Just want to rest in peace
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2551
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
13 ธันวาคม 2551
 
All Blogs
 
[เก็บของหนีเที่ยว UK] ตอน 2 Oxford มุมเปลี่ยนอารมณ์เปลี่ยน + Cotswolds ฝ่าทุ่งหาซากโรมัน

เอามาเก็บไว้ใน bloggang ด้วย จากกระทู้นี้นะคะ

เก็บของหนีเที่ยว UK ตอนที่2


หลังจากเล่าเรื่องราวมหาวิทยาลัยใกล้ๆลอนดอน Cambridge, Royal Halloway, Oxford ไปแล้วในกระทู้ก่อนหน้านี้

วันนี้ขอพาเที่ยว Oxford ต่ออีกนิดค่ะ

:: คำเตือน :: กระทู้นี้อาจหาสาระอันเป็นประโยชน์สำหรับการเดินทางได้น้อยนิด
แต่ถ้าอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมส่งหลังบ้านมาถามได้จ้า ถ้าตอบได้จะพยายามตอบให้นะคะ ^^





ทริปนี้เป็นทริป 3 วัน 2 คืนค่ะ

ต้นกำเนิดของทริปนี้มาจากคุณเพื่อนชาวอังกฤษที่เขียนเมล์มาบอกว่าแอบไม่สบายใจที่เรามาอยู่อังกฤษได้เป็นปีแล้ว แต่เจ้าบ้านยังไม่ได้พาเที่ยวที่ไหนเลย
นอกจากลงมาหาที่ London แค่ครั้งเดียว เพื่อนเลยให้เลือกระหว่าง Oxford กับ Lake District

เราตัดใจเลือก Oxford เพราะถ้าไม่ได้ไปจะไม่มีเวลาอีกแล้ว
(แค่ 1 ชั่วโมงจาก London ทำไมไม่เคยไปได้หล่ะเนี่ย )
ส่วนทะเลสาบคิดเอาเองว่าขอบินไปดูที่สวิสเซอร์แลนด์แล้วกันนะ (ทั้งๆที่บรรยากาศก็คงจะไม่เหมือนกันเท่าไรนัก)

ขึ้นรถไฟจากสถานี Paddington ไปถึง Oxford ตอนประมาณบ่ายสองโมงค่ะ คุณเพื่อนมารับถึงที่ (สบายอีกแล้ว งานนี้ไม่ต้องกางแผนที่เลย อิอิ)

หลังจากนั้นก็เดินชมรอบเมือง เริ่มแรกก็ต้องเลียบๆมองๆ The University of Oxford อยู่แล้ว

Photobucket - Video and Image Hosting






งานนี้ได้แต่เดินอยู่ด้านนอกนะคะ (สำหรับภายในมหาวิทยาลัยได้ไปเดินแค่ College เดียว รายละเอียดเขียนไว้แล้วที่ เก็บของหนีเที่ยว UK ตอนที่1 จ้า)




Photobucket - Video and Image Hosting




วิวนี้มาจากที่จอดรถด้านนอกมหาวิทยาลัย ซึ่งมีสวนสาธารณะอยู่ด้วย คุณเพื่อนขอไปนอนพักในสวนสักครู่หนึ่ง

Photobucket - Video and Image Hosting





ในสวนวันนั้นอากาศดีมากค่ะ ฟ้าใส มีแดดเล็กน้อยพอให้ถ่ายรูปออกมาดูดี ลมพัดเย็นสบาย
อากาศน่าจะประมาณ 21-23 องศา ไม่เย็นมากสำหรับคนไทย แล้วก็ไม่ร้อนมากสำหรับคนอังกฤษ
(เรากับเพื่อนคนนี้มีปัญหาเรื่องสภาพอากาศมากค่ะ ถ้าไม่ร้อนไปสำหรับเค้า ก็จะเย็นเกินไปสำหรับเรา มีวันนี้แหล่ะที่ได้จุดกึ่งกลาง 555)

Photobucket - Video and Image Hosting




พักพอหายเหนื่อยแล้วก็เดินชมมุมต่างๆของเมืองค่ะ

Photobucket - Video and Image Hosting




เสน่ห์อย่างหนึ่งของ Oxford ที่เพื่อนบอกให้เราสังเกตก็คือ ทิวทัศน์ที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆตามตรอกเล็กๆที่เราเดินไป
เรียกว่าร้อยเลี้ยวก็ร้อยภาพร้อยมุมมอง

.
.
.


มุมเหงาๆ

Photobucket - Video and Image Hosting




.
.
.

