|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | |
|
|
|
|
|
|
|
บททดสอบ
>ดีครับทุกท่าน เฮ้อออออออ ได้ฤกษ์ซะที ถ้าใครเคยได้อ่าน หรือผ่านตากะ blog ของป๋มมาบ้างก็คงจะรู้ว่าตอนนี้ผมทำอะไรและอยู่ที่ไหน หลังจากที่ดอง blog มาประมาณ 4 month มั้ง ก็ถึงเวลาที่ออกมาแฉแล้วละ เริ่มเลย ก็ตามหัวข้อ Bolg เป๊ะครับ " บททดสอบ" ครับตอนนี้อยู่แผ่นดินอเมกามาจะ5 month แล้ว ยังจำได้ดีว่าครั้งแรกที่เหยียบอเมกานั้นแตื่นเต้นและดีใจมากก คิดในใจกรูทำได้แล้วเว้ยยยย ที่ดีใจขนาดนั้นก็เพราะว่าใจมันเรียกร้องอยากมาที่นี้เหลือเกินตั้งแต่ต้น เอางี้ละกันครับ ผมจะขอบอกถึงเบื้องลึกและเบื่องหลังของตัวผมเองก่อนแล้วกันนะครับ แล้วค่อยมาเล่าว่า มันคือ บททดสอบยังงัย ผมเป็นคนที่ค่อนข้างช่างฝัน อยากทำนั้นทำนี้ตลอด จนจะออกแนวเพ้อฝันเลยละ (เพราะว่าเพื่ิอนๆๆบอกมาแบบนั้น) แถมเป็นคนที่มั่นใจมากๆๆๆกับความคิดของตัวเอง(เท่านั้นนะครับ) หมายความว่าถ้าผมคิดอยากจะทำอะไรที่ตัวเองวางแผนเอาไว้แล้ว ก็จะต้องทำให้ได้ แม้ว่าคนอื่นจะบอกว่ามันเป็นไปได้ยากมากก็ตามที แต่ผมกลับคิดว่าไม่เห็นจะยากเลย ผมทำได้คอยดู!!!! และเป็นคนที่ชอบกดดันตัวเองในเวลาเดียวกัน เป็นอย่างนี้มาตลอด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผมเป็นคนก้าวร้าว รุนแรง และไม่ยอมรับฟังความคิดเห็นของคนอื่นนะครับ (ก็แค่คิดว่าตัวเองทำได้ก็เท่านั้น) เพราะว่าถ้าเป็นเรื่องงานหรือเรื่องอื่นๆๆก็ว่ากันตามเหตุและผล และตัดสินเอาตามความที่มันควรจะเป็น ตามที่สงคมและคนดีๆๆทั่วไปเค้าคิดว่าถูกนั่นละครับ ตอนเด็กๆๆเคยดูละครเรื่องนึงจำชื่อไม่ได้แล้วครับว่ามันเรื่องอะไร รู้แค่ว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน หรือที่เค้าเรียกฮิตติดปากว่าแอร์กะสจ๊วตนั้นละครับ ดูแล้วก็ติดตาติดใจมาก อยากทำงานเหมือนเค้า ตั้งแต่นั้นมาเลยบอกกะตัวเองตลอดว่า "โตขึ้นเราจะต้องเป็นสจ๊วต" คิดมาตลอดตั้งแต่เด็กจนมาถึงตอนมอหก ตอนนั้นถามตังเองว่าทำยังไงตัวถึงจะได้ฝันนั้นมา แล้วก็ได้คำตอบ และวางแผนกะตัวเองว่าเราจะต้องเรียน มหาวิทยาลัย แล้วก็จะต้องเป็นคณะที่เน้นภาษา eng ประกอบกับเรียนด้านบริการไปด้วย เลยเลือกเรียน Hotel & Tourism ก็ได้เข้าเรียนสมใจ ตอนนั้นอยู่ปี2 มาคิดได้อีกว่า การที่จะเป็นลูกเรือนั้นต้องเก่งภาษา eng มากๆ เพราะว่าภาษาของผมก็งูๆๆปลาๆๆไม่ได้เก่งมาก เลยคิดหาทางให้ตัวเองเก่งภาษามากกว่านี้ ความคิดมาหยุดตรงที่ว่า "เมืองนอกไง" ถ้าไปอยู่ซักปีนะ ต้องได้แน่ๆๆ(ฝันอีกแล้วตรู) แต่มันก็คงจะเป็นไปไม่ได้แน่ๆๆเพราะว่าที่บ้านก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไร (แต่ทำไงได้มันอยากไปอะ)ก็คิดมาตลอดจนถึงปีสามก็ได้มารู้จัก โครงการออแพร์ Aupair program จากเพื่อนสนิทคนนึง เธอเป็นเพื่อนเก่าสมัยเรียนโรงเรียนวัดด้วยกันมาตอนเด็กๆๆ ตอนนั้นคุยกันทาง MSN เพื่อนบอกว่า ตอนนี้อยู่ เมกาเว้ยยย มากะโครงการออแพร์ มาแล้วเป็นอย่างนั้น ดีอย่างนี้ แล้วที่สำคัญเพื่อนเราภาษาเก่งกว่าเดิมเป็นเท่าตัว แถมเงินที่จ่ายไปไม่ถึงสามหมื่นบาท โอ้ยยยยยยยย ความคิดบรรเจิด ไปๆๆๆๆๆๆไปเมกา อยากไปอยากไปๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆไปเป็นออแพร์นี่ละ ไปก็ถูก แถมได้ภาษาด้วย อิอิอิ ดีใจยังไม่ถึง 5 นาทีเลยเพื่อนรัก ก็บอกว่า เฮ้ยเค้าไม่รับผู้ชายไทยวะ!!!!!!!!!!!! ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม แต่ที่แน่ๆๆยังไม่เคยมีผู้ชายไปเลยนะแก ตอนนั้นเซ็งบวก สงสัย ว่าไมวะ ไมไม่รับผู้ชายวะ ด้วยความที่อยากรู้ and อยากไปเลยพยายามเข้าไปหาข้อมูลในเน็ต ก็เข้าไปเจอรูปผู้ชายอยู่คนนึง เค้าบอกว่าคนนี้เป็นผู้ชายคนแรกและคนเดียวที่ได้เป็นออแพร์ที่ อเมกา น่านนนนนนความหวังเริ่มมา ตอนนั้นบอกตัวเองว่าลุย!!!!!!! fightind USA เตรียมคุณสมบัติของตัวเองพร้อมแล้ว ก็เข้าไปคุยที่ agency at Thailand ครั้งแรกที่บอกพี่เค้าว่ามาสมัครออแพร์ครับ อาการที่พี่เค้าแสดงให้เห็นคือ งง บวกตกใจ แล้วพูดว่า "น้องคะ Aupair ไม่รับผู้ชายคะ เค้ารับแต่ผู้หญิงนะค่ะ" ผม ; " อ้าวก็ในเวปพี่ผมเห็นรูปผู้ชายอยู่คนนึง เค้าบอกว่าเค้าเป็น ออแพร์นิครับ"(เถียง) เจ้าหน้าที่; "ไม่มีๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ค่ะ" ผม ; " ไม่รู้ละผมมาแล้ว นะพี่นะๆๆๆๆๆๆๆผมอยากสมัครผมทำได้ ผมอยากเป็น ออแพร์" พี่เค้าบอกว่า "เอางี้ทั้งเบอร์ไว้ เดี๋ยวพวกพี่ขอปรึกษากันก่อน รู้ไหมว่ายังไม่เคยมีมาก่อนเลยนะ Aupair ชายไทยอะ ถ้าได้เรื่องยังเดี๋ยวพราโทรไปบอกนะค่ะ" โอเคครับ อีก 1 week พี่แพทโทรมาบอกว่า เค้าอยากให้เข้ามาคุยกันก่อนว่าอะไรยังงัย ถึงคิดอยากมาเป็นออแพร์ ผมก็คิดในใจว่า เอาวะอย่างน้อยก็น่าจะมีหวังเพราะเรียกเราไปคุย แต่พอไปจรืงๆๆแล้วพี่เค้าให้ทดสอบภาษา eng แล้วก็คุยกัน ผมก็ตอบไปประโยคนึงว่า "เพราะว่าอยากเป็นลูกเรือ ก็เลยอยากไป USA" สรุปว่าได้สมัคร ครับ แต้พี่เค้าพูดทิ้งท้ายว่า " เราต้องทำใจหน่อยนะ อาจจะรอนานมากๆๆนะ เพราะว่าเราเป็นผู้ชาย อาจจะหาครอบครัวยากก เพราะว่าผู้หญิงบางคนยังรอเป็นปีนะ บางคนก็ไม่ได้เลย" ตอนที่ได้ยินที่พี่เค้าบอก บอกได้คำเดียวว่าไม่ได้กลัวและท้อเลย อิอิ คิดอย่างเดียวว่า ตรูจะต้องได้ไปแน่ๆๆ (บอกแล้วมั่นใจสูง ) หลังจากเรียนจบ ก็สมัครเลย ครับ หลังจากสมัครเสร็จ ก็หางานทำไปด้วยพลางคิดเอาไว้ว่าน่าจะไม่เกินสองเดือนต้องได้บินแน่ๆๆตรู อิอิ ตอนนั้นได้งานที่ Bangkok land company หรือImpact Arena Muangthongthani นั้นละครับ ทำในส่วนของVisitor Relations Management ทำไปตััง 6 month ยังไม่มีวี่แววเลย ตอนนั้นเริ่มงุ่นง่าน อยากไปเมืองนอกก็อยาก ลูกเรือก็อยากเป็น ทำไงดี .............. ก็ ลาออกงัย (อ้าวซะงั้น กรู) เพราะมาคิดว่าถ้ายังไม่ได้เป็นลูกเรือ ก็ขอทำงานที่มันได้เห็นลูกเรือทุกวันก็แล้วกัน หลังจากนั้นก็ไปสมัครงาน Airline ทำงานที่ Airport ได้ทำงานกะ บ. บ.