใช่ไหม และไม่สามารถเป็นตัวแทนความรู้สึกที่ดีต่อกันได้ จริงไหม
11 หญิงคนนี้ เคยมีประสบการณ์ ในการรู้จักผู้ชาย และระมัดระวัง แม้แต่ในการฝากความคิดถึงหรือระลึกถึงกัน โดย ฝากบอกความคิดถึงชายคนหนึ่ง แต่สั่งว่า อย่าบอก คำถามคือ
หญิงคนนี้ มีความระมัดระวังแบบผู้หญิง ถูกต้องไหม
การฝากความคิดถึง แสดงว่าต้องมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีระดับหนึ่ง รวมทั้งมีจิตใจที่ดีต่อกัน การกล่าวฝากแม้จะเล่น ๆ จึงเกิดขึ้นได้จริงจากใจที่รู้สึกได้จริง แต่การปฏิบัติที่ห้ามว่า อย่าบอกนั้น เกิดจากความระมัดระวังในการกลัวชายเข้าใจผิด ซึ่งอาจไม่ดีไม่งาม ตรงนี้เป็นลักษณะของหญิงที่ดี คำถามคือ
ทำไมครั้งนี้ กับชายอีกคน ทั้งที่เป็นคนที่ไม่ได้รู้สึกไม่ดี ไม่ต้องหลีกเลี่ยงเหมือนอีกคน แต่ทำไมจึงคิดระวัง หลีกเลี่ยง กลัวการเข้าใจผิด แล้วกับชายที่ตนเองต้องการระวัง หลีกเลี่ยง แต่กลับมีพฤติกรรมการเข้าหา หยิบยื่นให้ โดยไม่คิดถึงผลว่าฝ่ายชายจะเข้าใจผิดหรือไม่
หรือเข้าใจผิดก็ช่าง ก็จะทำ นั่นแปลว่าอะไร
12 กรณีการฝากความคิดถึงชาย เป็นเครื่องยืนยันได้ว่า ในโลกของผู้หญิง ความรู้สึกดีต่อชายคนหนึ่งซึ่งมีจริงในใจ ก็ถูกปกปิด ไม่ปรากฎให้เห็นได้ จากการระมัดระวังป้องกัน การกระทำ แม้แต่คำพูด (แม้ไม่แสดง ก็มีจริงได้) ซึ่งมีความลึกลับซับซ้อน หน้าอย่าง ใจอย่าง ด้วยเหตุอะไรหรือ
13 แล้วในกรณีที่การให้สิ่งของสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดี ไม่จำเป็นต้องระมัดระวังหรือ หรือมีใจต้องระวัง ไม่มีใจจริง ไม่ต้องระวัง แล้วผลที่เกิดล่ะ กรณีความคิดถึง เราระวังผลที่จะเกิดใช่หรือไม่ กล่าวคือ กลัวจะเข้าใจผิด จากการหยิบยื่นคำพูดที่ดีให้กับผู้ชาย แล้วการหยิบยื่นสิ่งของทีดีให้กับผู้ชายอีกคน ไม่คิดถึงผลหรือว่าจะเข้าใจผิด
เรามีหลักคิดในการเลือกปฏิบัติจากมาตรฐานอะไร เราคำนึง ระมัดระวัง ผลของมันที่จะเกิด หรือเราระวังจากอะไร อารมณ์ ความรู้สึก ความต้องการของเราเองในขณะนั้น ความอยากทำไม่อยากทำ มันไม่สำคัญว่าเราจะคิดอะไร แต่มันสำคัญว่าผู้อื่นจะคิดอะไรมิใช่หรือ ที่เกิดจากพฤติกรรมของเรา
14 บทชีวิตบทนี้ คือ หินก้อนเล็ก ที่เราเดินสะดุด (เพราะเราไม่เคยสะดุดภูเขาหินอยู่แล้ว) เรามองข้ามหินก้อนเล็ก ๆ ใกล้ตัว ที่จะทำให้ชีวิตเรามักสะดุด แล้วเมื่อเราล้มลง ก็กลายเป็นเรื่องใหญ่ บาดเจ็บเล็กน้อย บวม หรือหัวฟาดตายไป จากเรื่องเล็ก ๆ เช่น มะเร็ง สึนามิ อารมณ์ กระจกรถแตก ล้วนเกิดจากจุดเล็ก ๆ ทั้งสิ้น ไม่มีอะไร เกิดจากเรื่องใหญ่ เรื่องใหญ่ ๆ ไม่เคยมีจริงในโลก ไม่มีมหภาค ไม่มีรัฐบาล ไม่มีสังคม ไม่มีจังหวัด อำเภอ ตำบล แต่มี คน บุคคล รวมเป็น กลุ่มคน ชุมชน สังคม ตำบล อำเภอ จังหวัด ภาค ประเทศ รัฐบาล ภูมิภาค ทวีป ที่สุดคือ ประชาคมโลก ที่เกิดจากคนทุกคนในโลก
โลกนี้มีแค่ 0 กับ 1 สิบ ร้อย พัน หมื่น แสน ล้าน ไม่มีจริง ล้วนมาจาก 1 รวมกันสิบครั้ง 1 รวมกันร้อยครั้ง ฯลฯ ชีวิตมีแต่ yes กับ No ใช่ กับ ไม่ใช่
