เอกสารที่ส่งไปที่ USCIS เพื่อขอกรีนการ์ดเราเตรียมเอกสาร และ กรอกแบบฟร์มทั้งหมดด้วยตัวเอง แต่พอดีบริษัทที่คุณสามีทำงานมีสวัสดิการหลายอย่าง เราเลยไปปรึกษาทนายฟรีจ้า ทนายช่วยตรวจฟอร์มที่กรอก และตอบคำถามเกี่ยวกับเอกสารที่เราควรเตรียมส่งจ้า
Forms
- G-325A ประวัติและการงานของเรา (เรากรอก บอกไว้จะได้ไม่งง ตอนเรากรอกเรางงเพราะเรากรอกเองหมดจ้า)
- I-130 ประวัติเรา และคุณสามี (คุณสามีกรอก)
- Beneficiary เรา
- Petitioner คุณสามี
- I-130A ประวัติและการงานของเรา (เรากรอก)
- I-131 ใบขออนุญาตออกนอกประเทศระหว่าดำเนินการ (เรากรอก แนะนำให้ส่งไปพร้อมกันจะฟรีจ้า)
- I-485 ใบขอเปลี่ยนสถานะ ประวัติเรา (เรากรอก)
- I-765 ใบขออนุญาตทำงานระหว่างดำเนินการ (เรากรอก อันนี้ก็แนะนำให้ส่งไปพร้อมกันจะฟรีจ้า)
- I-864 ใบแสดงรายได้คุณสามี (คุณสามีกรอก)
- I-693 Green Card Medical Examination อันนี้เราไม่ต้องปริ้นส์ ไม่ต้องกรอกอะไรเลยนะจ๊ะ ทางหมอจะทำให้ทั้งหมด เค้าแค่จะให้เราเซนต์ชื่อตอนก่อนพบหมอครั้งสุดท้าย
- หาที่ตรวจใกล้บ้านได้ที่ https://my.uscis.gov/findadoctor ถ้ารายชื่อไม่มีในนี้แปลว่าเค้าไม่รับตรวจสำหรับกรีนการ์ดนะจ๊ะ
- โทรเช็คราคาก็ดีจ้า แต่ละที่ไม่เท่ากัน แล้วค่อยโทรไปนัดตรวจ
- เอาใบตรวจสุขภาพ ตรวจเลือด ที่เป็นภาษาอังกฤษ และใบวัคซีนต่างๆที่เราเคยฉีดไปด้วยให้เค้าดู บางวัคซีนไม่ต้องฉีดซ้ำ แต่ส่วนใหญ่ต้องนะจ๊ะ เตรียมเงินไว้เลยถ้าไม่มีประกัน รายชื่อวัคซีนเช็คได้ที่นี่เลยจ้า https://www.uscis.gov/tools/designated-civil-surgeons/vaccination-requirements แล้วเค้าจะบอกเราเองว่าเราต้องไปฉีดอะไรเพิ่มบ้าง เค้าจะลิสให้เรามาเลย
- ฉีดวัคซีนที่ขาด (เราต้องฉีด MMR 2 โดส ห่างกันเดือนนึง แต่ไม่มีผลนะจ๊ะ เพราะ ฟอร์มนี้เราส่งตอนวันสัมภาษณ์)
- กลับไปหาหมอเมื่อทุกอย่างครบ หมอจะเซนต์แบบฟอร์ม ใส่ซอง และ ปิดซอง ให้เรียบร้อย พร้อมมีรายเซนต์กำกับตรงที่ซีล ห้ามเปิดนะจ๊ะ ยังไงหมอจะทำสำเนาให้เราอีกชุดนึง
Beneficiary's เอกสารส่วนของเรา (
ทุกอย่างเป็นสำเนา และนำใบจริงทั้งหมดไปวันสัมภาษณ์)
- Birth Certificate (Translated version) ของเราฝากพี่สาวเอาไปแปลที่กระทรวงการต่างประเทศ เค้าจะมีการปั๊มตรากระทรวงที่มุมบนซ้าย และ ปั๊มตรารับรองผู้แปลที่มุมล่างขาวของหน้า มีสติ๊กเกอร์พร้อมตรากระทรวงด้านอีกด้วยจ้า (เห็นหลายคนว่าแปลเองก็ได้ไม่เปลือง แต่เราว่าแบบนี้มันดูน่าเชื่อถือกว่า)
- House Particular (อันนี้ไม่ต้องก็ได้ เราเยอะ 555)
- Passport ทั้งเล่มใหม่และเล่มเก่าที่ใช้ในการเข้าออกประเทศอเมริกา และมีวีซ่าอเมริกา
- USA VISA
- Driver Licenses ของอเมริกา เรามีทั้งใบที่มีชื่อสกุลเก่า และ สกุลใหม่ของคุณสามี
