เกียวโต...ราเมน...ชูครีม..วันที่หก..ค่ะ
วันนี้เป็นวันที่ 6 แล้ว เร็วดีจริง ๆ คนไม่ได้มา (ที่บ้าน) ก็ค่อนขอดว่าไปทำไมหลายวันจัง...ส่วนคนมาเที่ยว.. อะไรฟระ ไวจริง ๆ วันนี้ตั้งใจจะเที่ยวในเกียวโตค่ะ (แล้ววันไหนออกนอกเกียวโตมั่งล่ะเนี่ยะ...ถึงไปก็ไม่เคยถึงวันซักที...ยังงัยก็ต้องกลับมาเที่ยวเกียวโตอยู่ดี) เพราะยังมีอยู่อีกสองสามวัดสำคัญที่ยังไม่ได้ไป วันนี้เอาอาหารเช้ามาฝาก ที่จริงหม่ำอาหารเช้าก่อนออกเดินทางทุกวัน แต่บางทีลืมเอากล้องมาจากห้อง ก็ขี้เกียจขึ้นไปเอา หรือเอาลงมา ก็ถ่ายได้ไม่ชัด เพราะลืมเอาแว่นลงมา ดูจากอาการแล้ว ...ถ้าไม่รีบเที่ยวตอนนี้ จะไปเที่ยวตอนไหน...เพราะขืนรอให้นานกว่านี้แล้วค่อยเที่ยว...กลัวจะหลงกลับบ้านไม่ถูก...มันจะยุ่งไปกันใหญ่ ที่บ้านน่ะ..คงไม่ยุ่งหรอกเค้าคงดีใจ....... แต่กลัวชาวบ้านจะยุ่งค่ะ... พอหม่ำเสร็จ ก็ออกเดินทางค่ะ วันนี้ใช้ตั๋วเหมา ทั้งรถไฟใต้ดิน และ Bus ที่ชอบตั๋วเหมานอกจากจะประหยัดแล้ว (จริง ๆ แล้วไม่ใช่น๊า) คือว่ากลัวหลงค่ะ แล้วจะต้องขึ้นวน ไปวนมาทำให้เสียค่ารถเยอะ มันจะพาลเครียดเอาเที่ยวไม่สนุก เสียแบบเหมาไปเลยดีกว่า แล้วยิ่งเที่ยวแบบนาฬิกา...ด้วยแล้ว แกว่งไป...แกว่งมา..เหมือนที่คุณครูบอกวันก่อน..คือเปลี่ยนไปเรื่อย (จะเรียกว่าทริป..เลือดจะไป..ลมจะมาก็ได้...) ซื้อแบบนี้น่ะดีแล้ว แต่ถ้าจะให้พูดจริง ๆ ก็คือลอกการบ้านครูมา แล้วเลือกวิธีนี้เพราะประหยัดเวลาในการเดินทางได้ เลี่ยงรถติด และถ้าไม่ได้นั่งรถไฟเลย เดี๋ยวจะนอนไม่หลับ ได้โปรดเห็นใจเถอะ เป็นครั้งแรกที่จะต้องไปขึ้นรถที่สถานีรถไฟเกียวโต...โชคดีนะ ที่นาฬิกา..ไม่เลือกลงที่สถานีนี้เป็นที่แรก ของการเยือนเกียวโต เพราะมันใหญ่โต..ชวนตะลึง..หลง ตอนจะเดินไปที่พักกลัวเดินไม่ถูก อิ..อิ...คุณ inin&anant เคยบอกไว้ในรีวิวว่า กว่าจะเดินหาที่พักได้ ก็หลงมาแล้วนิด ๆ นะ ทำเป็นเล่นไป ถึงจะอยู่เกียวโตมาหลายวันแล้ว ก็อดหวั่นไม่ได้ค่ะ กลัวหลงค่ะ.. ออกจากที่พัก..ก็ข้ามถนนมาฝั่งตรงข้าม แล้วก็เดินตรงไปเรื่อย ๆ จะมีไฟแดงประมาณ สามสี่ไฟแดง ก็ข้ามถนนซะหน่อยล่ะ ถ้าใครจะลอกการบ้าน ข้ามแล้วก็เดินไปเรื่อย ๆ ค่ะ เดิน ๆ มาก็มาเจอทางลงสถานีรถไฟใต้ดิน ง่าย ๆ ซะงั้น...ไม่ต้องลง..ไม่ต้องเลี้ยว แค่เดินตรง..กะ..