เริ่มจากตอนแรกจะเป็นการยื่นสมัครออนไลน์ผ่านทางเว็บไซด์ ซึ่งในครั้งนี้ทางแจลก็ได้มีการรีเควสขอรูปภาพที่ดูเป็นธรรมชาติ ไม่จำเป็นรูปสำหรับสมัครแอร์อีกด้วย หลังจากส่งใบสมัครไปแล้ว สำหรับคนที่ผ่านการคัดเลือกก็จะได้รับอินไวท์ให้ไป 1st interview ที่โรงแรม pull man คิงส์พาวเวอร์รางน้ำค่ะ สำหรับการเดินทางสามารถเดินทางได้ทั้ง BTS ลงที่สถานี อนุเสาวรีย์หรือสามารถขับรถไปเองก็มีที่จอดรถ สะดวกมากๆเลยค่า ส่วนของเราเองนั่งแท็กซี่ไปเลยค่ะ ของเราครั้งแรกได้เป็นรอบ 11 โมง ก็รีบออกเดินทางเพราะขึ้นชื่อว่าสายการบินญี่ปุ่น เวลาจึงเป็นสิ่งสำคัญมากๆเลยค่ะ
พอไปถึงก็งงๆค่ะ ไม่รู้ว่าไปทางไหนต่อดี ก็เลยเริ่มปฏิบัติการหาเพื่อนค่ะ55555 พอดีเจอเพื่อนๆที่มาสมัครแอร์พอดี เลยชวนคุยปรากฎว่าได้รอบเดียวกันด้วยค่า เราเลยโล่งได้เพื่อนแล้วว เย้ๆๆ55555
สำหรับขั้นตอนการยื่นเอกสารนะคะ ค่อนข้างตรวจเคร่งมากๆเลยค่ะ แต่พี่ๆเค้าก็ใจดีมากค่ะ จำได้ว่ามีเพื่อนที่ไม่มีทะเบียนบ้านตัวจริงพี่เค้าก็ให้เวลาไปคัดสำเนามาใหม่แล้วรีบกลับมาค่ะ แต่ยังไงก็ตามเราควรเตรียมเอกสารให้พร้อม ครบถ้วนตามที่เค้ากำหนดมาเลยดีที่สุดค่ะ และที่สำคัญเค้าจะยึดโทอิคตัวจริงหรือรีปริ้นเท่านั้นด้วยค่ะ หลังจากตรวจเอกสารเรียบร้อยแล้ว ก็จะได้ใบสมัครที่เรากรอกในเว็ปไซด์ไปมากรอกเพิ่มเติม และนำรูปภาพ casual แบบเต็มตัวมาติดด้วยค่ะ หลังจากเราผ่านด่านการตรวจเอกสารเรียบร้อยแล้วว
ต่อมาก็เริ่มด่านแรกกันเลยค่าาา ในการสมัครรอบนี้ด่านแรกจะเป็นการทำกรุ๊ปค่ะ โดยกรุ๊ปมีจำนวนคนตั้งแต่ 4-8 คนแล้วแต่รอบเลยค่ะ และโชคดีที่กรุ๊ปในรอบนี้ได้ทำเป็นภาษาไทยค่ะ ซึ่งของเราในครั้งนี้ได้กรุ๊ป 4 คน เท่านั้นค่ะ และหัวข้อที่ได้นั่นก็คืออ... 
ถ้าคุณถูกหวย 90 ล้านจะทำอย่างไร
ตอนแรกเราก็แอบเครียดนะคะ ว่าคนน้อยจะคุยกันยังไงดีให้ครบ 10 นาที แต่เอาเข้าจริงๆ คุยกันเพลินมากค่ะ อาจเป็นเพราะหัวข้อค่อนข้างใกล้ตัว และเพื่อนในกลุ่มเราก็ช่วยกันดีมากๆเลยค่ะ ขอบคุณเพื่อนๆจนถึงตอนนี้ด้วยค่ะ รู้สึกโชคดีมากที่ได้กรุ๊ปดี 
ในด่านนี้เราคิดว่ากรรมการจะมองภาพรวมทั้งหมด ทั้งบุคลิก การพูด การฟัง และการมีส่วนร่วมในการทำกลุ่มของเราว่าเป็นอย่างไรบ้าง ที่สำคัญอย่าลืมนะคะยิ้มเยอะๆค่ะ หลังจากนั้นก็กลับมารอผลกัน
ซึ่งผลก็คือ... รับอีเมลล์ให้ไปสัมภาษณ์รอบต่อไปค่ะ 
