Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2558
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
28 พฤศจิกายน 2558
 
All Blogs
 

สวยที่สุดในโลก! "ทริกซี่" เปลือยหัวใจราชินีแห่งกะเทย

สวยที่สุดในโลก! ทริกซี่ เปลือยหัวใจราชินีแห่งกะเทย
แม่รับไม่ได้จนต้องหนีออกจากบ้าน, มีความรักดีๆ เข้ามาก็ต้องปิดบังพ่อแม่ฝ่ายชายไม่ให้รับรู้, คนในชาติบางกลุ่ม หรือสถานที่บางแห่งยังมีการดูถูกเหยียดเพศ และมองว่า สาวประเภทสอง คือ "ตัวทำร้ายภาพลักษณ์" ให้เสื่อมเสีย อีกทั้งการเปลี่ยนชื่อให้เป็นผู้หญิงเหมือนในประเทศไทยก็ยังไม่สามารถทำได้

เป็นการเปิดใจของ "สาวประเภทสอง" ที่สวยที่สุดในโลก "ทริกซี่ มาริสเตล" สาวประเภทสองจากประเทศฟิลิปปินส์วัย 29 ปี เจ้าของมงกุฎ Miss International Queen 2015 (พูดได้ 4 ภาษา) โดยเธอเปิดใจทั้งน้ำตาถึงอดีตอันแสนเจ็บปวด นั่นก็คือ การถูกคุณแม่ปฏิเสธ และไม่เปิดใจยอมรับในตัวตนของเธอ จนกลายเป็นสาเหตุให้ตัดสินใจหนีออกจากบ้านไปอาศัยอยู่กับคุณน้า ผู้ซึ่งเข้าใจเธอมากกว่าใครในตอนนั้น

"ที่บ้านคุณพ่อรับในตัวเราได้ค่ะ แต่คุณแม่รับไม่ได้เลย ในฐานะลูกคนหนึ่ง และอยากให้คุณแม่ยอมรับในตัวเราได้ ฉันจึงต้องพิสูจน์ตัวเองหนักมาก ด้วยการสร้างคุณค่าให้เป็นเด็กเรียนเก่ง เรียนดี ไม่ดื่มเหล้า ไม่ทำตัวเหลวแหลกจนกระทั่งเรียนจบโรงเรียนดีๆ และทำคะแนนออกมาได้ดี แต่กว่าท่านจะมองเห็นความพิเศษในตัวฉัน ตอนนั้นบอกตรงๆ ว่าเศร้ามากค่ะ เศร้าจนทะเลาะกับคุณแม่ และต้องหนีออกไปอยู่กับคุณน้า


สวยที่สุดในโลก! ทริกซี่ เปลือยหัวใจราชินีแห่งกะเทย
คุณน้าเลี้ยงฉันเหมือนแม่คนหนึ่ง แต่ก่อนที่ฉันจะเข้ามหาวิทยาลัย (น้ำเสียงสั่นเครือ) คุณน้าก็จากฉันไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ" เธอปาดน้ำตา ก่อนจะเล่าให้ฟังต่อไป "หลังจากคุณน้าเสียคุณแม่ก็เริ่มหันมามองฉันมากขึ้น (เช็ดน้ำตาที่ไหลออกมา) หันมาเห็นความพิเศษในตัวฉันมากขึ้น หันมาเห็นความตั้งใจในการพิสูจน์ตัวเองของฉันมากขึ้น และนั่นเป็นจุดเปลี่ยนให้ฉันได้กลับไปอยู่บ้านกับคุณแม่อีกครั้ง" เธอยิ้มด้วยประกายตาที่สดใส "ปัจจุบันคุณแม่เป็นแฟนคลับคนหนึ่งของฉันไปแล้ว" เธอยิ้มกว้างให้แก่ความสุขในวันนี้

       ดังนั้น ในฐานะลูกชายที่ใจเป็นหญิงมาตั้งแต่เกิด พิสูจน์ตัวเองด้วยการเป็นเด็กดี เรียนดีจนคุณแม่ยอมรับเมื่อตอนอายุ 18 ปี ซึ่งเป็นช่วงที่เริ่มเข้าสู่เวทีการประกวด และเป็นผู้หญิงเต็มตัว เธอไม่อยากให้คนเป็นพ่อแม่มองข้ามความรู้สึก และทำร้ายซ้ำเติมลูกด้วยคำพูด และการกระทำต่างๆ นานา เพราะเด็กอาจเลือกที่จะเดินออกมาเหมือนกับเธอ ในขณะที่บางคนอาจกลายเป็นคนก้าวร้าว และร้ายกาจไปเลย เนื่องจากอดกลั้นจนอั้นไว้ไม่อยู่