15 ชายคนนั้นบอกว่า หญิงคนนี้ ไม่มีจุดยืน นั่นซินะ ดูจากสองกรณีชายข้างต้น ก็พอรู้ว่า จุดยืนเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ตามแต่ความต้องการ ณ อารมณ์นั้น เพราะสิ่งที่ควรทำได้ หญิงคนนั้นอาจไม่ทำก็ได้ และสิ่งที่ไม่ควรทำ แน่นอนว่า หญิงคนนี้ สามารถทำได้แน่ ๆ บนจุดยืนของเธอเอง โดยไม่เคยมีใครไปบงการชีวิต ความคิดของเธอ ที่คิดและเลือกกระทำเองทั้งสิ้น
คนไม่มีจุดยืน หรือมีหลายจุดยืนตามความเห็น ความต้องการของตนเอง ณ เวลานั้น กันแน่
16 ชายคนนั้นยังบอกอีกว่า ถ้ามีโอกาสถาม เขาจะถามว่า รู้จัก มนุษย์ กับ อมนุษย์ ดีแค่ไหน
หญิงคนนี้จะรุ้สึกอะไรไหม ว่า ชายคนนี้ได้รู้แล้วว่าตนเองรู้สึกอะไร
16.1 ไม่ควรรู้สึกอะไร เพราะหญิงคนนี้บอกว่า ไม่ได้สนใจอยู่แล้วว่า ให้ของไปแล้วเขาจะรู้สึกดี ไม่ดีอย่างไร ขอให้ตนเองได้ทำในสิ่งที่ให้ ก็พอแล้วมิใช่หรือ ดังนั้น เมื่อให้ไปแล้ว เขาจะรู้สึกพอใจ ไม่พอใจ เห็นว่า เราให้ด้วยใจจริง หรือไม่จริงใจ ก็ต้องสุดแล้วแต่ ถูกต้องไหม
16.2 หญิงรู้สึกไม่ดี เพราะฝ่ายชายเขาดันมารู้ว่า หญิงรู้สึกกับเขาไม่ดี แล้วมาให้ของเขา ไม่น่ามีคนไปบอกให้เขารู้เลยว่า เรารู้สึกไม่ดีกับเขา
อ้าว ถ้าเป็นข้อนี้ ก็มีคำตอบว่า จะรู้สึกไม่ดีได้อย่างไร ในเมื่อให้เหตุผลชัดเจนว่า เราเล่าให้เพื่อนฟังและได้คิด ได้นำมาใสใจว่า ไปถามเขาแบบนั้น มันไม่ดีกับเขา เขาคงรู้สึกไม่ดี ว่าเรานั้น รู้สึกไม่ดีกับเขา ดังนั้น เราจึงต้องให้สิ่งของเพื่อชดเชย
ถ้าเช่นนี้แล้ว คำตอบก็กลับมาเป็น
ไม่ควรรู้สึกไม่ดี เช่นกัน เพราะ ก็เขาก็รู้ไปแล้วว่า เราไม่รู้สึกไม่ดีกับเขา ไม่ว่าจะที่ผ่านมา (แอบคิด) หรือจากการพูด เอาเป็นว่า ก็เขารู้อยู่ก่อนแล้วว่า เรารู้สึกไม่ดีกับเขา และเมื่อเขารู้ภายหลังว่า เรารู้สึกไม่ดีกับเขา และก็เราได่ให้ของเขา มันก็น่าจะเหมือนกัน
แต่บังเอิญไม่เหมือนกันตรงที่ เขาไม่ได้รู้มาก่อน แต่เขาเพิ่งรู้ แต่หญิงกลับไปใส่ใจ ไม่เคลียร์ ไม่ไถ่ถามทั้งที่ก็ได้พูดคุยกันอยู่ แล้วมาบอกว่า เขาต้องคิดว่าเราคิดไม่ดีกับเขา ก็แปลว่า ยอมรับว่าเขารู้ก่อน ดังนั้น เขารู้ก่อน และรู้อีก ก็ไม่เห็นจะเสียหายไร แต่ว่าหญิงคงเสียความรู้สึก เพราะเขาไม่เคยคิดมาก่อน แต่คุณหญิงดันคิดเอง เออเอง คิดแทนคนอื่นเขาตลอดเวลา นำมาใส่ใจ
เช่นนี้ จะให้บอกว่าอะไร วิเคราะห์ สังเคราะห์ว่าอะไร
นี่เองใช่ไหม ที่เป็นอุปสรรคพื้นฐาน กีดขวาง ความสำเร็จ ก่อให้เกิดปัญหาในหลาย ๆ เรื่อง หรือเป็นสิ่งที่ดีแล้ว ถูกต้องแล้ว กันแน่
ชีวิตไม่ใช่สิ่งผิด แต่ควรให้ความสำคัญกับจุดอ่อนที่ทำให้ผิด ขับรถชนกันตายแล้วยอมรับผิด การยอมรับผิดมันคือจบที่ปลายน้ำ ได้แค่รู้ว่าได้ทำผิดไป แต่ได้รู้ไหมว่า อะไรที่ไม่ดีที่ทำไปแล้วมันก่อให้เกิดความผิดพลาด มันไม่สำคัญเท่ากับต้นน้ำที่เราได้รู้ตัวเองว่า ได้ทำอะไรไม่ดีลงไปหรือเปล่า เช่น นอนไม่พอขับรถหลับใน เมาแล้วขับ คุยโทรฯ ทะเลาะกับแฟน ขาดสมาธิ ฯลฯ เรื่องเล็ก ๆ ทั้งนั้น ที่ส่งผลสูญเสียมหาศาล ดังนั้น ถ้าคนเราจะสูญเสียอะไรไปด้วยเรื่องเล็ก ๆ มันก็คงต้องยอมรับว่า ปกติและธรรมดา ใช่ไหม
ment นี้ ให้ใครลองคิดเรื่อง จิตวิเคราะห์ ดูเล่น ๆ ก็ได้
ที่จริงยังมีเรื่องราวให้คิดเล่นอีกเยอะ แต่หมดเวลาว่างแล้ว