นิราศ@โรแมนติก: สะดุดเลิฟ...ที่เมืองเวโรน่า
เพิ่งผ่านพ้นเทศกาลแห่งความรักวาเลนไทน์มาหมาดๆ แน่นอนว่าบทความผมก็ยังคงไม่ยอมตกเทรนด์ที่จะกล่าวถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่อบอวลไปด้วยกลิ่นไอแห่งความรัก ขอพากลับไปที่อิตาลีอีกครั้งหนึ่ง แต่คราวนี้เราจะแวะกันที่เมืองเวโรน่า (Verona)


นครเวโรน่ามีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันจากบทประพันธ์นิยายรักอมตะโรมิโอและจูเลียตของกวีชาวอังกฤษวิลเลี่ยม เชคสเปียร์ ในนิยายกล่าวถึงความรักของหนุ่มสาวชาวเวโรน่าที่มาจากครอบครัวตระกูลมอนตะคิวและคาปูเล็ตที่เป็นศัตรูกัน เชื่อกันว่าเชคสเปียร์เขียนขึ้นมาจากเค้าโครงเรื่องจริงของสองตระกูลในเมืองเวโรน่า


สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับหนึ่งของเมืองเวโรน่าก็คือบ้านที่เชื่อว่าเป็นของตระกูลฝ่ายหญิงจึงเรียกว่าบ้านจูเลียต (Casa di Giulietta)

จุดเด่นของบ้านจูเลียตก็คือระเบียงที่เป็นฉากสำคัญในนิยายโรมิโอจูเลียต


มุมนี้เรียกว่า Juliet-eye view เมื่อมองลงมาจากระเบียง


“โอ้ โรมิโอ โรมิโอๆ ไยท่านเป็นโรมิโอ”*

บรรยากาศภายในบ้านจูเลียต


ในบริเวณสวน มีรูปปั้นบรอนซ์ของจูเลียตขนาดเท่าคนจริง


ว่ากันว่าใครก็ตามที่จับหน้าอกซ้ายของรูปปั้นพร้อมอธิษฐานขอความรักจะสมหวัง จึงไม่แปลกใจที่จะเห็นนักท่องเที่ยวเข้าคิวกันลูบหน้าอกรูปปั้นจนมันแผล่บ


“ด้วยปีกของรักหอบข้าข้ามกำแพงมา โค้งศิลาหากั้นรักได้ไม่”*


ในอดีตมีชาวเมืองหรือนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมเยือนบ้านจูเลียตเพื่อเขียนจดหมายขอคำปรึกษาเรื่องความรักกับจูเลียตแล้วนำไปแปะไว้ตามกำแพงบ้าน เรื่องราวนี้ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนต์ฮอลลีวู้ดฉายในปี 2010 เรื่องLetters to Juliet ชื่อภาษาไทยว่า “สะดุดเลิฟ...ที่เมืองรัก”


สงสัยว่าหลังจากหนังออกฉายคงมีนักท่องเที่ยวทั่วโลกแห่มาเขียนจดหมายถึงจูเลียตปะตามกำแพงมากขึ้น จนปัจจุบันทางการเวโรน่าจึงประกาศห้ามติดจดหมายไว้ตามกำแพงบ้านอีกต่อไป


ถ้าอยากจะส่งจดหมายถึงจูเลียตก็ให้ใส่ไว้ในตู้ไปรษณีย์ภายในบ้าน


ในเมื่อนี่มันโลกทศวรรษที่ 20 แล้ว เราย่อมสามารถเขียนอีเมลหาจูเลียตได้ (ไม่รู้ว่ามี facebook กับ twitter รึเปล่า)


“ข้าขอสาบานรักต่อจันทรา”
“อย่าได้สาบานแบบนั้น จันทราบ่เที่ยงตรง ทุกเดือนจันทราย้ายวงโคจรดังเช่นรักท่านอาจโลเล”*

อารมณ์ตรงกันข้ามกับบ้านจูเลียต บ้านที่เชื่อว่าเป็นของตระกูลโรมิโอกลับไม่ได้เปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยว


ไม่ใช่แค่ตึกรามบ้านช่องเท่านั้นที่เกี่ยวพันกับโรมืโอจูเลียต แม้แต่ขนมหวานชื่อดังประจำเมืองเวโรน่าก็ตั้งชื่อว่าBaci di Giulietta แปลเป็นไทยว่าจุมพิตของจูเลียต (สีน้ำตาล) แถมยังมีขนมที่หน้าตาเหมือนกันแต่เป็นสีขาวชื่อว่า Baci di Romeo หรือจุมพิตของโรมิโอนั่นเอง


ตระเวณดูตามร้านขายของฝาก ของที่ระลึกที่พบเห็นบ่อยที่สุดก็คือผ้ากันเปื้อนคู่รัก


จริงๆแล้วสเน่ห์ของเวโรน่าไม่ใช่แค่มาจากกระแสนิยายโรมิโอจูเลียต บรรยากาศในตัวเมืองก็แสนโรแมนติกโดยเฉพาะริมแม่น้ำ Adige เหมาะแก่การเดินควงแขนกันมากที่สุด


การเดินทางไปบ้านจูเลียต
บ้านจูเลียตอยู่ในเขตเมืองเก่าของเวโรน่า สามารถเดินจาก Porta Nuova สถานีรถไฟหลักของเมืองได้ ใช้เวลาประมาณ 20 นาที

“ข้าขอลา รักดุจดอกไม้แย้มบานในคิมหันต์ จะเบิกบานขึ้นคราหน้าที่เราเจอกัน ลาก่อน ลาก่อน”*

* จากบทประพันธ์"โรมิโอและจูเลียต"ของวิลเลี่ยม เชคสเปียร์




Create Date : 18 กุมภาพันธ์ 2556
Last Update : 18 กุมภาพันธ์ 2556 11:46:49 น.
Counter : 3155 Pageviews.

1 comments
  
เคยอ่านจากในนิยาย นางเอกไปเห็นบ้านจูเลียตแล้วอึ้งกับบรรดาโน้ตที่แปะตรงประตู ได้เห็นภาพจากในบลอกนี้แล้ว เป็นเราก็อึ้งเหมือนกันนะ 555
โดย: หัวใจสีชมพู วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:12:22:30 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สมาชิกหมายเลข 714858
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]



กุมภาพันธ์ 2556

 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28