ข้ามถนนเท่านั้นเอง ก็จะมาเจอทางลงนี่แหละค่ะ แหมดวงดีแต่เช้าเลยค่ะ ตอนแรกคิดว่าต้องไปงมหา ในสถานีเกียวโตซะแล้ว (จริง ๆ แล้วมันเชื่อมต่อกัน แต่ลงตรงนี้ง่ายสุด ๆ ) ไม่รอช้าค่ะ ลงบันไดไป ก็จะเจอทางเดินแบบภาพข้างล่างค่ะ มีภาพศิลปะ ของศิลปินน้อย ๆ ให้ชม เพลิน ๆ ด้วยค่ะ เดินไปจนสุดทาง ก็จะพบกับทางเข้าขวางหน้าอยู่ ...ถ้ามีตั๋วก็เสียบ แล้วก็เดินเข้าไปได้เลย...แต่ถ้ายังไม่มีตั๋ว ก็ซ้ายหันเลยค่ะ จะเจอกับซุ้มขายตั๋วเล็ก ๆ ที่จริงเค้าขายอย่างอื่นด้วย ส่วนจะขายอะไรอีกนั้น ให้ถามกันเอาเอง..คริ...คริ... พอได้ตั๋ว ก็ออกเดินทางกันค่ะ นั่ง Karasuma Line ไปลง Kitaoji แล้วต่อ Bus ไปวัด Kinkakujiใช้เวลาไม่นานก็ถึงวัดค่ะ การเชื่อมต่อรถก็ไม่ยากค่ะ อยู่ติด ๆ กัน มีป้ายบอกตลอดทาง ขนาดนาฬิกา...ไม่ใช่คนช่างสังเกต ยังไม่หลงค่ะ...อย่าลืมน๊า..ถามก่อนเสียบ จะได้ไม่ยุ่ง ซื้อตั๋วกันก่อนนะคะ แล้วก็เข้าไปชมภายในวัดกัน ภาพถ่ายวันนี้ถ่ายเยอะค่ะ แต่ต้องเอามารวมกัน ไม่งั้นกระทู้ยาว...กลัวไม่มีคนอ่าน...คริ...คริ... ภายในวัด ค่ะ ชอบหลังคาจังค่ะ นาฬิกา...ว่ามันสวยนะ... นี่ค่ะ... Kinkakuji Temple แหมดีจริง ๆ เลย...คนน้อย ถ่ายรูปสบาย ๆ ไม่ต้องแย่งมุมกันแต่ยืนได้แป๊บเดียวค่ะ นักท่องเที่ยวเริ่มมากันเยอะค่ะ หลบกล้องไปมุมอื่นกันบ้างดีกว่า วันนี้โชคดี เจอกรุ๊ปคนไทยค่ะ ประมาณ 6-7 คน น่าจะเป็นครอบครัวเลยรบกวนให้เค้าถ่ายรูปให้... ระหว่างที่เดิน..เจอกรุ๊ปหนึ่ง น่าจะเป็นนักเรียนค่ะ (ภาพแรก) มีครูพามาด้วย แล้วก็เลคเชอร์กันหน้าดำ...คร่ำเครียด...ย้ายมุมโน้น ...มามุมนี้...นาฬิกา...ก็เดินตามเค้าไป แถมเวลาเดินก็เป็นระเบียบด้วยนะคะ มีคนถือธงนำหน้า แล้วสาว ๆ ก็เดินตาม ขนาดโตแล้ว ยังเดินตามกันเลยค่ะ ที่สำคัญ...เห็นว่าแปลกดี ที่เค้าแต่งตัวแบบนั้น...หมายถึงเหมือนพ่อมด...แม่มด...(สาวก..แฮรี่..ค่ะ) เดินจนเบื่อแล้ว......นาฬิกา...ก็เลยเดินออกมาด้านนอก เตรียมเที่ยวสถานที่ต่อไป ตรงบริเวณทางออกเห็นเค้ากำลังชุลมุนวุ่นวาย...กับการเสี่ยงเซียมซี...(น่าจะใช่นะ ...ถ้าไม่ใช่วานผู้รู้บอกด้วยนะคะ) ตอนแรกก็ว่าจะเสี่ยงซักใบหนึ่ง ...จนใจอีตรงจะอ่านคำทำนายนี่แหละ... ไอ้ครั้นจะเก็บมาให้เพื่อน ๆ ในห้องนี้แปลให้...ก็กลัวจะกระวนกระวาย อยากรู้คำทำนายซะจนเที่ยวไม่สนุก......เลยไม่เสี่ยงดีกว่า...แค่มาเที่ยวนี่ก็เสี่ยงพอแล้ว.... เดินออกมาหน้าวัด จะเห็นป้ายรถเมล์ และร้านค้าข้าง ๆ ป้ายรถเมล์ค่ะ...นั่งรอด้วยกันก่อนซิจะรีบไปไหนล่ะ....นั่งคนเดียวเหงา....แต่เวลาเดินคนเดียวไม่เหงานะคะ...อิ...อิ... พอ Bus มาก็ขึ้นไปเลยค่ะ ...