มุมคึกคัก >>> Hertford Bridge หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า Bridge of Sighs เพราะว่าหน้าตาคล้ายกับสะพาน Bridge of Sighs ที่ Venice

Photobucket - Video and Image Hosting



.
.
.
.

มุมเอียงๆบ้าง (จะมีใครอยากตีหัวคนบรรยายแล้วบ้างมั้ย)

Photobucket - Video and Image Hosting





ยอดตึกมหาวิทยาลัยอันเก่าแก่

Photobucket - Video and Image Hosting




เกือบถึงมุมโปรดของใครบางคนแล้ว ^^



Photobucket - Video and Image Hosting




และแล้วเราก็มาถึงแล้ว Radcliffe Square

Photobucket - Video and Image Hosting




ขอชัดๆอีกสักรูป แต่รูปนี้เหมือนรูปบังคับ ใครไปก็ต้องถ่ายตึกนี้ 5555
Radcliffe Camera

Photobucket - Video and Image Hosting



ทำไมแอบถ่ายรูป Oxford มาน้อยๆไม่รู้แฮะ อาจจะเพราะหลังจากนี้เราก็เดินหาที่กินข้าวกัน แล้วก็ไปดูหนัง ^^"

ขอเม้าท์นิดนึงว่าไปพัก Hostel ที่ Oxford เนี่ย ได้พักห้องรวม 6 คนกับสาวๆจากอีกหลากหลายประเทศ
หลังจากทำความคุ้นเคยจนกระทั่งเริ่มคุยกันถึงรสนิยมเรื่องต่างๆ ประมาณว่าดาราที่ชอบจนไปถึงหัวข้อสุดฮิต (รึเปล่า???)

"ผู้ชายในฝัน"

ก็พบว่าในความคิดเห็นสาวๆแล้ว ผู้ชายอังกฤษมีแนวโน้มจะเป็นผู้ชายที่ไร้เสน่ห์ที่สุด O_o


เอิ้กกกก ข้ามๆๆๆๆ ไปจุดหมายต่อไปดีกว่า

จุดหมายของวันที่ 2 คือ Chedworth Roman Villa ซึ่งอยู่ในบริเวณที่เรียกว่า Cotswolds ใกล้ๆ Oxford

คุณเพื่อนอธิบายว่าจะนั่งรถบัสไปลงที่เมืองใกล้ๆที่ชื่อว่า Northleach (วงกลมสีแดงในแผนที่ด้านล่าง)

Photobucket - Video and Image Hosting




ใช้เวลาเดินทางประมาณ 50 นาทีก็ถึง Northleach ค่ะ

Photobucket - Video and Image Hosting





เป็นเมืองเล็กๆที่น่ารักทีเดียว

ภาพนี้ถ่ายจากบริเวณป้ายจอดรถบัสค่ะ

Photobucket - Video and Image Hosting




โบสถ์ประจำเมือง Church of St Peter and St Paul หรือจะเรียกว่าเป็น The Cathedral of the Cotswolds ก็ได้
สร้างขึ้นครั้งแรกตั้งแต่สมัย 12th Century (เก่าแก่มากทีเดียว)

แต่ตัวโบสถ์ที่เราเห็นกันนี้ถูกสร้างขึ้นใหม่หลังยุคมืดค่ะ

Photobucket - Video and Image Hosting




หลังจากซื้อแผนที่เรียบร้อยแล้ว คุณเพื่อนก็นำทางฝ่าทุ่งหา Roman Villa ค่ะ

ต้องบอกว่าเป็นการฝ่าทุ่งจริงๆ เพราะสองข้างทางเป็นทุ่ง เสียดายว่าลืมถ่ายรูปแผนที่มาเพราะอยากให้เห็นว่าถนนที่ตัดเนี่ยมันตรงแน่วเลยทีเดียว
เพื่อนบอกว่าลองไปสังเกตได้ว่าถนนที่โรมันสมัยก่อนเป็นคนสร้าง จะเป็นถนนที่ตรงมาก เพื่อประหยัดงบประมาณและให้สะดวกกับการเดินทางที่สุด
(อันนี้เป็นจริงๆไม่แม้แต่ในอังกฤษนะ)


Photobucket - Video and Image Hosting




เส้นทางที่เดินช่วงแรกๆก็จะเป็นถนนลาดยางมีรถเข้ามาบ้างเป็นปกติค่ะ แต่ก็จะค่อนข้างแคบหน่อย (เทียบกันถนนบ้านเรา)
น่าจะเป็นเพราะขนาดรถที่ใช้ในบ้านเค้าเล็กกว่าบ้านเราด้วย