- I-94 ใบเข้าประเทศอเมริกาครั้งล่าสุด แนะนำให้ปริ๊นใกล้ๆวันส่งเอกสาร เพราะมันมีระบุวันหมดอายุตัวเล็กๆอยู่ในหน้าด้วย น่าจะใช้ได้ประมาณ 1-2 เดือน
- Work Permit Card เรามาวีซ่านักเรียน เรียน IT ก็เลยมี 2 ใบ เป็น OPT และ STEM
- MS.IT Program Evaluation อันนี้คือใบเกรด Transcript ก็ได้ เราใช้ปริ๊นจากแอคเค้าของเราในเว็บของมหาลัยเอา ไม่เสียเงิน (งกจ้า 555) ทนายบอกว่ามันเป็นการแสดงว่าเรามีการไปเข้าเรียนจริงๆ ไม่ได้มาเรียนบังหน้า ไม่แน่ใจว่าคนที่เค้ามาเรียนบังหน้าเค้าไม่มีใบเกรดออกให้หรือยังไงนะ
Petitioner's เอกสารส่วนของคุณสามี (
ทุกอย่างเป็นสำเนา และนำใบจริงทั้งหมดไปวันสัมภาษณ์)
- Birth Certificate ใบเกิดของคุณสามี เราทำสำเนาด้านหลังด้วยนะ เพราะมันมีตราประทับอยู่ด้วย
- Passport พาสปอร์ตของคุณสามี
- Divorce paper เอกสารการหย่าของคุณสามี หน้าสุดท้ายมีตราประทับด้านหลังด้วยนะจ๊ะ
- Tax Return paper เอกสารเสียภาษีของคุณสามี 3 ปีย้อนหลัง
- W-2 ใบแสดงรายได้รายปีของคุณสามี 3 ปีย้อนหลัง
- Payslips ใบแจ้งรายได้ของคุณสามี 2 เดือนครึ่ง (5 ใบ)
- ทนายบอกว่าถ้ายอดเงินเดือนต่อปีถึงเกิน $80,000 ก็ไม่ต้องส่งอย่างอื่นเพิ่ม เพราะเราถามทนายถึงพวก Car Title เอกสารครอบครองรถ (ได้ต่อเมื่อผ่อนรถหมดแล้ว), Deed (โฉนดที่ดิน), และเอกสารแสดงรายได้ ทรัพย์สิน และสินทรัพย์ต่างๆ
Marriage Support หลักฐานการแต่งงาน (
ทุกอย่างเป็นสำเนา และนำใบจริงทั้งหมดไปวันสัมภาษณ์)
- Marriage Certificate ทะเบียนสมรส ย้ำว่า Certificate นะจ๊ะ ไม่ใช่ Marriage License นะ
- Car Insurance เอกสารประกันรถยนต์หน้าที่แสดงว่า เราใช้ประกันร่วมกัน
- Health Insurance Card บัตรประกันสุขภาพที่แสดงว่า เราใช้ประกันร่วมกัน
- Dental Insurance Card บัตรประกันทันตกรรมที่แสดงว่า เราใช้ประกันร่วมกัน
- Joint Bank Account เอกสารหน้าที่แสดงว่าเรามีบัญชีธนาคารร่วมกัน
- Credit Cards เราสามารถขอเครดิสการ์ดให้คนอื่นได้ โดยทางธนาคารจะออกบัตรที่มีเลขบัตรเครดิสเดียวกันใบนึงชื่อสามี ใบนึงชื่อเรา (ที่เมืองไทยมันคือบัตรเสริมรึเปล่า ไม่เคยใช้เลยไม่แน่ใจจ้า) --- สามีเรามีบัญชีส่วนตัวของเค้า แต่เค้าออกบัตรให้เราด้วยจ้า
- Retirement Beneficiary ใบแสดงชื่อผู้ได้รับประโยชน์เงินเกษียณหากคุณสามีเสียชีวิต
- T-Mobile: Family Plan เราเริ่มใช้เบอร์ใหม่เป็นแบบรายเดือนพร้อมกัน ที่ร้านเค้าปริ๊นหน้า ที่มีเบอร์โทรของทุกคนใน Family Plan ให้ เราก็เขียนกำกับไว้ว่าเบอร์ไหนของใคร (แล้วเราก็ต้องกรอกเบอร์โทรในทุกฟอร์มด้วย)
- Airline Tickets ตั๋วเครื่องบินที่ไปเที่ยวด้วยกัน
