กวาน ลังค์ ทำงานให้กับสำนักงานข่าวกรองมาเป็นเวลาสองปีกว่าแล้ว มันช่างเป็นงานที่น่าเบื่อผิดจากความคาดหมายเสียเหลือเกิน ไม่มีการต่อสู้ ไม่มีการจารกรรม ไม่มีแม้แต่การลอบเร้น แอบซุ่มติดตามใครซักคน งานของเขามีแต่เอกสารกองเป็นตั้ง หน้าที่ของเขาคือหารเรียบเรียง จัดแยกหมวดหมู่ข้อมูล และงานที่ดูจะน่าตื่นเต้นที่สุดของเขาก็คือการเดินเอกสารไปยังหน่วยงานและบริษัทต่างๆ

บางทีเขาอาจจะเลือกงานผิดก็ได้ ทุกอย่างน่าเบื่อหน่าย ต่างไปจากที่เขาคิดอย่างมาก ในขณะที่เจ้าหน้าที่เกือบทุกคนปฏิเสธอย่างเอาตายที่จะไม่ยอมมาทำงานที่นครที่สิบสาม แต่เขากลับเป็นคนเลือกมาประจำที่นี่ด้วยตนเอง นั่นก็เพราะเรื่องเล่าลืออันถึงเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นที่นครแห่งนี้ แน่นอนว่าด้วยข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นย่อมทำให้คนทั่วไปออกอาการขยาดที่จะต้องแวะเวียนมาที่นี่ แต่มันไม่เป็นเช่นนั้น สำหรับคนที่แสวงหาการผจญภัยเช่นเขา ซึ่งหวังจะได้พบกับแผนสมคบคิดหรือความลับอันน่าตื่นเต้นอะไรก็ตาม แต่การปฏิบัติหน้าที่ ที่ผ่านมาปีกว่าทำให้เขาเริ่มสงสัยว่าตนเองอาจเป็นเพียงไอ้บ๊องคนหนึ่งเท่านั้นเอง


นครที่สิบสามในสายตาคนทั่วไปเป็นเหมือนนครต้องคำสาป ถูกปิดกั้นและปล่อยให้รกร้างมานานถึงสิบปี นับตั้งแต่คืนเกิดภัยพิบัติปริศนานั้น จนเมื่อสองปีที่แล้ว มันได้ถูกฟื้นฟูขึ้นมาใหม่โดยบรรษัท ผู้คนทยอยกันเข้ามาจับจองพื้นที่ ตามโควตาที่ถูกจัดสรรไว้ให้แก่พลเมืองจากนครอื่นๆ แม้ว่าปริมาณความหนาแน่นประชากรของบรรดานครรอบในจะอยู่ในภาวะล้นเมืองแล้วก็ตาม แต่อัตราการโยกย้ายถิ่นฐานของประชาชนที่ประสงค์จะเข้ามาอยู่ในเขตนครที่สิบสามก็ยังอยู่ในระดับต่ำมาก สาเหตุใหญ่ของปัญหานี้มาจากข่าวลือต่างๆนานาเกี่ยวกับเหตุการณ์ปริศนาที่เกิดขึ้นในเมืองนี้เมื่อสิบสองปีที่แล้ว

ประชากรกว่าหกหมื่นคนหายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอยภายในชั่วข้ามคืน ผู้ที่หลงเหลืออยู่จำนวนเพียงพันกว่า อยู่ในสภาพโคม่า และอีกจำนวนไม่กี่สิบคนมีอาการคลุ้มคลั่งเสียสติ

จากรายงานสรุปผลการสอบสวนของสำนักงานรักษาความสงบแห่งบริษัท หายนะครั้งนี้มันเริ่มขึ้นในช่วงเวลายี่สิบนาฬิกาตามเวลามาตรฐาน ระบบไฟฟ้าในเขตนครล้มเหลว เครื่องใช้ไฟฟ้าทุกประเภทไม่สามารถใช้งานได้ รวมถึงอุปกรณ์ที่ใช้ไฟฟ้าจากแบตเตอรี่และยานพาหนะทุกชนิด ซึ่งนั่นย่อมทำให้การติดต่อสื่อสารภายในเขตนครถูกตัดขาดไปด้วย

บรรษัทไม่สามารถติดต่อหรือได้รับข้อมูลใดๆจากภายในนครที่สิบสามแม้แต่น้อย สำนักงานรักษาความสงบได้ออกคำสั่งเคลื่อนย้ายกำลังพลระดับฉุกเฉิน จากนครที่สิบสองและสิบสี่เข้าปฏิบัติการสำรวจและกู้ภัยในนครที่สิบสาม แต่ทางชุดปฏิบัติการแปดหน่วยแรกก็ไม่ได้กลับออกมา หลังจากนั้นอีกสองชั่วโมงกองกำลังชุดที่สองจำนวนสิบหกหน่วยถูกส่งตามเข้าไปและหายสาบสูญไปทั้งหมดภายในคืนเดียวกันนั้น

ชุดปฏิบัติการชุดที่สามประกอบด้วยกองกำลังติดอาวุธหนักและหน่วยกู้ภัยถูกส่งเข้าไปในนครที่สิบสามในตอนห้านาฬิกาสามสิบนาทีของวันต่อมา หลังจากที่เริ่มมีแสงอาทิตย์ขึ้นมาบ้างแล้ว และทางเจ้าหน้าที่ได้พบเพียงตัวเมืองที่รกร้าง รถยนต์หลายคันยังคงจอดนิ่งอยู่บนถนน มีเพียงไม่กี่คันที่จอดเกยทางเท้าหรือพุ่งเข้าชนตัวอาคาร ซึ่งนับเป็นความเสียหายเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

