Vigsel การแต่งงานในสวีเดน
หากคุณต้องการจดทะเบียนสมรสที่สวีเดน คุณจะต้องยื่นขอใบตรวจสอบอุปสรรคทางกฎหมายก่อนการสมรส (hindersprövning) ก่อน โดยยื่นคำร้องไปที่กรมสรรพากร (Skatteverket) โดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม
โหลดแบบฟอร์มในเว็บสรรพากรเพื่อกรอกในคอมพ์ แล้วพิมพ์ออกเพื่อลงชื่อ หรือส่งคำร้องขอให้ส่งแบบฟอร์มมาให้ที่บ้านก็ได้ แล้วกรอกข้อมูล ลงลายมือชื่อ และส่งกลับไปตามที่อยู่ที่ระบุไว้
หน้าตาก็จะประมาณนี้ กรอกข้อมูลของทั้งคู่ให้ครบ - รายละเอียดข้อมูลส่วนบุคคล - ยืนยันข้อมูลพร้อมตอบคำถามว่าเป็นญาติสายตรง* เป็นพี่น้องร่วมบิดา/มารดา พี่น้องต่างบิดา/มารดาหรือไม่ - เคยสมรสหรือเคยจดทะเบียนเป็นคู่ครองเพศเดียวกันหรือไม่ และก็ข้อมูลเพิ่มเติมอื่นๆ ที่ต้องการแจ้งให้สรรพาการทราบ *ญาติสายตรง คือ พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย พี่ น้อง ลูก หลาน
ผู้ที่จะสมรสได้ต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไป ไม่เป็นญาติสายตรงหรือเป็นพี่น้องกัน ไม่ได้เป็นผู้ที่สมรสอยู่แล้ว
พี่น้องต่างบิดามารดาสามารถสมรสกันได้ แต่ต้องยื่นขออนุญาตจากคณะกรรมการบริหารมณฑล/จังหวัด (länsstyrelsen) ก่อน เมื่อได้รับใบตรวจสอบอุปสรรคทางกฎหมายก่อนการสมรสแล้ว ก็ติดต่อเทศบาลเพื่อจองเวลาทำการสมรส สามารถจองผ่านเว็บของเทศบาลได้ การสมรสทำได้ทั้งแบบไม่อิงศาสนา/การสมรสตามพิธีราษฎร์ (borgerlig vigsel) หรือจัดแบบอิงศาสนา (kyrklig vigsel) ก็ได้
หากจะจัดพิธีนอกสถานที่ก็จะมีค่าธรรมเนียมนิดหน่อย ถ้าจัดที่ศาลากลางไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย การจะจัดพิธีแต่งงานในโบสถ์ได้คนใดคนหนึ่งจะต้องเป็นสมาชิกของโบสถ์สวีเดน Hindersprövning มีอายุ 4 เดือน ถ้าแต่งไม่ทันก็ต้องขอใหม่ ช่วงซัมเมอร์คิวผู้ประกอบพิธีแต่งงานจะยาวมาก เพราะฉะนั้นต้องใบ hindersprövning แต่เนิ่นๆ จะได้จองเวลาทัน
ชาวต่างชาติสามารถยื่นเรื่องขอแต่งงานในสวีเดนได้ ดูรายละเอียดได้ในเว็บสรรพากร ในหัวข้อ "Ingen av oss är svensk medborgare eller har hemvist i Sverige"
สำหรับสาวไทย หรือหนุ่มไทยที่จะจดทะเบียนสมรสที่สวีเดน ก็ยื่นใบรับรองโสดของไทยที่เป็นภาษาอังกฤษได้เลย ตอนที่เราแต่งงาน เราทำกันง่ายๆ - ยื่นขอใบอนุญาตแต่งงาน จองเวลากับผู้ประกอบพิธีสมรสของทางเทศบาล ถึงวันนัดก็แต่งตัวสวยๆ ไปศาลากลาง โดยขอให้ทางนั้นจัดหาพยานให้สองคนด้วย เราเตรียมตัวเตรียมใจกันไปพอควร แต่เมื่อผู้ประกอบพิธีถามว่าพร้อมหรือยัง กลับรู้สึกประหม่าขึ้นมาทันที
