Sawasdee Samui : The scent hotel 20-22 May 2010
สวัสดีค่ะ รีวิวตามใจฉันกลับมาอีกแล้ว หลังจากหายไปนานมากกกกเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเราหลบหลีกจากกทม.ไป พักผ่อนที่สมุยมาค่ะเราไปพักที่โรงแรม the scent หรือก่อนหน้านี้เคยใช้ชื่อ karmakametสำหรับโรงแรมนี้เราประทับใจ ตั้งแต่ตอนจองห้องพักแล้วค่ะเป็นโรงแรมเดียวที่เราซื้อเว้าเชอร์มา แล้วมีการโทรแจ้งมาเตือนให้เข้าไปพักในขณะที่หลายๆ โรงแรมซื้อเว้าเชอร์มาล่วงหน้า พอจะใช้กลับหาวันว่างลงให้เราไม่ได้ จนเว้าเชอร์แทบจะหมดอายุบ่นเยอะไป เดี๋ยวกระทู้ไม่สนุก ดูรีวิวของเราดีกว่าค่ะสำหรับการเดินทางไปสมุยด้วยครั้งนี้ เราใช้ bangkok airways ด้วยโปรโมชั่น flyer pass ที่ซื้อไว้ตั้งแต่ปีที่แล้วมาถึงสนามบินสมุยเวลา 10 โมงเช้า ก่อนหน้านี้เราโทรแจ้งทางโรงแรมแล้วว่าจะขอ early check in ทางโรงแรมแจ้งว่าได้ค่ะ ไม่มีปัญหามาถึงที่โรงแรม เข้าไปที่ล๊อบบี้ พนง.นำwelcome drink เย็นๆ สดชื่นมาต้อนรับที่เห็นด้านหลัง เป็นโซนขายพวกสินค้าภายใต้แบรนด์ karmakamet นะคะโรงแรมนี้จะพิเศษตรง เข้าไปปุ๊บจะได้กลิ่นหอมตลอดเวลา ตั้งแต่ที่ล๊อบบี้จนถึงห้องพักเลยเข้ามาในห้องพัก เจอ welcome fruit รออยู่ พร้อมจดหมายต้อนรับจาก GMก่อนหน้านี้ GM มาแนะนำตัวแล้ว GM ที่นี่ควบ2ตำแหน่ง เป็นทั้ง GM และ Chef มาดูห้องพักกันบ้าง typeห้องพักที่เราเลือกไปคือ colonial styleเตียงดูดวิญญาณมากๆ เข้าไปนอนแล้วไม่อยากตื่น มาดูห้องน้ำกันบ้าง ในห้องน้ำจะมีตะเกียงน้ำมันหอมอโรม่าให้จุดนะคะใครไปพักต้องจุดค่ะ มันหอมมากกกกกก เทียนหมด ขอเพิ่มได้อ่างอาบน้ำตั้งในตำแหน่งสยิวกิ้ว มากๆ นั่นคือ ถัดจากเตียงนอนในห้องน้ำมี basic amenities มีให้พร้อมค่ะมีน้ำดื่มวางไว้ให้ น้ำดื่มขอเพิ่มได้ตลอดวันเนื่องด้วยเรามาเครื่องเช้ามาก ตอนเช้าฝากท้องไว้ที่เล้าจ์บางกอกแอร์แล้วมื้อกลางวันขอฝากท้องไว้ที่ ห้องอาหารเจริญของโรงแรมโซนร้านอาหารนี้เป็นจุดเดียวกับที่รับ ประทานอาหารเช้านะคะ อยู่ติดริมหาดส่วนตัวของเราเคยรู้จักแบรนด์ karmakamet อยู่แล้ว เราเลยมีปณิธานไว้ว่าถ้าได้มาโรงแรมนี้เมื่อไร จะต้องไปสปาของโรงแรมนี้ให้ได้วันที่เราเข้า check in มีเราเข้าพักห้องเดียวค่ะ พอเราออกมาจากห้องสปาพนง.