ทางนี้เห็นแล้วเริ่มรู้สึกว่าตัวเองเป็น Frodo ใน The Lord of the Ring กำลังเดินทางไป Mordor = ="

Photobucket - Video and Image Hosting



ยิ่งเดินทางไปเรื่อยๆทางก็แคบลงเรื่อยๆ จนกระทั่งกลายเป็นทุ่ง

ไม่ได้ถ่ายตรงที่รกที่สุดมาให้ดู แต่ว่าเป็นการเดินตัดทุ่งหญ้าจริงๆค่ะ

เพื่อนบอกว่าเป็นธรรมเนียมเลยนะ ที่เจ้าของพื้นที่จะต้องทำทางเดินไว้ให้คนทั่วไปสามารถเดินเล่นได้
(คือแต่ละแห่งก็จะมีรั้วของตัวเอง แต่จะทำทางเข้าเป็นประตูไม้เล็กๆให้ทุกคนสามารถเปิดได้ค่ะ เราสามารถเดินเข้าไปปลดกลอนแล้วเดินผ่านทางนั้นๆได้เลย)

Photobucket - Video and Image Hosting



เราก็เพิ่งเข้าใจว่าทำไมในหนังอังกฤษย้อนยุค เช่น Pride & Prejudice, Sense and Sensibility
ที่เค้าชวนกันไปเดินตัดทุ่งคนอื่นเป็นหลายกิโลเมตรเนี่ย ถึงไม่โดนกล่าวหาว่าไปรุกล้ำอาณาเขตคนอื่น

แล้วมันก็เป็นการออกกำลังกายอย่างหนึ่งด้วยนะคะ ถามเพื่อนไปๆมาๆจนเพื่อนหันมาถามว่าแล้วที่เมืองไทยเค้าไม่เดินออกกำลังกายบ้างเหรอ

อืมมม

เราเลยบอกเพื่อนไปว่า คิดสภาพอากาศเมืองไทยนะจ๊ะว่าอุณหภูมิ 30 องศา up เนี่ย จะให้มาเดินกลางทุ่งอย่างนี้เป็นชั่วโมงคงไม่สนุกเท่าไหร่มั้ง

เค้าบอกว่าที่นี่ทำกันจนเป็นปกติ เลยคิดว่าทั่วโลกก็ทำเหมือนกัน
(แอบอยากจะแขวะไปว่า คิดได้เหมือนพวกล่าอาณานิคมมากกกกกกกก แต่เดี๋ยวจะโดนฝังหมกทุ่งเสียก่อน = =")


ซูมดอกไม้ในทุ่งมาให้เห็นกันชัดๆ ชื่อ Rape Oil เขานำเมล็ดไปทำมัสตาด << ขอบคุณข้อมูลจากคุณ Invisible Angel ด้วยนะคะ ^^
(รูปนี้แอบปรับสีแล้วเลยสีประหลาดๆ นิดหน่อย)


Photobucket - Video and Image Hosting




ลักษณะของทางเดินที่ว่า (ช่วงที่ไม่รกมาก เป็นอย่างนี้เลยค่ะ)

Photobucket - Video and Image Hosting



ลืมเล่าว่าในแผนที่เนี่ย จะมีเส้นทางการเดินบอกไว้ด้วยนะคะ ว่าเส้นทางไหนเป็นเส้นเดินเท้า สำหรับตัดทุ่ง
เส้นในแผนที่ก็จะเป็นเส้นประ แบ่งสีสรรให้เสร็จสรรพ เพราะฉะนั้นน่าจะอ่านแผนที่ได้ไม่ยาก
(แต่เราไม่ได้อ่านเอง ให้เพื่อนนำทางหมด ก็เค้าเป็นเจ้าบ้านนี่นา )


บ้านกลางทุ่ง มีดอกไม้เล็กๆประดับ น่ารักชะมัด

Photobucket - Video and Image Hosting




ว่าแล้วเราก็ยังเดินตัดทุ่งกันต่อไป จนไปเจอน้องแกะฝูงใหญ่

Photobucket - Video and Image Hosting



ตัดทุ่งมาจนเห็นถนนลาดยางอีกครั้ง ก็แสดงว่าเราใกล้จุดหมายเข้าไปแล้ว

Photobucket - Video and Image Hosting



ในที่สุดหลังจากเดินมา 4.5 กิโลเมตร (ตามป้ายบอกทาง) เราก็มาถึง Roman Villa แล้ววววววว >.<

แต่...


