ครึ่งหนึ่งของชีวิต ที่เหลือ จะเดินต่อไปอย่างมีความสุข

 
กุมภาพันธ์ 2549
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728 
 
26 กุมภาพันธ์ 2549
 

หนังสือให้อะไรเราบ้าง

เป็นคนรักหนังสือโดยเนื้อแท้...หนังสือเล่มแรกๆของชีวิตคงจะเป็น ขวัญเรือนของคุณแม่ ตามมาด้วยโลกทิพย์ของคุณพ่อ และหนังสือสารคดี ไฮคลาส และ นวนิยายอื่นๆ ตามมา...

ด้วยเป็นคนนอนไม่หลับ..คุณแม่เลย ให้อ่านหนังสือธรรมะก่อนนอน จนหลับ..แน่นอน กองหนังสือเลยท่วมท้น..เพราะนอนหลับยากจริงๆ...อ่านไปๆ...จนโต...

นวนิยายที่เริ่มอ่าน..ที่ชอบมาก..คือ เรืองสั้น ของหลวงวิจิตรวาทการ...ในเรื่อง คืนรักคืนร้าง และ ชั่วดีพี่สะใภ้ อ่านแล้วสอนใจอะไรได้มาก..แม้กระทั่งวันนี้ ก็ยังจดจำเรื่องคืนรักคืนร้างมาใช้กับตัวเอง..

หลังจากอ่าน..มามากมาย...บางเรื่องก็นิยมนำมาประยุกต์กับชีวิตจริง..เรื่องอิงชีวิต ที่ชอบอีกเรื่องคือ ตึกฝรั่ง..

นอกจากนี้ก็อ่านนิยายของทมยันตี ตั้งแต่เล็ก..ในสมัยที่ยังน่าอ่านอยู่ จนปัจจุบัน แทบไม่แตะ เรื่องใหม่ๆของท่านแล้ว...เพราะอะไร..เพื่อนๆนักอ่านคงทราบดี...((เช่นกัน)) ตอนหลังๆ หันมาอ่าน ของกิ่งฉัตร หรืออาจารย์ วินิตา (ว.วินิจฉัยกุล) ว.ณ . ประมวลมารค (พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต) หรือท่านอื่นๆ แล้วแต่ชอบ...แต่หลังๆที่อ่านแล้วบันเทิงใจนัก แต่ไมใคร่จะให้ ความคิด เรื่องชีวิตเท่าไหร่..ก็คือ อาริตา..อ่านแล้วสนุกลื่นดี..

ชีวิตการอ่าน..เริ่มเข้มข้นขึ้นเมื่อตั้งมันให้เป็นเงื่อนไข ในการเรียนหนังสือในชีวิต..สอบเสร็จครั้งใด..วันสอบสุดท้าย วิ่งไปร้านหนังสือทุกครั้ง..หนึ่งเล่มต่อการสอบทุกครั้ง...ตั้งแต่ ม. 1..(ปี 2533) .มาถึง ปัจจุบัน

ในห้องนอน เลยมีตู้หนังสือขนาดใหญ่...ขนาด 2.5 x1.5 เมตร สำหรับเก็บหนังสือที่รัก...((เก็บตังค์สร้างตู้นี้..ตอน ม. 4 สั่งทำ)) ด้วยห้องนอนขนาดใหญ่ 5.5x7 เมตร เลยสามารถจะบรรจุ หนังสือ และ พรมสำหรับ ไว้กลิ้งอ่านหนังสือได้ดี

ย้อนนึกไปถึงสมัยติดการ์ตูน..ต้องแอบคุณแม่เข้าห้องน้ำ..ซึ่งอยู่ในห้องนอน..ไปนั่งกับพื้นห้องน้ำ เพื่ออ่านหนังสือในนั้น...เพราะ กลัวคุณแม่เห็นแสงไฟ ว่ายังไม่ยอมนอน เพราะคุณแม่เห็นทีไร ทะเลาะกันทุกที

แต่นิสัยรักการอ่าน ไม่ใช่จะอ่านทุกเรื่องนะ..หนังสือเรียน ก็อ่านเฉพาะที่ชอบ...เรียนเก่งเฉพาะฟิสิกส์..ขนาดอาจารย์ยังขยาด...เปลี่ยนหน้าไปหลายคน...((ซ่าส์มาก)) แต่วิชาอื่นๆ โดนคุณแม่ ปลุกทุกวันตอนตีสี่ให้ลุกมาอ่าน..โดยมีคุณแม่นั่งเฝ้า..แต่เราก็แอบหลับในเสมอ...จนคุณแม่ยอมแพ้..อิอิ..

โตขึ้นมา..ได้เข้ามาเรียนที่กทม.. ร้านแพร่พิทยาสาขาเซ็นทรัลลาดพร้าว จึงเป็นแหล่งหนังสือดีสำหรับเรา...ว่างปุ๊บ..จับรถเมล์ไป..ขลุกอยู่ในนั้นนานจริงๆ..

ต่างกับปัจจุบัน แทบไม่ค่อยได้ไปที่นั่นอีก...นอกจากหาที่อื่นไม่ได้..หนังสือส่วนใหญ่ ถูกคัดสรรมาให้ถึงบ้าน จนอ่านไม่ทัน..หลังๆ หลงใหลวรรณกรรมเยาวชน ที่แปลมา..หรืออ่านหนังสือธรรมะเสียมาก...เลย..ไม่ต้องซื้อหา...((นอกจากซื้อแจก)) มีคนจัดหามาให้ถึงที่ ขอบคุณ ในความเอื้ออารีที่มีให้มาละกัน...