นึง ขอไม่บอกชื่อละกัน(เป็น บริษัทการบินที่ย่ายที่สุดในประเทศไทย) ตอนนั้นยังตามเรื่องออแพร์อยู่ตลอด บอกตรงๆๆเลยว่ามีท้อบ้าง แต่ยังงัย ก็ไม่ถอย หวังลึกๆๆ ว่าตัวเองต้องได้(แต่ว่ามรึงรอมาจะ 7 month แล้วนะ ก็บอกแล้วว้ามั่น) ตอนนั้นทำงานมีความสุขมากก เจอลูกเรือทุกวัน ทุกสายการบินด้วย(จริงๆๆนะ) ด้วยเหตุนี้ ก็ทำให้เกิดความอยากอีก อิอิ ก็ฝันอยากเป็นลูกเรือ Emirates Airline นะซิ ก็ว่ากันว่า รวยหนักรวยหนาสายการบินนี้ เลยเบนเข็มชิวิตตัวเองมาไว้ที่ EK (Emirates Airline) ว่าชาตินี้จะต้องเป็นลูกเรือ EK ให้ได้ (ซะงั้น) ก็รอๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แล้วก็รอๆๆๆจากเดือน เป็นเกือบปี และแล้ว เดือน Oct 14,2008 ผมก็บินมา USAเห็นไหมฝันเป็นจริงแล้วพี่น้อง ผู้ชายไทยก็มาเป็นออแพร์ได้ เย้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แต่กว่าจะได้มาก็หนักเอาการ เล่นเอาท้อและทอดใจไปบ้างเหมือนกัน แต่พอนึกถึงฝันตัวเเองก็ฮึดสู้อีกครั้ง เอ้า เพื่อลูกเรือ EK fighting!!
เอาละมาถึงช่วงบททดสอบซะที ร่ายมาซะยาววววมากกกกแล้ว ตอนก่อนจะมาก็ฝันว่ามันจะต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ดีแบบนั้นแบบบนี้ ได้เที่ยวได้ภาษา ง่ายๆๆแค่เป็นออแพร์ เที่ยวๆๆเรียนๆๆเลี้ยงเด็ก แล้วก็เอาภาษากลับบ้านแถมได้ตังค์ด้วย แต่ทุกอย่างตรงกันข้ามครับพี่น้อง วันแรกที่มาถึงที่บ้านโฮท บอกตัวเองว่า กรูมาทำไรที่นี่วะเนี่ย!!!!!!!!! แล้วจะยังงัยละเนี่ย กรู จะบอกว่าทุกสิ่งทุกอย่างมันต่างจากบ้านเราหมดรับ ไม่ว่าจะเป็น ภาษา อาหารการกิน สังคม วัฒนธรรม ต่างหมด มาอาทิตย์แรก บอกได้คำเดียวว่าอยากกลับบ้านมากกกกก ความคิดตอนนั้น มาทำไมวะ ไม่เห็นมันจะดีและมีประโยชน์ตรงไหนเลย ลำบากจะตาย ใครบอกว่ามันสนุก บลาๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ (เหมือนในละคร เด๊ะ )ความคิดแย่ๆๆ ต่างๆๆนาๆๆ ประเด ประดังมาตอนนั้น ท่ามกลางความคิดที่สับสนนั้น ยังไงไม่รู้ความคิดแว๊บบบบนึงผ่านเข้ามาบอกว่า มาที่นี่เพราะว่าอยากมาใช่ไหม บอกกับตัวเองไว้ตั้งแต่ต้นแล้วไม่ใช่หรอว่า ต่อให้ลำบากแค่ไหนก็จะสู้ขอแค่ให้ได้มาอเมกาก็เป็นพอ แล้วเป็นไงละแค้นี้ก็แย่ซะแล้ว เฮ้ออออออออออออออออออ เท่านั้นละ ความคิดที่อยากเป็นลูกเรือก็ผุดขี้นสมองทันที ตามมาด้วยคำว่าสู้และอดทน(ฟังดูอาจจะโอเวิอร์ แต่มันจริงอะ) สองคำนี้จริงๆๆที่ทำให้ผ่านวันนั้นมาได้ หลังจากเอาความคิดตัวเองกลับมาได้ เลยหยิบเอาสมุดบันทึกออกมาเขียนข้อความไว้เตือนตัวเองว่า ที่เรามาที่นี่เรามาทำอะไร เพื่ออะไร แล้วทำไมถึงอยากมา แล้วกว่าจะได้มานั้นมันยากและลำบากแค่ไหน รอนานแค่ไหน ประมาณนี้ ก็จดลงทุกความรู้สึกที่มี ณ ตอนนั้น เผื่อวันไหนที่ท้อก็จะเอาออกมาอ่าน(อ่านทุกวันเลยอะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ) นี่ละครับบททดสอบของผม เกือบสี่เดือนก็พยายามปรับตัว และบอกตัวเองว่าต้องทำให้ได้ จนตอนนี้ก็ตั้งเป้าไว้ว่าจะอยู่ 2 years ละ แล้วก็ค่อยกลับไปสมัคร EK airline สาธุขอให้ฝันเป็นจริงทีเถิด สู้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เอ้ออยากฝากคนที่อยากมาเป็นออแพร์ หรือ คนที่อยากมาใช้ชีวิตต่างแดน ผมว่าดีนะ เพราะมันจะสอนให้คุณรู้จักปรับตัวให้เข้ากับวัฒนธรรมและสังคม ที่เราไม่รู้จัก แล้วก็จะทำให้รู้จักตัวเองมากกขึ้น ที่สำคัญฝึกความอดทน ความแกร่งดีนักแล แล้วก็ขอฝากบอกเพื่อนชาว ออแพร์ทุกๆๆคนว่า พวกคุณถึกและอึดมากกกก เราว่าคูโบต้ายังอายยย สู้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