เมื่อเจ้าบ่าวเจ้าสาวและพยานเข้าประจำที่แล้ว ผู้ประกอบพิธีก็อ่านคำปฏิญาณ และถาม - NS คุณยอมรับ PN เป็นภรรยาและจะร่วมทุกข์และสุขกันไปจนกว่าความตายจะพรากพวกคุณจากกันหรือไม่? - NS: ยอมรับ - PN คุณยอมรับ NS เป็นสามีและจะร่วมทุกข์และสุขกันไปจนกว่าความตายจะพรากพวกคุณจากกันหรือไม่? - NP: ยอมรับ
"ข้าพเจ้าขอประกาศ ณ ตรงนี้ให้พวกคุณเป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย เมื่อพวกคุณออกไปสู่การใช้ชีวิตตามปกติ ขอให้จดจำช่วงเวลาที่พวกคุณต้องการเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน จดจำความรักที่มีให้กันและกันและความเอาใจใส่ต่อกันและกันที่พวกคุณรู้สึกในช่วงเวลานั้น ที่นำพาพวกคุณมา ณ ตรงนี้ ข้าพเจ้าขอให้พวกคุณทั้งสองมีความสุขและความเจริญรุ่งเรืองในชีวิตการแต่งงาน"
ตอนแรกคิดว่าแต่งกันง่ายๆ คงไม่มีอะไรมาก แต่พอได้อยู่ตรงนั้นจริงๆ ณ เวลานั้น รู้สึกได้เลยว่า เฮ้ย....เอาจริงแล้วนะ! ส่วนเจ้าบ่าวนั้นบีบมือเจ้าสาวแน่นมากตลอดเวลา น้ำตาหยดแหมะๆ ในขณะที่ผู้ประกอบพิธีกล่าวคำปฏิญาณและให้พร ไม่รู้ว่าซาบซึ้งใจหรือเสียดายความโสด
เสร็จพิธีแล้วรับใบสำคัญการสมรส (Vigselbevis) มาเป็นที่ระลึกคนละใบ ส่วนการลงทะเบียนการสมรสกับทางสรรพากรนั้นทางเทศบาลจัดการให้เอง ใครอยากเปลี่ยนนามสกุลหรือเพิ่มนามสกุลของอีกฝ่ายก็ยื่นเรื่องขอไปที่กรมสรรพากรได้เลย ยื่นเรื่องก่อนหรือหลังจดทะเบียนก็ได้ เปลี่ยนครั้งแรกไม่ต้องเสียเงิน เราไปฉลองสละโลดที่ร้านอาหารไทย ส่งรูปตอนทำพิธีไปให้ปู่กับย่า ย่าดีใจน้ำตาไหลเป็นเผาเต่า และข่าวแต่งงานของเราก็กระจายไปทั่วหมู่บ้าน
ย่าก็ถามอยู่เรื่อยๆ ว่าเมื่อไหร่จะจัดงานฉลอง ย่าพร้อมเปย์มาก ส่วนสามี ยังไงก็ได้ อยากจัดเมื่อไหร่ก็บอก จะจัดที่ไทยก็ได้ตามใจเมียทุกอย่าง เป็นเราเองที่ไม่ชอบพิธีการ ไม่ชอบคนเยอะ จากวันนั้นถึงวันนี้ก็เจ็ดปีแล้ว คิดว่าคงไม่จัดล่ะ เก็บเงินไว้จัดงานแต่งให้ลูกชายก็แล้วกัน พร้อมเปย์มาก
รูปถ่ายห้องประกอบพิธีของเทศบาลอุปซอล่า ก็ไม่ได้ขี้เหร่เนาะ
Create Date : 04 มีนาคม 2567 |
|
2 comments |
Last Update : 5 มีนาคม 2567 13:33:18 น. |
Counter : 320 Pageviews. |
|
|
|
ยินดีด้วยค่ะ นับไปนับมาได้ 35 ปีแล้วค่ะ