|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
ความสะดวกของเมืองในญี่ปุ่นที่น่าเอาอย่าง

หลายๆ คนอาจจะเคยไปญี่ปุ่นกัน แต่เคยสังเกตุกันไหมว่ารูปแบบเมืองในญี่ปุ่นนั้นเป็นอย่างไร
เมืองในญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะใช้สถานีรถไฟเป็นจุดศูนย์กลาง แล้วล้อมรอบด้วยร้านค้า ห้าง หรือช้อปปิ้งมอลล์ เป็นย่านการค้าที่มีความสะดวกครบ ทั้งร้านอาหาร ซูเปอร์มาร์เก็ต ห้าง เสื้อผ้า แว่นตา รองเท้า มือถือ ยา ธนาคาร คลีนิคต่างๆ ร้านสะดวกซื้อ นายหน้าห้องเช่า โรงเรียนกวดวิชา สวนสาธารณะ เป็นต้น และรอบนอกของย่านการค้าจะเป็นที่อยู่อาศัย ซึ่งอาจห่างจากสถานีรถไฟราว 200-300 ม. ขึ้นไป
การวางเมืองแบบนี้มันมีข้อดีอยู่มาก เพราะความสะดวกจะอยู่ที่รอบๆ สถานีรถไฟ เกือบจะทุกอย่าง ยิ่งถ้าเป็นสถานีใหญ่ก็ยิ่งมีความสะดวกมาก เมื่อรวมกับระบบขนส่งสาธารณะในเมืองของญี่ปุ่นที่ครอบคลุมและทั่วถึงก็ทำให้ยิ่งมีความสะดวกมากขึ้นไปอีก
ถ้าใครอยู่ห่างไปในระยะที่อาจไกลไปสำหรับการเดินเท้าก็สามารถขี่จักรยานมาที่สถานีได้เพราะบริเวณรอบๆ สถานี้จะมีที่จอดจักรยานไว้ให้อาจจะเสียตังค์หรือฟรีก็แล้วแต่ที่ บริเวณสถานียังมีป้ายรถเมล์และจุดเรียกแท็กซี่ด้วย
นี่้เป็นข้อดีมากๆ เพราะคนไม่จำเป็นต้องใช้รถส่วนตัวเสมอไป เนื่องจากสามารถซื้อของใช้ทั่วไปในชีวิตประจำวันที่หน้าสถานีได้เลย ซึ่งก็อยู่ในระยะเดินเท้าหรือขี่จักรยานไปได้ และถ้าจำเป็นต้องไปจุดที่มีห้างหรือซูเปอร์มาร์เก็ตที่ใหญ่กว่าก็ขึ้นรถไฟไปได้เลยเหมือนกัน ซึ่งอาจจะห่างออกไปสัก 2-3 สถานี บางสถานีที่ลงตรงย่านที่อยู่อาศัยเต็มๆ ก็ไม่มีย่านการค้าแต่ย่านการค้าก็จะอยู่ห่างออกไปสักไม่กี่สถานีบางที่ก็แค่ 1 สถานี
สิ่งนี้ทำให้คนไม่จำเป็นต้องมีรถส่วนตัวกันทุกคน ซึ่งเป็นข้อดีมากๆ สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มสร้างตัว เพราะไม่จำเป็นต้องเอาเงินไปผ่อนรถตั้งแต่เริ่มทำงาน อาจซื้อแค่จักรยานเอาไว้ขี่ไปหน้าสถานีแล้วต่อรถไฟไปทำงานได้ ทำให้สามารถเอาเงินไปซื้อเครื่องอำนวยความสะดวกอื่นๆ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตได้
นอกจากนี้ก็ยังช่วยลดความหนาแน่นบนถนนได้ด้วยเพราะเมื่อคนสามารถเดินทางเข้าถึงจุดต่างๆ ด้วยรถไฟหรือระบบสาธารณะได้ก็ไม่จำเป็นต้องเอารถส่วนตัวออกมาทุกครั้ง แถมยังช่วยลดมลพิษจากควันรถได้อีกด้วย
ยิ่งระบบขนส่งสาธารณะอย่างรถไฟในญี่ปุ่นครอบคลุมและเข้าถึงพื้นที่ต่างๆ ค่อนข้างมากด้วยแล้วรถส่วนตัวจึงไม่ใช่สิ่งจำเป็นมากอย่างที่ไทยเราเป็น แม้ว่าในต่างจังหวัดของเขาอาจจะไม่ได้ครอบคลุมและสะดวกมากเท่ากับในเมืองใหญ่ๆ ก็ตาม
ใครที่ยังนึกภาพไม่ออก ตอนไปญี่ปุ่นคราวหน้าลองไปสังเกตุกันดู หรือจะลองไปเดินเล่นในย่านที่อยู่อาศัยของญี่ปุ่นดูบ้างก็ได้ ..... เช่น Nishi Kasai, Shin Koiwa หรือแถว Tachikawa ก็ได้สำหรับ Tokyo ถ้าเป็น Nagoya ก็ลองดูแถว Ozone, Nagoya Dome, Sunadabashi ก็ได้ ส่วน Osaka ก็แถวสถานี Gamo 4-chome, Imafuku-Tsurumi ก็ได้ หรือถ้าไป Sapporo ก็ลองดูแถวสถานี Asabu ก็ได้เหมือนกัน
ถ้าไทยเราออกแบบเมืองอย่างนี้บ้างมันก็จะดีมากเลยใช่มั้ย แน่ล่ะว่าส่วนของเมืองเดิมที่สร้างมาแล้วจะเปลี่ยนมันก็คงยาก แต่ส่วนของเมืองที่สร้างใหม่ถ้าเราหันไปใช้รูปแบบเดียวกับญี่ปุ่น แทนที่จะเป็นรูปแบบที่คนทุกคนต้องมีรถส่วนตัวอย่างที่เคยเป็นกันมา มันก็จะดีกว่าจริงมั้ย
โดย ทีม brokenbox
Create Date : 09 กรกฎาคม 2568 |
|
0 comments |
Last Update : 9 กรกฎาคม 2568 9:52:05 น. |
Counter : 72 Pageviews. |
|
 |
|
|
|
|
|
|