โดยรอบนี้จะแบ่งห้องสัมภาษณ์เป็น 4 ห้อง กรรมการห้องละ 2-3 ท่านค่ะ ทั้งคนไทยคนญี่ปุ่นเลยค่ะ ของเราได้กรรมการผู้ชายญี่ปุ่น 2 ท่าน และผู้หญิงไทย 1 ท่านค่ะ และในรอบนี้จะให้เข้าครั้งละ 2 คนค่ะ คำถามค่อนข้างยากนะคะในความคิดเรา เราโดนคำถามเช่น พอจะนึกภาพลูกเรือของแจลออกมั้ย? ถ้าผ่านเข้าไปรู้มั้ยว่าจะต้องเทรนอะไรบ้าง? ตอนเทรนถ้าเครียดมากๆจะทำยังไง? และถามจากประวัติเราที่เคยทำงานกับคนญี่ปุ่นก็จะโดนถามในทำนองว่า มีปัญหาในการทำงานบ้างมั้ย แก้ไขอย่างไร และท่านสุดท้ายถามค่อนข้างยากค่ะว่า ถ้าจะปรับเปลี่ยนนอกเหนือจากในเรื่องของภาษาและบุคลิกภาพแล้วคุณอยากจะปรับเปลี่ยนอะไร พอเราได้ยินคำถามนี้ก็ช็อคเลยค่ะ แบบว่าา จะเปลี่ยนอะไรดีว้าา แต่ตอนนั้นคือต้องตอบแล้วค่ะ เราก็อาศัยทวนคำถามแล้วใช้เวลาระหว่างนั้นคิดไปด้วยว่าตอบอะไรดี โดยเราตอบไปว่าความรับผิดชอบค่ะ ซึ่งใช่ค่ะเป็นคำตอบต้องห้ามมากๆที่ไม่ควรตอบ T___T แต่เราก็อธิบายเพิ่มเติมค่ะ ว่าเพราะว่าเราเนี่ยเป็นคนขี้ลืมมากๆ แต่ก็พยายามแก้ไขโดยการจดหรือบันทึกสิ่งที่ต้องทำหรือสิ่งสำคัญต่างๆเพื่อป้องกันไม่ให้ลืมค่ะ วันนั้นหลังจากออกห้องสัทภาษณ์มาคือเฟลมากค่ะ คิดว่าตกแล้วแน่ๆรู้สึกตัวเองตอบแย่มากๆ แต่เพื่อนตอบดีมากๆ และกรรมการดูสนใจถามเพิ่อนเยอะมากค่ะ เราก็คุยกับเพื่อนว่าเค้าผ่านแน่ๆ สู้ๆนะ เราทำใจแล้ว แต่พอถึงวันประกาศผลเราผ่านเข้ารอบไฟนอลค่ะ 
ตอนนั้นคือช็อคมากกกกกกกแบบ กอไก่ล้านตัว แบบชั้นผ่านมาได้ไงง ตอบน้อยมาก สั้นมาก แถมตอบไม่ค่อยโอเคด้วย แต่เราคิดว่านะคะ เราไม่จำเป็นต้องตอบมาก เอาแค่ว่าตรงจุดเค้าถามอะไรตอบให้ชัดค่ะ และที่สำคัญขณะช่วงเฟลที่กรรมการถามเพื่อนเยอะๆเราก็ตั้งใจฟังเพื่อนเลยค่ะแล้วยิ้มให้เพื่อตลอดเลย เราเลยคิดว่าจุดต่างๆเหล่านี้ก็มีผลค่ะ ฉะนั้นไม้ต้องกังวลเลยนะคะ สำหรับคนที่คิดว่าเราพูดไม่เก่ง อาศัยยิ้มค่ะ เราว่าช่วยได้จริงๆ แต่ก็ไม่ใช่ว่าตอบไม่ได้เลยแล้วยิ้มอย่างเดียวน้าา55555 ก็ต้องพอตอบได้ด้วยแบบไม่งงมาก แล้วก็ยิ้มเยอะๆค่ะ กลับมาในส่วนของวันไฟนอลนะคะ เราได้รอบแรกของวันแรกเลยค่ะ เรียกได้ว่าเกือบเป็นคนแรกของวันเลย เลยรีบมาถึงแต่เช้า ตั้งแต่เค้ายังตั้งโต๊ะกันไม่เสร็จเลยค่ะ55555 แต่คิดว่ามาให้ชินและให้หายตื่นเต้นก่อน ซึ่งระหว่างนั่งรอกรรมการเค้าก็เข้าไปประชุมกันค่ะ ระหว่างนั่งรอก็จะมีวีทีอาร์ของสายการบินให้ดูไปพลางๆปลุกแรงบันดาลใจและให้เราฮึดสู้ค่ะ 
แม้จะตื่นเต้นมากกกกกๆ55555 อีกสักพัก กรรมการก็เดินออกมาแจ้งว่าพร้อมแล้วค่ะ แต่ ณ จุดนั้นเราไม่เรดี้ด้วยเลยค่ะ ตื่นเต้นมากคิดไปต่างๆนาๆจะโดนถามอะไรนะ จะตอบได้มั้ย กรรมการจะดุรึเปล่า เราจะฟังคำถามรู้เรื่องมั้ยนะ คิดเยอะมากค่ะ จนเพื่อนคนแรกออกมา เราเป็นลำดับที่สองค่ะ ก่อนเข้าไปก็หายใจลึกๆหนึ่งทีค่ะ เรียกกำลังใจและสติตัวเอง เข้ามากรรมการก็ทักทายและถามคำถามทั่วๆไปก่อนค่ะ นอนสบายมั้ยเมื่อคืน นอนกี่โมง ทานข้าวรึยัง ทานอะไรมา และหลังจากนั้นก็เริ่มถามเกี่ยวกับงานค่ะ โดนถามเยอะมาก เช่น ตอนนี้ทำงานกับคนญี่ปุ่นอยู่หรอ เป็นยังไงบ้าง คิดว่าคนญี่ปุ่นมีข้อดีข้อเสียยังไง เจ้านายรู้รึเปล่าว่ามาสมัคร เราก็ตอบว่าไม้รู้ค่ะ5555 แล้วเราก็แอบบอกกรรมการประมาณว่า เนี่ยเจ้านายชอบให้จองตั๋วเครื่องบิน และทุกครั้งที่กลับญี่ปุ่นจะต้องเป็นเจแปนแอร์ไลน์เท่านั้นเลยค่ะ กรรมการคนญี่ปุ่นเค้าก็ขำกันใหญ่และบอกฝากขอบคุณเจ้านายเราด้วยค่ะ555555 หลังจากนั้นเราก็เริ่มรู้สึกรีแลกซ์มากขึ้น เหมือนเป็นการพูดคุยมากกว่าการสัมภาษณ์ค่ะ แถมยังถูกกรรมการถามเรื่องรูปด้วยค่ะ ว่ารูปนี่ถ่ายที่ไหนเพราะรูปที่อัพโหลดในเว็บกับรูปที่นำไปติดวันสมัครเป็นคนละรูปกันค่ะ รูปที่เอาไปวันจริงถ่ายจากสตูค่ะ ส่วนอีกรูปเป็นรูปที่ถ่ายเล่นที่ทะเลค่ะ กรรมการก็ถามว่าคิดว่าธรรมชาติมั้ย แล้วอีกรูปใครถ่ายให้ รูปนี้น่ารักกว่านะ เราก็ขอบคุณเค้าและขำกันอีกยกใหญ่ค่ะ555555 หลังๆก็จะเป็นคำถามเกี่ยวกับการต้องไปเทรนและเรื่องกฏระเบียบค่ะว่ารับได้มั้ย ซึ่งเราก็เน้นตอบให้เห็นถึงความพยายามและมุ่งมั้นตั้งใจค่ะ ว่าเราสามารถทำได้ ยอมรับได้หมดค่ะ พอสัมภาษณ์เสร็จก็ไหว้ขอบคุณและโค้งให้กับกรรมการทั้งหลังสัมภาษณ์เสร็จและก่อนออกจากห้องค่ะ พอออกมาจากห้องแล้วรู้สึกโล่งมากและรู้สึกดีมากๆกับการสัมภาษณ์ครั้งนี้ค่ะ เพราะเป็นครั้งแรกที่สัมภาษณ์เสร็จแล้วรู้สึกโอเคมากๆค่ะ รออีกไม่นานประมาณสามวันค่ะ ผลออกมาก็ปรากฏว่าเราผ่านรอบไฟนอลค่าาา 
ไม่เคยมาได้ไกลขนาดนี้เลยค่ะ ตอนนั้นตื่นเต้นมาก
ด่านต่อไปก็คือด่านตรวจสุขภาพ โดยทำการตรวจที่ รพ กรุงเทพค่า การตรวจก็ค่อนข้างละเอียดเลย ทั้งการชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง เช็คสายตา เจาะเลือดเอกสเรย์ปอด กระดูกสันหลัง (ที่ได้ยินมาว่าที่นี่เคร่งเรื่องกระดูกสันหลังสุดๆเลยค่ะ) การได้ยิน การเต้นของหัวใจ และด่านสุดท้ายคือพบแพทย์นั่นเองค่าา โดยด่านนี้ที่ทุกคนจะต้องโดนก็คือการจิ้มก้นนั่นเองค่ะ ตอนแรกที่ได้ยินก็คิดว่าไม่น่าจะมีอะไรนะคะ แต่พอโดนจริง อ่าววมันเจ็บนี่หน่าา เจ็บจนร้องใส่พยาบาลเลยค่า5555555 แต่พอผ่านมาได้ก็โล่งค่าา มานั่งรอลุ้นผล ซึ่งระหว่างรอก็เครียดมากกๆ เราจะผ่านมั้ยน้า กระดูกสันหลังจะคดเกินไปรึเปล่า เลือดจะโอเคมั้ย คิดไปต่างๆนาๆค่ะ แต่สุดท้ายผลก็ออกมา เราผ่านการตรวจสุขภาพค่าาา เยยยยยยย้ๆในที่สุดก็ผ่านมาได้ 
นี่ก็คือประสบการณ์ทั้งหมดและขั้นตอนการสมัครแอร์ของสายการบิน Japan airlines นั่นเองค่าา หวังว่ารีวิวนี้จะมีประโยชน์กับเพื่อนๆและได้แนวทางในการเตรียมตัวไปสมัครกับสายการบินนี้นะค้า ^________________^
วันนี้เราก็จะมาแบ่งปันประสบการณ์ การสมัครแอร์ของสายการบิน Japan airlines รอบล่าสุดกันนะคะ โดยกำหนดการก็เป็นไปตามรูปภาพด้านล่างเลยค่า