แม้จะประเด็นอ่อนไหวที่หลายๆ บ้านรู้สึกหนักใจ แต่การค่อย ๆ เรียนรู้ และปรับความเข้าใจ คือสิ่งที่จะช่วยลดความเจ็บปวดลงไปได้มาก ถึงแม้จะรับไม่ได้เต็มร้อย แต่ก็ทำให้ชีวิตของลูกพอจะมีความสุขขึ้น โดยเฉพาะความรักที่ลูกๆ เพศที่สามอยากให้พ่อรัก และเป็นห่วงพวกเขาเหมือนลูกคนอื่นๆ

"ถ้าไม่อยากให้ลูกเป็นทุกข์ คุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกเป็นเพศที่สาม ควรยอมรับในตัวตนของลูกค่ะ เหมือนกับที่คุณแม่ของฉันยอมรับในตัวฉัน" เธอบอก และฝากไปถึงทุกคนไม่เฉพะแต่เพียงสาวประเภทสองว่า "สิ่งที่เป็นที่สุดของชีวิตคือคุณความดี หากทำตัวเองให้มีคุณค่ามากที่สุด เชื่อว่าเรื่องร้ายๆ ที่ผ่านเข้ามาจะกลับกลายมาเป็นพลังในการเดินหน้าต่อไป ซึ่งฉันก็เป็นหนึ่งคนที่สามารถผ่านมันมาได้"

สวยที่สุดในโลก! ทริกซี่ เปลือยหัวใจราชินีแห่งกะเทย
แน่นอนว่า สาวประเภทสองคือบุคคลที่ยังถูกดูหมิ่น เหยียดเพศอยู่ไม่น้อย แม้ในบางประเทศที่สังคมเริ่มเปิดรับความหลากหลายทางเพศมากขึ้น แต่ก็ยังมีบางกลุ่ม บางสถานที่ปฏิเสธและไม่ต้อนรับคนกลุ่มนี้ เช่นเดียวกับในประเทศฟิลิปปินส์ ประชาชนบางกลุ่ม หรือสถานที่บางแห่งยังมีการดูถูก เหยียดเพศ และมองว่า เพศที่สาม โดยเฉพาะสาวประเภทสอง คือ "บุคคลทำร้ายภาพลักษณ์" ให้เสื่อมเสียชื่อเสียง

"ช่วงแรกๆ สังคมฟิลิปปินส์ยังไม่ค่อยยอมรับสาวประเภทสองกันค่ะ เพิ่งมายอมรับเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้เอง หลังจากเควิน บาลอท (Kevin Balot) พยาบาลหนุ่มจากประเทศฟิลิปปินส์ คว้ามงกุฎ Miss International Queen 2012 ไปครอง ต้องบอกว่า สังคมฟิลิปปินส์เปลี่ยนไปเลยค่ะ ไม่ได้มองสาวประเภทสองแค่ผู้ให้ความบันเทิง หรือสร้างความตลกขบขันเหมือนแต่ก่อน แต่สาวประเภทสองกลายเป็นบุคคลที่มีคุณค่า และนักต่อสู้เพื่อสิทธิของความเป็นมนุษย์บนเวทีระดับโลก" สาวประเภทสองที่สวยที่สุดในโลกเผยด้วยความภูมิใจ

อย่างไรก็ดี แม้สังคมฟิลิปปินส์จะเริ่มเปิดรับสาวประเภทสองมากขึ้น เห็นได้จากการออกโทรทัศน์ หรือมีสาวประเภทสองเข้าไปทำงานอยู่ในวงการต่างๆ มากขึ้น ทว่ากฎหมายภายในประเทศยังไม่รองรับในหลายๆ เรื่อง โดยเฉพาะการเปลี่ยนชื่อจริงให้เป็นผู้หญิงเหมือนในประเทศไทย

"นอกจากการไม่อนุญาตให้สาวประเภทสองสามารถเปลี่ยนคำนำหน้าชื่อได้แล้ว ที่ฟิลิปปินส์ยังไม่ให้เปลี่ยนชื่อเป็นผู้หญิงด้วยค่ะ สำหรับชื่อ ทริกซี่ มาริสเตล เป็นชื่อเฉพาะในการประกวดเท่านั้น ชื่อจริงๆ ก็ยังเป็นผู้ชายอยู่ (เธอไม่ขอเปิดเผยชื่อจริง) ส่วนการใช้ชีวิตในสังคม บางแห่งก็มองพวกเราเป็นบุคคลทำลายภาพลักษณ์

