|
|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
 |
|
การไปปฏิบัติธรรม ที่ถ้ำปู่ใหญ่ เทพโลกอุดร(รอบที่1)(EP2/1) |
|
**จัดขึ้นเพื่อ เล่าประสบการณ์ให้เป็นวิทยาทาน ในการเพียรปฏิบัติธรรมและผลที่ได้จากการปฏิบัติธรรม เป็นสิ่งที่พบเจอได้เฉพาะบางบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน** คำเตือน สิ่งศักดิ์สิทธิเป็นสิ่งที่ไม่ควรนำมาพูดเล่น โปรดอย่าใช้ความหยาบของตนทำให้ท่านแปดเปื้อน บางอย่างอย่าทดลองทำตามหากยังไม่มีความรู้เพียงพอ ทุกอย่างมีทั้งคุณและโทษ การไปปฏิบัติธรรม ที่ถ้ำปู่ใหญ่ เทพโลกอุดร(รอบที่1)(EP2/1) เช้าวันที่ 2 ตื่นประมาณ6.30ค่ะ ก็ไหว้พระอาบน้ำใส่ชุดขาวขอบคุณกายสังขาร ทำอาหารแล้วก็ทานกัน เตรียมตัวเตรียมใจซักพัก ประมาณ8.30-9.00ก็ออกเดินทางไปที่ถ้ำ ใช้เวลาจากบ้านปู่บุญหนาไปที่ถ้ำ ประมาณ 30 นาที ค่ะ พอถึงบริเวณวัด ก็รู้สึกเหมือนมีพลังงานบ้างอย่าง55555 แต่เป็นพลังบวกค่ะ อย่าเพิ่งได้กลัวไป ก็พากันลงรถอาจารย์ก็ได้พานำจุดธูปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่ได้ปกปักรักษา ณ.ที่แห่งนั้น แต่พอจะขึ้นไปบนถ้ำ ก็ได้มีแม่ชี องค์1 ท่านได้มายืนรอ ก็พากันไหว้นมัสการท่าน ท่านจึงเล่าว่า รู้สึกกระวนกระวายตั้งแต่เมื่อคืนทำอะไรไม่ได้เลยเจ้าค่ะ ตื่นเช้ามาจึงต้องมายืนรอ เหมือนปู่ใหญ่ท่านให้มารอรับ พอสนทนากันซักพัก จึงได้ขอตัวขึ้นไปบนถ้ำ พอจะถึงบันไดทางขึ้นไปถ้ำ อ.ก็ได้ให้ลูกศิษย์ นำนิ้วหัวแม่มือกดกับดินเพื่อขอพรพระแม่ธรณีให้ดวงจิต มีความหนักแน่นและเข้มแข็งเหมือนดวงจิตของพระองค์ แล้วนำดินมาลูบตรงกลางหน้าพาก แล้วจึงเข้าไปในถ้ำ ถ้ำมี 9 ห้อง แต่เปิดให้เข้าแค่ 8 ห้องค่ะ ห้อง9 อันตรายมากๆ
พอเข้าไปถึงชั้นแรกชั้นห้องโถง เย็นมากเลยค่ะ เย็นสบายมีความสงบ อ.ก็ได้นำจุดธูปไหว้พระพุทธ พระธรรม พระ อธิยะสงค์ ไหว้ตรงแทนบูชาปู่ใหญ่ และปู่ฤาษี ให้จุดเทียนคนละเล่ม นำไปปักไว้บนที่ที่เชิงเทียนที่ละคน แล้วสวดพระคาถา “มหาจักรพรรดิ” ของ หลวงปู่ดู่ 3จบ และจึงเดินทางไป ชั้นต่างๆ พอไปถึงห้องที่8 อ.ก็บอกว่าเราจะนั่งห้องนี้ ชั้นนี้มีโถงตรงกลาง มีโพรงใหญ่เข้าไปน่าจะลึกมากๆท่านบอกทางขึ้นลงของพญานาคและทางของเข้าเมืองบังบดลับแล ทุกคนก็จับจองพื้นที่ คนละมุม ในถ้ำค่อนข้างที่จะมืดค่ะ ก็นั่งประจำที่ ซักพัก อ.ก็จุดกำยาน และก็บอกเตรียมตัวและทิ้งท้ายไว้ว่า “จงปล่อยวาง และก้าวผ่านทุกขเวทนา ให้จงได้” ในจิตก็นึกคิดว่า ก็คงแค่เหน็บชา เรานั่งอยู่ห้องเป็นชั่วโมงก็ยังก้าวผ่านได้เลย จิ๊บๆ นี้ จำคำนี้ไว้ๆ555555
