ป่วยเพราะความรัก
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อนะคะว่า"ความรัก"ทำให้แมวเราเจ็บป่วยได้จริงๆเมื่อวานดิชั้นกลับถึงบ้านตั้งแต่หัวค่ำ กะว่าจะรีบนอนเพราะนอนน้อยมาหลายคืน แสบตาจนเหมือนมีเศษทรายอยู่ในลูกกระตาเวลากระพริบตาทีเดียวพยายามให้หลับตั้งแต่สามทุ่ม พอจะเคลิ้มๆไปได้ซักหน่อยประมาณเที่ยงคืนกว่าๆ คุณยายมาเคาะห้องแล้วบอกว่าช่วยพา "ทองเอก" ไปโรงพยาบาลหน่อยเถอะ "ทองเอก" มีอาการฉี่ไม่ออกอีกแล้วค่ะ แถมคราวนี้ยังมาอาการหนักตอนกลางดึกอีก อารมณ์แรกยอมรับค่ะ ....โมโหมากกกกก ง่วงมากกกกก็ตอบไปแบบไร้อารมณ์ว่า ไปพรุ่งนี้เย็นได้ไม๊ ไปหาลุงหมอมันน่าจะรอได้นะ เพิ่งเป็นไม่ใช่เหรอ แล้วดิชั้นก็ปิดประตูนอนต่อคุณยายก็ทำหน้าจ๋อยๆ เดินกลับห้อง ส่วนดิชั้น ล้มตัวนอนไปได้ไม่ถึง 2 นาที ก็เดินกลับไปเคาะห้องคุณยายแล้วบอกให้จับเจ้าตัวดีใส่กระเป๋า จะพาตระเวณหาหมอต้องบอกเลยค่ะ ว่าบ้านที่จว.ปทุมฯนั้นค่อนข้างห่างไกลความเจริญ (ถึงแม้จะพักที่ตัวจังหวัด) ตอนที่ขับรถออกมาก็ไม่แน่ใจว่าเราจะหารพ.ที่เปิด 24 ชม ได้หรือเปล่าด้วยซ้ำแต่จำได้ลางๆว่า เลย 4 แยกปทุมฯไป มีรพ.สัตว์รัตนาธิเบศร์(3)มาเปิดใหม่ ก็เลยลองเสี่ยงขับไป สรุปว่าโชคดี เจอรพ.พอแจ้งอาการ เริ่มแรกเลย คุณหมอก็พยายามจะบีบท้องให้เค้าฉี่ แต่ท่าทางจะแย่ คุณหมอก็เลยไม่เสี่ยง บอกว่างั้นขอเปลี่ยนเป็นวิธี "สวนฉี่" เอาก็แล้วกันคราวนี้ล่ะที่ "ทองเอก" น่าสงสารมาก ท่าทางจะทรมานเพราะหมอไม่สามารถสอดท่อผ่านเข้าที่จุ๊ดจู๋ของทองเอกได้เลยเข้าไปได้นิดนึงก็คล้ายๆกับติดคุณหมอก็เลยขออนุญาติฉีดยาซึม ซึ่งเราก็เห็นด้วยเพราะตอนนั้นทองเอกร้องไม่เป็นภาษาแมวอยู่แล้วแต่ยาซึมก็ยังเอาไม่อยู่ค่ะ หมอสอดท่อเข้าไปไม่ได้เลยทองเอกขนาดว่าเจอยาซึมไป ยังดิ้นซะจนแทบจับไม่ได้(แสดงว่าเจ็บจริง) จนมาถึงวิธีสุดท้ายที่ไม่น่าเชื่อว่าแค่จะทำให้แมวฉี่จะต้องใช้วิธีนี้วิธีสุดท้ายคือ หมอขอวางยาสลบค่ะถึงเวลานั้น ตีสองแล้วค่ะ จะทำยังงัยก็ต้องยอมวางยาได้พักนึง ก็สอดท่อเข้าไปสวนฉี่ออกมาได้ค่ะแต่สิ่งที่ติดปลายท่อออกมาก็คือ ตะกอนคล้ายกับฝุ่นทรายซึ่งไอ้เจ้าตะกอนนี้ล่ะค่ะที่ไปอุดท่อฉี่ทำให้เค้าฉี่ไม่ออกแถมยังสวนท่อไม่เข้าอีกด้วยคุณหมอถามถึงประวัติการรักษาและการกินอาหารมาถึงตอนนี้ล่ะค่ะที่ดิชั้นโกรธคุณยายอีกรอบ(ถ้าใครอ่านหน้าที่แล้วจะจำได้ว่ายายตามใจหลานมาก)อย่างที่บอกงัยคะว่าด้วยความรักของคุณยาย ขนาดลุงหมอบอกว่า ต้องงดอาหารเม็ด คุณยายก็ยังมิได้นำพา แถมยังบอกอีกว่า อิ่มตาย ดีกว่าอดตาย แล้วพอมาถึงตอนนี้เป็นงัยทองเอก ทรมานมากจริงๆ คุณหมอที่นี่ก็แนะนำเหมือนเดิมอีกค่ะว่าทองเอกต้องงดอาหารเม็ด ต้องหัดให้กินอาหารเปียก หรือถ้าอดอาหารเม็ดไม่ได้จริงๆก็ต้องเอาไปแช่หรือผสมกับน้ำซุปคือถึงทุกวันนี้ดิชั้นก็ยังไม่เข้าใจจริงๆว่าอยู่ดีๆ ทองเอกมีอาการ"จุ๊ดจู๋ตัน" ได้ยังงัย จำได้ไม่ลืมเลยว่า ช่วงที่เราเลี้ยง"รถโฟล์ค" ก็มีอาการแบบนี้คือเป็นๆหายๆ เดินเข้ารพ.เป็นว่าเล่นตลอด 6 ปีที่เราเลี้ยงเค้ามาเลยค่ะอ้อ เมื่อคืนพาทองเอกไปรพ. ได้ของแถมมา 1 อย่างค่ะโคนหางทองเอกเป็นแผลหนองตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทราบกันเลยค่ะคุณหมอมาเจออีกทีเมื่อคืน แผลอักเสบหนองกัดเป็นโพรงลึกขนาด 1 นิ้วครึ่งเมื่อเช้าตื่นมาทำงาน ทองเอก ยังไม่รู้สึกตัวดีเลยค่ะเพราะเจอยาเข้าไปตั้งสองดอก ทั้งซึม+สลบตอนนี้หวังแต่แค่ว่า คุณยาย จะรักหลานแบบถุกทางซะที ไม่งั้นทองเอกมีหวังเจ็บตัววันเว้นวันแน่ แต่ที่แย่กว่าทองเอกก็คือดิชั้นนี่ล่ะค่ะ เพราะแมวเข้ารพ.แต่ละทีขนหน้าแข้งร่วงกราวเลย ฮือๆๆขอบคุณทุกคนที่ผ่านมาอ่านนะคะขอให้มีความสุขในทุกวันค่ะ