เมื่อปี 2009 กลับเมืองไทยไปกับครอบครัวอีหัวเหม่ง เป็นครั้งแรกของครอบครัวฝรั่งหัวทอง (จริงๆไม่ค่อยจะเหลือให้ทองแล้ว..ฮ่าฮ่า..) ที่ไปอเมซซิ่งไทยแลนด์ บล็อกนี้จะเป็นการรีวิวอัลบั้มรูปเก็บไว้ค่ะ เผื่อตกร่องปล่องชิ้น ตกลูกกับอีหัวเหม่ง จะให้ลูกเอาไว้ดูเล่นๆ

(ตกลูก - มันเป็นกริยาที่ใช้กับควายรึเปล่าวะ...)
ไม่ใช่ครั้งแรกของอีหัวเหม่งค่ะ ครั้งนี้เป็นครั้งที่สามของมันที่ไปเมืองไทย แต่เป็นครั้งแรกที่เดี๊ยนที่หอบฝรั่งไปไหว้อีพ่อกับอีแม่ที่บ้านนอก.. เป็นครั้งแรกของพ่อใหญ่พร (จริงๆชื่อ พอล แต่แม่เดี๊ยนเรียกแกว่า อีพ่อใหญ่พร..

) ที่ไปฮอลิเดย์เมืองไทย ครั้งก่อนๆนู่นแกมาดูงานที่โรงงานอาหาร แต่ไม่เคยได้มีโอกาสเที่ยว ส่วนแม่ใหญ่โรเบิตต้าาาา (ชื่อที่แม่เดี๊ยนเรียกอีกแล้วค่ะ..

) เป็นครั้งแรกจริงๆ แกอยากจะมาเที่ยวขำๆ
เราไปกระบี่ ภูเก็ต แล้วก็ไปเยี่ยมบ้านเดี๊ยนที่บ้านนอกค่ะ ขอเล่าเรื่องเป็นภาพถ่ายแล้วกันนะคะ..
..
..
ตอนลงเครื่องที่สุวรรณภูมิ หลงก่นด่าการท่าค่ะ.. แมร่งงกแอร์ ไม่ยอมเปิดแอร์รึงัยฟร่ะ ร้อนอิ๊บอ๊าย (

สองมือก็พัดเอาเป็นเอาตาย..) จริงๆแล้วเค้าเปิดแอร์ค่ะ แต่หนังเดี๋ยนขี้ไคลมันหนา แอร์แรงแค่ไหนก็ไม่ซึมซาบเข้าผิวหนัง..


รูปถ่ายที่หาดนพรัตน์ธาราวันแรก เดี๊ยนพาฝรั่งไปเริงร่าสุดฤทธิ์ กะจะไปเริงร่าเป็นพะยูนเกยตื้น..กำลังโอ้ลั่นล้าโพสต์ท่าอย่างเมามัน.. พลันสายตาเหลือบไปเห็นป้ายอุทยานแห่งชาติ..สมองซีกขวารีบทำงาน ตายละว่า.. หัวดำยี่สิบ หัวทองสี่ร้อย คูณสาม พันสอง... รีบปัดดากให้ว่อง.. ฝรั่งสามชีวิตอึ๊งกึมกี่.. อีสาวรีบบอก.. มันร้อนน่ะค่ะ รู้สึกจะเป็นไข้ เรารีบขึ้นรถนะคะ..

(จริงๆ สะตอ ไม่อยากเสียเงินต่างหากล่ะ)

อันนี้เดี๊ยนนึกว่าแม่ใหญ่โรเบิตต้าาาแกช่างดีแท้ ซ้อมเก็บใบย่านางหรืออย่างไร แกคงกลัวว่าแม่เดี๊ยนจะพาไปโคก เก็บเห็ด เก็บใบย่านาง แกก็เลยซ้อมให้มันคล่องมือ..อิฉันปลาบปลื้มมมม...


วันที่สอง พาไปวัดถ้ำเสือค่ะ..ก่อนไป ได้สอบถามไกด์ผีอย่างเดี๊ยน มันก็ได้ข้อมูลผีๆว่า เนี่ยอเมซซิ่งไทยแลนด์นะ วัดนี้มีเสือเยอะมาก ยูเคยเห็นไหม เสือเชื๊อง เชื่องเหมือนลูกแมวเลย...

ฝรั่งพ่อแม่ลูกเปี่ยมด้วยความหวัง ได้ถ่ายรูปกับเสือตัวเป็นๆด้วย..

..
..
และแล้วก็ไม่ผิดหวังค่ะ... เสือเชื่องอย่างกับลูกแมว...
..
..