สวยที่สุดในโลก! ทริกซี่ เปลือยหัวใจราชินีแห่งกะเทย
ยกตัวอย่างไนต์คลับบางแห่ง ถ้ารู้ว่าเป็นสาวประเภทสองก็จะเดินเข้ามาเชิญให้ออกจากร้านเลย โดยเขาให้เหตุผลว่า การมีสาวประเภทสองอยู่ในร้าน จะส่งผลต่อภาพลักษณ์ของทางร้าน หรือการจะเข้าห้องน้ำก็ต้องเข้าของผู้ชายเท่านั้น ซึ่งถ้ามีกฎหมายรองรับก็จะช่วยลดการเลือกปฏิบัติตรงนี้ไปได้ แต่ทุกวันนี้ก็ยังไม่มีใครผลักดันกฎหมายให้เกิดการคุ้มครองสาวประเภทสองอย่างจริงจังสักที" สาวประเภทสองแดนตากาล็อกเล่า

       ปัจจุบัน มีองค์กรหลายองค์กรในประเทศฟิลิปปินส์ที่รวมตัวกันต่อสู้เพื่อเรียกร้องสิทธิแห่งความเท่าเทียมกันของมนุษย์ และเธอก็อยู่ในกลุ่มนั้นด้วย


"ฉันเป็นอาสาสมัครของ LGBT Organizations มานานพอสมควรค่ะ เข้ามาช่วยตั้งแต่ปี 2004 และฉันก็ทำวิทยานิพนธ์เรื่องสิทธิมนุษยชนผ่านการทำหนังสเปนเกี่ยวกับภาพลักษณ์และการแสดงออกของสาวประเภทสอง ซึ่งหลังจากช่วยต่อสู้กันมา ความเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดคือ ปีหน้า (ปี 2016) จะมีการเลือกตั้งในประเทศ ซึ่งนักการเมืองหลายๆ คนต่างออกนโยบายว่าจะสนับสนุนคนกลุ่มนี้ เพราะพวกเขามองว่า กลุ่มเพศที่สามเริ่มมีพลังในสังคมมากขึ้นทั้งจากการรวมกลุ่ม และต่อสู้เรียกร้องสิทธิในหลายๆ เรื่องที่ผ่านมา" เธอบอก

เมื่อลงลึกไปถึงเรื่องความรัก แม้จะมีความรักดีๆ เข้ามา แต่ความรักกลับไม่ใช่เรื่องของคนสองคน เพราะครอบครัวฝ่ายชายยังรับไม่ได้กับสิ่งที่เธอเป็น

"เราเจอกันที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง ตอนนั้นรักไม่ยุ่ง มุ่งแต่เรียน (หัวเราะ) แต่สุดท้ายก็มาเป็นแฟนกันค่ะ (อมยิ้ม) ซึ่งตอนตัดสินใจคบกันก็ต้องปิดพ่อแม่ของฝ่ายชาย (Art Sta. Ana) เอาไว้ เพราะกลัวที่บ้านเขารับไม่ได้ เนื่องจากเขาเป็นผู้ชายที่ชอบผู้หญิง แต่มาปิ๊งรักกับสาวประเภทสอง จนกระทั่งฉันเริ่มเข้าประกวด MS. GAY Philippines ความก็เลยแตก ทางบ้านเขาก็ไม่พูดคุยกับฉันอีกเลยจนถึงตอนนี้ แต่ฉันก็ยังคงมีความสุขที่จะอยู่ด้วยกันกับแฟน เพราะมีความรักด้วยกันมาก่อน และเป็นความรักที่เราทั้งสองคนรู้ดีว่า เรารักกันจริงๆ"


สวยที่สุดในโลก! ทริกซี่ เปลือยหัวใจราชินีแห่งกะเทย
ทริกซี่กับแฟนหนุ่ม
จากวันนั้นถึงวันนี้ เธอกับแฟนหนุ่มคบกันมาได้ 5 ปีแล้ว โดยแฟนของเธอเขียนหนังสือชื่อว่า He’s dating the Transgender ซึ่งเป็นหนังสือที่บอกกับทุกคน และหวังว่าจะส่งสารไปถึงครอบครัวของเขาให้เข้าใจว่า "ความรักเป็นสิ่งสวยงาม ไม่ได้มีเฉพาะแค่เรื่องเซ็กซ์เพียงอย่างเดียว"

"ตอนนี้ฉันโฟกัสที่ตัวฉัน แฟนฉัน และงานของฉัน ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด แล้วสักวันฉันเชื่อว่า ครอบครัวของเขาจะมองเห็นและยอมรับในสิ่งที่ฉันเป็นได้ รวมไปถึงความรักของเราสองคนด้วย" ส่วนความคิดที่จะแต่งงาน และมีลูก เธอเปิดใจว่า "มีคุยกันว่าจะรับเด็กมาเลี้ยงค่ะ หลังจากนั้นมีแนวคิดจะสร้างสถาบันหรือองค์กรขึ้นมาเพื่อดูแลเด็กกำพร้าด้วย ถ้ามีตรงนี้มารองรับ เด็กก็จะได้รับความช่วยเหลือมากขึ้น"