หนังสือ..ทำให้ชีวิตและแบบแผนในการมองชีวิต ที่แตกต่างกับคนอื่นบ้าง ทำให้เข้าใจชีวิตได้ดีขึ้น..และเป็น สิ่งที่ทำให้เราระลึก เหมือนอ่านเกมส์ ออก โดยโง่ๆ นิดๆ..((พื้นฐานเราไม่ฉลาด แต่ มีไกด์ให้เดา เลยรู้)) ความอ่านมาก ทำให้รอบรู้ไปหลายด้าน...แต่ก็ไม่ใช่คนเก่ง ซะทีเดียว..พอเทียบกับคออ่านหนังสือหลายท่าน เรายังด้อยกว่ามากนัก...ด้วยด้อยเรื่องอายุแล้ว ยังด้อยเรื่องหนังสือที่อ่านอีก...

บ่อยครั้งหยิบยกมา คุยกัน..แม้กระทั่งธรรมะ..((เรื่องนี้เราด้อยจริง)) ด้วยไม่ค่อยได้อ่านนัก..ชอบแจกคนอื่นให้อ่านแล้วเอามาถกด้วย...แปลกไหม ที่เราไม่ชอบอ่านเลย...แต่ให้คนอื่นอ่านมาถกกับเราแทน...ธรรมะคืออะไร ทางสายกลางอยู่ตรงไหน..จุดมุ่งหมายของมนุษย์แท้จริงคืออะไร...อะไรคือแก่นแท้....นี่ละที่ถกเถียงกัน..

สิ่งที่หลายๆท่านอ่านมา คือวิธีการ..ที่จะเดินไป ในทางสายนั้น...แค่ต่างวิธี ต่างความคิด..แต่บทสรุปแล้ว..ใจกลาง คือคล้ายคลึงกันแทบทั้งสิ้น..

เปรียบกับแม่น้ำสายใหญ่ มีสาขา....บ้างหลงไป สายเล็กสายน้อย..บ้างเดินสายตรง..ไม่ยอมอ้อม บ้างเดินอ้อมไปอ้อมมา เพื่อความสะบาย บ้างอ้อมไปมาจนหลงอยู่ที่ใดที่หนึ่ง..

สายน้ำมีสองฝั่ง...เราอยู่ฝั่งไหนกัน..ฝั่งบุคคลทั่วไปใช่หรือ..หรือฝั่งเคร่งครัดแบบนักบวช...สองฝั่งนี้ต่างกันกระไรเล่า...จุดหมายเช่นกัน...ต่างกันตรงไหน..มองออกหรือเปล่า...

ต่างกันตรง...ฝั่งนักบวช มักจะ มีสิ่งยั่วยุต่ำกว่า นำไปซึ่งความสงบได้เร็วกว่า...เร็วกว่าจริงหรือ...อาจไม่ใช่ บางท่านไปถึงจุดหนึ่งก็ข้ามไม่พ้น...ติดเหมือนกัน..แค่ทางสะดวก ง่ายกว่า เหมือนหญ้าไม่ค่อยรก นั่นเอง..เลยไม่ต้องอ้อมมาก

ส่วนปุถุชน คนสามัญแล้ว อยู่อีกฝั่ง มีภาระความรับผิดชอบของตน เปรียบกับดั่งมี สายเล็กสายน้อยมากั้น มีต้นไม้น้อยใหญ่ให้อ้อม..มีสิ่งล่อใจให้ วกวนไป เลยเป็นที่มาของการเดินห่างจากสายน้ำหลักไปบ้าง บ้างก็..หลง บ้างก็วนๆ แต่ถ้าเราพยายามก็ถึง ต้นน้ำเหมือนกันใช่ไหม..หรือ คนที่ยากยิ่งแล้วเดินๆไป..ก็ลืม ไม่รู้จะเดินไปทางไหน..เหมือนพวกขาด ธรรมะในใจ...แต่ใช่จะเดินผิดทางเสมอไป..บางครั้งเขาก็เดินไปถูกทาง..ไปโผล่ แล้วก็ อ้อ...ทางนี้สว่างนั่นเอง...

บ่นอะไรไปเนี่ยยาวเลย..ลืมเลย..อิอิ...

แล้วจะมาวิเคราะห์กันว่า..หนังสือแต่ละเล่มให้ข้อคิดอะไรบ้าง..ว่างๆจะ ทำเป็นเล่มๆไป...ชอบใจไม่ชอบใจ ใคร ก็ไม่เป็นไร...

วันนี้จบเท่านี้ก่อน พิมพ์ มากๆ เมื่อยเหมือนกัน...

สวัสดี




 

Create Date : 26 กุมภาพันธ์ 2549
2 comments
Last Update : 26 กุมภาพันธ์ 2549 22:04:44 น.
Counter : 704 Pageviews.

 
 
 
 
รักการอ่านเหมือนกันค่ะ แต่เวลาส่วนตัวค่อนข้างน้อย
เลยเป็นการอ่านแบบลักปิดลักเปิด
 
 

โดย: IP: 203.156.67.234 วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:22:42:44 น.  

 
 
 
ขอบคุณครับ
 
 

โดย: ไม่บอก IP: 203.113.51.104 วันที่: 24 มิถุนายน 2550 เวลา:7:06:30 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

ครึ่งชีวิต
 
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




..ฉันระลึกอยู่เสมอว่า..
ฉันได้ทำอะไร
เพื่อผืนแผ่นดิน..ที่ฉันเกิดบ้าง

[Add ครึ่งชีวิต's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com