ทั้งวัดมีแค่ตุ๊กตาเสือน้อยอยู่หน้าร้านขายของ.. อเมซซิ่งจริงๆ (อย่าว่าแต่ฝรั่งเลย ตรูเองก็เซ็ง นึกว่าวัดเสือจะมีเสือ...พิโธ่)
แต่เราก็มาเจอนี่ค่ะ... ครอบครัวฝรั่งสุขสันต์ อเมซซิ่งลิงไทย.. แต่ตรูกับลิงอเมซซิ่งฝรั่ง เอากล้วยให้ลิงต้องปอกเปลือก!!

..

..
นอกจากลิงได้อิ่มท้อง ผู้เป็นพ่อได้เผื่อแผ่ให้ลูกชายด้วยความรัก...

วันต่อมาทริปทางทะเลค่ะ ไปทะเลแหวก ส่วนชื่อเกาะอื่นๆจำค่อยได้แล้ว แต่มีเกาะนึงจำแม่นเลยค่ะ ชื่อเกาะแมลงวัน ที่มีร้านอาหารอยู่บนเกาะอยู่แค่ร้านเดียว แต่แมลงวันประมาณแสนล้านตัว ไปซื้อข้าวกล่องร้านเจ๊แกค่ะ อุตส่าห์หอบหนีไปกินบนเรือกลางทะเล แมลงวันยังทู่ซี้ตามไปอีก ครอบครัวฝรั่งไม่มีปัญหาค่ะ ล่อเบียร์หลังอาหารฆ่าเชื้อ ส่วนเดี๊ยนไม่กินเบียร์นี่คะ ก็ขี้แตกตูดบานตามระเบียบ ต้องล่ออิโมเดียมไปสองเม็ด เกือบตาย.. จำจนตาย อีเกาะแมลงวัน!!


สองคนแม่ลูกดี๊ด๊า ได้ออกจากถ้ำเย็นเมืองผู้ดี รีบไปนั่งอาบแดด..

ผู้เป็นพ่อขอหลบแดดนิดๆ เปิดผิวหน่อยๆ... ส่วนอีสาวไทย ก็นั่งนมห้อยใต้ร่มเงาค่ะ.. ก็หนูคนไทยนี่คะ.. ขอขาวไว้ก่อน...

ลุงพรกับป้าโรเบิตต้า... (แถมลิง พุงปลิ้น โดดดี๊ด๊าอยู่ด้านหลัง...

)

ชุดว่ายน้ำถึงขั้นปริ นมเนิมทะลักทะล้น หลังจากหนึ่งปีโหมทำน้ำหนักเมืองผู้ดีไปสี่-ห้ากิโล..

อีหัวเหม่งกับชะนีภูธร.. รักกันปานจะแหกดากดม

ลามปามว่าที่พ่อผัวด้วยหมวกเก๋ไก๋.. จะไม่ได้มรดกก็เพราะตรูชอบลามปามนี่แหละว้าาา....

ตูดฝรั่ง!! (บ้านนี้ตูดดินระเบิด น้องๆเจโลกันทีเดียว)

ขากลับ ขับรถผ่านสวนยาง ฝรั่งตื่นตาตื่นใจ สายใยครอบครัวบนหลังอาน มาตรฐานความปลอดภัยแบบฉบับพี่ไทย.. อเมซซิ่งปิดท้ายวัน ก่อนอิฉันจะตูดบาน....


วันถัดมา ลาแล้วค่ะ กระบี่ ล๊อบบี้โรงแรม Sofitel เก๋ไก๋ ไฮโซ จองผ่าน expedia เหลือคืนละ 56 ปอนด์ คุ้มแท้ ราคานี้ที่อังกฤษได้แค่ BB ห่วยๆ

แล้วก็ย้ายตูดไปป่าตองค่ะ ช่วงนั้น วันสงกรานต์คุณเอ๊ย ออกไปไหนก็ไม่ได้ กลัวเปียก ครอบครัวนี้เค้าก็ไปนอนอาบแดด จิบเบียร์ ที่สระว่ายน้ำ ส่วนอิฉันก็นอนเอาผ้าห่อตัวปานดักแด้อยู่ใต้ต้นไม้ ร้อนชิ๊กหาย ทนอยู่ได้ไม่ถึงครึ่งชม ไม่ไหวแล้ว ตัวเปียกยังดีกว่าตายแดดเป็นกุ้งแห้งวะ เดินออกไปซื้อส้มตำปูปลาร้า มะม่วงกระปิ มาจกอยู่ระเบียงหลังห้องสบายใจ (ในห้องแอร์ไม่กล้า เกรงว่าแม่บ้านโรงแรมมาได้กลิ่น จะเตะออกจากห้องพัก อิอิ)
วันต่อมา เดี๊ยนกับอีหัวเหม่งก็จองตั๋วเดย์ทริปไปพีีพีค่ะ พ่อกับแม่อีหัวเหม่งไม่ไปด้วย แกอยากให้สองคนได้สวีท (จริงๆแล้ว แทบจะตบกันตลอดทริป) นั่งรถสองแถวไปท่าเรือไปเจอเด็กน้อยน่ารัก แต่ outfit ผิดฤดูจริงๆนะคะคุณน้อง..


