|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
| 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
| 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
| 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
| 29 | 30 | |
|
| |
|
|
|
|
|
|
|
|
การเพาะปลาย หางสิงห์บลู (ใบนุ่ม)
ก่อนอื่นคงต้องเตรียมอุปกรณ์ เครื่องปลูกให้พร้อม
1.กระเช้าพลาสติก ขนาด 8"
2.ซากชายผ้า หรือซากข้าหลวง
3.สแฟกนั่มมอส หรืออะไรก็ได้ที่เก็บความชื้นได้
----------------------------------------------------------------------------------
ส่วนอันนี้ ไม่มีในตำรา พอดีที่บ้านปลาที่เลี้ยงไว้ตายเกือบทุกวัน เพื่อไม่เป็นการสูญเปล่า นำมาทำให้เกิดประโยชน์ ปุ๋ยปลาสูตรพจมารรร 555
แผ่เมตตาเสร็จ จัดการฝังลงไปในนั้นซะเลย (^_^)
-----------------------------------------------------------------------------------
คราวนี้มาดูเส้นที่กำลังจะเสียมั่ง เสียยังไง??
ให้เพื่อนๆคอยสังเกตุดูว่า ไม้สายที่บ้านของท่าน มีเส้นที่กำลังจะเหี่ยวหรือแห้งบ้างหรือไม่ ถ้ามีอย่าปล่อยให้มันหลุดหรือร่วงไปโดยเปล่าประโยชน์เลยนะ ลองเอามาเพาะยอดดู เผื่อว่าจะขึ้น (วิธีนี้โอกาส50/50ครับ)
------------------------------------------------------------------------------------
เส้นนี้ได้มา 8 ยอด ถ้าปล่อยไว้สุดท้ายก็แห้งเสียไปอยู่ดี
จัดนำกระเช้าที่เตรียมไว้ จัดระดับให้ความสูงพอเหมาะ โดยให้อยู่สูงกว่าปลายเส้นที่จะเพาะยอดประมาณ15-20 ซม. แล้วนำมาแขวนรอไว้ได้เลย (^_^)
------------------------------------------------------------------------------------
จัดวางยอดให้แผ่ๆ อย่าทับกัน (^_^)
-------------------------------------------------------------------------------------
เสร็จแล้วใช้สแฟกนั่มมอสที่เตรียมไว้โป๊ะด้านบนอีกนิดหน่อย เพื่อรักษาความชื้น โดยมีเทคนิคว่า อย่าปิดจนมิด
ที่เลือกใช้สแฟกนั่มมอสก็เพราะว่า มันเก็บความชื้นได้ค่อนข้างดี และที่สำคัญปลายพวกนี้ต้องการอากาศในการขยายพันธุ์
-------------------------------------------------------------------------------------
เสร็จแล้วครับ (^_^)
เหมือนเดิม คือวางไว้ในที่ชื้นๆแสงแดดรำไรๆ แล้วก็รอ รอ รอ น่าจะสัก 2-3เดือน อาจจะได้หน่อใหม่???
---------------------------------------------------------------------------------------
อีกนิดนะครับ เพื่อนๆอ่านแล้วลองไปสังเกตุดูว่าไม้สายที่บ้านท่าน มีเส้นไหนที่เหี่ยว รอวันร่วง แล้วหรือไม่ ถ้ามี ลองวิธีนี้ดูนะครับ โอกาสที่เค๊าจะกลับมามีชีวิตรอดก็ยังมีอยู่ ดีกว่าปล่อยให้แห้งเหี่ยวไป ไม่ว่าจะประสบผลสำเร็จหรือไม่ก็ตาม ไม่สำคัญครับ สำคัญที่อย่างน้อยๆพวกเราก็ได้ลองลงมือทำแล้ว (^_^)
-------------------------------------------------------------------------------------
| Create Date : 02 มิถุนายน 2551 |
| Last Update : 2 มิถุนายน 2551 20:08:29 น. |
|
3 comments
|
| Counter : 5215 Pageviews. |
 |
|
|
| โดย: โจ้.muangsiri IP: 202.12.118.61 วันที่: 16 ตุลาคม 2551 เวลา:14:02:19 น. |
|
|
|
โดย: ณ ขณะหนึ่ง  วันที่: 26 มกราคม 2555 เวลา:19:04:42 น. |
|
|
|
| โดย: ณ ขณะหนึ่ง วันที่: 26 มกราคม 2555 เวลา:19:04:42 น. |
|
|
|
|
|
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [