วันเซ็งๆ
2 - 3 วันมานี้ไม่สบายไม่อะไรไม่รู้ เจ็บคอ ไอ หายใจไม่ออก เดาๆ ว่าคงจะหวัดแต่ดีที่ไม่มีไข้ ไม่งั้นงานการไม่ต้องทำกันพอดี ************************************************** เมื่อวานก็ทำงานไปเรื่อยๆ ไม่ค่อยยุ่งมากมายเท่าไหร่ แต่แดดตอนกลางวันนี้พ่อเจ้าประคุณ แรงแสดๆ เดินออกไปกินข้าวนี่แสบผิวแสบหน้าไปหมด ปกติไม่ได้กลัวแดดเล๊ย แต่เจอขนาดนี้เข้าไปไม่ไหวจริงๆ **************************************************** แดดแรงๆ แบบนี้คิดว่าเย็นนี้ฝนมันคงตกแหงๆ เดาไม่ผิด พอจะเลิกงานมืดมาเลย ฉลองต้อนรับเลิกงานแบบนี้แทบทุกวัน ร่มก็ไม่มี ไม่รู้ใครจิ๊กจากโต๊ะทำงานไป จะถามหาก็เกรงใจ เค้าคิดได้คงเอามาคืนเอง คิดอีแบบนี้ทำเล่นมิวสิคตากฝนมา 2 วันละ *************************************************** เมื่อวานก็เลยเป็นอีกวันที่วัดใจ มืดๆ ครึ้มๆ ฝนยังไม่ตก เอาวะ ห้องอยู่ไม่ไกล วัดใจไปเลยดีกว่าติดอยู่ที่ทำงานห่วงลูกมืดๆ ป่าวนี้หิวข้าวแล้วแน่ๆ เอาวะ เพื่อลูก ... รีบออกจากที่ทำงานโลด ************************************************** วิ่งปุเลงๆ ไปขึ้นรถ ไม่นานก็มาถึงปากซอย จ่ายตังค์เสร็จเรียบร้อย พ่อมันหิวเลยต้องแวะซื้อข้าวก่อนขึ้นห้อง ฟ้ามืดๆ ยังไม่ตกยังพอทันเวลา อีกอย่างอยู่แค่ปากซอยวิ่งปรู๊ดเดียวถึง เลยแวะซื้อข้าวก่อนดีกว่า ************************************************** ที่ร้านข้าว แม่เจ้ายังกะมีมหกรรมแจกของฟรี มุงกันเพียบ แต่ไฟต์บังคับ มีขายร้านเดียวปากซอย หิวก็ต้องซื้อ เอาวะยืนรอเดี๋ยวก็ได้กินละ เดาออกใช่มั้ย? ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ถูก ... พอได้ข้าว ฝนตก!! เวงเอ๊ย เอาวะ วิ่งๆ ไม่สบายอยู่ มามัวเดินเท่ห์เล่นมิวสิคไม่ได้ ************************************************** ที่ไหนได้ พระพิรุณไม่มีเวลาให้ตั้งตัว โครมแรกก็เม็ดเป้งเลย หลบเข้าข้างทางแทบไม่ทัน เมื่อวานคนแถวนั้นจะเห็นสภาพผู้ชายคนนึง หน้ารกๆ ถือถุงกับข้าวหน้าหงอยๆ หลบฝนอยู่อย่างเซ็งๆ ************************************************** ในใจก็คิดไปเรื่อย ถ้า ... กลับไปเอาร่มลงมาก่อนป่านนี้ได้ขึ้นห้องไปแล้ว ถ้า ... ไม่เสือกหิวข้าว ซื้ออาหารญี่ปุ่นขึ้นไปกิน 2 ซอง ป่านนี้ได้ขึ้นห้องไปแล้ว ถ้า ... ถ้า ... ถ้า ... คิดไปก็เท่านั้น ติดฝนแหงกๆ อยู่อีแบบนี้แล้วนี่ หิวข้าว ห่วงหมา หายใจไม่ออก เซ็งว๊อยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย *********************************************** รออยู่ 45 นาที ไม่มีแววจะหยุด ไม่ไหวละ ห่วงหมา เอาวะห้องอยู่ไม่ไกล ถึงจะตกหนักวิ่งแปปเดียว ว่าแล้วก็โกยออกจากที่หลบฝน วิ่งฝ่าฝนไปจนถึงหน้าตึก พ่องตาย ... ฝนหยุด!!! ฝ่าฝนมาเพื่อ ... ************************************************* ลากสังขารเหมือนหมาตกน้ำขึ้นห้อง ด้วยความเซ็งสุดขีด เปิดประตูห้องมืดตึ๊ดตื๋อ เปิดไฟ เงียบ ... ไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ ลูกกุหาย หมากุไปไหนวะ เรียกครั้งนึงก็แล้ว สองครั้งก็แล้ว ชิบหายแล้ว หมาหายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ********************************************** แกร็กๆ ... เสียงไรวะ หันไปมองปลายเตียง (จะเป็นโต๊ะยาวๆ วางทีวี แล้วมีช่องวางหนังเครื่องเล่นซีดี ชั้นล่างสุดจะเป็นเก๊ะ) ช่องกลางที่เต็มไปด้วยหนังมีอะไรโผล่มา หัวลูกสาวตูเอง คลานตึ๊บๆ ออกมาด้วยหน้าตาสลึมสลือ อารมณ์ประมาณว่า ใครทำเสียงดังไรวะ กูจะนอน - -* *********************************************************** ปรี๊ดแตก ... ขึ้นไปได้ยังไง ดีใจก็ดีใจแต่โกรธมากกกกกกกก เปียกฝน หิวข้าว ตากฝนฟรี ห่วงเมิง แต่ดูเมิงงงงงงงงงงงงงงงง ลากมาหวดซะ 2 ตุ๊บ "เซ็งว๊อยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย"
Free TextEditor
Create Date : 23 กันยายน 2552 |
|
3 comments |
Last Update : 7 ตุลาคม 2552 11:13:27 น. |
Counter : 318 Pageviews. |
|
|
|
เป็นพ่อภาษาอารายยยยยยยยยยยยย
มาขำ
อ่านบล็อกฟิ้นทีไรขำดี