อ้าวถ้าไม่ขึ้นแล้วจะนั่งรอทำไมคะคุณป้านั่งไปไม่ไกลค่ะ ลงที่ป้าย Ryoanji Mae ลงรถแล้วก็เดินข้ามถนน ตามเค้าไปเรามันเลือดสุพรรณ อยู่แล้ว ไปไหนไปกัน...แต่ต้องเดินตามหลังนะคะ ...เห็นท่าไม่ดี..เราจะได้ถอยก่อนไง.... ทางเข้าวัดค่ะ ขณะที่เรายืนอยู่ที่ป้าย Bus สามารถมองเห็นทางเข้าได้ค่ะไม่ต้องตกใจ (เป็นลานจอดรถด้วยค่ะ) ทางเข้าจะมีร้านค้าอยู่หลายร้านค่ะ ซื้อตั๋วก่อนนะคะ แล้วก็เดินเข้าไปข้างในกันค่ะ... ซากุระสวย ๆ ภายในวัดค่ะ ยังบานไม่เยอะ แต่ก็ยังมีสวย ๆ ให้ชื่นชมอยู่หลายต้นค่ะ ภายในวัดค่ะ มุมมหาชน...หรือเปล่าไม่แน่ใจนะคะ บริเวณรอบ ๆ ของวัดนี้ กว้างขวางกว่า วัดทองค่ะ เดินเล่นชมนก...ชมไม้อยู่พักใหญ่ค่ะ..ก็ตัดสินใจย้าย...วิก นั่ง Bus กลับไปที่ Kitaoji นั่ง Karasuma Line ไปลงสถานี Oike เปลี่ยนขบวนเป็น Tozai Line ไปลง Daigo พอเดินออกมาจากสถานี ชะโงกดูด้านนอก เห็นรถจอดอยู่ ตอนแรกคิดว่าไม่ใช่ เพราะรถไม่เหมือนกับที่เซฟไว้ในมือถือ (เซฟผิด...) ก็เลยต้องเดินเลยที่จอดรถไปซัก 50 เมตรเอะใจ...เดินย้อนกลับมาเลยที่จอดรถไปอีกประมาณ 50 เมตร เอาไงดีฟระ ...รถมันไม่เหมือนนี่นา.. ในที่สุดตัดสินใจไปนั่งคิดในห้างค่ะ ...อ้อตอนขึ้นจากสถานีรถไฟใต้ดิน ..วันนี้ขึ้นลิฟมาค่ะ..มาโผล่ตรงกับห้างพอดี จำชื่อไม่ได้ค่ะ แต่อารมณ์เดียวกับ ห้างโล..โล...บิ๊ก..บิ๊ก...บ้านเราค่ะ หาที่นั่งเหมาะ ๆ ได้แล้วค่ะ ขอตัวนั่งคิดหน่อยนะคะ ....พร้อมกับ.... ยังคิดไม่ตก...เอาไงดีฟระ งั้นคิดต่ออีกแป๊บก็แล้วกัน..ส่วนที่จะคิดต่อไปนี้ติดมือมาจากสถานีรถไฟที่ไปต่อ Bus ค่ะ อร่อยมากชิ้นนี้ รสชาดและกลิ่นคล้ายทาโกยากิ แต่แป้งไม่เหมือนค่ะ คราวนี้ได้ข้อสรุปแล้วค่ะ เดินข้ามถนนไปดีกว่า.. แล้วก็ไปถามนายท่า...ยืนเก็บตังค์อยู่ตรงป้ายรถเมล์เลยค่ะ..แถวยาวเฟื้อยยยย....(ที่จริงไม่น่าสงสัยหรอกค่ะ...แต่เป็นเพราะโง่ อิ..อิ..) นายท่า....ร้อง...ไฮ้....พร้อมกับเก็บตังค์ น่าจะ 300 yen ค่ะ ทั้งไปและกลับ ก็เลยยืนเข้าคิวอยู่ตรงนั้น ซักครู่..รถมาค่ะ...ก็ขึ้น ๆ ตามกันไป ไม่รู้หรอกค่ว่าถึงวัดแล้ว ได้ยินผู้โดยสารร้องกันอื้ออึง...พอมองไปถึงได้เห็น ซากุระ งามค่ะ งาม... ที่จริงข้อมูลของวัดนี้ ..นาฬิกา...ไม่เห็นในรีวิวนะคะ แต่ว่าตามบล็อก ของคุณ ..Kungtalay ไป พอเห็นปั้บ ก็ตัดสินใจปุ๊บ ...