เริ่มนั่งขอบารมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แล้วก็กำหนดลมหายใจเข้าออก ภาวนา “อะระหัง พุทธัง”ตอนช่วงแรกก็สงบดี จิตเป็นสมาธิ มีความกลัวเล็กน้อย พอซักพัก เริ่มตัวหนัก ขาเริ่มชา ขาที่อยู่ด้านบนไม่ใช่ข้าข้างที่โดนทับ พอกำหนดรู้สักพักก็ปล่อยไปก็ดีขึ้น ซักพักหนักกว่าเดิมที่ขาข้างเดิมรู้สึกว่าขาหนักมากเหมือนมีอะไรทับไว้เหมือนมีก้อนหินใหญ่ทับไว้เป็นความทรมานมากพอกำหนดรู้ปล่อยก็ไม่หายรอบนี้ไม่หาย ก็อยู่ในสภาวะนั้นตลอดเพราะจดจำคำว่าก้าวผ่านทุกข์เวทนาให้จงได้ ของอ.ไว้ จนร้องไห้ น้ำตาไหล เพราะทรมานมาก ไม่เคยได้สัมผัสกับสภาวะนี้มาก่อน ไม่จิ๊บเลย เลยตัดสิ้นใจลืมตาประมาณ2นาทีได้ แล้วก็นั่งต่อพอซักพักเหมือนมีคนมาจ้องดูเหมือนเดินอยู่รอบๆ แล้วอ.ก็ให้ลืมตา ก็ค่อยๆลืมตา เป็นความเจ็บปวดที่เกินคำบรรยายมากๆ ท่านก็ให้พัก10นาทีแล้วก็มารวมกันที่โถงที่ท่านนั่งสมาธิ ท่านก็ถาม ว่า"เป็นเช่นไร" แบบยิ้มๆ 55555 ก็พากันตอบทีละคน โดยทุกคนตอบประมาณเดียวกันแต่คนละจุด เช่น คนนี้ขา คนนี้คอ คนนี้แขน คนนี้ทั้งตัว ท่านเลยเมตตา บอกว่า “นั้นแหละ กรรมที่พวกเจ้าเคยทำ แต่ละคนก็จะเจ็บปวดคนละที่ เขาอยากให้พวกเจ้าได้รับรับรู้ถึงความทุกข์ทรมานที่เขาได้รับ เป็นเช่นไร”หนูก็คิดว่านี้เพียง1ชม.กว่าๆเท่านั้น แต่เขาทุกรมานมากี่ชาติพบ อ.พูดต่อว่า” จงพิจารณา ในความทุกข์นั้นๆ และสำนึกในความผิดบาปนั้นเสียเถิด และจงแผ่บุญกุศลให้เขา จงขอความเมตตารับรู้สิ่งที่ได้กระทำแล้วภาพนั้นจะปรากฎให้เจ้าเห็น และจงพิจารณาถึงความเมตตาของเขาที่ได้ให้โอกาสพวกเจ้าในการสร้างความดี จึงรักษาสัจจะ ให้จงมั่น หากขาดซึ่งสัจจะแล้วจะเป็นเช่นไร คงไม่ต้องให้ อ.บอกใช่ไหม” ท่านก็ให้ไปพักเช้าห้องน้ำ 15 นาทีแล้วจึงกลับมานั่งอีกรอบ
Create Date : 27 มีนาคม 2563 |
|
0 comments |
Last Update : 15 มิถุนายน 2563 9:35:12 น. |
Counter : 648 Pageviews. |
|
 |
|
|
|
|
 |
|
|
ชีวิตที่รู้แจ้งแสงแห่งพระธรรม |
|
|
 |
|