กลับมาดูแล้วเพิ่งเห็นว่าแทบไม่ได้ถ่ายรูป Roman Villa ไว้เลย อะไรเนี่ย!!!




รายละเอียดของ Roman Villa ค่ะ

Chedworth Roman Villa - Nationaltrust UK

Chedworth Roman Villa - Cotswold


รูปประกอบไปดูจาก website นี้ได้นะคะ

ChedworthRoman Villa - Pictures


รูปที่ถ่ายมาไม่ใช่ส่วนที่เก่าแก่จริงๆนะ แต่เป็นบริเวณรอบๆ

Photobucket - Video and Image Hosting



ส่วน Roman Villa เนี่ย เป็นซากคฤหาสน์ของขุนนางสมัยโรมัน ซึ่งยังอยู่ในสภาพที่ต้องเรียกว่าดีมากๆเลยทีเดียว
(ตามการวิเคราะห์ของนักโบราณคดีนะ)

ลายกระเบื้องปูพื้นบางส่วนที่ยังคงหลงเหลือให้เห็นลวดลาย

26





แล้วเราก็เริ่มมาถ่ายดอกไม้ = ="

ดอกอะไรไม่รู้แต่มันเล็กๆน่ารัก เป็นไม้เลื้อยอยู่ตามแนวกำแพงคฤหาสน์

Photobucket - Video and Image Hosting






ขากลับเริ่มชั่งใจว่าจะเดินกลับหรือเรียก taxi ดี เพราะคุณเพื่อนเราเริ่มมีอาการที่หลังอันเป็นผลมาจากการขุดค้นซากอารยธรรมที่ Mexico เมื่อต้นปีที่ผ่านมา
(เพื่อนเรียนเอกโบราณคดีที่ York ค่ะ แล้วไหงไปขุดไกลถึง Mexico ได้หล่ะนั่น)

แต่หลังจากพักและเห็นราคา taxi แล้วก็ตัดสินใจกันว่าเดินกลับกันดีกว่า 5555

เลยได้มีโอกาสกลับไปถ่ายมุมที่เล็งไว้แล้วแต่ยังไม่ทันได้ถ่ายรูปตอนขามา

รูปที่เราชอบที่สุดในทริปนี้เลย

^_________^

Photobucket - Video and Image Hosting





ระยะทางเดินไปกลับรวมกันก็ร่วม 10 กิโลเมตรได้ค่ะ เดินกันสนุกเลย แต่ได้กลิ่นไอความเป็นอังกฤษเพิ่มอีกหน่อย เป็นประสบการณ์ที่ดีทีเดียว

พอกลับไปรอรถบัสขากลับที่ Northleach ก็เริ่มไม่มีอะไรทำ เลยกลับไปถ่ายดอกไม้แถวๆนั้น

Photobucket - Video and Image Hosting





รูปนี้ขาวๆเขียวๆดีแฮะ น้องแมลงหน้าตาจิ้มลิ้มดี

Photobucket - Video and Image Hosting





พอกลับมาถึง Oxford ก็เข้าไปหาอาหารกลางวันกินกันตอนสี่โมงเย็น = ="
เสียดายว่าไม่ได้ถ่ายรูปมาให้ดู แต่เป็น local pub ชื่อ The Eagle and Child
ซึ่งเป็นร้านที่ J.R.R. Tolkien และนักเขียนคนอื่นๆ เช่น C.S. Lewis ไปนั่งคุยและเขียนเรื่องเช่น The Lord of the Rings ขึ้นมานั่นเอง

ปิดท้ายวันที่ 3 ของทริปนี้ด้วยการไปเยือน Christ Church (ซึ่งลงรูปไปแล้วในกระทู้ที่แล้ว)
แล้วก็ชมนิทรรศการเกี่ยวกับความเป็นอยู่ของชาวโรมันสมัยก่อนจ้า


Photobucket - Video and Image Hosting




ในงานมีคนแต่งชุดโรมันมาด้วย

อย่างเช่นเด็กชายตัวน้อยคนนี้


Photobucket - Video and Image Hosting




ขอปิดท้ายด้วยรูปวันฟ้าใสวันแรกดีกว่า (วันสุดท้ายนี่ฝนตกตลอดเลย เอิ้กกก)

ขอบคุณทุกคนที่เปิดเข้ามาอ่านหรือดูรูปภาพของคนอยากเที่ยวที่ไม่ค่อยได้เก็บข้อมูลไว้มากนัก
รูปและเรื่องราวอาจจะไม่มากมาย แต่อยากมาร่วมแบ่งปันประสบการณ์ค่ะ
กระทู้ต่อไปจะพาไปชม Bath กันจ้า

^____________________^

Photobucket - Video and Image Hosting








Create Date : 13 ธันวาคม 2551
Last Update : 13 ธันวาคม 2551 7:15:15 น. 7 comments
Counter : 2180 Pageviews.