ถึงพีพีก็ไปดำผุด ดำว่ายค่ะ จินตนาการว่าตัวเองเป็นนางเงือก แต่ความจริงแล้วเดี๊ยนมันคือ พะยูนยักษ์ค่ะ น้ำใสโคตรๆ ปลาเพียบ เจอนีโมด้วย.. ด้วยความไม่รู้ (ฟังดูดี จริงๆโง่ค่ะ) ไปให้อาหารปลาด้วย มารู้ทีหลังว่า มันไม่ถูกต้อง เพราะปลามันจะเป็นง่อย ไม่ยอมไปกินสาหร่ายบนปะการัง เป็นการทำลายระบบนิเวศน์ ตอนนี้รู้แล้วค่ะ จะไม่ทำอีกเด็ดขาด...

พอขึ้นเกาะพีพีแล้ว มีเวลากินข้าวแล้วก็ชมวิวไม่นานก่อนที่เรือจะกลับเข้าฝั่ง แต่ด้วยวิญญาณนักสำรวจน้อยเข้าร่าง คิดว่าใกล้แค่นี้ เดี๋ยวก็ถึง เดินกึ่งวิ่งขึ้นไปบนจุดชมวิว ป้าดดดดดดด ใกล้ตาแต่ไกลตีนชิ๊กหาย.. ลิ้นกรูห้อยมาที่นม แล้วก็ยังไม่ถึงอีก.... เอ้า ตะเกียกตะกายเข้าไป

และแล้วก็กระเสือกกระสนจนถึงที่หมาย จากนางงามสาวสยาม ก็เป็นนางหัวบาน นางลิ้นห้อย หาได้มีเค้าความงามไม่

แต่ดูสิคะ สวยจริงๆ ขนาดใช้กล้องกิ๊กก๊อก

ชักภาพได้สองสามรูป ไม่มีเวลาแม้กระทั่งซับหน้า เพราะต้องรีบไปให้ทันเรือ โกยตูดตั้งวิ่งลงเขา... สุดท้ายก็ทันค่ะ
อาหารของทัวร์นี้ ถือว่าใช้ได้เลยค่ะ ต้มยำทะเลจริงๆ ชิ้นใหญ่ทั้งน้านน เดี๊ยนก็สวมวิญญาณชูชกทันที ทั้งโกย ทั้งยัดเข้าปาก หารู้ไม่ ไม่กี่ชั่วโมงถัดมา ตูดบานรอบสอง

โชคดีของอีหัวเหม่ง มันกินได้แค่ข้าวกับไก่ทอด รอดตัวไป
เย็นนั้น ถึงแม้ตูดจะบาน แต่อิฉันยังสั่ง Seafood มาจก อร่อยปากลำบากตูด นี่แหละหนาคนเรา กินเสร็จ เราไปเดิน walking street ค่ะ

เดินๆอยู่ เจออีกัวน่า เค้ามาหลอกล่อให้ฝรั่งถ่ายรูป บางคนก็กลัว ร้องกรี๊ดกร๊าด ส่วนเดี๊ยนก็จ้องเขม็ง เข้ามาใกล้ๆกรูนี่มา กรูจะจับทำลาบแย้กินเสียให้หมด...ฮ่าฮ่าาาา


ดื่มสักแก้วสองแก้ว พ่อกับแม่ขอตัวกลับ ส่วนเราสองคนก็ไปต่อค่ะ ทายสิไปไหน... ไปดูอะโกโก้ค่ะ!!!
มันเป็นครั้งแรก และครั้งเดียวของเดี๊ยนจริงๆ ไหนๆก็เกิดครั้งเดียว ขอเข้าหน่อยเถอะฟร่ะ อยากเห็นง่ะ อเมซซิ่งจริงๆ มีดอกไม้ มีปลาทอง (ตอนพ่นลงมานี่ ตรงเป้าเผงเลย หลุดลงน้ำดัง จ๋อม..) มีกบ แต่ที่เด็ดสุดเห็นจะเป็นนกตัวเล็กๆ งงจริงๆค่ะ สงสัยว่าตอนนกมันอยู่ในนั้น มันไม่จิกโพรงมดลูกเหรอคะ ใครรู้ช่วยบอกที ไม่ได้สนับสนุนเลยจริงๆ จะดอกไม้ จะมีดโกน จะเทียนยักษ์ก็เถอะค่ะ จิมมี่ของคุณ แต่นี่มันเป็นการทรมาณสัตว์ กลัวมันจะเหม็นตายก่อนบินออกมาน่ะสิ... โอ๊ยยย คนเรา..
จบตอนแรกดีกว่า ยาวโคตรๆ ตอนสองจะพาไปเที่ยวบ้านไฮโซบ้านนอกกันค่ะ..
ปล. แล้วว่าที่พ่อแม่ของหัวเหม่งชอบเมืองไทยป่าวค่ะ