เลยชวนให้เราเข้าไป ดูห้องพัก type อื่นๆด้วยในรูปเป็นช่วงระหว่างเราไปสปา แล้วเพื่อนถ่ายรูปบรรยากาศรอบๆ โรงแรมค่ะ โซนสระว่ายน้ำ สระว่ายน้ำที่นิ่เป็นสระเกลือค่ะ สระขนาดกลางๆ ไม่ใหญ่มาก เราไปเที่ยวสมุยมา 3 ครั้งแล้ว ครั้งนี้เป็นครั้งที่เจออากาศดีที่สุด กิจกรรมที่ทำได้ในรีสอร์ท จะเดินชายหาดก็ได้ น้ำทะเลไม่ค่อยน่าเล่น เพราะเป็นหาดโคลนมีจุดที่เป็นสันทรายกลางทะเล เหมือนทะเลแหวกเล็กๆ สามารถพายคายัคเข้าไปดูได้ค่ะทางโรงแรมมีแผ่นหนัง DVD หนังให้ยืมนะคะ เบื่อๆ ก็เอาไปดูในห้องได้สำหรับในแพ็คเกจที่เราจองมา จะมีรวมดินเนอร์อาหารเย็นให้ 1 มื้อนะคะเป็นมื้อเย็นที่น่าประทับใจ จริงๆทางโรงแรมได้คอนเฟิมเราไว้ตั้งแต่เราเช็คอินแล้วว่าในเมนูมี อะไรบ้างอย่างเพื่อนเราไม่ทานเนื้อ ทางเชฟก็เปลี่ยนให้เป็นปลาแทน ในบรรดาโรงแรมทุกโรงแรมที่เราเข้าพัก โรงแรมนี้ทำให้เราประทับใจในเรื่องdinnerที่มากับแพ็คเกจมากที่สุดเพราะ มีการเตรียมเครื่องดื่มให้พร้อมในแพ็คเกจในขณะที่หลายๆโรงแรมที่มีดิน เนอร์มาในแพ็คเกจจะให้เราสั่งเครื่องดื่มราคาหูฉี่แทนอาหารเสิร์ฟ กี่คอร์สไม่รู้ จำไม่ได้อ่ะ แต่รู้ว่ากว่าจะถึง main course เล่นเอาแทบจุก(แต่ ก็ยังกินต่อไปเรื่อยๆจนถึงรายการสุดท้ายนิ๊)ทุกรายการอาหารเป็น เหมือนกันสองคนค่ะ ยกเว้นเมนูสุดท้ายเป็นของหวานสามารถเลือกสั่งจาก เมนูได้ ของหวานที่เราเลือกเป็น 2 รูปด้านล่างนะคะจริงๆ มีเสิร์ฟไวน์ด้วยนะคะ ไม่ได้ถ่ายรูปไว้ มื้อนี้ อิ่ม อร่อย ประทับใจสุดๆ ตอนเช้าเราไม่ได้ทานอาหารเช้าของโรงแรมนะคะเพราะ เราซื้อทัวร์ไปเกาะเต่า-นางยวนเอาไว้ทางโรงแรมเลยจัดเป็นถุงอาหาร เช้ามาให้ มีแซนวิช เค้กกล้วยหอม(เค้กกล้วยหอมอร่อยอ้ะ) ผลไม้ และน้ำดื่มให้ค่ะของทุกอย่างจัดใส่ถุงมาให้สำหรับหิ้วไปอย่างสวยงาม เราเลือกทัวร์ของซีทรานนะคะ เป็น one day trip ราคา 1550 บาทรถของซีทรานมารับเราที่โรงแรม 7 โมงเช้า ในรูปเป็นบรรยากาศบนเรือค่ะ ครั้งแรกที่เราได้ยินว่าจะมาดำน้ำเกาะเต่า นึกว่าจะให้ขึ้นไปบนเกาะเต่าด้วยสะอีกแต่จริงๆ แล้วไม่ได้ขึ้นนะคะ เรือใหญ่จะถ่ายนักท่องเที่ยวลงใส่เรือหางยาวแล้วลงจุดที่ดำน้ำค่ะจุด แรกคืออ่าวม่วงค่ะ เกาะเต่าน้ำใสเชียว อากาศก็ดี๊ ดีจบจากจุดดำน้ำที่อ่าวม่วง ก็ทานอาหารกลางวันบนเรือนั่นละจุดต่อไปที่ไปต่อคือเกาะนางยวน แดดแร๊งงงงงงงส์สุดๆ ไปเลยเราว่าถ้ามีเวลาน่าจะเข้าไปพักสักคืนนะ คะส่วนตัวคิดว่าแค่เวลาที่ทัวร์ให้เข้าไปน้อยไปค่ะสำหรับเราเคยไป พักมาแล้ว ซื้อแพ็คเกจแบบรวมอาหารทุกมื้อไปครั้งนี้เลยเพิ่งรู้ว่า อาหารบนเกาะแพงจัง น้ำแตงโมปั่น 100 บาท ทัวร์ของซีทรานกลับเข้ามาฝั่งสมุยเวลาประมาณ 17.30 น.ค่ะกลับไปถึงโรงแรมรีบอาบน้ำแต่งตัวกันเลย เรามีนัดกับทางโรงแรมไว้ 6 โมงเย็น เพื่อไปเดินที่ถนนคนเดิน หาดบ่อผุดค่ะก่อนหน้านี้ ทีแรกเราตั้งใจจะทานดินเนอร์ในคืนที่สอง แต่พนง.บอกว่าวันศุกร์ให้ไป เดินตลาดดีกว่า เพราะตลาดนี้เปิดเฉพาะวันศุกร์เลยเปลี่ยนไปดินเนอร์ ตั้งแต่คืนแรก ประทับใจพนง.โรงแรมอีกแล้ว ที่ตลาดจะมีทั้งร้านอาหารแบบธรรมดาๆ บ้านๆและ ร้านอาหารทะเลติดริมชายหาด ราคาสุดโต่งกว่าจะเดินถึงสุดถนน ก็อิ่มกันไปถ้วนหน้า กลับมาโรงแรม พนง.แอบมากระซิบว่า วันนี้มีคู่รักเค้ามาจอง dinnerแล้วผู้ชายจะ surprise สาวด้วยการจุดพลุ อาจจะมีเสียงดังรบกวนเราตอบไปว่าไม่เป็นไรค่ะ ชาตินี้คงไม่มีผู้ชายคนไหนมาจุดพลุ surprise เราแน่งั้นขอไปดูพลุฟรีของ ชาวบ้านละกัน เค้าจุดพลุสัก 50 นัดได้ ถ่ายมาได้แค่นี้ละดูพลุเสร็จกลับมาห้องพัก เจอขนมวางรอไว้อยู่อัน ด้านซ้ายเป็นของคืนแรกนะคะ เป็นมัฟฟิ่นบลูเบอรี่ (น่าจะใช่นะ)อันด้าน ขวาเป็นของคืนที่สอง เป็นกล้วยเคลือบด้วย white choc อันนี้เราชอบมากๆ อร่อย วันสุดท้ายในโรงแรม เราขอตื่นสายหน่อยละ อาหารเช้าจะเป็นการสั่งจากเมนูนะคะอาหารเช้าหน้าตาดี กินแล้วสุขใจ น้ำผลไม้ห้ามพลาด ปั่นกันสดๆ 100%ดื่มแล้วรู้สึกสวยขึ้นทันทีวัน กลับเราได้ late check out ถึง 3 โมงเย็นนะคะ พนง.บอกว่าไม่ต้องรีบไปสนาม บิน เดี๋ยวจะเบื่อ นั่งๆ เล่นๆ นอนๆ ในรีสอร์ทไปก่อน ฮูยย ได้ใจไปจริงๆถ่ายบนเครื่อง ต้องกลับกทม.แล้วเหรอเนี่ยะ T_Tฝากทิ้งท้ายไว้ให้สำหรับคนที่จะเยือนโรงแรมนี้ค่ะ- ทางโรงแรมมี wireless ให้ใช้ฟรี ติดคอมไปเล่นเนตได้- สัญญาณโทรศัพท์ชัดแจ๋ว ไม่มีปัญหาค่ะ- ราคาหลายๆ อย่างในโรงแรมเป็นราคา net ไม่มี service chart กะ taxให้มานั่งปวดหัวคำนวนทีหลัง (ประทับใจอันนี้มากๆ)- บริการรถรับ-ส่งของโรงแรมไปถนนคนเดินบ่อผุด มีให้เฉพาะวันศุกร์นะคะรถออกจากโรงแรม 6 โมงเย็น รถจะมารับกลับตอน 3 ทุ่มค่ะ