 
ถ่ายรูปได้สวยจริงๆ ค่ะ


โดย: pizzahawaiian วันที่: 13 ธันวาคม 2551 เวลา:7:53:52 น.  

 
แปลกใจกะสีของลูกโป่งที่เด็กถือ บ้านเราจะเน้นสดใส ไม่เคยเห็นมีสีดำแบบนี้อ่ะ เวลาท้องฟ้าใส ถ่ายรูปออกมาสวยมาก ๆ เลยค่ะ


โดย: ตะไคร้หอม วันที่: 13 ธันวาคม 2551 เวลา:9:26:00 น.  

 
ตามไปเที่ยวด้วยคนค่ะ
ถ่ายรูปสวยจัง


โดย: The Best of Me วันที่: 13 ธันวาคม 2551 เวลา:23:08:23 น.  

 
เห็นแล้วนึกถึงตอนเรียน Y___Y


บิ๊ก แต๊งกิ้วสำหรับโปรแกรม
พี่กำลังพยายามทำอยู่ แต่เห็นคุณโอเล่ดงใหญ่ก็ลงแล้วนาาา


โดย: tazzz วันที่: 16 ธันวาคม 2551 เวลา:9:33:07 น.  

 
#1 ขอบคุณค่ะ คุณ pizzahawaiian

#2 ตอนแรกก็แปลกๆเหมือนกันคะคุณตะไคร้หอม ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเค้าอยากให้เข้ากับบรรยากาศทะมึนๆของงานหรือเปล่า = ="

#3 ขอบคุณที่เข้ามาเที่ยวไปด้วยกันค่ะคุณ The Best of Me

#4 ขอบคุณสำหรับคลิปนะคะพี่ตู่ ชอบดูอะไรขาวๆ เอิ้กกกก


โดย: gibt วันที่: 19 ธันวาคม 2551 เวลา:10:48:13 น.  

 
อ่านแล้วเหมือนนิยายหักมุม
เดินทางอยู่นานกว่าจะไปถึง Roman Villa
กำลังลุ้นว่าจะได้เห็นแล้ว จะเป็นยังไงนะ
แล้วก็...แป่ว... ฮ่าๆๆ

ขอบคุณที่มาเล่าให้ฟังนะคะ ^^
จะไปบ้าง อิอิ


โดย: กันทราในราตรี วันที่: 12 เมษายน 2555 เวลา:21:55:50 น.  

 
มาเห็นในบล็อคนี้เลยชวนเพ่ือนไปchedworth roman villaวันก่อนค่ะ
แต่ว่าพอลองคุยๆถามทางคนแถวนั้น(ต้องขอบคุณเค้าจริงๆใจดีมากเลย)ดูเขาบอกว่าให้เดินตามถนนไปและลองดูแผนท่ีในร้านแล้วไม่มีอันไหนเขียนเส้นทางเดินเท้าไว้ มีแต่ถนน เลยเดินไปตามถนนซึ่งโค้งไปมาบ้างขึ้นเนินลงเนินบ้าง ถ้ารู้เส้นทางลัดท่ีตัดฝ่าทุ่งไปน่าจะสั้นกว่าเยอะ เลยได้เดิน4.5ไมล์*2เท่ียว=9ไมล์ ตามป้ายจริงๆ
โชคดีว่าแดดดีทั้งวัน สองข้างทางสวยและประทับใจมาก แต่ตัวroman villaไม่ค่อยน่าประทับใจเท่าไหร่ เป็นประสบการณ์ท่ีแปลกดี แต่อยากแนะนำว่าถ้าจะไปเช่ารถ หรือข่ีจักรยานไปดีท่ีสุด จะได้รับลมชมวิวรอบๆไปด้วย
ยังไงก็ขอบคุณพ่ี ท่ีทำให้ได้ไปเท่ียวท่ีน่ี ถนนสองข้างทาง ทุ่งหญ้า แสงแดด ลม และเสียงนกร้องเย่ียมมากค่ะ


โดย: Lom IP: 86.136.120.184 วันที่: 22 เมษายน 2556 เวลา:4:33:59 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

gibt
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add gibt's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.