- รูปถ่าย ทั้งรูปคู่ รูปหมู่ ในโอกาสต่างๆ ต้อง ล้างส่งไปให้เค้านะ ทนายบอกจ้าว่าเค้าจะไม่ไปนั่งเปิด CD ดูนะจ๊ะ เราส่งไปเป็น 100 รูปเลยจ้า
Others อื่นๆ - $1,760.00 Check เขียนรวมไปในเช็คใบเดียวเลยจ้า สั่งจ่าย Department of Homeland Security
- I-130 -- $535
- I-130A -- $0
- I-131 -- $0
- I-485 -- $1,140 + $85 (Biometric service)
- I-765 -- $0
- Passport Photo รูปถ่ายแบบพาสปอร์ต 4 ใบ
- Beneficiary เรา 2 ใบ
- Petitioner คุณสามี 2ใบ
*** เอกสารทั้งหมดที่เราตรียม เป็นเคสเฉพาะของเรานะจ๊ะ เคสอื่นอาจมีมากน้อยกว่านี้ก็ต่างกันไป*** เราทำใบปะหน้าเอกสารทั้งหมด ใช้ที่คั่นหนังสือพลาสติกโพสต์อิท แบ่งเป็นส่วนๆจ้า
และใช้ที่คั่นหนังสือโพสต์อิท แปะเพื่อบอกว่าเอกสารมีอะไรอยู่หน้าไหนบ้าง*** แนะนำให้ทำสำเนาเอกสารที่เราส่งไปทั้งหมดไว้ เพราะระหว่างรอจะมีอาการตื่นตระหนก
แบบว่า เอะอันนั้นชั้นกรอกอะไรไป ช่องนั้นชั้นเซนต์สลับที่กะคุณสามีรึเปล่า ถึงตอนกรอกเราจะตรวจแล้วตรวจอีกเป็น 10 รอบแล้วก็ตาม จะได้มีไว้เช็ค (หรือไม่มีจะดีกว่า เพราะยังไงก็แก้ไม่ได้ 555)***
เราสามรถเช็คสถานะเคสของเราทางเว็บได้ด้วยที่ https://egov.uscis.gov/casestatus/displayLogon.do
แต่มันจะไม่ได้บอกละเอียดมากนะ
วันสัมภาษณ์
- 8:20AM -- ไปถึงตึกที่สัมภาษณ์
- (แนะนำให้ไปถึงล่วงหน้าเกินครึ่งชม.หน่อย อาจจะต้องเสียเวลาต่อแถวเพื่อตรวจความปลอดภัยก่อนเข้าตึก)
- 8:30AM -- ยื่นใบนัดสัมภาษณ์
- 9:20AM -- เข้าสัมภาษณ์
- ส่งเอกสารเพิ่มเติม เช่น I-693
- อัลบัมรูปที่ทำไปช่วยได้เยอะ คนสัมภาษณ์เค้าเปิดดูไปก็จะถามไป เรามีรูปตอนไปเที่ยว ตอนแต่งงาน ตอนวันสำคัญวันครอบครัว เค้าขอบางรูปเก็บไว้ โดยเฉาะรูปที่มีคนเยอะๆ รูปงานเต่งงานที่มีแขกในรูปเยอะๆ (คุณสามีบอกว่าอัลบัมรูปนี่มีประสิทธิภาพจริงๆ)
- คำถามก็ทั่วไป ไม่ยาก เช่น เจอกันยังไง เมื่อไหร่ ที่ไหร เดทครั้งแรกเมื่อไหร่ ขอแต่งงานเมื่อไหร่ (คุณสามีตอบ 8 - 18 - 18 ก็เลยโดนเราเข้าไปทีนึง แล้วเราก็บอกว่า ไม่ใช่นะ 8 - 8 - 18 คนสัมภาษณ์น่ารักมาก เค้าพูดเลยว่า อย่างงี้แต่งจริงชัวร์ 555) ที่ไหน มีฮันนีมูลรึเปล่า ที่ไหน วันเกิดที่ผ่านมาไปไหน
- คนสัมภาษณ์บอกผลตอนจบสัมภาษณ์ก่อนออกจากห้องเลยจ้า
- สัมภาษณ์ประมาณ 30-45 นาที
- รอรับออกเอกสารอนุมัติกรีนการ์ดใน 20 นาที
- 10:15AM -- ออกจากตึก
***เราโชคดีเจอการสัมภาษณ์แบบสบายๆ แต่พี่ที่เรารู้จักเค้าไปสัมภาษณ์อีกที่นึงในแอลเอเป็นสาขาใหญ่ เค้าบอกว่าที่นั่นโหดกว่าเยอะ (ตอนขอใบ 10 ปีเค้ามาสัมภาษณ์ที่ๆเราไปสัมภาษณ์มา) พี่เค้าบอกว่ามีทั้งสัมภาษณ์สามีภรรยาพร้อมกัน ทั้งแยกกัน สัมภาษณ์นานมาก เป็นชั่วโมงเลย
Timeline