ต้องบอกว่าตัดสินใจไม่ผิดจริง ๆ ค่ะ ซากุระบานในช่วง 75-100 % พอดีในวันนั้น (ทราบจากบอร์ดของที่พัก ) เกิดความเซ็งเล็กน้อยเกี่ยวกับเมมโมรีการ์ดในกล้องถ่ายรูป ต้องเลือกลบภาพทิ้ง แล้วก็ถ่ายใหม่ ไม่ค่อยสะดวกเลยค่ะ สุดท้าย เลยต้องปล่อยเลยตามเลย .......ใช้วิธีประทับไว้ในความทรงจำอีกแล้วค่ะ วัดนี้อยากแนะนำให้เพื่อน ๆ ไปค่ะ เพราะภายในวัด นาฬิกา....คิดว่าสวยนะคะ สวนก็สวย แต่เค้าไม่ให้ถ่ายรูป คงจะเป็นเช่นนี้ละมั้ง เลยไม่ค่อยเห็นมีรีวิว แต่คุ้มมากค่ะที่เสียเงินเข้าไปภายในวัด...เลยต้องขอบคุณ....คุณ Kungtalay มา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ ..ที่กรุณาโปรยลิงค์มาให้ นั่งดื่มด่ำ ชมความงามอยู่พักใหญ่เลยค่ะ ชอบที่นี่จัง....สุดท้ายก็ต้องออกมาชมพื้นที่ส่วนอื่น ๆ ต่อค่ะ ภาพที่เห็นเป็นภาพในส่วนร้านค้า และมีที่นั่งสำหรับ Hanami ด้วย แต่ไม่มากค่ะ หลังจากชมวัด Daigoji เสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ออกมาขึ้นรถ ที่หน้าวัดค่ะ คนเข้าแถวกันยาว ยืนรออยู่ครู่หนึ่งเหมือนกัน....ระหว่างทางเจอร้านนี้ ไม่แน่ใจว่าเป็นคู่แข่งกับ เฮียแมวดำ ที่นาฬิกา..ส่งกระเป๋าไปรอที่สนามบินเมื่อวานหรือเปล่าก็ไม่รู้....ถ้าอยากรู้...ตามมาเลยค่ะ จะเฉลยตอนท้าย กลับมาเดินเล่นที่สถานีเกียวโตต่อค่ะ เดินเกือบทุกวัน ก็ยังเดินไม่ทั่วค่ะ จนถึงวันกลับ น่าจะเดินได้ไม่ถึงครึ่ง.... เย็นแล้ว...หิวแล้ว...เดินหาของหม่ำ....ดีกว่า เลือกไปเลือกมา...มาได้ร้านนี้ค่ะ.....เลือกเป็นสิบร้าน...ขอบอก... แล้วก็ได้ชามนี้มาค่ะ.....อร่อยมากอีกแล้ว และเพราะมันอยู่ใกล้ที่พัก ถึงกับตั้งใจว่า พรุ่งนี้จะมาหม่ำอีกให้ได้....ลองตามดูนะคะว่าพรุ่งนี้ นาฬิกา....จะได้หม่ำอะไรในวันพรุ่งนี้ เดินเล่นอีกซักพัก...วันนี้เดินจนมืดค่ะ...ก็ตัดสินใจกลับที่พัก แวะหาอาหารเข้าไปตุนไว้พรุ่งนี้ แต่ว่าก่อนจะนอน....ภาพแมวดำจาก.......ข้างบนตามหลอกหลอน...เลยต้องจัดการซะก่อนนอนค่ะ แต่ขอบอกว่าไม่ถูกใจค่ะ เพราะแป้งกรอบไป...แต่ไส้พอฟัด...พอเหวี่ยงกะยี่ห้ออื่น..(ไส้จะเป็นตัวมากกว่ายี่ห้ออื่นค่ะ) ใครชอบแป้งกรอมเหมือนพาย คงว่าอร่อย แต่นาฬิกา....หลงรัก Sweet Gargen ที่ได้รู้จักตอนไปโกเบแล้ว ยังไม่คิดจะเปลี่ยนใจ รวมทั้งชูครีมชาเขียว ซึ่งได้ลองลิ้ม ชิมรสในคห ที่ 20 ก็ไม่ประทับใจค่ะ ซ้ำร้ายไส้น้อยกว่ายี่ห้ออื่น ...(กลับมาลองแถว ๆ นี้...ยี่ห้อนี้เลยค่ะ ก็ยังไม่ประทับใจ) ลาทู้กันไปด้วยภาพจากวัด Daigoji ค่ะ ขอบคุณเพื่อน ๆ ที่แวะมาเยี่ยมกระทู้ทุกคนนะคะ