Create Date : 10 กุมภาพันธ์ 2551 |
Last Update : 10 กุมภาพันธ์ 2551 9:21:39 น. |
|
20 comments
|
Counter : 441 Pageviews. |
|
|
|
โดย: katoy วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:6:30:50 น. |
|
|
|
โดย: MissThaan IP: 71.225.84.250 วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:9:32:56 น. |
|
|
|
โดย: sak (psak28 ) วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:14:31:57 น. |
|
|
|
โดย: katoy วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:16:31:18 น. |
|
|
|
โดย: ทอมมี่ IP: 203.209.18.155 วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:10:01:54 น. |
|
|
|
โดย: ทอมมี่ IP: 203.209.18.155 วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:10:11:52 น. |
|
|
|
โดย: wbj IP: 61.47.32.82 วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:10:12:09 น. |
|
|
|
โดย: ดวงตากระต่าย วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:10:40:35 น. |
|
|
|
โดย: eddy (flaptop ) วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:11:04:36 น. |
|
|
|
โดย: มาดามอุ้ย วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:9:15:43 น. |
|
|
|
โดย: Edd (flaptop ) วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:9:28:25 น. |
|
|
|
โดย: JEn (saifon_3 ) วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:8:54:21 น. |
|
|
|
โดย: b_bee IP: 68.38.205.130 วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:9:33:04 น. |
|
|
|
โดย: Nu_Mint IP: 72.81.208.238 วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:9:01:32 น. |
|
|
|
โดย: lextee IP: 222.123.16.47 วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:8:56:40 น. |
|
|
|
โดย: katoy วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:12:45:32 น. |
|
|
|
โดย: K19 IP: 71.208.253.147 วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:6:10:38 น. |
|
|
|
โดย: หนูเมเปิล วันที่: 9 ตุลาคม 2552 เวลา:15:27:20 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
Philadelphai (Pa) United States
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
Believe in what your heart is saying, Hear the melody that's playing. There's no time to waste, There so much to celebrate. Believe in what you feel inside, Give your dreams the wings to fly. You have everything you need, if you just believe.
|
|
|
|
|
|
|
ทันไหมน้า...
Graphics for Valentines Day Comments
รอดูรูปครับ...ทดสอบนานจัง..
ไว้จะมาใหม่..