- Feb 25, 2019 ส่งเอกสารไป USCIS จาก Orange County, California
- Feb 28, 2019 เอกสารส่งถึง USCIS Chicago, Illinois
- Mar 09, 2019 ได้รับจดหมาตอบรับ 4 ฉบับ (สำหรับ I-130, I-131, I-485, I-765)
- Mar 15, 2019 ได้รับจดหมาย นัดไป ถ่ายรูป และ เก็บรายนิ้วมือ Mar 29, 2019; 9AM
- Jul 11, 2019 ได้รับจดหมาย แจ้งว่าขาด I-693
- Jul 26, 2019 ได้รับบัตรที่อนุญาตให้ทำงาน และ ออกนอกประเทศได้ (ใบเดียวกัน)
- Dec 24, 2019 ได้รับจดหมาย นัดไปสัมภาษณ์ Jan 27, 2020; 9AM
- Jan 27, 2020 เจ้าหน้าที่แจ้งผลทันที และออกเอกสารอนุมัติกรีนการ์ดให้ใน 20 นาที
- Feb 05, 2020 ได้รับกรีนการ์ดทางจดหมาย
รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด
- $1,760.00 Check
- $150.00 Green Card Medical Examination เราไม่มีค่าวัคซีนและค่าตรวจอื่นๆ เพราะมีสวัสดิการของบริษัทคุณสามี
- $8.63 Passport Photos ได้มา 8 รูป นี่ราคาเค้าลดให้แล้วนะ
- $11.50 เราใช้ FedEx; Flat rate shipping น่าจะถูกสุดในตอนนั้นละ ปึกมันหนามากประมาณนิ้วครึ่งได้ ส่งไปที่
- U.S. Citizenship and Immigration Services
PO Box 805887
Chicago, IL 60680-4120
- $24.77 ล้างรูปกับ Costco ขนาด 4*6 รูปละ $0.17
- $108.00 ล้างรูปกับ Shutterfly ขนาด 4*6 รูปละ $0.09 เราซื้อ 2 แพ็คเกจ
- 600 รูป $90 ตอนลด ราคา 40% ช่วงปลายปีถึงต้นปี (แล้วช่วงปลายปีก็จะมีโปรส่งฟรี เวลาเราสั่งก็จ่ายภาษีเพิ่มอีกไม่กี่เซน)
ถ้าแต่งงานจริงๆนี่ไม่ต้องกลัวเลย เอกสารเยอะ สัมภาษณ์อาจจะง่ายหรือยาก แต่ยังไงเราก็แต่งจริง เค้าดูออก
แต่ถ้าเค้าไม่ให้ผ่านขึ้นมาจริงๆ ไม่ต้องตื่นตระหนกนะจ๊ะ เราสามารถยื่นเรื่องใหม่ได้ คล้ายๆอุทร เท่าที่เช็คข้อมูลในเว็บต่างๆ เค้าว่ากันว่า สามารถสอบถามเจ้าหน้าที่ที่นั่นได้เลยวันสัมภาษณ์หลังเค้าแจ้งผลว่าถ้าจะยื่นเรื่องใหม่ต้องทำอย่างไรเพราะเราแต่งจริง มีขั้นตอนอย่างไร แต่ไม่แน่ใจเรื่องรายละเอียดนะจ๊ะ ลองไปเช็คกับเจ้าหน้าที่ดูจ้า
- ถ้าเราแต่งงานยังไม่ถึง 2 ปีจะได้ Conditional Green Card มีอายุ 2 ปี
- ถ้าแต่งมาแล้วเกิน 2 ปี เราถึงจะได้ Green Card อายุ 10 ปี
- อันนี้ หาข้อมูลไว้ก่อนว่า ตอน ขอกรีนการ์ด 10 ปี ต้องจ่ายเท่าไหร่
- I-751 $595+$85(Biometric service)
หวังว่าข้อมูลจะเป็นประโยชน์นะคะ
มีอะไรผิดพลาด แจ้งได้ ถามได้จ้า
ถ้ารู้ ถ้าไม่รู้ จะบอกตามตรง ไม่มั่วจ้า บางคำถามจะตอบส่วนตัวนะจ๊ะ
ขออนุญาติให้เครดิสคุณบีบีนะคะ เพราะได้บล๊อคนี้ช่วยให้ข้อมูลหลายอย่างเลยค่ะ และที่มาทำบล๊อคนี้ได้คุณบีบีเป็นแรงบันดานใจค่ะ
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=sugarlip&month=08-02-2012&group=10&gblog=3