เจ้าหน้าที่นิติวิทยาศาสตร์ของสำนักงานรักษาความสงบแห่งบรรษัทแทบไม่ได้หลักฐานหรือเงื่อนงำที่จะเปิดเผยถึงรายละเอียดของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในคืนนั้นได้เลย นอกไปจากคราบเลือดสาดกระจายเป็นไปทั่วทั้งเมือง ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น

ผู้ที่เหลือรอดอยู่ไม่มีใครที่สามารถให้ปากคำได้เลยแม้แต่น้อย สำหรับพวกในกลุ่มที่เสียสติการบำบัดทางจิตก็ไม่สามารถฟื้นฟูสภาพจิตให้กลับมาเป็นปกติได้เลย

นี่คือทั้งหมดที่ปรากฏอยู่ในรายงานของสำนักงานรักษาความสงบแห่งบรรษัท แต่สำหรับข่าวลือแล้วเรื่องราวเหล่านี้ได้ถูกต่อเติมเสริมแต่งเข้าอย่างมีสีสันที่น่าระทึกใจและชวนให้หวาดผวา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรื่องที่เล่าลือถึงข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับเหตุการณ์เหนือธรรมชาตินี้ ล้วนอยู่ในการรับรู้และถูกปกปิดไว้โดยสำนักงานข่าวกรองแห่งบรรษัท หน่วยงานแห่งภารกิจลับ

เรื่องเล่าลือมากมายเกี่ยวกับนครที่สิบสามทำให้เขาระทึกใจ หากแต่การปฏิบัติงานที่แสนน่าเบื่อหน่ายตลอดเวลาที่ผ่านมาได้ทำให้อดรีนารีนของเขาระเหยไปจนเกือบหมดแล้ว เขาเกือบจะลืมเรื่องราวเกี่ยวกับเหตุการณ์ลึกลับต่างๆที่เคยเกิดขึ้นที่นี่ หลายๆครั้งเขาก็เกือบจะเผลอเชื่อในข้อมูลเท็จที่บรรษัทปล่อยออกมาเพื่อกลบเกลี่อนความผิดปกติไปแล้วด้วยซ้ำ แต่แล้วอยู่ๆคำสั่งใหม่ก็ส่งมาถึงเขา มันเป็นคำสั่งที่ดูเหมือนจะเรียบง่ายไม่มีอะไรเป็นพิเศษ แต่สำหรับผู้ที่ทำงานกับสำนักงานข่าวกรองแล้วทุกคนรู้ดีว่าคำสั่ง“นัดพบ”นี้หมายถึงเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง

นครที่สิบสามเดี๋ยวนี้นั้น แม้ว่าจะกลับมามีชีวิตอีกครั้งหนึ่งแล้ว แต่มันก็ยังดูรกร้างเงียบเหงา ตามท้องถนนมีผู้คนเดินไปมาอยู่บ้างเพียงประปราย และในบางย่านของเมืองก็ไม่สามารถพบเห็นผู้คนได้เลย ทั่วทุกตรอกซอยและหมู่อาคาร ยังคงเต็มไปด้วยความซึมเซาราวกับว่ายังสะลึมสะลือ เพิ่งรู้สึกตัวขึ้นจากความหลับใหลที่ซ่อนฝันร้ายไว้ภายใน

เจ้าหน้าที่หนุ่มมาเตร็ดเตร่อยู่ใกล้ๆบริเวณจุดนัดพบก่อนกำหนดเวลาสามชั่วโมง เขาพยายามทำตัวให้ดูปกติที่สุดเท่าที่จะทำได้ การเดินเล่นไปเรื่อยๆตามถนนช่วยบรรเทาความกังวลถึงภารกิจไปได้บ้าง ข้อสงสัยและคำถามมากมายทำให้เขากระวนกระวาย เขาพยายามเลี่ยงความคิดฟุ้งซ่านโดยการเบนความสนใจไปสู่สิ่งต่างๆที่เขากวาดตามองเมื่อตอนที่เดินผ่าน ผู้คนเดินผ่านกันไปมา หมู่อาคารเก่าคร่ำคร่า แล้วสายตาของเขาก็ไปหยุดลงที่วงล้อชิงช้าสวรรค์ขนาดมหึมาที่สูงตระหง่านอยู่เหนือหมู่อาคารทั้งหลายในบริเวณนั้น

ชิงช้าสวรรค์ยักษ์ก่อสร้างขึ้นด้วยโครงสร้างเหล็กท่อนหนาหนัก สนิมสีแดงคล้ำเขลอะเกาะกินเป็นคราบเกรอะกังไปทั่วทั้งวงล้อ สีสนิมเก่าคล่ำทำให้กวานนึกถึงคราบเลือดที่เปรอะเปื้อนไปทั่วเมืองอย่างที่เขาได้เคยเห็นในภาพถ่ายมาก่อน ลมแรงพัดกรรโชกมาปะทะวงล้อเหล็กมหึมาทำให้มันครางออกมาเป็นเสียงเหล็กฝืดๆเสียดสีกันเสียงดังกรี๊ดกังวานสนั่น อากาศรอบข้างตัวเจ้าหน้าที่หนุ่มสั่นไหว ขนลุกเย็นวาบไปจนถึงกระดูกสันหลัง เขายืนแหงนมองโครงล้อเหล็กยักษ์นั้นราวกับกำลังเผชิญหน้าภูตผียักษ์ตัวสูงท่วมฟ้า ซึ่งกำลังแผดเสียงกรีดร้องใส่

Create Date : 21 กุมภาพันธ์ 2551
Last Update : 21 กุมภาพันธ์ 2551 13:22:28 น.		2 comments
Counter : 320 Pageviews.
Share Tweet