ทีมชาติฝรั่งเศส  : อูโก้ โยริส - เบนจามิน ปาวาร์, ราฟาแอล วาราน, ซามูแอล อุมตีตี้, ลูกัส เฮร์นานเดซ - เอ็นโกโล่ ก็องเต้, ปอล ป๊อกบา - คีลิยัน เอ็มบัปเป้, อองตวน กรีซมันน์, แบลส มาตุยดี้ - โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์

ทีมชาติโครเอเชีย : ดานิเยล ซูบาซิช - ซีม เวอร์ซัลโก้, เดยัน ลอฟเรน, โดมากอย วิด้า, อีวาน สตรินิช - มาร์เชโล่ โบรโซวิช, มิลาน บาเดลย์ - อีวาน ราคิติช, ลูก้า โมดริช, อีวาน เพริซิช - มาริโอ มานด์ซูคิช

     เกมนัดชิงชนะเลิศทีทุกคนรอคอย ฝรั่งเศสโชว์ฟอร์มเด่นเอาชนะเบลเยียมมาได้ด้วยฟอร์มเกมรับที่เหนียวมาก การโต้กลับก็ทำได้แม่นยำรวดเร็ว ส่วนทางโครเอเชียที่เอาชนะอังกฤษในช่วงต่อเวลานั้น ก็เล่นมาในแนวคล้าย ๆ กันคือเน้นรับเหนียวเอาไว้ก่อน เน้นโต้กลับเป็นหลักเช่นกัน ซึ่งมานัดนี้ฝรั่งเศสนั้นมีตัวผู้เล่นที่ดีกว่าพอสมควร แถมโครเอเชียที่เล่นต่อเวลา 120 นาที มาถึง 3 นัดติดต่อกัน น่าจะเกิดอาการล้ามากกว่าชัดเจน แถมมาเจอเกมรุกฝรั่งเศสที่ดุดันมากกว่าอังกฤษเสียอีกด้วย ไม่น่ารอดโดนแนวรุกฝรั่งเศสทะลวงประตูไปได้อย่างน้อย 1 เม็ดต้องมี