       อย่างไรก็ดีกับคำกล่าวที่ว่า "กะเทยคือผู้ถูกสาปให้มาเกิด" เจ้าของมงกุฎ Miss International Queen 2015 ไม่เห็นด้วยกับคำกล่าวนี้ "ฉันไม่ได้มองว่าฉันมีบาปหรือถูกสาปให้มาเกิด" เธอบอก "ตอนนี้ฉันเกิดเป็นสาวประเภทสอง ในขณะที่บางคนเกิดมาเป็นผู้ก่อการร้าย เกิดมาเป็นโจร เกิดมาเป็นคนที่มองไม่เห็นความดีงาม คนประเภทไหนคือผู้ถูกสาปให้มาเกิดมากกว่ากัน สำหรับฉัน ฉันเป็นสาวประเภทสองที่มีคุณค่า ฉันเป็นคนสวย และฉันก็ทำเพื่อสังคม ดังนั้นฉันไม่ใช่ผู้ถูกสาปให้มาเกิด แต่ฉันเลือกได้ เลือกที่จะเป็นสาวประเภทสองที่ดี และทรงคุณค่า"


       สุดท้ายนี้ ท่ามกลางความไม่สงบในหลายประเทศ นี่คือเสียงเล็กๆ จากหัวใจดวงน้อยๆ ที่อยากส่งสารไปถึง "หลายๆ โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้น มันทำลายหัวใจทุกคนบนโลก ส่วนตัวอยากเห็นการเคารพในความเป็นมนุษย์ซึ่งกันและกัน อยากเห็นความรักที่แบ่งให้กัน สำหรับเหตุการณ์ที่ผ่านมา อยากให้เรียนรู้ร่วมกันว่า ความเป็นสงครามหรือการทำลายกัน มันไม่มีผู้ชนะ มีแต่ผู้แพ้ และผู้สูญเสีย"


เกือบหนึ่งชั่วโมงที่ได้พูดคุยกับเธอ สิ่งที่เห็นได้ชัดคือทัศนคติด้านดีในการใช้ชีวิต แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่ก็ทำให้รู้จักตัวตน และเห็นดวงตาที่สดใส มองเห็นโลกในแง่บวกของเธอได้แจ่มชัด รวมไปถึงความน่ารัก และเป็นกันเองที่ชวนหลงใหล สร้างความกระชุ่มกระชวยหัวใจได้มากทีเดียว


Strong! "ทริกซี่" กะเทยคิดบวก


สวยที่สุดในโลก! ทริกซี่ เปลือยหัวใจราชินีแห่งกะเทย
1. ขอให้เชื่อมั่นว่าปัญหาที่เข้ามา เราต้องผ่านมันไปให้ได้

2. เวลาที่มีปัญหาเข้ามา ต้องคิดอยู่เสมอว่า "ฉันใหญ่กว่าปัญหา" คิดว่าตัวเราเองมีอำนาจมากกว่ามัน จากนั้นรวบรวมพลังแล้วพาตัวเองเดินหน้าต่อไป

3. ปัญหาทุกเรื่องใช่ว่าจะแก้ได้ทุกอย่าง บางเรื่องเป็นแค่ความกังวลในใจ การเลือกที่จะคิดให้น้อยลงน่าจะช่วยให้รู้สึกดีมากกว่า เพราะเดี๋ยวมันก็ผ่านไปเอง หรือ "พรุ่งนี้ก็เช้าแล้ว" ทางที่ดี เอาเวลาไปต่อสู้กับปัญหาที่ใหญ่ๆ จะดีกว่า ซึ่งมันคุ้มค่ากว่ากันมาก

4. การเป็นคนดี จิตใจดี ช่วยให้เป็นมนุษย์คิดบวก อยากให้เชื่อมั่นว่า ทำดีย่อมได้ดี ทำชั่วย่อมได้ชั่วกลับคืนมา

เรื่อง : ผู้จัดการ Lite
ภาพ : วชิร สายจำปา และขอบคุณภาพจากอินสตาแกรม @trixiemaristela




 

Create Date : 28 พฤศจิกายน 2558
0 comments
Last Update : 28 พฤศจิกายน 2558 8:55:33 น.
Counter : 2218 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ลูกโป่งลอยฟ้า_ชิงช้าสวรรค์
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 63 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ลูกโป่งลอยฟ้า_ชิงช้าสวรรค์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.